ตอนที่ 386 เจอหน้าแฟนสาว / ตอนที่ 387 แฟนสาวระดับพรีเมี่ยม

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 386 เจอหน้าแฟนสาว 

 

 

           ซือเหยี่ยนเดินตามหลังเจียงมู่เฉินมาพอดี “เป็นไรไป ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินก็ตัวสั่นไปชั่วขณะ ทั้งสองคนนี้เจอหน้ากัน จะเลิ่กลั่กกันมากเลยนะ 

 

 

           “คือว่า จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าวันนี้ไม่ค่อยเหมาะจะกลับเท่าไหร่ ไม่งั้นพวกเรากลับไปกันก่อน เปลี่ยนวันค่อยมากันใหม่ไหม” 

 

 

           แต่จะทำอย่างไรได้ ขณะที่เจียงมู่เฉินพูด ก็สายเกินไปเสียแล้ว 

 

 

           จี้ฉิงเห็นเจียงมู่เฉินแล้ว นัยน์ตาลุกวาว เอ่ยเรียกเสียงดัง “เจียงมู่เฉิน คุณกลับมาจากอเมริกาแล้วเหรอ” 

 

 

           เสียงของเธอนี้ดังกังวานจนไม่ไหว เจียงมู่เฉินหลับตาลงอย่างทำอะไรไม่ได้ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่รู้สึกว่าตาเธอจะเฉียบคมได้ขนาดนี้ 

 

 

           คุณแม่เจียงได้ยินเสียงก็รีบมองตาม พอเห็นเจียงมู่เฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูก็พุ่งตัวเข้าไปหาทันที “ลูกแม่ ทำไมกลับมาแล้วไม่บอกแม่เลยสักคำ แม่จะได้ไปรับลูกที่สนามบินไง” 

 

 

           เจียงมู่เฉินโดนแม่เขากอดแรงๆ ไปทีหนึ่ง รวดร้าวถึงช่วงเอวพอดี เจ็บปวดจนหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้ว 

 

 

           คุณแม่เจียงได้ยินก็ถอยห่างแล้วดูไปกวาดสายตามองเจียงมู่เฉิน “เป็นไปไรลูก แม่ทำลูกเจ็บเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเชิดมุมปากขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก “แม่ครับ แม่อย่าทำเหมือนพวกเราจะล้มหายตายจากกันสิครับ” 

 

 

           คุณแม่เจียงยกมือขึ้นเขกหัวเขาไปทีหนึ่ง “ลูกยังกล้าพูดอีกนะ ลูกนั่นแหละ ไปดูงานเมืองนอก ทำไมไปอยู่นานขนาดนี้ แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่โทรมาสักสาย ทำเอาแม่ร้อนใจจะแย่แล้ว” 

 

 

           พูดถึงตรงนี้ คุณแม่เจียงก็รีบดึงตัวจี้ฉิงมา “ลูกคงไม่รู้ว่าหลายวันมานี้ โชคดีที่มีจี้ฉิงมาคอยอยู่เป็นเพื่อนให้แม่สบายใจคลายกังวล” 

 

 

           จี้ฉิงยกมุมปากขึ้น “คุณน้า หนูเป็นแฟนสาวของเขานี่คะ เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วล่ะค่ะ” 

 

 

           คุณแม่เจียงยิ้มหัวเราะด้วยความพอใจ เอื้อมมือไปดึงมือเจียงมู่เฉินมา “ลูกนี่นะ แฟนสาวคนนี้คบไม่เสียเปล่าจริงๆ หลายวันมานี้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ สุขใจอยู่ไม่น้อย” 

 

 

เจียงมู่เฉินเห็นพวกเธอสองคนพูดคำว่า ‘แฟนสาว’ พูดจนเขาเจ็บผากไปหมด 

 

 

           ‘ข้างหลังเขายังมีแฟนหนุ่มตัวจริงอยู่ทั้งคนนะ’  

 

 

เจียงมู่เฉินรู้สึกเพียงแค่ลำคอที่เย็นเฉียบขึ้นมา 

 

 

เขารีบเบี่ยงตัวให้ซือเหยี่ยนออกมา สายตาของคุณแม่เจียงถึงได้มาหยุดลงที่ซือเหยี่ยน 

 

 

เห็นเพียงแค่นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู ค่อยๆ เย็นชาลงช้าๆ 

