ตอนที่ 406 เอาใจข้ามันยากนักหรือ / ตอนที่ 407 พูดจาเหลวไหล

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 406 เอาใจข้ามันยากนักหรือ

 

 

จูอวี้ซิ่วโกรธจัด เจ้าเด็กนี่ใจกล้าจริงๆ บังอาจมาว่านางอ้วน แล้วยังเย้ยหยันนางต่อหน้าผู้คน นางไม่เคยเจอเด็กที่ใจกล้าขนาดนี้ น่าโมโหจริงๆ

 

 

ฟู่เยว่อี้รีบพูดต่อจากเผยปิงปิง “ในเมื่อไม่มีที่ว่าง องค์รัชทายาท เรากลับกันก่อนเถอะ วันหน้าค่อยมาอุดหนุน”

 

 

ขืนพูดอย่างนี้ต่อไปไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาแน่ เวลานี้ฟู่เฉินหรงก็มาแล้ว จะหาเรื่องต่อหน้าก็คงเป็นไปไม่ได้ กลับก่อนดีกว่า การมาครั้งนี้บรรลุจุดหมายแล้ว

 

 

นางเพียงแต่อยากดูว่าซูจิ่วซือเป็นคนอย่างไร เวลานี้นางพอจะรู้แล้ว

 

 

“พอถึงตอนนั้นบอกข้าล่วงหน้า จะได้บอกหลียวนให้เตรียมห้องพิเศษไว้ คุณชายจะได้ไม่รอนาน อาจจะปวดขาอีก”

 

 

ฟู่เฉินหรงหัวเราะร่า ดูคล้ายกับเป็นมิตร แต่แทงถูกจุดอ่อนในใจของฟู่อี้หาน

 

 

อาการปวดขาของเขารักษาอยู่นานก็ไม่หาย เรื่องนี้ทำให้ฟู่อี้หานกลุ้มใจมาก แต่ก็หมดหนทาง

 

 

เวลานี้ฟู่เฉินหรงเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้า เขาไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร ได้แต่กลั้นโทสะครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงอย่างไร ฟู่เฉินหรงก็เป็นรัชทายาท ในที่เปิดเผยยังต้องไว้หน้าฟู่เฉินหรง

 

 

“รบกวนองค์รัชทายาทแล้ว ขอลาก่อน”

 

 

ฟู่อี้หานตอบเสียงกระด้าง พูดจบก็พาจูอวี้ซิ่วกับฟู่เยว่อี้ออกไปจากร้านเหล้า

 

 

พอถึงตอนนี้เผยปิงปิงจึงรู้สึกสบายใจขึ้น นางอดหัวเราะไม่ได้ กู้หลียวนเดินลงบันไดก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเผยปิงปิง รีบเข้ามาหา “มีเรื่องอะไรหรือถึงได้ขำอย่างนี้”

 

 

“เจ้ามาช้าไป เมื่อกี้มีคนมาก่อกวน โชคดีที่ข้าช่วยเจ้าคุ้มกันร้านเหล้าไว้ได้ กู้หลียวน เจ้าควรจะขอบใจข้าอย่างไร”

 

 

กู้หลียวนเลิกคิ้ว “จริงหรือ”

 

 

“จริงแท้แน่นอน ปิงปิงทำให้ฟู่อี้หานตกใจหนีไปจริงๆ

 

 

หลียวน วันหลังเจ้าขาดปิงปิงไม่ได้ เวลานี้ร้านเหล้าเทียนหยาทำให้ฟู่อี้หานไม่พอใจ เขาอาจจะมาหาเรื่องเมื่อไรก็ได้ เจ้าต้องเอาใจปิงปิงให้ดี ไม่งั้น…” ฟู่เฉินหรงยิ้มอย่างมีเลศนัย

 

 

“เปิดร้านเหล้าง่ายนักหรือ” กู้หลียวนทำท่าจนใจ “ดูพวกเจ้าสิ แต่ละคนหาเรื่องให้ข้าเดือดร้อน ไม่นึกถึงหัวอกข้าเลย”

 

 

