โจวซินหันกลับมามอง เหลียงหรูซิงก็มีสีหน้าไม่พอใจ เขาแสยะยิ้ม ” ทำไม เหลียงเต้าโหยวจะบังคับให้ผมอยู่ต่อหรือไง ? ”
เหลียงหรูซิงจ้องหน้าโจวซิน “ โจวเต้าโหยว คุณมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ เป็นแขกที่มาเองโดยมิได้รับเชิญ ตอนนี้คุณจะออกไปแบบนี้เลยเหรอ ? ”
โจวซินทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ คุณน่าจะได้ยินที่หยางโปแนะนำนะ ผมเป็นลูกหลานของตระกูลโจว อำนาจของตระกูลโจวไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษตัวเล็กๆเช่นคุณจะมาต่อเทียบเคียงด้วยได้ ต่อให้ขั้นวรยุทธ์ของคุณจะเก่งกาจแค่ไหน ต่อหน้าตระกูลโจวของเราแล้ว ก็เปรียบเสมือนมดเท่านั้น ! ”
เหลียงหรูซิงชักสีหน้าไม่พอใจ “ ต่อให้ตระกูลโจวของคุณจะแข็งแกร่งอีกสักเท่าไร คิดว่าเวลานี้คงจะมาใช้อำนาจเหนือใครไม่ได้หรอกมั้ง ? ”
โจวซินตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองเข้าไปในห้อง ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที ไม่มีใครในห้องช่วยเขาได้เลย ตอนนี้มีเพียงหยางโปเท่านั้นที่มีอำนาจที่จะพาเขาออกไป แต่หยางโปจะทำแบบนั้นไหม ?
โจวซินต้องการที่จะอยู่ต่อ แต่ก็รู้สึกว่าทนหน้าด้านอยู่ต่อไม่ได้ จึงมีอาการลังเลขึ้นมาทันที
เสวียนจงรีบลุกขึ้น เขาถือกาน้ำชาและรินชาให้โจวซิน ” โจวเต้าโหยว เรามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเองไม่มีก็เพื่อต่างคนต่างก้าวหน้า แบบเดียวกับผู้อาวุโสเหลียงกล่าวมา จะหวงแหนในสิ่งที่ตัวเองรู้ไว้คนเดียวไปทำไม ! ”
ได้ยินแบบนั้นโจวซินถึงหาข้ออ้างเดินกลับเข้ามาได้ ผู้รู้สถานการณ์คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ
ตอนนี้วรยุทธ์ของเขาอยู่ในขั้นกลางของหยิ่นชี่จิง ยังด้อยกว่าเหลียงหรูซิงไปสองขั้น ถึงแม้ในมือเขาจะมีไพ่เหนือกว่า และมั่นใจ 50% ว่าจะออกไปได้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาสุดท้ายแล้วหยางโปจะทำยังไง ถ้าหากหยางโปทำอะไรเลวร้ายลับๆขึ้นมา นั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่สามารถออกไปได้แล้วไม่ใช่หรือไง ?
โจวซินมองไปที่เสวียนจง แต่ไม่ได้พูดอะไร ทั้งหมดต่างแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเองไม่มี มันก็แค่การแสดงฉากหนึ่งเท่านั้น ก็เพื่อให้เขาเล่าให้อีกฝ่ายฟัง เขาไม่เชื่อว่าผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษคนหนึ่งจะมีประสบการณ์มากมายอะไร ตระกูลโจวสืบทอดต่อกันมาหลายร้อยชั่วอายุคน มีความลับทางวิชายุทธของบรรพบุรุษในตระกูลอยู่มากมาย ผู้อาวุโสในตระกูลทำตัวเป็นแบบอย่างทั้งคำพูดและการกระทำ มันก็ทำให้โจวซินมีประสบการณ์มากมายได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เหลียงหรูซิงไม่อาจเทียบได้ !
