บทที่ 425 เจ้าทำข้าเปียกหมดแล้ว

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 425 เจ้าทำข้าเปียกหมดแล้ว

 

 

“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ”

 

 

หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นดีดนิ้ว

 

 

แล้วเปลวไฟสีส้มก็ลุกโชนขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา

 

 

“นี่ ข้าจะบอกความจริงให้นะ เปลวไฟของข้าสามารถเผาไหม้ได้ทุกอย่าง แม้แต่เสื้อผ้าของข้าก็ไม่มีข้อยกเว้น…”

 

 

หลินเป่ยเฉินยิ้มอย่างผู้ชนะ

 

 

เด็กสาวผมทองหมุนวนมือในอากาศ แล้วพลังปราณธาตุน้ำของนางก็รวมตัวเป็นกระบี่ 2 เล่ม ประจำการอยู่ในมือทั้งสองข้างเป็นประกายระยิบระยับท้าทายแสงตะวัน ในเวลาเดียวกันนั้น ทั่วทั้งเวทีประลองก็ก้องกังวานไปด้วยเสียงคลื่นน้ำซัดสาด

 

 

“หึหึ มีไฟที่ไหน ย่อมมีน้ำดับที่นั่น… คิดไม่ถึงเลยว่าชะตากรรมของเจ้าจะต้องมาพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของข้า”

 

 

เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

 

 

“มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ?”

 

 

หลินเป่ยเฉินดีดนิ้วมืออีกครั้ง

 

 

วูบ!

 

 

เปลวไฟพุ่งเข้าไปหาเด็กสาวฝ่ายตรงข้ามโดยทันที

 

 

“ต่อให้เจ้าดีดนิ้วเป็นร้อยครั้งมันก็ไร้ประโยชน์”

 

 

นางคำราม

 

 

เมื่อกระบี่คู่ในมือทั้งสองข้างตวัดกวัดแกว่ง มวลพลังสีน้ำเงินก็หมุนวนในอากาศ ทันใดนั้น ร่างที่บอบบางของเด็กสาวก็ถูกกำบังอยู่ในเสาน้ำขนาดใหญ่ เมื่อเปลวไฟของหลินเป่ยเฉินพุ่งเข้าไปกระแทกกับเสาน้ำต้นนั้น เปลวไฟก็ดีดสะท้อนกลับมาหาใบหน้าของเขาเอง

 

 

“นับว่ามีความร้ายกาจไม่ใช่เล่น”

 

 

แต่ผลลัพธ์จากการที่เปลวไฟดีดสะท้อนกลับมา หลินเป่ยเฉินกลับรู้สึกเพียงคันยุบยิบบนผิวหนังเท่านั้น

 

 

ต้องยอมรับเลยว่าเด็กสาวมีพลังมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้

 

 

ไม่เสียทีที่เป็นตัวแทนประจำเมือง

 

 

วิทยายุทธ์ที่เด็กสาวผมทองกำลังใช้ออกมานี้ มีอานุภาพการโจมตีรุนแรงมากกว่าวิทยายุทธ์ที่หลินเป่ยเฉินเคยใช้มาทั้งหมด สมัยที่เขายังมีพลังปราณธาตุน้ำ

 

 

แต่ว่า…

 

 

ถึงอย่างไรก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี

 

 

“เจ้าไม่รู้หรอกว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับใคร”

 

 

หลินเป่ยเฉินกระแทกหมัดออกไปข้างหน้า

 

 

ที่กำปั้นของเขามีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาแล้ว

 

 

นับเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

 

 

ระดับการโจมตีรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน

 

 

แต่เด็กสาวกลับยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ

 

 

เปรี้ยง!

 

 

เมื่อกำปั้นกระแทกเข้ากับเสาน้ำเสียงดังสนั่น เสาน้ำก็แตกกระจายหายไปในอากาศ แต่ทว่า กลับมีสายน้ำขนาดเล็กม้วนตัวรัดพันแขนของหลินเป่ยเฉินไม่ต่างจากงูพิษผู้ฉลาดเฉลียว เล่นงานเด็กหนุ่มในจังหวะที่เขาไม่ทันระวังตัว

 

 

“หืม?”

