บทที่ 444: เจ้าอสูรร้ายนี่มาจากไหน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation บทที่ 444: เจ้าอสูรร้ายนี่มาจากไหน

 

หัวหน้าชือกระโดดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและฟาดลงมายังซูหยางด้วยขวานมังกรดำที่ปลดปล่อยกระแสพลังกดดัน

 

“มังกรทำลายสิ้น”

 

เมื่อยามที่หัวหน้าชือเหวี่ยงขวานมังกรดำนั้นก็เหมือนกับว่ามีแรงกดดันที่มองไม่เห็นได้พลันปรากฏขึ้นในหมู่บ้านชนเผ่าหมูป่า จนทำให้ผู้คนต่างรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังถูกกดให้คุกเข่าลง

 

เมื่อเห็นขวานใหญ่ดิ่งตรงลงมาหาตนเอง ซูหยางก็ยกแมงป่องดำขึ้นมาตรงหน้าเตรียมตัวกันการโจมตีจากหัวหน้าชือ

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหยุดยั้งขวานมังกรดำของข้าได้ด้วยมีดสั้นกระจิดริดของเจ้ารึ”

 

เมื่อขวานมังกรดำเกือบถึงตรงหน้าซูหยาง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายเหนือโลกและกระแสพลังของเขาก็ระเบิดออกในระดับที่ยิ่งกว่าเดิม

 

บูม

 

ขวานมังกรดำและแมงป่องดำปะทะกันจนทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่ผลักทุกคนที่อยู่โดยรอบออกไปและครอบคลุมทั้งพื้นที่ด้วยฝุ่นสกปรก

 

สองสามอึดใจจากนั้นเมื่อฝุ่นสลายตัวลงและผู้คนสามารถที่จะเห็นร่างของทั้งคู่อีกครั้ง พวกเขาล้วนพากันตระหนกกับผลลัพธ์จากการประทะ

 

“ป-เป็นไปไม่ได้” หัวหน้าชืออุทานขณะที่จ้องมองซูหยางด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

ลืมเรื่องการเอาชนะซูหยางไปได้เลย เมื่อกระทั่งเขาเองก็มิสามารถที่จะผลักอีกฝ่ายให้ถอยออกไปแม้ว่าจะใช้แรงมากมายเพียงไหน ราวกับว่าเขาฟาดใส่ภูเขาที่หยั่งรากกับพื้นด้วยมือเปล่า

 

หัวหน้าชือเดินถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ เว้นระยะห่างระหว่างตนเองจากซูหยางซึ่งเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางเยือกเย็น

 

“นี่เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าแล้วรึ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความแข็งแกร่งของเจ้าสูงเกินไป” ซูหยางพูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

 

“ข้ามิรู้ว่าเจ้าใช้กลเม็ดอะไรในการป้องกันการโจมตีของข้า แต่ข้ายินดีที่จะพนันว่าเจ้าได้ใช้พลังทั้งหมดของเจ้าไปเมื่อกี้แล้วและเจ้าจักมิสามารถป้องกันการโจมตีถัดไปของข้าได้ ตายซะ”

 

หัวหน้าชือกำขวานมังกรดำแน่นและพุ่งเข้าไปหาซูหยางอีกครั้งด้วยกระแสพลังรอบตัวที่รุนแรงกว่าเดิม

 

อย่างไรก็ตามก็เหมือนกับความพยายามครั้งก่อนหน้านั้น ซูหยางสามารถป้องกันการโจมตีของเขาด้วยพลังลึกลับที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้

 

มันเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กับผนังที่เขาไม่สามารถทำลายได้

 

“ข้ามิเชื่อว่าเจ้าสามารถป้องกันได้ตลอด”

 

หัวหน้าชือคำรามและกล้ามเนื้อของเขาก็ขยายใหญ่บึกบึนขึ้น แขนของเขาใหญ่ราวกับหัวของเขาในตอนนั้น และร่างของเขาก็ปลดปล่อยกระแสพลังที่น่าหวาดหวั่นที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

หลังจากนั้นเขาก็กระโดดใส่ซูหยางอีกครั้ง

 

“จู่โจมทลายภูผา”

 

หัวหน้าชือฟันขวานมังกรดำออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี และขวานก็เปล่งเสียงที่คล้ายกับมังกรคำราม

 

แต่ทว่าซูหยางไม่ได้ขยับในครั้งนี้ ตามความเป็นจริงเขายืนอยู่โดยไร้การป้องกันราวกับว่ามีเจตนาที่จะรับการโจมตีนี้ด้วยร่างกายของเขาเอง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า หรือว่าสุดท้ายเจ้านั่นได้ใช้พลังทั้งหมดไปแล้วและมิสามารถแม้กระทั่งยกนิ้วขึ้นมาได้ในตอนนี้”

 

