ตอนที่ 364 เจียงมู่เฉินระเบิดอารมณ์ / ตอนที่ 365 ไม่เกี่ยวกับเขา

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 364 เจียงมู่เฉินระเบิดอารมณ์

 

 

           เขาพรวดพราดลุกขึ้นยืน ยกเท้าเตะโต๊ะเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เขาถลึงตาใส่ซือเหยี่ยน “นายคิดว่านายพูดกับฉันแบบนี้แล้ว ฉันจะซึ้งใจโคตรๆ แล้วอภัยให้นายได้ในทันทีใช่ไหม”

 

 

           “ผมไม่ได้หมายความอย่างนี้”

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยความเดือดดาล “นายก็หมายความอย่างนี้แหละ!” เขาโมโหจนกระทืบเท้าใส่อยู่หลายครั้ง “นายแม่งก็หมายความอย่างนี้แหละ นายอยากให้ฉันทรมานใจ อยากให้ฉันผูกติดกับนายไปตลอดชีวิต…

 

 

           …ทำไมนายแม่งเจ๋งขนาดนี้นะ ฉันเจียงมู่เฉินจำเป็นต้องให้นายทุ่มเททำทั้งหมดนี้เพื่อช่วยฉันหรือไง”

 

 

           เขาด่าไปไม่กี่ประโยค ก็รู้สึกแค่ยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม เขาพุ่งตัวไปอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยน ยื่นมือไปกระชากคอเสื้อเขามา “นายแม่งจงใจ ใช่ไหมล่ะ!”

 

 

           ซือเหยี่ยนคาดการณ์อารมณ์โกรธจัดของเขาไว้แล้ว แต่อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเดือดดาลขนาดนี้

 

 

           เขาสงบเสงี่ยม ในขณะที่โดนเจียงมู่เฉินกระชากคอเสื้อ ไม่แก้ต่างใดใดทั้งสิ้น

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นใบหน้าของซือเหยี่ยนในระยะประชิด หลายวันหลายคืน เขาอยู่ไม่เป็นสุขเดือดเนื้อร้อนใจเพราะใบหน้านี้ของซือเหยี่ยน

 

 

           แต่ซือเหยี่ยนล่ะ ยืนหยัดในความถูกต้อง ถือดีจนจะเป็นจะตาย

 

 

           ทำเพื่อเขาแล้ว ไม่เพียงแต่บาดเจ็บ ตีฝ่าวงในของศัตรูเท่านั้น ยังต้องเลิกกับเขาอีก

 

 

           “นายนี่แม่งจริงๆ เลย” เจียงมู่เฉินโกรธจัดจนสะบัดมือออก ซือเหยี่ยนทรงตัวไม่อยู่ เซถลาไป

 

 

           แต่เขาก็กลับมาทรงตัวนิ่งๆ ได้อย่างรวดเร็ว ยังคงยืนตัวตรงอยู่ข้างๆ ได้   

 

 

           เจียงมู่เฉินมองดูซือเหยี่ยน ยกมุมปากขึ้น เขารู้สึกว่าน่าตลกสิ้นดี คิดไม่ถึงว่าความเป็นความตายของตัวเองจะจำเป็นถึงขั้นต้องเสียสละซือเหยี่ยน เสียสละความรัก

 

 

           ‘เขาเจียงมู่เฉินกลายเป็นคนไม่ได้เรื่องไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน’

 

 

           เขาเอามือผลักซือเหยี่ยนออก เช็ดตัวแล้วก็เดินจากไปทันที

 

 

           ที่ตกปลาที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจแต่เดิม ราวกับพายุพัดโหมกระหน่ำผ่านมา ถูกเจียงมู่เฉินเตะถีบเหยียบพังยับระเนระนาดไปหมด

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูโต๊ะที่พลิกคว่ำ และชามแกงที่ตกแตกอยู่บนพื้น

 

 

           ก็ยกมุมปากขึ้นอย่างจนใจ

 

 

           สายลมพัดผ่านระลอกหนึ่ง ซือเหยี่ยนกำมือที่ค่อนข้างจะไร้เรี่ยวแรง ยืดเหยียดกายยืนตัวตรง ท่ามกลางสายลมแผ่วเบาปรากฏความเงียบเหงาให้เห็น

 

 

           ……

 

 

           จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฟู่เหยี่ยนค่อยๆ เดินเข้ามา เขายืนอยู่ข้างกายซือเหยี่ยน “เป็นยังไงบ้าง ต่อให้คุณบอกความจริงกับเขา เขาก็จะไม่อภัยคุณหรอก”

 

 

           ซือเหยี่ยนเก็บอารมณ์ของตัวเองเข้าไป กลับมาสู่สภาพเย็นชาเหมือนเดิม เขามองดูฟู่เหยี่ยน แล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “คุณยิ่งสาหัสกว่าผมนะ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนในทันใด ส่งมือไปกระชากคอเสื้อของซือเหยี่ยน

 

 

