บทที่ 501 สักกระเบียดก็ไม่ให้

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 501 สักกระเบียดก็ไม่ให้
เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันคิดไม่ถึงว่าจอมมารจะไม่พอใจเพียงเพราะที่นั่ง ที่นั่งต้นๆ ของสองทางซ้ายขวามีอิทธิพลเหลือล้น ไม่ว่าทางไหนพวกเขาก็ล่วงเกินไม่ได้

ตอนจัดที่นั่ง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจอมมารจะไม่พอใจที่นั่งกับเย่จิ่งหานเช่นนี้

“มิเช่นนั้น จอมมารก็นั่งตรงตำแหน่งที่สามด้านซ้าย?”

“ในสายตาเจ้า ข้าไม่มีภาษีขนาดนี้ เหมาะแค่นั่งตำแหน่งที่สาม?”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันปาดเหงื่อ

สามตำแหน่งแรกด้านซ้าย ตำแหน่งแรกคือเผ่าเทียนเฟิ่น ตำแหน่งที่สองคือเผ่าน้ำแข็ง คนของเผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าน้ำแข็งล้วนมากันหมดแล้ว จะให้พวกเขาย้ายที่นั่งได้อย่างไร ส่วนคนของหอหนึ่งในหล้ายังไม่มา กลับเปลี่ยนกับจอมมารได้

แต่…

ไป๋จิ่นยิ้มเอ่ย “ก็แค่ที่นั่งเท่านั้น เผ่าน้ำแข็งยินดีนั่งตำแหน่งที่สาม”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันมองไป๋จิ่นสายตาหนึ่งด้วยความซาบซึ้ง

ใครจะรู้ จอมมารก็ยังไม่พอใจ “พวกเราเผ่าปีศาจด้อยกว่าเผ่าเทียนเฟิ่นหรือ? หรือว่าสมควรเป็นแค่ที่สอง?”

เออ…

เดิมเป็นแค่ตำแหน่งที่นั่งเท่านั้น นั่งอยู่อันดับแรกย่อมมีหน้ามีตา ใครไม่รู้บ้างว่าอิทธิพลและความสามารถของตำแหน่งต้นๆ ล้วนใกล้เคียงกัน ไม่แบ่งที่หนึ่งที่สอง

บัดนี้ครั้นจอมมารกล่าวเช่นนี้ ความหมายจึงเปลี่ยนไปหมด

เผ่าน้ำแข็งยอมให้ แต่เผ่าเทียนเฟิ่นกลับไม่ยอมให้

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ้มเย็นเอ่ย “พวกเราเผ่าเทียนเฟิ่นเดินทางยาวไกล เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จอมมารก็ตามสบายเถอะ”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันกลัวว่าพวกเขาจะวิวาทกัน จึงได้แต่กล่าวอย่างดื้อๆ “จอมมาร ไม่เช่นนั้น ท่านก็นั่งตรงตำแหน่งแรกด้านขวาเถอะ”

จอมมารทำหน้าไม่แยแส “เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลัน เจ้าฟังภาษาข้าไม่ออกหรือ? ข้าไม่ลดตัวนั่งข้างเย่จิ่งหาน”

เย่จิ่งหานหมุนขลุ่ยหยกขาว อย่างเกียจคร้าน เอ่ยอย่างเฉยเมย “ข้าเหนื่อยแล้ว ไม่อยากย้ายเหมือนกัน”

บรรยากาศเก้กังขึ้นมาทันที

จอมมารไม่ยอมนั่งข้างเย่จิ่งหาน แต่ก็ยังอยากนั่งตำแหน่งแรกอีกแน่ะ

เย่จิ่งหานก็ไม่ยอมย้าย

ส่วนเผ่าเทียนเฟิ่นยิ่งก็ไม่ยอมสละตำแหน่งแรกให้

นี่…

นี่มิทำให้พวกเขาหุบเขาตันหุยลำบากใจหรือ?

น่าหลันหลิงลั่วก็ทนดูต่อไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน กล่าวอย่างหงุดหงิด “ตำแหน่งแรกทางขวา เจ้าจะนั่งไม่นั่งก็ตามใจ”

“อย่างไร? พวกเจ้าหุบเขาตันหุยดูแคลนข้าเพียงนี้เชียวหรือ?” นัยน์ตาพราวเสน่ห์ของจอมมารหรี่ลงฉับพลัน อากาศของสนามประลองลดลงหลายส่วน

หัวใจทุกคนรัดรึงอย่างควบคุมไม่อยู่

จอมมารคิดผิดใจกับหุบเขาตันหุยหรือ?

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันกัดฟันกล่าว “จอมมาร ท่านนั่งบนแท่นเถอะ นั่งร่วมกับพวกเรา เป็นอย่างไร?”

ตรงแท่นเป็นที่นั่งหลัก ปกติแล้วล้วนเป็นคนของเจ้าบ้าน บัดนี้กลับให้อาคันตุกะนั่งตรงที่นั่งหลัก นี่เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่

เมื่อนั้นจอมมารถึงพยักหน้าพอใจ

นั่งอยู่ตรงแท่น ข่มอยู่เหนือเย่จิ่งหาน นี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน

ทว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงกลับไม่พอใจ “เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลัน เจ้าให้จอมมารนั่งตำแหน่งหลัก มิเท่ากับประกาศว่ากลุ่มอิทธิพลทั้งหมดในงานประเดิมหลอมยาครั้งนี้ มีเผ่าปีศาจเป็นผู้นำหรือ?”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันตะลึง

ให้เผ่าปีศาจเป็นผู้นำ?

นี่เป็นถ้อยคำที่ไหนกัน?

เขาแค่อยากจัดการจอมมารให้เรียบร้อยโดยเร็วเท่านั้น เขาจะได้ไม่เลือกนั่นเลือกนี่

งานชื่นชมยาชั้นเลิศก็ได้เวลาแล้ว

เบื้องล่างก็มีคนจำนวนไม่น้อยพูดเสริม

“นั่นสิ ให้จอมมารนั่งตำแหน่งหลัก มิเท่ากับให้พวกเราสยบให้กับเผ่าปีศาจหรือ?”

“ถึงเผ่าปีศาจจะมีอิทธิพลใหญ่ แต่ก็…ไม่ได้”

“เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลัน มิเช่นนั้น ท่านก็จัดการใหม่เถอะ”

ศีรษะเจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันจะระเบิดอยู่แล้ว แทบอยากยกเลิกงานชื่นชมยาชั้นเลิศครั้งนี้เสีย

เขาแค่อยากจัดงานใหญ่งานหนึ่งเท่านั้น ไฉนจึงยากเช่นนี้

ให้เขาจัดการ?

เขาจะจัดการอย่างไร?

เย่จิ่งหานมีอคติกับพวกเขามากขนาดนั้น อยากให้เขาย้าย นั่นเป็นไปไม่ได้เลย

ส่วนครั้งนี้หากเผ่าเทียนเฟิ่นมาแค่เวินเส้าหยีคนเดียว นั่นยังว่าง่าย

แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็มาด้วย

ผู้ใดบ้างไม่รู้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและผลประโยชน์เพียงไร จะชิงที่หนึ่งเพียงอย่างเดียว เขาย่อมไม่ยอมสละตำแหน่งแรกให้อย่างแน่นอน