ตอนที่ 410 เข้าบ้านตระกูลมู่ / ตอนที่ 411 ครอบครัวตระกูลมู่รักใคร่กลมเกลียวกันดี

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 410 เข้าบ้านตระกูลมู่

 

 

คำตอบนี้ทำให้ซูจิ่วซือรู้สึกไม่รู้จะว่าอย่างไร คิดแล้วก็รู้สึกขำ ไม่ต่อว่าฟู่เฉินหรงอีก ปล่อยให้ฟู่เฉินหรงหัวเราะที่ตลาด บางครั้งนางรู้สึกว่าฟู่เฉินหรงเหมือนเด็กน้อย และเป็นเด็กน้อยที่น่ารัก

 

 

บ้าจริงๆ นางรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ารัก นึกถึงตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ ฟู่เฉินหรงมักจะแกล้งนาง แล้วนางก็อดหัวเราะไม่ได้ ความรักเป็นเรื่องประหลาดจริงๆ

 

 

ในยามที่คิดว่าชาตินี้จะไม่มีวันรักใคร สวรรค์ก็ส่งคนที่ทำให้อยากรักไปตลอดชีวิต

 

 

เดิมทีนางคิดว่าสวรรค์ให้นางฟื้นชีพขึ้นมาอีกครั้งเพื่อให้นางมีโอกาสแก้แค้น เวลานี้นางรู้แล้วว่า การฟื้นชีพ มีความหมายสำคัญที่สุดคือพบผู้ชายที่ทำให้นางรู้สึกว่าชีวิตช่างงดงามจริงๆ

 

 

วันรุ่งขึ้น มู่หยางกับหลิ่วเหวินฉือมารับซูจิ่วซือไปจวนตระกูลมู่ ซูจิ่วซือทำเป็นประหลาดใจ หลังจากมู่หยางพูดโน้มน้าว ในที่สุดนางก็รับปากไปจวนตระกูลมู่

 

 

เผยปิงปิงอยากอยู่กับกู้หลียวน จึงไม่ได้ตามไปด้วย เพราะการไปเยี่ยมซูจิ่วซือทำได้สะดวก จะไปจวนตระกูลมู่เมื่อไรก็ได้

 

 

พอไปถึงจวนตระกูลมู่ ฮูหยินมู่พาคนรออยู่ที่หน้าประตูจวนอยู่ก่อนแล้ว นางกลัวว่าซูจิ่วซือจะไม่มา จึงรอที่หน้าประตูจวน

 

 

พอเห็นรถม้าของมู่หยางมา นางจึงวางใจ

 

 

ป้าจางซึ่งอยู่ข้างๆ ก็วางใจ ฮูหยินของนางรออยู่ที่นี่เกือบชั่วยามแล้ว เตือนอย่างไรก็ไร้ผล ไม่ยอมเข้าไป จะดูซูจิ่วซือให้เห็นกับตา

 

 

ม่านรถม้าเปิดออก ฮูหยินมู่รีบเข้าไปหา หลิ่วเหวินฉือเดินลงจากรถม้าก่อน พอเห็นฮูหยินมู่อยู่ที่หน้าประตูก็ประหลาดใจ “ท่านแม่ ท่านแม่สุขภาพไม่ดี ทำไมไม่อยู่รอในห้อง วันนี้แดดค่อนข้างร้อน ป้าจาง ทำไมไม่ห้ามท่านแม่”

 

 

“โถโถ ฮูหยินน้อย ข้าหรือจะห้ามได้ พอได้ยินว่าคุณหนูจะมา ฮูหยินก็ดีใจมาก ต้องมารอให้ได้”

 

 

ป้าจางรีบเข้าไปประคองฮูหยินมู่ พลางพูดยิ้มๆ

 

 

มู่หยางลงจากรถ ซูจิ่วซือก็ตามลงมา

 

 

พอเห็นฮูหยินมู่ยืนอยู่หน้าประตู นางก็ประหลาดใจ และซาบซึ้ง ฮูหยินมู่รักลูกสาวจริงๆ แม้นางจะแอบอ้างเป็นมู่ซือซือ แต่นางจะกตัญญูต่อฮูหยินมู่แทนมู่ซือซืออย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการขอโทษมู่ซือซือที่จากไป

