ตอนที่ 390 ต้องการเลิกกับเธอ / ตอนที่ 391 ความรักถูกจับได้

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 390 ต้องการเลิกกับเธอ

 

 

           ซือเหยี่ยนเอาความคิดของเขาไว้ในสายตามาตั้งแต่แรกแล้ว นัยน์ตาดอกท้อคู่นั้นเต็มไปด้วยความดีใจ มีหรือจะเหมือนกับปากที่บอกว่าต้องคิดทบทวนดู

 

 

           แต่ว่าประธานซือก็ยังรักษาหน้าแฟนของตัวเองอยู่

 

 

           ในเมื่อแฟนบอกว่าต้องคิดทบทวนดู ก็ต้องให้คิดทบทวนดูเป็นธรรมดา

 

 

           “เฉินเฉิน คุณคิดจะคิดทบทวนอีกนานเท่าไหร่กัน”

 

 

           เจียงมู่เฉินทำหน้าเย่อหยิ่ง “ฉันอยากคิดทบทวนนานเท่าไหร่ เกี่ยวอะไรกับนาย รอฉันคิดดีแล้ว ก็จะบอกนายได้เองอยู่แล้ว”

 

 

           นัยน์ตาซือเหยี่ยนประกายรอยยิ้ม

 

 

           ‘ชอบเฉินเฉินเย่อหยิ่งแบบนี้จังเลยทำไงดี’

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางองอาจและเป็นตัวของตัวเองสูงของเจียงมู่เฉิน ก็อดจะยื่นมือไปกดร่างคนตรงหน้าแนบไปกับผนังไม่ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินยังคงตกอยู่ในห้วงบรรยากาศเมื่อครู่นี้อยู่ พอโดนอัดเข้าผนังกะทันหันแบบนี้ จึงยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมาในทันที

 

 

           โดนเขากดจูบหนักๆ อีกครั้ง กว่าเจียงมู่เฉินจะสูดหายใจเข้าไปทดแทนจนฟื้นกลับมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ก่อนจะถลึงตาใส่เขา “นายจูบฉันอีกทำไม เป็นบ้าหรือไง”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขาอย่างไม่รู้ไม่ชี้ “ก็อยากจูบนี่”

 

 

           เขาพูดจบก็มองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม “จะให้จูบไหม”

 

 

           มีหรือเจียงมู่เฉินจะทนไหว รับยอมตกลงทันที “ให้จูบๆ นายค่อยๆ จูบนะ จูบตามสบายเลย”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ ไม่ได้กดเขาอีก แล้วจูบต่อไป เขามองเจียงมู่เฉินอีกแวบหนึ่ง ความรู้สึกติดใจยังปรากฏในแววตา

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขา “มีอะไรหรือเปล่าถึงมองฉันแบบนี้”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ “โอเค ผมควรจะไปแล้ว”

 

 

           “อืม” เจียงมู่เฉินขานรับ “ไปเถอะ ระวังอย่าให้แม่ฉันจับได้แล้วกัน”

 

 

           ถ้าแม่เขาเห็นว่าซือเหยี่ยนออกมาจากห้องเขา เกรงว่าจะยิ่งเลิ่กลั่กกันแล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนปีนและกระโดดออกมาจากระเบียงอย่างคล่องแคล่วว่องไว เจียงมู่เฉินเดินเข้าไปดูก็เห็นซือเหยี่ยนอยู่ข้างล่างพอดี

 

 

           เขากุมขมับอย่างเสียไม่ได้ โรงเรียนฝึกตำรวจสอนเขามาหลายปีขนาดนั้น คือสอนให้เขากระโดดกำแพงเป็นใช่ไหม

 

 

           หลังจากซือเหยี่ยนไป เจียงมู่เฉินยืนอยู่หน้าระเบียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปครู่ใหญ่เขาก็หยิบมือถือขึ้นมากดสายโทรหาจี้ฉิง

 

 

           จี้ฉิงเพิ่งจะถึงคอนโดมิเนียมของตัวเอง เธอนอนเล่นมือถืออยู่บนโซฟา

 

 

           “คุณชายเจียง มีอะไรจะสั่งเหรอ”

 

 

           “ช่วงนี้เธอมาบ้านฉันบ่อยๆ เหรอ” เจียงมู่เฉินเอ่ยปากก็ถามทันที

 

 

           จี้ฉิงพยักหน้า “ใช่สิ ตอนนี้พวกเราเป็นคู่รักกันไง ตั้งเดือนนึงฉันไม่ไปบ้านคุณเลย จะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่”

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม “งั้นเธอก็ไม่ต้องมาบ่อยๆ แล้ว”

 

 

           “เหอะๆ” จี้ฉิงหัวเราะสองเสียง “คุณชายเจียงไม่อยู่ถาวโจว สื่อมวลชนน้อยใหญ่ต่างก็จับตามองฉัน ก็จำใจต้องเล่นไปตามน้ำให้ยังติดกระแสอยู่ไง”

 

 

           “จี้ฉิง ถ้าตอนนี้ฉันจะขอเลิก จะกระทบเธอไหม”

 

 