 

 

เธอมองซือเหยี่ยนด้วยสายตาเย็นชา “ทำไมเราก็มาที่นี่ด้วยล่ะ” 

 

 

ซือเหยี่ยนวางตัวดี ไม่เย่อหยิ่ง เขาเอ่ยด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ผมมีเวลาพอดี เลยกลับมาเยี่ยมดูน้าเจียงด้วยกันกับเฉินเฉินครับ” 

 

 

คุณแม่เจียงจ้องมองเขา เอ่ยอย่างเย็นชา “ตอนนี้ก็ดูพอแล้ว เรากลับไปก่อนเถอะ” 

 

 

เธอหันกลับมามองจี้ฉิง “แฟนสาวของเฉินเฉินของน้าอยู่ที่นี่ พวกเรายังมีเรื่องต้องคุยกัน ส่วนเราก็ไม่ต้องอยู่แล้ว” 

 

 

จะไม่แสดงสีหน้าดีๆ กับซือเหยี่ยนก็ช่างเถอะ ตอนนี้คนเขาอุตส่าห์ตั้งใจมา จะมาพูดประโยคสองประโยคแล้วไล่คนเขาไปเลยหรือไง 

 

 

‘นี่มันเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!’ 

 

 

“แม่ครับ ซือเหยี่ยนมีเจตนาดีตั้งใจมาหาแม่ แม่ก็จะให้เขาไปทั้งอย่างนี้เหรอ” 

 

 

คุณแม่เจียงกวาดสายตามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง “แล้วไง ลูกคิดว่าแม่ควรจะแสดงสีหน้าอารมณ์แบบไหนมารับหน้าเขาล่ะ ยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่นเหรอ” 

 

 

เจียงมู่เฉินหน้าถอดสี มองไปทางซือเหยี่ยนด้วยจิตใต้สำนึก กลัวว่าเขาจะรู้สึกเสียใจ เพราะคำพูดของแม่เขา 

 

 

“คุณน้าคะ เขาคือ?” จี้ฉิงไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่ เขามองซือเหยี่ยน แล้วเอ่ยถามออกไป 

 

 

“อ๋อ ลูกชายเพื่อนสนิทของน้า แค่รู้จักกับเฉินเฉินนิดหน่อยเท่านั้นเอง” 

 

 

คุณแม่เจียงใช้กระบวนท่าสี่ตำลึงปาดพันชั่ง[1]จี้จุดอ่อนขีดเส้นแบ่งสถานะของซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉินอย่างชัดเจน 

 

 

เจียงมู่เฉินโกรธแล้วจริงๆ ตั้งแต่เขาประตูมาจนถึงตอนนี้ มีแต่แม่เขาทั้งนั้นที่พูดจาเยาะเย้ยถากถาง ซือเหยี่ยนเองก็ไม่พูดอะไรสักคำ 

 

 

“แม่ครับ แบบนี้แม่สนุกเหรอ” 

 

 

คุณแม่เจียงคิดว่ายังมีจี้ฉิงอยู่ จึงอดทนกดกลั้นอารมณ์ที่อยากจะระเบิดเอาไว้ “เจียงมู่เฉิน แม่ว่าตอนนี้แม่ก็แสดงออกดีมากแล้วนะ” 

 

 

‘ยังไงกัน หรือว่าอยากให้เธอยิ้มแย้มต้อนรับซือเหยี่ยน… 

 

 

…คนที่ล่อลวงเฉินเฉินให้เดินทางผิด… 

 

 

…ถึงแม้จะเป็นซือเหยี่ยนคนที่ตัวเองเห็นมาแต่เล็กจนโต ก็ไม่ได้หรอก’ 

 

 

“แม่ครับ!” 

