นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่ากองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายของกองทัพไม่ปล่อยเขาแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เขายังเป็นคนที่หน่วยงานนั้นมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้เซียวเหยาก็กำลังพยายามตามจับเขาอยู่ เซียวเหยาต้องลงมือปฏิบัติการอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินข่าวว่าเฉียวเหลียงปรากฏตัวที่ท่าเทียบเรือฝั่งทิศตะวันตก เขาจะไม่สนใจท่าเทียบเรือด้านทิศใต้ และตามเขาไปทางด้านตะวันตก
เซียวเหยาต้องคิดว่าหลินหย่วนไปปรากฏตัวที่ท่าเรือด้านทิศใต้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขา และการถ่ายเทสินค้าจะเกิดขึ้นทางฝั่งตะวันตก เขาไม่คิดว่าเฉียวเหลียงคือเหยื่อล่อตัวจริง
เฉียวเหลียงนั่งลงบนโซฟา มองหน้าหลินหย่วน “ระวังอย่าให้โดนกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายจับตัวได้ คุณต้องรู้ว่าคุณโชคดีที่ผมอยู่ในเมืองหลวง จะเป็นอย่างไรถ้าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณจะจัดการกับสินค้าเที่ยวนี้ยังไง”
หลินหย่วนยักไหล่ เขย่าแก้วไวน์ในมือเบาๆ “ผมก็จะจัดการเรื่องสินค้าแบบที่เคยทำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีปัญหา ทำไมคุณต้องโวยวายขนาดนี้”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองหลินหย่วนและยิ้มอย่างเย็นชา “แล้วคุณจะชดใช้ให้กับการสูญเสียของเราหรือเปล่า”
หลินหย่วนเห็นว่าเฉียวเหลียงโกรธจริงจังจึงรีบอธิบาย “เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เอาละ คราวหน้าผมจะระมัดระวังให้มากกว่านี้”
เฉียวเหลียงจ้องมองหลินหย่วนอย่างมึนตึง เขาโน้มตัวมาข้างหน้า กล่าวอย่างเคร่งเครียด “คุณเคยบอกว่าคุณจะให้ความสำคัญกับภารกิจที่ลาสเวกัสเมื่อสิบปีก่อน แล้วเกิดอะไรขึ้น เมื่อแปดปีที่แล้วที่เบอร์ลินคุณบอกว่าคุณจะระมัดระวังให้มากกว่านี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก และเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว…”
“เออน่าๆ!” หลินหย่วนมองหน้าเฉียวเหลียงด้วยสายตาแสดงความเสียใจ และเม้มริมฝีปาก “ผมรู้ว่าคุณตามเก็บกวาดเรื่องยุ่งยากให้ผมมาหลายครั้งแล้ว แต่คุณไม่ต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ไหม เอาละ… ผมสัญญาว่าคราวหน้าผมจะใส่ใจให้มากกว่านี้ ถ้าคุณยังไม่ไว้วางใจ ผมจะขอให้ปิงหลงมาทำงานแทนผมก็ได้ ตกลงไหม”
เฉียวเหลียงลุกขึ้นยืน มองหน้าหลินหย่วนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะกล่าวอย่างเย็นชา “ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเก็บกวาดให้คุณ ถ้าคุณกล้าทำให้แผนผมพังละก็ ผมจะสั่งสอนคุณ!”
ดวงตาหลินหย่วนวาววับเมื่อได้ประโยคนี้ เขารีบวิ่งเข้าไปหาเฉียวเหลียง ถามด้วยดวงตาเป็นประกาย “แผนคุณคืออะไร ทำไมถึงมาเมืองหลวง คุณต้องการความช่วยเหลือจากผมไหม”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ!” เฉียวเหลียงขยับตัวจะเดินออกไปข้างนอก ขณะกล่าวอย่างเฉยเมย “พวกเขาคงจะตามผมมาที่นี่ ระวังตัวด้วย”
“เฮ้!” หลินหย่วนมองตามหลังเฉียวเหลียงอย่างหงุดหงิด “ทำไมรีบไปเร็วอย่างนี้ล่ะ”
ท้ายที่สุดเฉียวเหลียงก็ยิ้มออกมา เมื่อได้ยินน้ำเสียงผิดหวังของหลินหย่วน เขาก็หันกลับไปมองหลินหย่วนและเลิกคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเหมือนเดิม “อีกอย่างหนึ่ง อลิซมาที่นี่แล้วนะ”
หางตาหลินหย่วนหรี่ลงเมื่อได้ยินชื่อนี้ เขารีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และถอดหน้ากากที่เหมือนผิวหนังจริงออก เขาอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมอลิซสาวฮ็อตถึงชอบคนผิวขาว… คนผิวขาวปลอมๆ!
