เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 610
ตาเฒ่าจงครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ไม่ได้ ดูไปก่อน ในเมื่อเด็กพวกนี้รับมือเถาวัลย์ปีศาจได้ ฉันอยากดูว่าพวกเขาจะช่วยเราสืบได้ไหมว่าใครก่อเรื่องในนั้น”

ตาเฒ่าหลู่พูดว่า “งั้นถ้าพวกเขาตายอยู่ข้างในล่ะ”

ตาเฒ่าจงพูดว่า “การสอบประเมินผู้ตรวจการชั้นกลางมีอันตรายอยู่ทุกที่ ถ้าเกิดอันตรายจริงๆ พวกเราช่วยพวกเขาได้หนึ่งครั้ง จะช่วยได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขา หลังจากนั้นค่อยให้โอกาสพวกเขาสอบอีกครั้ง ก็พอแล้ว”

ตาเฒ่าหลู่พยักหน้า “ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว”

ทั้งสองคนปรึกษากันเรียบร้อย จากนั้นก็เอนตัวลงดื่มเหล้าต่อ

เห็นท่าทางสบายใจของพวกเขา เหมือนคนที่โมโหเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกเขาสองคนอย่างไรอย่างนั้น

บนเกาะผนึกวิญญาณ

พวกลู่ฝานเดินไปด้านในเรื่อยๆ หลังจากอ้อมพุ่มไม้ จู่ๆ ภาพตรงหน้าดูกว้างใหญ่

สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือทะเลสาบ

น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าคราม ส่องแสงระยิบระยับ มีพลังเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบเบาๆ

“ที่นี่มีทะเลสาบด้วยเหรอ”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดออกมา

ลู่ฝานหยิบดินข้างๆ โยนลงไปในทะเลสาบ น้ำกระเพื่อมทันที มีไอเย็นยะเยือกพุ่งออกมา

พวกลู่ฝานขนลุกทั้งตัว เจิงหยงพูดด้วยสีหน้าตกใจ “หนาวมาก”

ลู่ฝานนั่งยอง วางนิ้วลงในน้ำ

ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นว่านิ้วตัวเองเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ไอเย็นสูงสุดเข้ามาตรงปลายนิ้ว ทะลุเข้าไปในเส้นลมปราณของเขา

ลู่ฝานชักนิ้วกลับมาทันที ปราณชี่ขจัดเกล็ดน้ำแข็งบนนิ้วออกไป

“ดูเหมือนว่าน้ำในทะเลสาบนี้ใช้ไม่ได้”

ลู่ฝานพูดช้าๆ

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์เห็นนิ้วลู่ฝานโดนแช่แข็งจนเป็นแบบนั้น ก็รีบถอยห่างจากทะเลสาบทันที

เจิงหยงส่ายหน้าพูดว่า “น่าเสียดาย น้ำใสขนาดนี้ ถ้าได้อาบน้ำที่นี่คงดี”

ลู่ฝานหัวเราะ ขณะนั้นฟ้ามืดลงทันที เสียงฟ้าร้องดังขึ้น

ซ่า ซ่า

ฝนตกลงมา และตกหนักขึ้นทันที

ทั้งสามคนกางเสื้อปราณของตัวเองขึ้นมา ป้องกันเม็ดฝนเอาไว้

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดว่า “ดูเหมือนวันนี้จะเดินไปไม่ได้แล้ว เราพักที่นี่กันเถอะ”

เจิงหยงพยักหน้า “ผมคิดว่าก็ได้นะ เพราะยังมีเวลาห้าวันใช่ไหม”

ลู่ฝานพยักหน้าเช่นกัน จากนั้นหันหลังเข้าไปในป่าทึบ เอาใบไม้ใบกว้างมาเป็นกอง

เจ้าดำก็กระโดดลงมาจากไหล่ลู่ฝาน เริ่มช่วยลู่ฝานทำเต็นท์จากใบไม้

ไม่นาน เต็นท์เล็กและงดงามถูกสร้างจนเสร็จ

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดว่า “คิดไม่ถึงว่านายมีฝีมือเรื่องนี้ด้วย”

ลู่ฝานพูดว่า “แต่ก่อนเคยฝึกฝนในป่า ทักษะเล็กๆ น้อยๆ เธอจะฝึกไหม”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ยิ้มแล้วพยักหน้า เจิงหยงก็ยิ้มอย่างซื่อๆ แล้วพูดว่า “ผมก็เป็นนิดหน่อย แต่ไม่ได้สร้างเก่งเหมือนคุณชายลู่”

ลู่ฝานให้เจ้าดำเอาใบไม้มาอีกส่วนหนึ่ง ช่วยอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงสร้างเต็นท์จนเสร็จ

ทั้งสามนั่งมองฟ้าอยู่ในเต็นท์

ลู่ฝานเริ่มย่างของกิน ของแห้งส่วนหนึ่งที่เอาติดตัวมา ถูกย่างจนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ด้วยฝีมือของเจ้าดำ

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์กับเจิงหยงมองมา พูดอย่างตกใจว่า “อสูรวิเศษของนายย่างอาหารเป็นด้วยเหรอ น่ารักมาก”

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ เจ้าดำก็มีท่าทางได้ใจ

ทันใดนั้น มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นอีกครั้ง เสียงฟ้าร้องเหมือนจะแยกท้องฟ้า สะท้อนไปทั่วเหมือนตอนกลางวัน

ลู่ฝานมองสายฟ้าบนท้องฟ้า แล้วขมวดคิ้วเบาๆ

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาดีในการฝึกวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุ

จู่ๆ ลู่ฝานมองทะเลสาบน้ำแข็งข้างหน้าอีกครั้ง รอยยิ้มเต็มใบหน้า