เหลียงหรูซิงมองโจวซินอย่างพินิจพิเคราะห์แต่ไม่พูดอะไร
เสวียนจงยิ้ม ” เชิญดื่มชา ! ”
โจวซินหันไปมองเสวียนจงและขมวดคิ้วขึ้น ” ผมคิดว่าถ้าคุณกอดขาของหยางโปไว้ มันจะทำให้คุณมีอนาคตมากกว่า ! ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสวียนจงแข็งทื่อไปทันที จากนั้นก็ยิ้มให้อีกครั้ง ” โจวเต้าโหยวพูดเล่นแล้ว ทุกวันนี้ การที่ผมคอยตามคุณต้อยๆ กอดขาคุณไว้นั่นแหละดีแล้ว ! ”
โจวซินส่ายหน้า ” ช่างเถอะ แล้วแต่คุณละกัน ! ”
เหลียงหรูซิงเคาะโต๊ะ ” โจวเต้าโหยว ในเมื่อเป็นวิชาของครอบครัวที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ถ้างั้นก็เริ่มพูดเถอะ ! ”
“ พูดเรื่องอะไร ? ” โจวซินขมวดคิ้ว
เหลียงหรูซิงตอบกลับ “ ก็เกี่ยวกับเรื่องการฝึกฝนวรยุทธ์ขั้นหยิ่นชี่จิง ที่เริ่มจากการดึงพลังลมปราณเข้าสู่ร่างกาย หวังว่าโจวเต้าโหยวจะสามารถอธิบายให้ละเอียดหน่อย ! ”
สีหน้าของโจวซินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อีกฝ่ายคิดที่จะแย่งชิงไปละสิ ประสบการณ์เหล่านี้ตระกูลโจวเก็บสั่งสมมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จะให้อีกฝ่ายรู้ได้ยังไง ? นั่นมันไม่ใช่การขุดหลุมฝังศพตัวเองหรอกหรือไง ?
หยางโปที่นั่งข้างๆ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาพอจะเดาออก ก่อนหน้านี้เป้าหมายที่เหลียงหรูซิง
อยากเจอ น่าจะเป็นเขา แต่เมื่อเขาลากโจวซินเข้ามา เหลียงหรูซิงจึงคิดว่าโจวซินคงจะรับมือได้ด้วยง่ายกว่า จึงปล่อยเขาไป แต่จะปล่อยไปจริงไหม ตอนนี้ยังพูดไม่ได้
โจวซินนั่งอยู่หน้าโต๊ะยกถ้วยชาขึ้น จากนั้นเขาจึงเหลือบมองเหลียงหรูซิงและพูดขึ้นว่า ” ถ้าพูดถึงเรื่องนี้จริงๆ มันก็คงจะเยอะมากเกินไป ผมต้องการกระดาษและปากกาเพื่อเรียบเรียงซะหน่อย ”
เหลียงหรูซิงมองโจวซินและหันไปเชยคางให้เสวียนจง ” ประธานเสวียน คุณช่วยออกไปนำกระดาษและปากกามาสักหน่อยนะ “.novel-lucky.
เสวียนจงลุกยืนขึ้นและเดินออกไป
เหลียงหรูซิงมองไปทางหยางโป ” หยางเต้าโหยว พวกเราต้องคุยกันหน่อยไหม ? ”
หยางโปส่ายหน้า “ ผมเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษคนหนึ่งก็เท่านั้น จะเทียบเคียงกับตระกูล
โจวได้ยังไง ? แต่ ผมมักจะคิดว่ากิจกรรมแบบนี้มันน่าสนใจมาก ถ้าครั้งหน้าเหลียงเต้าโหยวจัดงานขึ้นอีก ต้องแจ้งให้ผมทราบด้วยนะ ! ”
เมื่อเหลียงหรูซิงเห็นหยางโปยืนขึ้น ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ มือทั้งสองข้างของเขาจับเก้าอี้ไว้แน่น
เส้นเอ็นปุดขึ้นที่แขน ทำท่าเหมือนจะลงมือ แต่ก็ยังลังเลใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ และปล่อยให้หยางโปและพรรคพวกออกไป
เมื่อโจวซินเห็นหยางโปเดินออกไปใกล้ถึงด้านนอกของประตูแล้ว ทันใดนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่ด้านนอกประตู
เหลียงหรูซิงรู้สึกว่าขั้นวรยุทธ์ของหยางโปพอๆกับเขา บางทีอาจจะไม่ง่ายนักที่จะรับมือด้วย ดังนั้นเขาจึงอนุญาตให้หยางโปและพรรคพวกออกไป แต่สำหรับโจวซินแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยให้เขาจากไปอย่างง่ายดายแบบนี้แน่ !