…
เฉียวเหลียงเอื้อมมือไปขยี้ผมถังซีแล้วกล่าวว่า “เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ” จากนั้นเขาก็ถามเสียงต่ำ “วันนี้ทุกอย่างประสบความสำเร็จด้วยดีไหม”
ถังซีรีบเหลือบมองผู้ช่วย เพราะกิริยาท่าทางของเฉียวเหลียง ผู้ช่วยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จดจ่ออยู่กับการขับรถ ถังซีจึงรู้สึกโล่งอกที่เห็นว่าผู้ช่วยไม่ได้สนใจเธอกับเฉียวเหลียง เธอพยักหน้า “สำเร็จด้วยดีค่ะ ตอนนี้เอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์อยู่ในมือฉัน เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่นก่อน แล้วจะไปร่วมงานเลี้ยงที่ศาลาประชาคม”
“งานเลี้ยงของรัฐบาลเหรอ” เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว
ถังซีมองหน้าเขาแล้วยิ้ม “คุณก็ได้รับเชิญด้วยใช่ไหม”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าเราจะได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารนี้ด้วยกัน”
ถังซีมองเฉียวเหลียงขึ้นๆ ลงๆ ขณะสวมหน้ากากเหมือนผิวจริงเช่นนี้เขาไม่ได้หล่อเท่าตัวจริงตามปกติ แต่ก็ยังคงมีเสน่ห์มาก… โอ๊ย ทำไมเธอถึงอยากจะจูบเขาอย่างนี้นะ…
แต่แน่นอนว่าเธอทำอย่างที่คิดไม่ได้ ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผู้บริหารเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ทราบแล้วว่าถังซีกำลังมา และมารอเธออยู่ที่ประตูบริษัท เมื่อทั้งหมดมาถึงไม่เพียงแต่ฝ่ายบริหารเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ แต่ยังมีนักแสดงชายหญิงของเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงนักข่าวบันเทิงหลายคนมารออยู่ด้วย…
ถังซีนั่งอยู่ในรถ เมื่อมองออกไปเห็นผู้คนเหล่านั้นก็นึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย ที่แจ้งให้พวกเขาทราบล่วงหน้าว่าจะมาเยี่ยมชม เฉียวเหลียงเห็นท่าทางผิดหวังของเธอก็กล่าวเบาๆ ว่า “ทำแบบนี้ดีกว่านะ คนจะได้รู้กันมากขึ้นว่าคุณกลับมาแล้ว จะเป็นผลดีต่อเอ็มไพร์กรุป”
ในช่วงหลายเดือนที่ถังซีไม่อยู่ มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงว่าถังซีประสบอุบัติเหตุทางอากาศ สื่อบางแห่งรายงานถึงการเสียชีวิตของเธอ ถึงแม้เอ็มไพร์กรุปจะมีอิทธิพลมาก แต่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากข่าวดังกล่าว ราคาหุ้นตกฮวบ แม้เอ็มไพร์กรุปจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่การเสียชีวิตของทายาทที่จะมารับช่วงต่อธุรกิจก็ยังคงส่งผลกระทบ
ดังนั้นการที่ถังซีกลับมาโดยมีข่าวโด่งดังจึงเป็นผลดีต่อทั้งเอ็มไพร์กรุปและตัวถังซีเอง แม้ว่าเธอจะต้องคอยสลับตัวไปมาระหว่างถังซีกับเซียวโหรว แต่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ถังซีมองตอบเฉียวเหลียง พยักหน้าเบาๆ “ฉันรู้ค่ะ”
“คุณอยากให้ผมเข้าไปกับคุณด้วยไหม”
ทันทีที่คนทั้งสองลงจากรถ กล้องของนักข่าวก็กะพริบมาที่พวกเขาไม่หยุด ทำให้ตาพวกเขาพร่าไปหมด เมื่อเห็นเฉียวเหลียง นักข่าวต่างก็รีบเข้ามาถ่ายรูปเขา เฉียวเหลียงไม่ชอบถูกถ่ายรูปจึงหน้านิ่วคิ้วขมวด และปล่อยรังสีอำมหิตออกมา ทำให้นักข่าวบางคนถึงกับรีบหดตัวกลับ
นักข่าวถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “คุณถังครับ วันนี้สุภาพบุรุษท่านนี้อยู่กับคุณอีกแล้ว เขาเป็นบอดีการ์ดของคุณ หรือว่าคุณสองคนมีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกันครับ”
ถังซีกำลังเดินไปข้างหน้าโดยมีเฉียวเหลียง ผู้ช่วยของเธอ และผู้บริหารเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คุ้มกัน เมื่อได้ยินคำถามนี้เธอก็ชะงัก หันกลับมามองนักข่าว แล้วยิ้ม “ฉันขอถามหน่อยได้ไหม นี่คุณมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับการมาเยี่ยมชมเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ของฉัน หรืออยากรู้เรื่องชีวิตส่วนตัวของฉันกันแน่คะ”
เธอเชื่อว่านักแสดงชายและหญิงของเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สมควรเป็นข่าวมากกว่าเธอหลายร้อยเท่า
นักข่าวลังเล มองหน้าถังซี แล้วยังถามย้ำอีกว่า “คุณถัง คุณไม่สะดวกที่จะตอบคำถามนี้หรือครับ”
“ใช่ค่ะ” ถังซีจ้องหน้านักข่าวคนนั้น จากนั้นก็มองไปยังนักข่าวคนอื่นๆ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณจะถามคำถามอะไรก็ได้ แต่ฉันจะตอบเฉพาะที่ฉันอยากตอบเท่านั้น”
“คุณถัง ทำไมคุณถึงคว้าเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์มาไว้ในมือทันทีที่คุณกลับมาครับ จุดประสงค์ของคุณคืออะไร”