ต่อมา.

หยางเฟิงออกจากบ้านของตระกูลเย่ มุ่งหน้าไปที่วิลล่าจวู้เสียน

“ท่านแม่ทัพ จากข้อมูลที่เราได้รับ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตระกูลหลันใช้เงินเป็นจำนวนมากในการเกณฑ์พวก สมุนกล้าตาย มาทำงาน ผมเกรงว่าพวกเขาจะต้องมีแผนอะไรแน่!”

หม่าตงยืนอยู่ด้านล่าง รายงานผลการตรวจสอบของเขา

หยางเฟิงกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา: “เยี่ยม! เยี่ยมมาก! ยัยหลันจื่อนี่ ช่างไม่รู้ประสีประสา! ฉันให้โอกาสเธอแล้ว แต่เธอกลับไม่รู้จักรักษามันไว้!”

หลังจากที่หลันเฟิงถูกฆ่าตาย

หยางเฟิงไว้ชีวิตหลันจื่อ

ให้เธอบริจาคทรัพย์สินของตระกูลหลันทั้งหมดภายในสามวันแล้วมอบตัว

ตอนนี้

สองวันผ่านไปแล้ว

หลันจื่อไม่เพียงแต่ไม่ได้ตามที่หยางเฟิงพูด

แต่กลับใช้เงินจำนวนมากในการเกณฑ์พวก สมุนกล้าตาย

นี่มันคือการพยายามต่อสู้ของสัตว์ที่โดนต้อนจนมุม!

หม่าตงถามด้วยความสงสัย “ท่านแม่ทัพ ท่านคิดว่าตระกูลหลันว่าจ้าง สมุนกล้าตาย มามากมายเช่นนี้ ต้องการที่จะทำอะไร?”

“จะทำอะไร?”

หยางเฟิงพูดอย่างเย้ยหยัน: “จะทำอะไรได้ อย่างหลันจื่อ ไม่ใจกล้าพอที่จะลงมือกับพวกเราหรอก! ที่เป็นไปได้มากคือ เธอน่าจะต้องการโจมตีตระกูลโจว เพื่อแก้แค้นให้กับพ่อของเธอ!”

โบราณพูดไว้ดี ให้เลือกบีบลูกพลับที่สุกนิ่ม

โจวห้าวทรยศตระกูลหลัน และยังเหนี่ยวไกปืนสังหารหลันเฟิง

ความแค้นนี้ยากที่จะลืมได้

ถ้าจะให้ถามว่าคนที่หลันจื่อเกลียดแค้นที่สุดคือใคร คนนั้นต้องเป็นโจวห้าว

อีกอย่าง กำลังของตระกูลโจวก็มีจำกัด

ดังนั้นเป้าหมายแรกที่หลันจื่อต้องการแก้แค้น ต้องเป็นตระกูลโจวอย่างแน่นอน!

หม่าตงขมวดคิ้วพร้อมกับถามว่า “ท่านครับ ถ้าอย่างงั้น พวกเราควรจะยื่นมือเข้าไปช่วยตระกูลโจวมั้ยครับ?”

หยางเฟิงโบกมือปฏิเสธ: “ไม่ต้อง ปล่อยให้พวกหมามันกัดกันเอง! นายแค่รอให้พวกมันสู้กันเสร็จแล้ว ค่อยเข้าไปควบคุมสถานการณ์ให้สงบในตอนจบก็พอ!”

สำหรับหยางเฟิง

ตระกูลหลานและตระกูลโจวต่างก็เป็นเนื้อร้ายของตงไห่

ไม่มีอะไรดี!

พอได้ยินเช่นนั้น

หม่าตงเลียริมฝีปากของตัวเอง ใบหน้าของนักวิชาการผู้นี้ปรากฏให้เห็นถึงเจตนาที่ต้องการจะสังหารและความกระหายเลือด

“ได้ขอรับ ท่านแม่ทัพ ผมจะทำให้ชื่อของตระกูลหลันและตระกูลโจว ถูกลบออกไปจากตงไห่โดยสิ้นเชิง!”

พอฟังหม่าตงพูดจบ

หยางเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อ

เพียงแต่ว่า

ดวงตาทั้งสองของเขาปรากฏให้เห็นเป็นแสงอันเยือกเย็น

คืนวันนี้

เป็นวันดีที่จะฝังตระกูลหลันและตระกูลโจวไปพร้อมกัน!

เมื่อถึงเวลา

ทั่วทั้งตงไห่ก็จะได้เงียบสงบสุขสักที!

ในขณะเดียวกัน

ภายในบ้านพักคนชรา

“ไอ้เวร!”

“สมควรตาย!”

“ไปตายให้หมดซะ!”

เพล้ง!

เพล้ง!

เพล้ง!

หลันเจิ้นบันดาลโทสะ

เอาข้าวของทุกอย่างมาเขวี้ยงทิ้งซะจนแตกไปหมด!

หลันจื่อตกใจและถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “คุณปู่ เป็นอะไรหรือเปล่า คุณอาหญิงไม่สนใจพวกเราแล้วหรอ?”

“อย่าเรียกมันว่าคุณอา!”

หลันเจิ้นหันหน้ามาด้วยความโกรธ พร้อมกับระเบิดอารมณ์ออกมา!

เขากัดฟันพูด “ลูกสาวเนรคุณนี่! ฉันให้มันคอยสร้างปัญหาให้หยางเฟิง มันไม่เพียงแค่ไม่กล้าขี้ขลาดเหมือนหมูเท่านั้น มิหนำซ้ำยังละโมบทรัพย์สินของตระกูลหลันเรา มาขอให้ฉันมอบทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหลันให้มัน!”

“ฉันมีลูกสาวเลวๆแบบนี้ได้ยังไง!”

ชั่วขณะหนึ่ง

หลันเจิ้นบันดาลโทสะเป็นอย่างมาก!

หลันซิน

เธอมีคุณสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับสมบัติของตระกูลหลัน?

เธอเป็นแค่ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว!

ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว ก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกข้างนอกบ้าน!

การมอบทรัพย์สมบัติให้หลันซินก็เท่ากับมอบให้แก่ตระกูลเย่

ยิ่งไปกว่านั้น!

กับพ่อคนนี้แล้ว หรือกับหลันเฟิงพี่ชายที่ตายไปแล้ว หลันซินมีความรู้สึกดีๆให้บ้างหรือไม่?

ไม่มี!

มีแค่เพียงความละโมบโลภมากเท่านั้น!

ถึงต่อให้จะสูญเสียเงินทั้งหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์ ก็จะไม่ให้มันกับลูกสาวเนรคุณคนนี้!

“อะไรกัน?”

พอได้ยินสิ่งที่พูด

หลันจื่อก็อึ้งไป

วินาทีต่อมา

เธอรู้สึกเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก!

“ทำไมอาหญิงถึงได้กล้าขออะไรที่มันเกินไปขนาดนี้นะ?”

หลันจื่อมองว่า

ในเมื่อพ่อตายแล้ว

แน่นอนว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลหลันต้องตกเป็นของเธอ!

หลันซินคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน

ถึงได้คิดเข้ายุ่มย่ามและแย่งชิงทรัพย์สมบัติของตน

สำหรับหลันจื่อแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้!

หลันเจิ้นหายใจเข้าลึก เพื่อให้ตัวเองอารมณ์สงบลง