 

 

“ซือซือ กลับมาแล้ว”

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือลงจากรถ ฮูหยินมู่ก็น้ำตาคลอ ตื่นเต้นดีใจ นางไม่รู้ว่าทำไม นางจึงมั่นใจว่าเด็กคนนี้ก็คือซือซือของนาง

 

 

“ฮูหยิน”

 

 

ชั่วขณะซูจิ่วซือยังพูดไม่ออก นางรู้ดี นี่ไม่ใช่แม่ของนาง ถ้าเรียกแม่ตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก คนอื่นคงรู้สึกว่าจงใจเกินไป

 

 

“น้องสาว ควรเรียกท่านแม่ ทำไมเรียกฮูหยิน”

 

 

มู่หยางถือว่าซูจิ่วซือเป็นน้องสาวแท้ๆ ฮูหยินมู่บอกเองว่าที่ไหล่ซ้ายของนางมีปาน เขาเชื่อคำพูดของมารดา

 

 

“เรื่องนี้ค่อยว่าทีหลัง ไม่รีบ ซือซือ เราไปข้างในก่อน”

 

 

ฮูหยินมู่จับมือซูจิ่วซือ แม้ไม่ค่อยคุ้นกับการใกล้ชิดอย่างนี้ แต่ซูจิ่วซือก็รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่านี่เป็นคนในครอบครัวของนางจริงๆ

 

 

นางตามฮูหยินมู่เข้าไปในจวน หลิ่วเหวินฉือกับมู่หยางตามหลัง ฮูหยินมู่ถามไถ่ทุกข์สุขตลอดทาง พานางไปที่เรือนหวนคะนึงซึ่งทำความสะอาดแล้ว

 

 

พอเดินมาถึงหน้าประตูเรือน ก็เห็นสาวใช้ยืนเรียงแถวเป็นระเบียบ และได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ มองเข้าไป บริเวณลานเต็มไปด้วยดอกไม้ในกระถางหลากหลาย สีสันต่างๆ นานาคละเคล้ากัน แสดงถึงการเอาใจใส่อย่างดี

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 411 ครอบครัวตระกูลมู่รักใคร่กลมเกลียวกันดี

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือเข้ามา สาวใช้ที่ยืนเรียงแถวเป็นระเบียบก็คารวะ ฮูหยินมู่โบกมือ “พวกเจ้าออกไปก่อน วันหลังต้องรับใช้คุณหนูซูให้ดี

 

 

“เจ้าค่ะ ฮูหยิน”

 

 

พอสาวใช้ออกไปแล้ว มู่หยางก็ชี้ต้นไม้ในกระถาง แล้วถาม “น้องสาว ต้นไม้ที่ลานชอบหรือไม่ ตอนเด็กเจ้าชอบดอกไม้มาก เรื่องนี้ข้าเป็นคนจัดการให้เจ้าเป็นพิเศษ”

 

 

“ขอบใจพี่รอง”

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มน้อยๆ มู่หยางมีน้ำใจจริงๆ ผู้ชายคนหนึ่งมาจัดการเรื่องนี้

 

 

ตระกูลมู่ต่างจากที่นางคิดไว้ พวกเขากลมเกลียวกันมาก

 

 

ดูออกว่า คนในครอบครัวรักใคร่กันดี ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่เหมือนจวนอันผิงโหว ไม่ว่าจะเป็นจวนอันผิงโหวตอนที่ซูหลิ่วอยู่ หรือจวนอันผิงโหวตอนที่ซูจิ่วซืออยู่ ไม่เคยว่างเว้นจากการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น

 

 

ตระกูลกู้เป็นอย่างนี้ นางจึงคุ้นเคยกับความเลวร้ายในตระกูลใหญ่ ความกลมเกลียวอย่างนี้นางเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก

 

 

“พี่น้องครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าเจ้าชอบก็ดีแล้ว” มู่หยางหัวเราะร่า

 

 