“ จะหนีไปไหน ? ” เหลียงหรูซิงตะโกนเสียงดังก่อนที่จะพุ่งพรวดเข้าไปหา
แม้ว่าโจวซินจะเริ่มเร็วกว่า แต่เหลียงหรูซิงก็เร็วกว่า ตอนที่มาอยู่ปากประตูทางออก เหลียงหรูซิงก็เกือบตามมาทันโจวซินแล้ว คิดไม่ถึงว่าแค่โจวซินเตะเท้าขวาออกไป และไม่รู้ว่าใช้เทคนิคอะไร
ถึงได้พุ่งไปข้างหน้าได้หลายเมตรอย่างรวดเร็ว จนพุ่งพรวดมาอยู่ที่ด้านนอกประตูแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาเกือบจะพุ่งไปหยุดยืนอยู่ที่ด้านข้างของหยางโปและพรรคพวกแล้ว ! หยางโปรีบไปยืนอยู่ข้างหลัง ฮัวชิงหยุนทั้งสองอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องทั้งสองคนไว้
โจวซินยืนนิ่งไม่ได้วิ่งหนีไปไหนอีก
เหลียงหรูซิงที่วิ่งพรวดออกมา เมื่อเห็นฉากนี้เข้า ก็ถึงกับตกใจเล็กน้อย เขายิ้มอ่อนๆ
” หยางเต้าโหยว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณสามารถออกไปก่อนได้เลย ”
“ หยางโปถ้าวันนี้คุณสามารถปกป้องผมให้ปลอดภัยได้ พรุ่งนี้ผมจะมอบตำราลับเล่มหนึ่งให้คุณ ! ” โจวซินกล่าว
หยางโปส่ายหน้า “ ช่างเถอะ คุณชายโจว พวกเราก็รู้จักกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คุณก็น่าจะพอเข้าใจนะว่าผมไม่ได้ขาดแคลนตำราลับ ”
“ เศษเสี้ยวของวิชายุทธเรียกลมฝน ! ” โจวซินอธิบาย
หยางโปตกใจนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ สีหน้าดูแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด “ เศษเสี้ยววิชายุทธ ? ”
โจวซินพยักหน้า “ ใช่ ! ”
หยางโปสังเกตเห็นว่าเหลียงหรูซิงที่วิ่งพรวดตามออกมาตาลุกวาว เขาจ้องมองโจวซิน ทำราวกับอยากกลืนกินโจวซิน !
วิชายุทธพบเจอได้ยากมาก บางคนถึงกับไล่ตามหาวิชายุทธมาตลอดชีวิต แม้แต่เศษเสี้ยวของวิชายุทธ มันก็ยากที่จะได้พบเจอ ถึงแม้เหลียงหรูซิงจะมีชื่อเสียงมากในการบำเพ็ญเพียรอยู่อย่างสันโดษ ก็แค่เคยได้ยินมา เมื่อได้ยินคำว่า ” วิชายุทธ ” เท่านั้น ก็ตาลุกวาวขึ้นมาในทันที !
หยางโปส่ายหน้าและพาฮัวชิงหยุนทั้งสองค่อยๆถอยห่างออกไป “ ช่างเถอะ ผมกลัวว่าถ้ามีของดีแล้วอาจจะไม่ปลอดภัย ไม่เอาดีกว่า ! ”
“ คุณ ! ” โจวซินตกตะลึงไปทันที เขาคิดว่าจะสามารถใช้วิชายุทธมาดึงดูดความสนใจของหยางโปไว้ได้และปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันเอง แต่คิดไม่ถึงว่า ทันทีที่หยางโปเผชิญหน้ากับวิชายุทธ กลับไม่ตกหลุมพลาง !
“ ในเมื่อหยางเต้าโหยวไม่เต็มใจที่จะยอมรับมันไว้ ส่งมอบมันมาให้ผมก็ได้ ” เหลียงหรูซิงเดินเข้ามาช้าๆพลางเอ่ยปากพูด
โจวซินหัวเราะดังลั่น “ ล้อเล่นนะ จะมีเศษเสี้ยวของวิชายุทธอยู่ในมือของผมได้ยังไง ? ”
“ ผมค้นหาดูได้ ! ” เหลียงหรูซิงกล่าว
โจวซินรีบโบกมือทันที “ เหลียงเต้าโหยว คุณอย่าได้เข้าใจผิดเชียวนะ ผมไม่ได้มีวิชายุทธ์อยู่จริงๆ ต่อให้มีของดีพวกนี้อยู่ มีหรือจะเอาติดตัวมาด้วย ? ”
เหลียงหรูซิงยิ้มพลางพูดว่า “ ไม่เป็นไร ยังไงซะ กระดาษและปากกาก็เอามาให้แล้ว คุณก็แค่เขียนมันลงไปเงียบๆก็จบ ”
โจวซินอดไม่ได้ที่จะมองหยางโปและตะโกนเสียงดัง ” หยางเต้าโหยว คิดว่าจิงอันซือไท่คงเคยพูดกับคุณแล้วว่าให้คุณดูแลผม ! ”
“ ไม่นะ ? ” หยางโปปฏิเสธเสียงแข็ง