ตอนที่ 326 ซากอารยธรรม

Legend of the mythological genes

ความมืด ความว่างเปล่า ความหนาวเย็น …

ไม่มีเสียงเลย ทุกอย่างสงบนิ่ง

กระสวยอวกาศกำลังลอยไปในทิศทางที่นำไปสู่ทางออกของกาแลคซีทางช้างเผือก

สถานที่นั้นได้รับการพิจารณาให้เป็นสถานที่นอกภูมิภาคดวงดาวของมนุษยชาติ

ระหว่างกาแลคซีอาจจะมีระยะทางเป็นร้อยล้านปีแสงและระหว่างนั้นจะพบเฉพาะความมืดเท่านั้น มีเพียงฝุ่นในจักรวาลและไม่มีดาวฤกษ์ที่จะให้แสงสว่าง ทุกพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดสนิท

เราต้องรู้ว่าในเอกภพนั้น ไม่มีอะไรขึ้นหรือลง เริ่มต้นหรือสิ้นสุด หรือพูดง่ายๆว่าไม่มีทิศทาง

กระสวยอวกาศลอยต่อไปข้างหน้า มันง่ายมากที่จะหลงทาง หากมันไม่ใช่ว่ามหาลัยสุดยอดกำแพงด้านหลังพวกเขานั้นสว่างมาก หลังจากนั้น พวกเขาก็เข้าสู่แม่น้้ำดวงดาวที่เหมือนโคมไฟของจักรวาล ให้แสงสว่างแก่นักเดินทาง

กระสวยอวกาศรูปวงแหวนแหวกผ่านอวกาศเข้าสู่โหมดบินอัตโนมัติ

คนของทั้งห้าทีมพักอยู่ในห้องส่วนตัว

มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายบนยานบิน รวมถึงความบันเทิงทุกประเภท

บางคนเข้าสู่จักรวาลเสมือนจริงเพื่อเล่นเกม บางคนกำลังดูภาพยนตร์เรื่องล่าสุด…ทุกคนใช้ความบันเทิงของตัวเองและไม่รบกวนผู้อื่น

สำหรับเฟิงหลินเขาอยู่ในห้องคนเดียวเพื่อบ่มเพาะ

ผลกระทบของยาตกผลึกนั้นยอดเยี่ยมมาก มันมีประสิทธิภาพแม้กระทั่งกับผู้ใช้ยีน และผู้ใช้ยีนระดับสูง

หลังจากที่เฟิงหลินบริโภคไปแล้ว เขายังสามารถรู้สึกถึงความแรงของยาจำนวนมากที่กักเก็บไว้ในร่างกายของเขาซึ่งยังไม่ถูกย่อยไปอย่างสมบูรณ์

เขาเริ่มบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว

ศักยภาพทางพันธุกรรม +1.6, +1.6, + 1.6 …

ในไม่ช้าเขาก็ได้รับจุดพันธุกรรมอีกหนึ่งจุด ทำให้เขาสามารถเพิ่มพลังยีนราชาอสูรให้เป็น 6 ได้

อย่างไรก็ตามเขาแค่คิด แต่ไม่ได้ทำทันที

ในอาณาจักรลับในตำนานจะมีอันตรายทุกประเภท เขาต้องการเก็บจุดพันธุกรรมไว้ใช้ในกรณีนั้น

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยีนราชาอสูรของเขาแข็งแกร่งขึ้นถึง 5 และเขาไม่จำเป็นต้องรีบ นอกจากนี้เขายังต้องการเวลาในการทำความคุ้นเคยกับสถานะพลังที่เพิ่มขึ้นของเขา

หลังจากทะลุขีดจำกัดที่มากกว่า 1,000 สำหรับผู้บ่มเพาะระดับสูง ร่างกายมนุษย์จะเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างรากฐานและสร้างความคุ้นเคยกับมัน

เฟิงหลินเริ่มบ่มเพาะเทคนิคของเขาทันที

พลังงานของเขารวบรวมและหมัดของเขาปล่อยเสียงฟ้าร้อง ระเบิดออกไปด้านนอก

ร่างของเขาสามารถแปลงร่างเป็นรูปแบบมากมาย เขาเป็นเหมือนลิง เสือตะครุบ หมาป่ากระโจน… รูปแบบของสัตว์นับร้อยที่ปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ของวิชาหมัดอสูร พื้นที่ทั้งหมดสั่นสะเทือนจนได้ยินเสียงโหยหวนของสัตว์ร้าย!

ปัง ปัง ปัง!