หลิ่วเหวินฉือปิดปากยิ้ม “ใช่สิ เมื่อวานน้องรองย้ายกระถางต้นไม้ในสวนคนเดียวทั้งวัน ดอกไม้ทั้งหมดนี้น้องรองเป็นคนเลือกเอง เลือกเอามาทีละกระถาง”

 

 

“พี่สะใภ้ อย่าหัวเราะข้า น้องสาวกลับมา ข้าถึงดีใจไม่ใช่หรือ”

 

 

เมื่อวานเป็นวันเปิดร้านเหล้าเทียนหยา เดิมทีเขาควรจะไปร่วม แต่เขาดูแลทำความสะอาดบริเวณรอบเรือนจึงไปไม่ทัน รอสักสองสามวันค่อยไปขออภัยกู้หลียวน

 

 

“คราวนี้มู่หยางทำดีมาก ไม่ให้แม่ผิดหวัง” ฮูหยินมู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ พลอยยิ้มไปด้วย จากนั้นก็พาซูจิ่วซือเข้าไปข้างในต่อ

 

 

ตระกูลมู่เป็นตระกูลใหญ่สืบทอดมาเป็นร้อยปี ฐานะมั่งคั่งมาก เรือนหวนคะนึงมีขนาดใหญ่โต

 

 

ข้างในตกแต่งเหมือนเรียบง่าย แต่หรูหราเป็นพิเศษ มีเครื่องเคลือบดินเผาล้ำค่าตั้งวางตามที่ต่างๆ เครื่องเรือนทั้งหมดทำจากไม้แดงและไม้ลี่ฮวา ซูจิ่วซือเกิดในตระกูลใหญ่ เห็นของล้ำค่าจนเคยชิน จึงดูออก

 

 

หลังจากสำรวจคร่าวๆ ซูจิ่วซือก็เข้าใจสภาพ ทรัพย์สมบัติของตระกูลมู่มีมากกว่าจวนอันผิงโหวช่วงรุ่งโรจน์

 

 

“ซือซือ ชอบบริเวณนี้ไหม เจ้าพักที่นี่ก่อน ถ้าขาดอะไรก็บอกพี่สะใภ้ ให้นางเอามาเพิ่ม”

 

 

ฮูหยินมู่เหมือนจะกลัวว่าซูจิ่วซือไม่พอใจเรือนหวนคะนึง คอยใส่ใจดูสีหน้าของซูจิ่วซือ

 

 

ซูจิ่วซือยังคงสงบ นางซาบซึ้งในความทุ่มเทเอาใจใส่ นางพยักหน้า “ขอบใจฮูหยิน ข้าชอบมาก”

 

 

“เจ้าเด็กคนนี้ มาขอบใจข้าทำไม เราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน

 

 

หลังจากเจ้าพลัดหลงไป ตลอดหลายปีมานี้ข้ารอให้เจ้ากลับมา เรือนหวนคะนึงหลังนี้ข้ารักษาไว้ให้เจ้า ข้าเชื่อว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะกลับมา แล้วสวรรค์ก็ส่งเจ้ากลับมาจริงๆ”

 

 

“ท่านแม่ วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า อย่าพูดเรื่องนี้เลย ข้าให้ห้องครัวเตรียมอาหารไว้แล้ว วันนี้เราฉลองต้อนรับซือซือกลับบ้านให้เต็มที่”

 

 

หลิ่วเหวินฉือเป็นคนฉลาด อ่อนโยน น่าประทับใจ นางเมตตาซูจิ่วซือมาก

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้หลิ่วเหวินฉือ “พี่สะใภ้มีน้ำใจจริงๆ”

 

 

“ใช่ ใช่ เหวินฉือพูดถูก อยู่ดีๆ มาพูดเรื่องพวกนี้ทำไม กลับมาก็ดีแล้ว เหวินฉือ เจ้าพาซือซือไปดูเรือนหวนคะนึง จะได้คุ้นเคย”

 

 

“เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านแม่พักสักครู่ ข้าจะพาซือซือไปเดินเล่น”

 

 

หลิ่วเหวินฉือรีบรับคำ แล้วพาซูจิ่วซือออกไป มู่หยางอยู่พูดคุยกับฮูหยินมู่