เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 609
เมื่อเถาวัลย์ล่าถอยไป ลู่ฝานเห็นทางเดินเล็กๆ

ลึกและเงียบ ไม่รู้เป็นทางเดินไปไหน

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงก็มองตามลู่ฝาน ไปยังถนนเส้นเล็ก เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว เจิงหยงใช้มือสัมผัสดินบนถนน แล้วพูดว่า “คนสร้างมันขึ้นมา”

ลู่ฝานพูดว่า “นายดูออกด้วยเหรอ”

เจิงหยงยักไหล่แล้วพูดว่า “ช่วยไม่ได้ อยู่กับพวกลักลอบขนสินค้าตั้งแต่เด็ก ก็ต้องเรียนรู้สิ่งไร้สาระพวกนี้บ้าง”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดว่า “ทางเดินนี้จงใจทิ้งไว้ให้พวกเราเหรอ หรือว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ”

ลู่ฝานส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ คิดว่าเราควรเข้าไปดีไหม”

เจิงหยงพูดว่า “ผมว่าควรเข้าไป”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดว่า “ฉันเอาตามคุณชายลู่”

ลู่ฝานอมยิ้มมองอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์แวบหนึ่ง แต่อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ยิ้มซุกซนให้ลู่ฝาน

ลู่ฝานหันไปถามเจ้าดำ “เจ้าดำ แกคิดว่าข้างในอันตรายไหม”

เจ้าดำดมกลิ่นไปตรงทางเดินเล็กๆ การกระทำของมันเผยให้เห็นธาตุแท้ที่มันเป็นสุนัข

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงเห็นแล้วมีสีหน้าประหลาด

เจ้าดำแลบลิ้นแล้วส่ายหน้า เพื่อบอกว่าตัวเองไม่ได้สัมผัสถึงอะไร

ทันใดนั้น ตัวของเจ้าดำเล็กลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสัตว์อสูรสีดำตัวเล็กๆ กระโดดขึ้นไปบนไหล่ลู่ฝาน

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรค่อยๆ เคลื่อนไหวพลังโดยอัตโนมัติ ช่วยเจ้าดำรักษาอาการบาดเจ็บ

สารพิษในเถาวัลย์ปีศาจ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเจดีย์เสวียนเก้ามังกร สามารถจัดการได้ในพริบตา

ลู่ฝานเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ไปเถอะ เข้าไปดูกัน ทั้งสองคนเดินตามหลังฉัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสองคนหนีได้ ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันไม่ได้ล้อเล่น”

คำพูดของลู่ฝานทำให้อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงหัวเราะออกมา พวกเขาดูคนไม่ผิดจริงๆ

ลู่ฝานพูดแบบนี้ออกมา เป็นสิ่งยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนขายเพื่อน

แต่อันที่จริงลู่ฝานพูดแบบนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง มีอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงอยู่ เขาไม่สามารถใช้วิชาของผู้ฝึกชี่ได้

ถ้ามีเขาเพียงคนเดียว ยังจัดการได้ง่ายหน่อย

อย่างน้อยวิชามากมายของผู้ฝึกชี่ ก็ใช้การได้ดีในป่าทึบแบบนี้

ทั้งสามคนเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ยิ่งเดินเข้าไป ป่าทึบยิ่งบดบังแสงอาทิตย์

เดินเป็นเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป เห็นเพียงแสงอาทิตย์เล็กน้อย ได้ยินเสียงยุงดังเข้าหูเบาๆ

ลู่ฝานบอกให้เจ้าดำปล่อยแรงกดดันออกมาเล็กน้อย

ตอนนี้ในบรรดาสัตว์อสูร เจ้าดำไม่ใช่ผู้อ่อนแอ แรงกดดันที่มันปล่อยออกมา ทำให้สัตว์อสูรจำนวนไม่น้อย ได้ยินเสียงลมและพากันหนีทันที

ลู่ฝานและคนอื่นเดินไปบนทางเดินเล็กๆ ในเมืองหลวงประเทศอู่อาน ตาเฒ่าหลู่กับตาเฒ่าจงช็อกไปแล้ว

“เกาะผนึกวิญญาณมีทางเดินนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันไม่รู้ ใครทำลายกฎ!”

ตาเฒ่าหลู่โมโหมาก เกิดเรื่องไม่คาดฝันในถิ่นของพวกเขา เกิดเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้

“เถาวัลย์ปีศาจนั่นด้วย ใครปล่อยเอาไว้ ถ้าฉันจับได้ ฉันจะโยนเขาไปเกาะนรก ให้เขาเล่นกับเถาวัลย์ปีศาจให้เต็มที่”

ตาเฒ่าจงก่นด่าออกมาอย่างโมโห มีภาพลวงตาสีแดงเพลิงปรากฏบนตัว ทันใดนั้นมีเสียงไพเราะดังก้อง

ทั้งสองคนเริ่มเดินช้าๆ

“ตาเฒ่าจง ยกเลิกการสอบประเมินผู้ตรวจการชั้นกลางของพวกเขาเลยดีไหม ไม่แน่อาจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันบนเกาะนั่นแล้ว”

ตาเฒ่าหลู่แทบจะดึงเคราขาวของตัวเองลงมาอยู่แล้ว