 

 

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ

 

 

สายน้ำที่กำลังรัดพันแขนของเขาอยู่นี้ มีพละกำลังมหาศาล ไม่สามารถสะบัดหลุดออกไปได้ง่ายๆ

 

 

ในเวลาเดียวกันนั้น

 

 

หลินเป่ยเฉินก็เห็นกับตาว่ามีสายน้ำอีกจำนวนมากกำลังถักทอเหมือนรังดักแด้ ห่อหุ้มเปลวไฟบนกำปั้นของเขาเอาไว้ด้านใน

 

 

“เจ้าต่างหากที่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับใคร” เด็กสาวผมทองยิ้มเหยียดหยาม

 

 

นางยกมือโบกสะบัด

 

 

แล้วลูกบอลวารีที่ห่อหุ้มเปลวไฟอยู่ด้านใน ก็ลอยกลับไปอยู่เบื้องหน้านาง

 

 

นิ้วชี้ที่เรียวยาวหมุนวนในอากาศ สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกบอลวารีได้ตามใจชอบ สิ่งที่ทุกคนเห็นในขณะนี้ก็คือลูกบอลสีฟ้าครามที่ด้านในมีประกายไฟสว่างไสว กำลังหมุนวนในอากาศด้วยการควบคุมจากปลายนิ้วของเด็กสาว ดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

 

 

“คนที่มีพลังสูงส่งจริงๆ น่ะ เขาไม่คุยโวกันหรอก” ผมหางม้าของเด็กสาวปลิวไสวตามกระแสลม ใบหน้าที่สะสวยแสดงออกถึงความมั่นใจเปี่ยมล้น

 

 

เกิดเสียงอุทานดังขึ้นจากกลุ่มคนดูรอบเวที

 

 

“นางถึงกับสามารถควบคุมพลังปราณธาตุได้ระดับนี้เชียวหรือ”

 

 

ฉู่เหินพูดด้วยความไม่อยากเชื่อ

 

 

แม้แต่เขาเองก็ยังไม่มีความสามารถถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ

 

 

พานเว่ยหมินใช้เวลาคิดอยู่เล็กน้อย ก็กล่าวว่า “เด็กคนนี้สามารถควบคุมพลังได้ถึงระดับสูงสุดแล้ว เมื่อมาเทียบกับหลินเป่ยเฉิน บัดนี้เขายังควบคุมพลังปราณธาตุไฟของตนเองไม่ได้เลยสักนิด จะเรียกว่าอยู่กันคนละระดับชั้นก็ไม่ผิด”

 

 

“แต่ว่าท่านพี่หลินคงไม่แพ้หรอกใช่ไหมเจ้าคะ?”

 

 

ฮันปู้ฮวยส่งเสียงถามขึ้นมาด้วยความเป็นกังวล

 

 

“เขาย่อมไม่แพ้อยู่แล้ว” พานเว่ยหมินพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เด็กสาวคนนี้อาจจะควบคุมพลังได้อย่างชำนาญก็จริง แต่พลังปราณธาตุไฟของหลินเป่ยเฉินมีความพิเศษเฉพาะตัว มันไม่ใช่พลังธาตุไฟธรรมดา อีกไม่กี่อึดใจต่อจากนี้ เดี๋ยวเขาก็น่าจะสร้างปาฏิหาริย์ได้สำเร็จ เจ้าคอยดูเอาเถอะ…”

 

 

เสียงพูดยังไม่ทันจางหาย

 

 

เปรี้ยง!

 

 

งูวารีที่รัดพันอยู่รอบแขนของหลินเป่ยเฉินมีอันระเบิดตัวแตกกระจาย

 

 

หยดน้ำสาดกระเซ็น

 

 

เปลวไฟลุกโชนทั่วแขนขวา

 

 

สลายสายน้ำที่เคยพัฒนาการแขนของเขาหมดสิ้น

 

 

แขนเสื้อข้างขวาของหลินเป่ยเฉินถูกเปลวไฟเผาไหม้ไม่มีเหลือ

 

 

และด้วยความที่เมื่อสักครู่นี้ถูกหยดน้ำกระเด็นใส่จำนวนมาก เสื้อคลุมของหลินเป่ยเฉินจึงเปียกชุ่มไปทั้งตัว

 

 

ดังนั้น เสื้อผ้าของเขาจึงมีความชื้นชุ่มฉ่ำจากหยดน้ำ ทำให้ในระหว่างที่โคจรพลังปราณธาตุไฟเมื่อสักครู่ เสื้อผ้าส่วนอื่นๆ ของเขาจึงยังอยู่ครบถ้วน ไม่ได้ถูกเผาไหม้ไปเหมือนแขนเสื้อแต่อย่างใด

 

 

มิฉะนั้นแล้ว เด็กหนุ่มก็คงได้เปลือยกายต่อหน้าสาธารณชนเป็นแน่แท้

 

 

“หืม?”