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นสภาพการณ์แล้ว ก็รีบดึงเจียงมู่เฉินไว้ กันไม่ให้เขาพูดอะไรที่ไม่ควรออกไป 

 

 

“น้าเจียงครับ ผมกับเฉินเฉินกลับมาจากอเมริกา ไม่ได้ติดของขวัญอะไรมาให้ ก็เลยสุ่มๆ ซื้อของพวกนี้มาวางไว้ให้ที่นี่ น้าเจียงมีเวลาก็ลองดูว่าเหมาะหรือไม่เหมาะได้นะครับ” 

 

 

 

 

 

[1] กระบวนท่าสี่ตำลึงปาดพันชั่ง เป็นลักษณะของการใช้เทคนิคที่ใช้กำลังน้อยปะทะกำลังมาก ผ่านจุดอ่อนของสิ่งๆนั้น โดยจ่ายค่าตอบแทนน้อยแต่ได้ผลสะท้อนกลับมาเกินคาด 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 387 แฟนสาวระดับพรีเมี่ยม 

 

 

           คุณแม่เจียงได้ยินก็เอ่ยขึ้นทันที “ไม่ต้องหรอก ซือเหยี่ยนนายเอากลับไปให้แม่นายใช้เถอะ ที่แฟนสาวของเฉินเฉินซื้อให้น้าก็ไม่น้อย ตอนนี้น้าใช้ไม่หมดหรอก” 

 

 

           พอเจียงมู่เฉินได้ยินว่าแม่เขาปฏิเสธโดยไม่ลังเลเลยสักนิด สีหน้าก็เปลี่ยนทันควัน 

 

 

           ‘เกินไปแล้ว ต่อให้ไม่ยอมรับซือเหยี่ยน ก็จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ’ 

 

 

           “แม่ ซือเหยี่ยนตั้งใจซื้อมาให้แม่ ทำไมแม่ทำอย่างนี้ได้” 

 

 

           เจียงมู่เฉินอดจะเอามือกดที่หัวไม่ได้ ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่รู้สึกเลยว่าแม่เขาจะพูดยากขนาดนี้ 

 

 

           จี้ฉิงยืนอยู่ข้างๆ สังเกตเห็นเค้าลางบรรยากาศที่นี่ในตอนนี้ที่ไม่ค่อยจะปกติ 

 

 

           เธอรีบเอ่ยปากในทันใด “ในเมื่อเป็นเพื่อนของมู่เฉิน งั้นเข้ามานั่งด้วยกันดีไหมคะ” 

 

 

           ในเมื่อจี้ฉิงเอ่ยปากมาแล้ว คุณแม่เจียงจะคัดค้านอีกก็ยิ่งชัดเจนไปจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ 

 

 

           ด้วยเหตุนี้จึงจำใจต้องพยักหน้ารับอย่างจนใจ เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ในเมื่อเสี่ยวฉิงออกปากมาแล้ว นายก็เข้ามานั่งแล้วกัน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองซือเหยี่ยนด้วยความเป็นห่วง พอเห็นสีหน้าเขายังถือว่าค่อยยังชั่ว เวลานี้เองถึงได้โล่งอกไปที 

 

 

           ซือเหยี่ยนรู้สึกถึงความห่วงใยในแววตาของเขา ก็ส่ายหัวมองเจียงมู่เฉิน “ผมไม่เป็นไร” 

 

 

           คุณแม่เจียงเดินกลับเข้าไปห้องรับแขกพร้อมจี้ฉิงแล้ว ซือเหยี่ยนวางของลงข้างๆ แล้วเดินเข้าไปข้างในพร้อมกันกับเจียงมู่เฉิน 

 

 

           คุณแม่เจียงนั่งอยู่บนโซฟา จี้ฉิงก็นั่งอยู่ข้างๆ 

 

 

           เมื่อเจียงมู่เฉินกับซือเหยี่ยนเดินเข้ามา จิตใต้สำนึกก็สั่งให้พวกเขามุ่งหน้าไปนั่งตรงข้ามกับพวกเธอ 

 

 

           ทันทีที่คุณแม่เจียงเห็นก็กระแอมไอขึ้นมา “เฉินเฉิน ไม่ได้เจอจี้ฉิงตั้งนานขนาดนี้ ก็คงจะคิดถึงเธอแล้วสินะ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเพิ่งจะเตรียมนั่งลงก็ต้องหยุดชะงักไปเสียเดี๋ยวนั้น มีหรือจะยังกล้านั่งลงต่อได้ 

 

 

           แม่เขาทำหน้าข่มขู่ บอกเป็นนัยว่า ถ้าตัวเองกล้านั่งลงไป อีกไม่กี่นาทีจะเล่นงานเขาตายแน่ 

 

 

           เจียงมู่เฉินทำอะไรไม่ได้ จำใจต้องไปนั่งลงอยู่ข้างจี้ฉิง 

 

 