ฟู่เฉินหรงยิ้มสะใจ ซูจิ่วซือถลึงตาใส่ฟู่เฉินหรง พอเห็นสายตากับซูจิ่วซือ ฟู่เฉินหรงจึงรู้สึกว่าแย่แล้ว เกือบลืมไปว่ากู้หลียวนเป็นลูกชายของซูจิ่วซือ วันหลังต้องถือว่าเป็นลูกชายของเขา ทำอย่างนี้กับลูกชายคงไม่ดีแน่

 

 

“หลียวน พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรเปิดเผย พวกนั้นไม่พอใจเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ พวกเรามาถึงตูเฉิงก็ถูกจับตามองอยู่แล้ว ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรก็หาทางรับมือก็แล้วกัน”

 

 

ซูจิ่วซือปลอบใจกู้หลียวน

 

 

“จิ่วซือพูดดี”

 

 

ไม่ดีได้หรือ นางเป็นแม่ของเขา

 

 

ฟู่เฉินหรงคิดในใจ

 

 

เผยปิงปิงค้อนกู้หลียวน “เอาใจข้ามันยากนักหรือ ถ้าเจ้าไม่ต้องการข้า ข้าจะไปหาตระกูลมู่กับจิ่วซือ”

 

 

“เจ้าไปยุ่งอะไรกับตระกูลมู่” พอนึกถึงว่าตระกูลมู่ยังมีมู่หยาง กู้หลียวนก็รีบตอบทันที

 

 

“ในเมื่อเจ้าน่าสงสารอย่างนี้ ข้าก็จะอยู่ดูแลร้านให้เจ้า จะได้ไม่มีใครมาข่มเหงเจ้า”

 

 

“เจ้าสองคนทะเลาะกันต่อเถอะ ข้ากับจิ่วซือจะออกไปเดินเล่น”

 

 

ฟู่เฉินหรงจับมือซูจิ่วซือ เตรียมพาซูจิ่วซือออกไปเที่ยวข้างนอก นางมาตูเฉิงระยะหนึ่งแล้ว เขายังไม่เคยพานางออกไปเที่ยวเลย

 

 

“งานของร้านเจ้าไม่ใส่ใจเลยหรือ”

 

 

กู้หลียวนงานยุ่งจนหัวหมุน สองคนนี้ยังมีใจพากันไปเที่ยว

 

 

“การค้าของเจ้า ให้ปิงปิงช่วยเถอะ!”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 407 พูดจาเหลวไหล

 

 

พอพูดจบฟู่เฉินหรงก็พาซูจิ่วซือออกไปจากร้าน

 

 

“ข้าไม่ดีกว่าหรือ!”

 

 

“เฉินหรงเป็นอย่างนี้เรื่อย พอเห็นจิ่วซือก็ไม่นึกถึงใครแม้แต่พ่อแม่ ปิงปิง เจ้าเหนื่อยหน่อยนะ ข้าจะไปยกกับข้าวจากครัวเอง เจ้าดูแลอยู่ข้างนอก”

 

 

พูดจบกู้หลียวนก็ไป เผยปิงปิงมองตามหลังกู้หลียวน แล้วหัวเราะขึ้นมาทันที เปิดร้านเหล้าดีจริงๆ ชั่วพริบตา นางก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเถ้าแก่เนี้ยแล้ว

 

 

“เฉินหรง ร้านเหล้างานยุ่งอย่างนี้ เราออกไปคงไม่เหมาะ” ซูจิ่วซืออยากกลับไป แต่จนใจเพราะฟู่เฉินหรงจับไว้แน่น ดิ้นไม่หลุดจริงๆ

 

 

“ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาทำเองเถอะ! จิ่วซือ เวลานี้เจ้าอายุน้อยกว่าหลียวนเสียอีก หลายปีมานี้เขาอยู่สุขสบายเกินไป ให้ลำบากบ้างก็ดี”

 

 

ซูจิ่วซือมองหน้าฟู่เฉินหรง “พูดอย่างกับว่าเจ้าไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือนเขา”

 

 

“ข้าลำบากกว่าเขา” ฟู่เฉินหรงยิ้ม

 

 

ซูจิ่วซืออดยิ้มไม่ได้ พอเห็นซูจิ่วซือยิ้ม ฟู่เฉินหรงก็ยิ้มกว้างขึ้น

 

 

“เจ้าปล่อยข้าก่อนเถอะ” ซูจิ่วซือดิ้นเบาๆ แต่ก็จนใจเพราะฟู่เฉินหรงจับแน่นเหลือเกิน