 

 

เด็กสาวผมทองแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

 

 

พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของนางก็คืองูวารีที่รัดพันแขนของหลินเป่ยเฉินอยู่เมื่อสักครู่

 

 

มันอาจจะมีลักษณะเหมือนสายน้ำขนาดเล็ก เป็นเหมือนอสรพิษร้ายตัวเล็กจ้อย แต่ในความจริงนั้น มันมีความเหนียวและยืดหยุ่น รวมถึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า นางถึงกับเคยใช้พลังวารีนี้ตัดกำแพงเหล็กทิ้งมาแล้ว

 

 

เดิมทีเด็กสาวตั้งใจพันธนาการแขนของหลินเป่ยเฉิน เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือนเท่านั้น

 

 

เต็มที่ก็แค่หักแขนเขาเท่านั้น

 

 

นางกำลังรอฟังคำว่ายอมแพ้จากปากหลินเป่ยเฉิน ถ้าเขาพูดคำนั้นเมื่อไหร่ เด็กสาวก็จะสลายพลังลงไปทันที

 

 

คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเป่ยเฉินกลับสามารถสลายพลังของนางได้ด้วยตัวเขาเองภายในระยะเวลาที่รวดเร็วยิ่งนัก

 

 

“เจ้า…”

 

 

เด็กสาวอุทานออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ

 

 

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้ว ก้มมองเสื้อคลุมที่เปียกชุ่ม พร้อมกับกล่าวว่า “คนสวย เจ้าทำให้ข้าเปียกไปหมดแล้วนะ…”

 

 

เด็กสาวผมทองถึงกับชะงักกึก จากนั้นจึงได้คำรามออกมาราวกับเป็นแม่เสือสาวตัวน้อย “ไร้ยางอายที่สุด! อย่าได้คิดพูดจาบัดสีเยี่ยงนี้กับข้าอีก…”

 

 

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

 

 

นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ

 

 

เขาพูดอะไรผิดหรือไง?

 

 

ก็นางทำเขาเปียกไปทั้งตัวจริงๆ นี่

 

 

ป๊อก!

 

 

หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นดีดนิ้วอีกครั้ง

 

 

“เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ซึ้งเองว่าข้ามีความเร่าร้อนมากแค่ไหน…”

 

 

พูดได้เพียงเท่านั้น

 

 

พรึบ!

 

 

ลูกบอลไฟขนาดใหญ่ที่ลุกโชนขึ้นมาเหนือมือของหลินเป่ยเฉินก็ระเบิดตัวแตกกระจาย สะเก็ดไฟปลิวว่อนไปรอบทิศทาง ไอน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศระเหยหายไปทันที มวลความร้อนพุ่งเข้ามาแทนที่ เด็กสาวผมทองไม่ทันระวังตัว ต้องถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความตื่นตระหนก

 

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

 

นางกรีดร้อง

 

 

พลังปราณธาตุน้ำของนางสามารถโจมตีได้แม้แต่ผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ แล้วเหตุไฉนหลินเป่ยเฉินถึงสามารถทำลายทุกอย่างลงไปได้ต่อหน้าต่อตาอย่างนี้

 

 

ทั้งๆ ที่เขายังไม่รู้วิธีควบคุมพลังปราณธาตุไฟของตนเองสักเท่าไหร่ด้วยซ้ำ

 

 

เด็กสาวผมทองก้าวเท้าถอยหลังต่อเนื่องด้วยความตื่นตระหนก

 

 

แต่ทันใดนั้น นางก็เห็นสายตาของหลินเป่ยเฉินที่จ้องมองมายังตนเองอย่างผิดปกติ

 

 

“เจ้ามองอะไรของเจ้า?”

 

 

นางตวาดถามกลับไป

 

 

“ไฟ…”

 

 

หลินเป่ยเฉินชี้มือไปที่ชายเสื้อของเด็กสาวด้วยสีหน้าแปลกประหลาดพิกล “ไฟกำลังไหม้เสื้อของเจ้า”

 

 

เด็กสาวก้มหน้ามองแขนเสื้อของตนเอง

 

 

แล้วนางก็ต้องตกใจสุดขีด

 

 

เพราะบัดนี้ได้มีสะเก็ดไฟปลิวเข้ามาลุกไหม้บริเวณชายเสื้อของนางตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ มันเผาไหม้อย่างรวดเร็ว เปิดเผยให้เห็นถึงผิวขาวเนียนที่ซ่อนอยู่ด้านใน

 

 

แต่คำถามก็คือ ทำไมเปลวไฟพวกนี้ถึงไม่มีความรู้สึกร้อนเลยนะ?