แม้ว่านักรบชนเผ่าสิงโตพากันตกใจเมื่อซูหยางป้องกันการโจมตีของหัวหน้าของพวกเขาได้ถึงสองครั้งเมื่อกี้นี้แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างพลังการฝึกปรือของทั้งคู่และรู้สึกค่อนข้างกังวลต่ออนาคต แต่พวกเขาก็พากันหัวเราะอย่างโล่งอกเมื่อซูหยางหยุดเคลื่อนไหว

 

แต่ทว่าการหัวเราะก็หยุดลงในเวลาถัดไปเมื่อหัวหน้าชือก็หยุดเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน

 

เขาอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สองสามก้าวจากซูหยางแต่เขาก็พลันหยุดยั้งและยืนนิ่งราวกับว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นรูปปั้น

 

“ดูเหมือนว่าสุดท้ายมันก็มีผล”ซูหยางพูดขณะที่เขาเดินก้าวไปอย่างช้าๆยืนอยู่ตรงหน้าของหัวหน้าชือ

 

“จะ…เจ้าทำ…อะไร…กับข้า…” หัวหน้าชือเค้นถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจากปากในเมื่อเขามีความยากลำบากในการหายใจเหมือนมีอะไรอุดตันอยู่ในลำคอ

 

“มันง่ายดายจริงๆ” ซูหยางชี้ไปที่หน้าท้องด้านซ้ายของหัวหน้าชือซึ่งมีรอยกรีดเล็กๆขนาด 1 นิ้วอยู่ตรงนั้น

 

การบาดเจ็บเล็กน้อยนี้ที่ปกติแล้วไม่ถือแม้จะเป็นรอยข่วนสำหรับหัวหน้าชือได้ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และไร้เรี่ยวแรง

 

“แมงป่องดำของข้าเคลือบไว้ด้วยพิษร้ายที่แกร่งพอที่จะฆ่าผู้ฝึกวิชาในเขตอัมพรวิญญาณถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงรอยข่วนเพียงเล็กน้อยแบบนั้น มันเกิดขึ้นในระหว่างที่เจ้าโจมตีข้าครั้งแรกและสุดท้ายมันก็มีผลในตอนนี้”

 

“อีกไม่นานพิษก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างของเจ้าทำให้เลือดเป็นพิษ ละลายกระดูก สุดท้ายก็ทำลายร่างกายของเจ้าจากภายในสู่ภายนอก”

 

ซูหยางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะที่เขาเดินไปรอบๆร่างของหัวหน้าชือที่กำลังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ

 

“ในเมื่อเจ้าอยู่ในระดับสูงสุดของเขตอัมพรวิญญาณและมีร่างกายที่แข็งแกร่งเพราะเนื้อวิญญาณที่เจ้าได้กินมาตลอดชีวิต เจ้าจักมีเวลาอีก 2-3 นาทีที่จะมีชีวิตก่อนที่พิษจะฆ่าเจ้า”

 

ซูหยางยืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้าชืออีกครั้งและจ้องมองไปในดวงตาอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ในเวลา 2-3 นาทีนี้ข้าจักให้เจ้าดูอย่างสิ้นหวังขณะที่ข้าเข่นฆ่าชนเผ่าของเจ้า”

 

“เจ้า… เจ้าอสูรร้าย…” หัวหน้าชือคำรามเสียงต่ำพยายามที่จะยับยั้งความเจ็บปวดในร่างที่กำลังเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

ซูหยางไม่สนใจถ้อยคำของเขาและหันไปมองคนของชนเผ่าสิงโตซึ่งทุกคนกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัว

 

“หัวหน้าแพ้แล้ว ว-วิ่งหนีเร็วก่อนที่เจ้านั่นจะฆ่าพวกเราทั้งหมด”

 

ชนเผ่าสิงโตเริ่มดิ้นรน สิ่งที่พวกเขาทั้งหมดมีอยู่ในใจในตอนนี้ก็คือหนีไปให้พ้นจากซูหยางซึ่งตัวตนของเขาตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเทพธิดาชิวเยว่

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะสามารถออกไปพ้นจากหมู่บ้านชนเผ่าหมูป่าซูหยางก็ใช้ก้าวเก้าดาราติดตามไปฆ่าพวกเขา

 

“อาาาาาา”

 

หัวหน้าชือร่ำร้องด้วยความเจ็บปวดและเสียใจขณะที่เฝ้าดูร่างไร้ชีวิตของคนของตนเองทอดกายลงบนพื้น เขาไม่เพียงต้องทนกับความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่กำลังทำลายร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วแต่ยังต้องทนกับความเจ็บปวดของการสูญเสียคนในชนเผ่าของตนเอง มันเป็นความรู้สึกที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้

 

“จ-เจ้าอสูรร้ายนี่มาจากไหนกัน…” หัวหน้าหลงมองฉากนี้จากเบื้องบนด้วยสีหน้าหวาดกลัว