           ซือเหยี่ยนสะบัดมือเขาออกอย่างสบายๆ ยกมือขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง

 

 

           “คุณฟู่ มีบางเรื่องที่ผมและคุณรู้ดีอยู่แก่ใจ ถึงแม้ผมจะไม่รู้ถึงสาเหตุที่ครั้งนี้คุณพาเจียงมู่เฉินมา แต่ผมบอกคุณได้ ขอเพียงแต่มีผมอยู่ คุณจะทำอะไรเขาไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ”

 

 

           ซือเหยี่ยนพูดจบก็หยุดลงสักพัก เหมือนจะไม่ค่อยยินดีจะยอมรับเท่าไหร่ “อีกอย่าง คุณเองก็คงจะทำใจทำร้ายเขาไม่ลง”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนม่านตาหดตัวลงในทันใด “คุณไปรู้อะไรมา”

 

 

           “ที่ควรรู้ ที่ไม่ควรรู้ ผมก็ชัดเจนมากทั้งนั้น” เขายิ้มหัวเราะเบาเล็กน้อย “เหยี่ยน เวลล์แกลตเตอร์”

 

 

           ซือเหยี่ยนพูดประโยคนี้จบ ก็ผลักฟู่เหยี่ยนออก แล้วเดินจากไป

 

 

           ฟู่เหยี่ยนมองตามแผ่นหลังของซือเหยี่ยนไป หรี่ตาลง เขารู้ว่าซือเหยี่ยนไม่หมูสำหรับเขา แต่อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะรู้แม้แต่เรื่องของตระกูลของเขาได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนี้

 

 

           ซือเหยี่ยนคนนี้ ยังมีอะไรที่เขาไม่รู้อีก

 

 

           เจียงมู่เฉินกลับมาที่ห้องแล้ว เขาพุ่งตรงเข้าไปเล่นเกมทันที ในสมองสับสนวุ่นวายไปหมด คิดอะไรไม่ตกสักอย่าง

 

 

           แทนที่จะขมขื่นทรมาน สู้ไม่คิดอะไรเลยจะดีกว่า

 

 

           เจียงมู่เฉินเล่นเกมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

 

 

           เพียงไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูด้านนอก เจียงมู่เฉินตะโกนออกไป “ใคร”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนยืนอยู่นอกประตู เอ่ยเสียงต่ำ “ผมเอง”

 

 

           “อ่อ เข้ามาสิ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเดินเข้าไปก็เห็นเจียงมู่เฉินเล่มเกมอย่างใจจดใจจ่อ เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเจียงมู่เฉิน “อยากให้ผมเล่นกับคุณสักตาไหม”

 

 

 

 

          ตอนที่ 365 ไม่เกี่ยวกับเขา

 

 

           เจียดเวลามากวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ฝีมือของนายแบบนั้น ไหวเหรอ”

 

 

           ‘เขาออกจะขยันซ้อม เจียงมู่เฉินมาดูถูกเขาขนาดนี้เลย?’

 

 

           “คุณลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ”

 

 

           “ได้ นายรอฉันเล่นตานี้เสร็จก่อนนะ” เจียงมู่เฉินจดจ่อกับการกระทำในมือ

 

 

           เพียงครู่เดียวก็จัดการโจมตีฝ่ายตรงข้ามจนล้มลงได้

 

 

           เขาถอนหายใจอย่างผ่อนคลายอารมณ์ พอไม่คิดถึงซือเหยี่ยน ก็สบายใจขึ้นมากจริงๆ

 

 

           “มา ฉันจะพานายเล่น ดูกันว่าฝีมือนายพัฒนาขึ้นบ้างไหม”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนส่งมือไปรับจอยสติ๊กมา เขายั่วยุเจียงมู่เฉินเงียบๆ “ใครแพ้ใครชนะก็ยังไม่แน่หรอก”

 

 

           เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “วางใจเถอะ นายไม่มีทางชนะฉันได้หรอก”

 

 

           นอกจากเขาจะแพ้ให้ซือเหยี่ยนแล้ว ก็ไม่เคยแพ้ให้ใครที่ไหน

 

 

           เจียงมู่เฉินและฟู่เหยี่ยนทั้งสองคนนั่งอยู่ข้างกันเตรียมพร้อมสู้ศึก หลังจากที่เกมเริ่ม เจียงมู่เฉินก็ออกตัวทันที

 

 

           ฟู่เหยี่ยนรีบไล่ตามไป แต่ก็มักจะช้ากว่าเจียงมู่เฉินเพียงนิดหนึ่งเสมอ

 

 

           ฟู่เหยี่ยนแทบอยากจะใช้แรงกำลังความสามารถที่มีทั้งหมดออกไป

 

 

           หลังจากไล่ตามไป ก็ยังพ่ายแพ้ให้เจียงมู่เฉินจนได้

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขาอย่างสะใจ นัยน์ตาดอกท้อคู่นี้สุกใสเป็นประกาย