 

 

“ทำไม”

 

 

ฟู่เฉินหรงเลิกคิ้วถาม

 

 

“ต่อหน้าผู้คน ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป”

 

 

ฟู่เฉินหรงเอามือชี้หน้าผากซูจิ่วซือ “เจ้านะเจ้า วันๆ คิดแต่ว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป เจ้าเป็นผู้หญิงของข้าอยู่แล้ว ข้าอยากให้คนทั่วหล้ารู้ มีหรือที่ไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป จิ่วซือ เจ้าเคร่งครัดแบบแผนเกินไป”

 

 

“พูดจาเหลวไหล”

 

 

ซูจิ่วซือทำตาขวางใส่ฟู่เฉินหรง บางครั้งนางไม่รู้จะทำอย่างไรกับฟู่เฉินหรง เขามักจะทำให้นางไม่รู้จะตออบโต้อย่างไร…พูดจาเหลวไหล”

 

 

“จิ่วซือ ตูเฉิงมีขนมอย่างหนึ่ง เวลานี้ดอกกุ้ยฮวากำลังบาน ขนมนั่นใช้ดอกกุ้ยฮวามาแต่งหน้า หอมเป็นพิเศษ ข้าพาเจ้าไปชิม”

 

 

ฟู่เฉินหรงไม่ชอบกินขนม ซูจิ่วซือกินบ้างเป็นบางครั้ง พอชิมขนมกุ้ยฮวา เขาจึงนึกถึงซูจิ่วซือ รู้สึกว่าซูจิ่วซือคงจะชอบ วันนี้โอกาสดีมีเวลาว่าง จึงอยากพาซูจิ่วซือไปชิม

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า ทั้งสองเดินพลางพูดคุยกันพลาง ใบหน้ายิ้มแย้ม สายตาของฟู่เฉินหรงไม่เคยห่างจากซูจิ่วซือ ราวกับว่ามองเห็นแต่ซูจิ่วซือ คนอื่นไม่สำคัญ

 

 

“คารวะองค์รัชทายาท”

 

 

จู่ๆ ก็มีคนมายืนอยู่ข้างหน้าคนทั้งสอง จากนั้นซูจิ่วซือก็ได้ยินเสียงของเฟิงชิงสุ่ยดังขึ้น

 

 

ฟู่เฉินหรงหยุดเดิน แต่ยังไม่ปล่อยมือออกจากซูจิ่วซือ น่าเบื่อจริงๆ โอกาสที่จะได้เดินเที่ยวตลาดกับซูจิ่วซือมีน้อย แต่กลับมาเจอเฟิงชิงสุ่ย

 

 

ฟู่เฉินหรงชอบสวมเสื้อคลุมสีม่วง เฟิงชิงสุ่ยก็เช่นกัน เวลานี้เฟิงชิงสุ่ยสวมเสื้อคลุมสีม่วง สองคนใส่สีเดียวกันยืนอยู่ด้วยกันให้ความรู้สึกว่าเหมาะสมกันอย่างประหลาด

 

 

พอเห็นทั้งสองสวมเสื้อสีเดียวกัน ซูจิ่วซือก็รู้สึกไม่สบายใจนัก

 

 

เฟิงชิงสุ่ยแม้รู้สึกอิจฉาที่ทั้งสองจูงมือกัน แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้าแม้แต่น้อย ยังคงยิ้มอย่างสุภาพ “ตอนข้าออกจากบ้านทำเสื้อเลอะ จึงเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีม่วง นึกไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทจะสวมสีม่วงเหมือนกัน คงเป็นเพราะหัวใจเราผูกพันกัน!”

 

 

เนื่องจากวันนี้ร้านเหล้าเทียนหยาเปิดร้าน ซูจิ่วซือจึงสวมชุดสีแดงท้อ จะได้เข้ากับบรรยากาศการฉลอง

 

 

ฟู่เฉินหรงเกรงว่าซูจิ่วซือจะไม่พอใจ จึงหันมามองซูจิ่วซือซึ่งอยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้น “แม่นางเฟิงพูดผิดไปแล้ว สีม่วงกับสีแดงจึงจะเหมาะสมกัน ม่วงแดงหมายถึงความรุ่งโรจน์สดใส เสื้อข้ากับจิ่วซือจึงจะคู่กัน”