 

 

เด็กสาวพยายามตบมือลงไปเพื่อดับไฟ

 

 

แต่แล้วนางก็นึกเสียใจที่ทำเช่นนั้น

 

 

เพราะว่ายิ่งตบมือลงไป สะเก็ดไฟก็ยิ่งกระจายตัว บางส่วนกระเด็นไปยังแขนเสื้ออีกข้างหนึ่งของนาง ยิ่งเด็กสาวพยายามดับไฟบนเสื้อผ้ามากเท่าไหร่ เสื้อผ้าของนางก็ถูกเผาไหม้มากเท่านั้น เพียงพริบตาเดียว ผิวขาวๆ ก็ปรากฏออกมาอวดสายตาประชาชนหลายส่วนแล้ว

 

 

เด็กสาวตื่นตระหนก

 

 

นางรีบโคจรพลังปราณธาตุน้ำของตนเองเพื่อนำมาดับเปลวไฟเหล่านี้

 

 

แต่มันกลับไม่ได้ผล

 

 

เพียงพริบตาเดียว แขนเสื้อของนางก็ถูกไฟไหม้หมดเกลี้ยง เผยให้เห็นท่อนแขนเรียวยาวขาวเนียนปราศจากตำหนิราคี แม้ผู้คนจะไม่ได้ตั้งใจมอง แต่พวกเขาก็อดจ้องมองไม่ได้

 

 

ทว่า นั่นไม่ใช่ปัญหา

 

 

เพราะปัญหาสำคัญก็คือ ได้มีสะเก็ดไฟส่วนหนึ่งกระเด็นไปตกอยู่ตามไหล่เสื้อ ด้านหลังเสื้อ ด้านหน้าเสื้อ และบางส่วนกระเด็นลงไปอยู่ที่ชายกระโปรงของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

 

 

“ไม่นะ…”

 

 

นางจะปล่อยให้ไฟไหม้เสื้อผ้าของตนเองได้อย่างไร?

 

 

เด็กสาวสติแตกโดยสมบูรณ์

 

 

นางพยายามใช้ฝ่ามือของตนเองตบไปตามจุดต่างๆ ที่กำลังมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ตามเสื้อผ้า

 

 

แต่เปลวไฟยิ่งตบก็ยิ่งลุกโชนร้อนแรง

 

 

ที่น่าแปลกก็คือเปลวไฟเผาไหม้แต่เฉพาะเสื้อผ้า ไม่ได้ทำร้ายผิวหนังของนางเลย

 

 

ผิวพรรณที่ขาวเนียนใต้ช่องโหว่ของเสื้อผ้า ปรากฏออกมาอวดสายตาชาวโลก ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ เสื้อผ้าก็ยิ่งถูกสะเก็ดไฟเผาไหม้จนลดจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ

 

 

หลินเป่ยเฉินยืนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก

 

 

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

 

 

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?

 

 

ทักษะการควบคุมเปลวไฟของเขาพัฒนาขึ้นอย่างนั้นหรือ?

 

 

นอกจากเผาไหม้เสื้อผ้าของตนเองแล้ว ยังเผาไหม้เสื้อผ้าของผู้อื่นอีกด้วย?

 

 

คำถามก็คือทำไมมันถึงไหม้แต่เสื้อผ้า เหตุไฉนถึงไม่ไหม้ร่างกายผู้คน?

 

 

แบบนี้คนดูไม่เข้าใจว่าเขาเจตนากลั่นแกล้งเด็กสาวฝ่ายตรงข้ามหรืออย่างไร?

 

 

“เจ้าคนลามก…”

 

 

เด็กสาวผมทองกรีดร้องด้วยความโกรธแค้น

 

 

เพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าของนางที่สวมใส่อยู่ก็ปรากฏรูโหว่ขนาดเท่าฝ่ามือคนอยู่หลายตำแหน่ง

 

 

“อย่าขยับนะ…”

 

 

หลินเป่ยเฉินพูดเสียงดัง “เดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าดับไฟเอง”

 

 

แล้วเด็กหนุ่มก็พุ่งเข้าไปใช้สองมือตบเปลวไฟที่เผาไหม้อยู่บนกระโปรงของนางด้วยความปรารถนาดี