รูปรากฏบนผนังโลหะผสมของห้องของเขาเนื่องจากแรงกระแทก

ปราณและเลือดของเขาราวกับถูกไฟไหม้ แต่ก็ไหลเหมือนน้ำ ปราดเปรียวเหมือนไม้ หนักแน่นเหมือนดินและยึดแน่นเหมือนโลหะ

เฟิงหลินรู้สึกว่าร่างกายของเขาได้มาถึงอาณาจักรลับที่รวมถึงหลายๆด้าน

ด้วยเสียงดังสนั่น คลื่นที่มองไม่เห็นกวาดออกมา ทำให้อสูรร้ายของโลกต้องจำนน ไม่กล้าต่อต้าน

ทุกท่าทางเขาค่อยๆหลอมรวมกับพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบและเป็นหนึ่งเดียวกับพวกมัน ทำให้กลายเป็นปฏิกิริยาตอบโต้โดยสัญชาตญาณของร่างกาย

ในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปสามวัน

วันนี้เมื่อเขากำลังบ่มเพาะเสียงของปัญญาประดิษฐ์ก็ดังขึ้น

“เรามาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว”

เฟิงหลินไปล้างตัวก่อนที่เขาจะเดินออกห้องไป ตระหนักว่ากระสวยอวกาศได้ออกมาจากรูหนอนแล้วและตอนนี้ก็ลอยอยู่ในอวกาศ

จ้าว เยวี่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ มารวมกันจ้องมองสถานที่นอกหน้าต่าง

เฟิงหลินเหลือบมองไปและสามารถเห็นอุกกาบาตขนาดใหญ่จำนวนมากลอยอยู่ในอวกาศและลอยกันอย่างกระจัดกระจาย

กระสวยบินเหมือนก้อนหินธรรมดา ๆ ลอยอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าจะลงจอดที่ไหน

(สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาจักรลับในตำนานหรอ?ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น นี่ไม่ใช่เพียงเศษซากในเอกภพที่ปกคลุมไปด้วยความมืดหรอ?)

เฟิงหลินรู้สึกงงงวย

อุกกาบาตก้อนหนึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาและเรียงกันเป็นเขาวงกต หากไม่มีใครสนใจพวกเขาต้องหลงทางที่นี่แน่

ปัญญาประดิษฐ์ของยานบินเริ่มการสแกนขนาดใหญ่

บนแผนที่จุดแสงปรากฏขึ้น

“ตู้ด ตู้ด!ค้นพบวัตถุลึกลับ!” เสียงเตือนของปัญญาประดิษฐ์ดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของทุกคน เฟิงหลินและคนอื่น ๆ มองไปที่นั่นและเห็นรูปทรงแปลกๆ หนาราวกับเสาบนแผนที่ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ส่วนล่างของวัตถุนี้แบ่งออกเป็นห้าแฉกมันคมผิดปกติและดูเหมือนจะเป็น .. กรงเล็บ

ในไม่ช้าภาพโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นจากการสแกน มันเป็นอุกกาบาตที่หนาและใหญ่เหมือนเสา

เฟิงหลินมองอย่างงงๆ อุกกาบาตนี้มีหน้าตาเหมือนกับกรงเล็บจริงๆ

ในอวกาศ ด้วยสภาวะสุญญากาศ วัตถุเหล่านี้จะไม่สึกกร่อนและจะคงรูปแบบเดิมเอาไว้

กรงเล็บนี้มีความยาวนับหมื่นเมตร ลอยอยู่ในอวกาศ แม้ว่ามันจะเป็นวัตถุที่ตายแล้ว แต่กลิ่นอายที่หนาและเข้มข้นก็แผ่ออกมาจากมัน

“ของดี! มาเก็บมันกัน!” ชายหนุ่มผมทองผู้เป็นกัปตันทีมหนึ่งตื่นเต้นมาก กระสวยอวกาศพลันขยายสว่านสองอันออกไปเจาะกรงเล็บยักษ์ ขุดเลือดและเนื้อที่กลายเป็นหินในอุกกาบาตนี้ วิเคราะห์DNA ที่เหลืออยู่ ไม่นานหลังจากนั้นก็มีผลปรากฏ “สิ่งมีชีวิตดั้งเดิมจากโลก เสือเขี้ยวดาบ ประวัติฟอสซิลของมันอยู่ที่ประมาณ 201,280 ปี!”

“เป็นไปไม่ได้เสือเขี้ยวดาบจะมีขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง?”

“นี่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตธรรมดาแรกเริ่มและไม่ใช่แม้แต่สิ่งมีชีวิตหลุดพ้น”

“นี่เป็นเพียงความมหัศจรรย์ของชีววิทยา!”

ผู้คนที่นี่เริ่มร้องอุทานอย่างตกใจ

“ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้” จ้าว เยวี่ยเอ๋อร์จ้องมอง ดวงตาของเธอเปล่งประกายความเฉลียวฉลาด “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด นี่จะต้องเป็นปีศาจ”

“ปีศาจ?” ผู้อื่นตกใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “เธอหมายถึงตำนานตะวันออกที่สัตว์และพืชสามารถบ่มเพาะและบรรลุถึงรูปแบบปีศาจได้นะหรอ?”