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเห็นเขาแบบนั้น ก็ใจลอยไปเสียเดี๋ยวนั้น

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นว่าจู่ๆ เขาไม่พูดจา ก็ยื่นไปผลักเขาทีหนึ่ง “เป็นไร กำลังคิดอะไรอยู่”

 

 

           เวลานี้เองฟู่เหยี่ยนถึงได้คืนสติกลับมา แววตาที่มองเจียงมู่เฉินค่อนข้างสับสน

 

 

           เพียงเสี้ยวเวลานั้น เขาก็นึกถึงคำพูดของซือเหยี่ยนขึ้นมาได้

 

 

           ฟู่เหยี่ยนกำมือ เอ่ยเสียงต่ำ “ไม่มีอะไร”

 

 

           เจียงมู่เฉินชายตามองเขา “ยังจะเล่นอีกไหม”

 

 

           “เล่นสิ ไม่เล่นจะชนะคุณได้ยังไง”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะด้วยความทะนงตัว เชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง “นายคอยดูเถอะ เล่นร้อยครั้ง นายก็ไม่ชนะฉันหรอก ฉันรับประกันเอานายตายแน่”

 

 

           ทั้งสองคนนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องอยู่หลายชั่วโมง เจียงมู่เฉินทรมาทรกรรมฟู่เหยี่ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

           ทรมาทรกรรมจนต่อมา ฟู่เหยี่ยนเริ่มสงสัยในชีวิตคนเราแล้ว

 

 

           สุดท้ายฟู่เหยี่ยนก็ทิ้งจอยสติ๊กลงอย่างเสียไม่ได้ เอนซบอยู่ข้างๆ ด้วยความสิ้นหวัง “ผมว่านะ คุณยอมให้ผมสักหน่อยไม่ได้เหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยกยิ้มมุมปากอย่างขำขัน “ฉันยอมให้แค่คนรักของฉันเท่านั้น”

 

 

           เสียงเขาเพิ่งจะหยุดลง เจียงมู่เฉินก็ตะลึงค้างไปเอง

 

 

           ‘ประโยคนี้…คือประโยคที่ซือเหยี่ยนพูดกับเขา คิดไม่ถึงว่าจะออกมาจากปากเขาเอง’

 

 

           ชั่วขณะนั้น เจียงมู่เฉินว้าวุ่นใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว

 

 

           ฟู่เหยี่ยนไม่ได้สังเกตเห็นความว้าวุ่นใจของเจียงมู่เฉิน เขาลองถามหยั่งเชิงขึ้นมา “งั้นผมจะเป็นคนรักของคุณ เป็นยังไง”

 

 

           เจียงมู่เฉินกดเก็บความว้าวุ่นใจลงไป เบนสายตามายังฟู่เหยี่ยน เขาจ้องมองฟู่เหยี่ยนอยู่ครู่ใหญ่ ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างติดตลก “ยังไงกัน นายอยากจะเป็นคนรักของฉันเหรอ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนพยักหน้าอย่างจริงจัง

 

 

           เจียงมู่เฉินหัวเราะเยาะ “แต่น่าเสียดาย ฉันไม่อยากมีคนรัก”

 

 

           เขาไม่หวังให้วันข้างหน้ามีใครอีกคนมาบอกกับเขา ว่าทุ่มเททุกอย่างได้เพื่อเขา

 

 

           ความรู้สึกแบบนั้น เขาเจียงมู่เฉินยอมรับไม่ไหวอีกแล้ว ถ้าจะมีใครอีกคนมาทุ่มเทให้เขาโดยไม่มีเงื่อนไข

 

 

           ฟู่เหยี่ยนจ้องมองเขา “คุณเป็นเพราะซือเหยี่ยนเหรอ”

 

 

           เอ่ยถึงซือเหยี่ยน นัยน์ตาเจียงมู่เฉินเบือนหนี

 

 

           “ไม่เกี่ยวกับเขา”

 

 

           “งั้นเกี่ยวกับใครเหรอ” ฟู่เหยี่ยนเอ่ยถามต่อ

 

 

           เจียงมู่เฉินลุกขึ้นยืนจากพื้น “ฟู่เหยี่ยน เรื่องที่นายไม่ควรถาม นายอย่าถามให้มากจะดีที่สุด”

 

 

           พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป

 

 

           ฟู่เหยี่ยนนั่งลูบจมูกปอยๆ อยู่ที่เดิม เขารู้สึกได้ถึงการเบือนหนีของเจียงมู่เฉิน

 

 

           ‘แต่เบื้องหลังการเบือนหนีนี้คืออะไรล่ะ’

 

 

           ‘คนที่เจียงมู่เฉินตัดขาดเยื่อใยขนาดนั้น เป็นเพราะอะไร ถึงเบือนหนีไปแบบนี้อีก’

 

 

           ฟู่เหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

           คิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะมีผลกระทบกับเจียงมู่เฉินได้ใหญ่ขนาดนี้

 

 

           เขาคิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็หนักอึ้งเล็กน้อย