เขาสะบัดมือและพูดว่า: “เอาล่ะ อย่าไปสนใจผู้หญิงดื้อรั้นไร้เหตุผลคนนั้นเลย ปู่ขอถามหน่อย เรื่องจัดการไปถึงไหนแล้ว?”

สำหรับหลันเจิ้น

หลันซินก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงโง่คนหนึ่ง!

ไม่มีอะไรต้องกังวล!

เรื่องด่วนที่ต้องจัดการตอนนี้

คือทำอย่างไรให้ตระกูลหลันรอดพ้นจากวิกฤติ

หลันจื่อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “คุณปู่ค่ะ หนูใช้เงินไปทั้งหมดประมาณหนึ่งพันล้าน เพื่อรวบรวม สมุนกล้าตาย ที่ชั่วช้ามาหนึ่งร้อยคน ตระกูลโจวจะต้องสูญสิ้นในครานี้!”

พอพูดจบ

แววตาของหลันจื่อก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเคียดแค้น

ยิ่งรักมาก!

ก็ยิ่งเกลียดมาก!

ความเกลียดแค้นของหลันจื่อที่มีต่อโจวห้าวนั้น มีมากกว่าที่มีต่อหยางเฟิงมากนัก

ถูกคนที่คุณตัวเองรักที่สุดหักหลัง

ความเจ็บปวดนี้

ยากที่บรรยายได้!

หากไม่ฆ่าโจวห้าวให้ตาย

เธอจะกินนอนอย่างเป็นสุขได้อย่างไร!

“ดีมาก! หลังจากทำลายตระกูลโจวสำเร็จและยึดครองทรัพยากรทั้งหมดของตระกูลโจวมา รีบไปจัดการกับหม่าตงทันที ต้องสู้กับหยางเฟิงให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!”

เมื่อเห็นท่าทางของหลันจื่อกัดฟันด้วยความเคียดแค้น

หลันเจิ้นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ

เหตุผลที่หลันเจิ้นตกลงให้หลันจื่อจัดการกับตระกูลโจวก่อน

นอกจากเพื่อล้างแค้นแล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องการยึดครองทรัพยากรของตระกูลโจว

ปัจจุบันตระกูลโจวก็ถือว่าเป็นตระกูลชั้นหนึ่งตงไห่ ทรัพยากรที่มีก็เป็นรองเพียงตระกูลเย่เท่านั้น

ถ้าสามารถยึดครองทรัพยากรของตระกูลโจวมาได้

ไม่เพียงแค่ช่วยเติมเต็มความสูญเสียก่อนหน้าของตระกูลหลันเท่านั้น ทั้งยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตระกูลหลันได้อีกด้วย

เมื่อถึงเวลานั้น

ก็มีโอกาสที่จะสามารถต่อกรกับหยางเฟิงได้!

ภายหลังหลันจื่อจากไป

ก็มีเงาดำยังเดินออกมาจากมุมมืด

ตึง!

หลันเจิ้นคุกเข่าลงและพูดขอร้อง “ท่านผู้อาวุโสใหญ่ ได้โปรดช่วยปกป้องหลานสาวของกระผมด้วย!”

ตอนนี้เหลือหลันจื่อเป็นญาติเพียงคนเดียวของหลันเจิ้น

ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับหลันจื่อ

ตระกูลหลันก็จะไร้ผู้สืบสกุล

เมื่อถึงตอนนั้น ก็ทำได้แค่มอบตระกูลหลันให้หญิงเฒ่าอย่างหลันซินไปฟรีๆ!

ชายชุดดำพยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยแน่!”

พูดเสร็จ

เขาก็หายเข้าไปในเงามืดเหมือนภูตผี

ตระกูลโจวแห่งตงไห่

อาศัยอำนาจของตระกูลหลัน

เติบโตจากตระกูลชั้นสองขึ้นไปเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง เป็นรองเพียงตระกูลหลันเท่านั้น

ณ ตอนนี้

ภายในโถงของคฤหาสน์ตระกูลโจว

โจวยี่และโจวห้าวสองพ่อลูกนั่งอยู่ตรงข้ามกัน

นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง

โจวยี่พูดด้วยสีหน้ากังวล: “หยางเฟิงจะปล่อยตระกูลโจวของเราไปจริงๆหรือ?”

หลังจากได้ยินว่าโจวห้าวฆ่าหลันเฟิง และยึดเอาทรัพยากรส่วนใหญ่ของตระกูลหลันมา

โจวยี่แทบไม่อยากจะเชื่อเลย

โจวห้าว กล้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ถึงขนาดที่แม้แต่พ่อตาของตัวเองก็ยังกล้าลงมือฆ่า?

แต่เมื่อเขารู้ว่าทั้งหมดนี้เพราะถูกหยางเฟิงบีบบังคับ เขาก็โล่งใจ

ราชาตงไห่!

ชายผู้ที่จู่ๆปรากฏตัวและขึ้นเป็นราชา มีกองกำลังและอำนาจขนาดนี้

เพียงแต่ว่า

สิ่งเลวร้ายที่ตระกูลโจวทำ

แม้จะเทียบไม่ได้กับตระกูลหลัน

แต่หากหยางเฟิงเอาเรื่องขึ้นมาละก็

ตระกูลโจวก็ยากที่จะรอด!

ทุกตระกูลกว่าที่จะก้าวขึ้นมาได้

ก็ต้องมีทำเรื่องสกปรกมาบ้างไม่มากก็น้อย

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

เส้นทางในการสะสมทุนและความมั่งคั่ง ก็โหดร้ายเช่นนี้แหละ!

โจวห้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “พ่อ ไม่ต้องกังวลหรอก! หยางเฟิงเป็นใคร? เขาเป็นราชาตงไห่! คำพูดของเขามีน้ำหนักแน่นอน!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

ความกลัดกลุ้มในใจของโจวยี่ ก็ค่อยๆดีขึ้น

ก็จริงอย่างว่า

บุคคลระดับใหญ่โตอย่างหยางเฟิง

โดยปกติ พูดอะไรออกไปแล้ว จะไม่กลืนน้ำลายตัวเอง

“เฮ้อ!”

โจวยี่ถอนหายใจอีกครั้ง: “น่าเสียดายที่ตระกูลโจวเราสูญเสียทรัพย์สมบัติไปครึ่งหนึ่ง!”

แม้ว่าหยางเฟิงจะปล่อยตระกูลโจวไป

แต่ก็ให้ตระกูลโจวเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของที่มีไปชดใช้ให้กับพวกคนที่พวกเขาเคยทำร้าย

พอนึกขึ้นมาได้ว่า

ทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งหายไปทั้งแบบนี้

โจวยี่ก็รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก

โจวห้าวยิ้มพร้อมกับปลอบประโลม: “พ่อ เงินกับชีวิตเมื่อเทียบกันแล้ว ชีวิตสำคัญกว่าเงินนะ! แล้วครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสซึ่งยากที่จะมีได้สำหรับตระกูลโจวเรานะ!”