“ ถูกต้องแล้ว” จ้าว เยวี่ยเอ๋อร์พูดด้วยเสียงเบา ๆ ”เส้นทางตำนานที่พวกคุณเดินอยู่นั้นเป็นของอารยธรรมตะวันตกของโลกคุณไม่คุ้นเคยกับระบบการบ่มเพาะของอารยธรรมตะวันออกเรา เทคนิคบ่มเพาะมากมายของพวกปีศาจสามารถอนุญาตให้อสูรธรรมดาสามารถเอาชนะพลังของรูปแบบพื้นฐานของพวกมันได้ ช่วยให้พวกมันวิวัฒนาการ”

“โอ้” คนอื่นพยักหน้าหลังจากที่พวกเขาได้ยิน

“ดูนั่นเร็ว!” เสียงอุทานอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นดึงความสนใจของทุกคน

ในภาพโฮโลแกรม กระดูกมหึมาอีกก้อนลอยขึ้นมา มีข้อต่อมากมายและรูปร่างคล้ายกับงูตัวใหญ่ อย่างไรก็ตามร่างกายส่วนบนของมันเป็นของมนุษย์ มันแตกในหลายจุดและชัดเจนว่าเป็นบาดแผล

“นี่มันปีศาจอะไรกัน?มันมีหน้าตาแปลกมาก”

“นี่เป็นปีศาจงูหรือเปล่า? แต่ทำไมร่างกายส่วนบนถึงเป็นมนุษย์”

“นี่เป็นมนุษย์ปีศาจเหรอ?”

การคาดเดานับไม่ถ้วนดังขึ้น

ดวงตาของจ้าว เยวี่ยเอ๋อร์เปล่งประกายก่อนที่เธอจะพูดว่า” ไม่ นี่คือปีศาจงูที่อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเป็นมนุษย์ แต่มันถูกฆ่าก่อนจะเปลี่ยนแปลงเสร็จ”

เธอมาจากดาวบู๊ตึ้ง้ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีมรดกตกทอดทางโบราณมากมาย ความรู้เรื่องตำนานฮั่วเซียนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด

ทุกคนมีความมั่นใจหลังจากที่พวกเขาเก็บตัวอย่างปีศาจงูและจดบันทึก พวกเขาก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพัง

มีอุกกาบาตนับไม่ถ้วนในรูปทรงแปลก ๆ รวมถึงอาวุธและสิ่งก่อสร้างท่ามกลางสิ่งอื่น ๆ ในสถานที่นี้

รู้สึกเหมือนซากปรักหักพังที่ถูกลืมไปหลายล้านปี พวกเขาสามารถเห็นร่องรอยของอารยธรรมได้ทุกที่

“สถานที่นี้คืออะไร?” เฟิงหลินถามเสียงต่ำ

“สถานที่นี้เป็นที่รู้จักในฐานะเศษซากระบบดาว” จ้าว เยวี่ยเอ๋อร์ไม่ได้ปิดบังอะไร “เราค้นพบสถานที่แห่งนี้ด้วยโชค แต่มันก็พบกับความหายนะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทำให้ทุกอย่างถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพังของอารยธรรม อารยธรรมที่นี่น่าจะเป็นของปีศาจโบราณ ยาเซียนร่วงโรยก็ถูกพบจากที่นี่ … “

“อารยธรรมของเผ่าปีศาจ?” เฟิงหลินพึมพำเงียบ ๆ เขาจ้องมองที่ภาพโฮโลแกรม

โครงกระดูกของยักษ์สูงหนึ่งพันฟุตปรากฏในการสแกน กระดูกมีความแข็งอย่างเห็นได้ชัดและมีงูหลามยักษ์ยาวห้าร้อยเมตรพร้อมกับมีเขาอยู่บนหัวขดรอบโครงกระดูก

กลิ่นอายที่รกร้างและเยือกเย็นล่องลอยทั่ว เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน มันมีความรู้สึกอยากจะต่อต้านสวรรค์และโลก และจะไม่หยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพินาศสิ้น กลิ่นอายนี้ไม่กระจายแม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนาน

เฟิงหลินหลับตา สัมผัสวิญญาณเขาเฉียบแหลมมาก เขาวิเคราะห์ธรรมชาติของกลิ่นอายนี้และพลันลืมตา

(นี่ไม่ใช่ปราณปีศาจ มันคือ…พลังมนตร์ดำ!)

เฟิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ“ ถ้าฉันไม่เข้าใจผิดสถานที่นี้ไม่ใช่ซากอารยธรรมของเผ่าปีศาจ มันเป็นสนามรบที่หมอผีและปีศาจต่อสู้กันเอง!”