           คุณแม่เจียงเห็นเจียงมู่เฉินทำตามแบบนี้ สีหน้าบึ้งตึงถึงได้คลายลงบ้างแล้ว 

 

 

           ถึงแม้จะให้ซือเหยี่ยนเข้ามา แต่คุณแม่เจียงไม่พูดอะไรกับซือเหยี่ยนแม้แต่คำเดียว เหมือนซือเหยี่ยนไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           สายตาเอาแต่มองมาทางเจียงมู่เฉินกับจี้ฉิงสลับกันไปมา 

 

 

           ขณะเจียงมู่เฉินพูดคุยพอเป็นพิธี ก็พลางแอบมองซือเหยี่ยนไปด้วย รู้สึกว่าการควบคุมอารมณ์ของซือเหยี่ยนดีจริง ถ้าเป็นสลับมาเป็นเขา ต้องลงมือกันจะจะไปตั้งแต่แรกแล้ว 

 

 

           เขามองดูคนตรงหน้าสองสามคนนี้ก็ชักจะปวดหัวนิดหน่อย ตกลงแล้วตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่ ไม่มีอะไรทำแล้วไปตกลงร่วมมือกับจี้ฉิงทำไม 

 

 

           เดิมทีอยากจะหาโล่กำบังสักอัน 

 

 

           ‘ตอนนี้เป็นไงล่ะ พลิกกลับมา ตัวเขาเองกลายเป็นเป้าแล้ว’ 

 

 

           คุณแม่เจียงก็เหวี่ยงใส่ซือเหยี่ยน ไม่พอยังมีแฟนสาวระดับพรีเมี่ยมมาเพิ่มอีก 

 

 

           เจียงมู่เฉินอดจะคิดไม่ได้ ว่ากลับไปนี่จะอธิบายกับซือเหยี่ยนยังไงดี 

 

 

           “เฉินเฉิน ลูกไม่รู้หรอกว่าช่วงเวลานี้ที่ลูกไม่อยู่ เสี่ยวฉิงคอยมาอยู่เป็นเพื่อนเคียงข้างแม่ตลอดเลย… 

 

 

           …ไหนจะเหมือนลูก ไม่รู้หนีไปไหนได้ทั้งวัน” 

 

 

           จี้ฉิงยิ้มหัวเราะอย่างเกรงใจ “หนูเป็นแฟนของมู่เฉิน คุณน้าเป็นแม่ของเขา ดีกับคุณน้าก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้วค่ะ อีกอย่างคุณน้าดีขนาดนี้เหมือนแม่หนูเลยค่ะ” 

 

 

           คำพูดไม่กี่คำของจี้ฉิงปลอบประโลมให้จิตใจของคุณแม่เจียงเบิกบาน เธอเอื้อมมือไปจับมือจี้ฉิงไว้ “ถ้าไม่ใช่เพราะหนูบอกว่าตอนนี้หนูกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาขยับขยายกิจการล่ะก็ น้านี่อยากตามให้หนูมาแต่งงานกับเฉินเฉินของน้าจริงๆ เลย… 

 

 

           …แบบนี้จะได้มีลูกออกมาโตกันเร็วๆ น้าอายุเยอะแล้ว ก็อยากจะเห็นหลาน” 

 

 

           แก้มจี้ฉิงแดงระเรื่อ “คุณน้าคะ หนูกับเจียงมู่เฉินยังอายุน้อย ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนี้หรอกค่ะ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นพวกเธอสองคน คนหนึ่งพูด คนหนึ่งอวย ใกล้จะฟังต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ 

 

 

           เขาลุกยืนขึ้น “จู่ๆ ผมก็นึกมาได้ว่าผมยังมีธุระนิดหน่อย ผมขอตัวออกไปทำธุระก่อนแล้ว” 

 

 

           พอคุณแม่เจียงเห็นเขาจะไป ก็ถลึงตาใส่ทันที “นี่ลูกเพิ่งจะกลับมาเอง ยังจะมีธุรอะไรอีก” 

 

 

           “แม่ครับ ก็เพราะเพิ่งกลับมาไงครับ ถึงได้มีเรื่องมากมายทับถมกันไปหมด รอผมจัดการธุระเสร็จแล้ว ผมจะรีบกลับมาอยู่กับแม่ทันที” 

 

 

           “จี้ฉิงอยู่ที่นี่ ลูกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” คุณแม่เจียงออกคำสั่งโดยตรง