           ทันทีที่ได้ยินว่าจะขอเลิก จี้ฉิงก็ระเบิดลงในพริบตา “กระทบอยู่แล้วสิ ตอนนี้ฉันเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องของตระกูลคุณนะ จู่ๆ คุณขอเลิก ฉันก็ซวยสิ”

 

 

           “อ๋อ งั้นฉันก็จะขอเลิก”

 

 

           เธอรีบเอ่ยถามทันที “เจียงมู่เฉิน คุณคงจะไม่เลิกกับฉัน เพราะฉันไปบ้านคุณบ่อยๆ หรอกใช่ไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินกุมขมับ “ไม่เกี่ยวกับที่มาบ้านฉัน แต่เลิกก็ยังต้องเลิกอยู่ดี”

 

 

           จี้ฉิงเห็นเขาต้องการจะเลิกให้ได้ ก็รีบเอ่ยถามทันที “นี่มันอะไรกัน เมื่อก่อนยังดีกันอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้อยากจะมาเลิกกัน…

 

 

           …ไม่เลิก ไม่เลิก ตีให้ตายยังไงก็ไม่เลิก”

 

 

           กว่าเธอจะติดอันดับการค้นหายอดนิยมได้ไม่ใช่ง่ายๆ จะมาเลิกกับเจียงมู่เฉินได้ยังไงกัน

 

 

           “จี้ฉิง ฉันมีเหตุผลของฉัน” เจียงมู่เฉินไม่อยากดึงซือเหยี่ยนเข้ามาเกี่ยว ถึงอย่างไรเดิมทีนี่ก็เป็นทางเลือกที่เขาเลือกเองในตอนนั้น

 

 

           “เจียงมู่เฉิน ฉันหวังว่าคุณจะใจเย็นๆ จัดการเรื่องนี้สักหน่อย คุณคิดดูว่าต่อให้คุณเลิกกับฉันแล้ว คุณจะพูดกับคุณน้าว่ายังไง…

 

 

           …ต่อให้ไม่ใช่ฉัน ก็จะมีคนอื่นอยู่ดีไม่ใช่เหรอ…

 

 

           …อีกอย่าง ระหว่างพวกเราก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคุณ ถ้าหากคุณเลิกกับฉัน ถึงเวลานั้นคุณน้าหาคนที่หวังผลกับคุณขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะไม่ได้ง่ายขนาดนี้เหมือนตอนนี้แล้วนะ”

 

 

           

 

 

ตอนที่ 391 ความรักถูกจับได้

 

 

           ถึงแม้จะไม่อยากจะยอมรับ แต่ความจริงที่จี้ฉิงพูดมาคือสิ่งที่เขาจำเป็นคิดไตร่ตรองทั้งนั้น

 

 

           เจียงมู่เฉินปวดหัวจนต้องออกแรงกดที่ขมับ “ยังไม่ยกเลิกความสัมพันธ์แบบคนรักเป็นการชั่วคราวก็ได้ ระหว่างพวกเราจะขอยกเลิกความสัมพันธ์แบบคนรักเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเวลานั้นจะเห็นด้วยโดยไม่มีเงื่อนไขใดใด”

 

 

           หลบความเสี่ยงผ่านไปได้ครั้งหนึ่ง จี้ฉิงก็โล่งอกไปที

 

 

           ถึงแม้ว่าไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเลิกกับเจียงมู่เฉินอยู่ดี แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีที่สุด

 

 

           ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเจียงมู่เฉินต่างก็ไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสมที่สุดทั้งนั้น

 

 

           “วางใจเถอะ ฉันรับประกันจะทำให้ไม่ขาดตกบกพร่อง จะไม่ดึงขาหลังคุณเด็ดขาด”

 

 

           “อืม” เจียงมู่เฉินได้ยินแบบนี้ ถึงได้ขานรับเสียงหนึ่ง “ช่วงนี้ไม่มีอะไร ก็อย่าเพิ่งติดต่อกันนะ”

 

 

           จี้ฉิงหรี่ตาลง “คุณชายเจียง นี่คุณทำเพราะประธานซือสินะ”

 

 

           ได้ยินเธอเอ่ยถึงชื่อ ‘ซือเหยี่ยน’ สีหน้าเจียงมู่เฉินก็เคร่งขรึมในทันใด น้ำเสียงเยือกเย็นเล็กน้อย “เธอคิดจะทดสอบหยั่งเชิงอะไรฉัน”

 

 

           “อย่าปิดฉันเลย เมื่อกี้ฉันมองออกหมดแล้ว ระหว่างคุณกับประธานซือไม่ใช่ง่ายๆ หรอก โอเคไหม”

 

 

           ระหว่างทางที่เธอกลับมา ก็ครุ่นคิดอยู่นานมาก รู้สึกว่า ‘ซือเหยี่ยน’ สองพยางค์นี้ คุ้นหูคุ้นตาเหลือเกิน

 

 

           ในสมองเธอประกายวาบขึ้นมาแวบหนึ่ง ในที่สุดก็นึกออกว่าซือเหยี่ยนตกลงแล้วเป็นเทพบุตรมาจากแห่งหนใด

 

 

           ‘ซือเหยี่ยน’

 

 

           ‘หนุ่มโสดระดับพรีเมี่ยมที่สาวน้อยในถานโจวมากมายต่างใฝ่ฝันถึงแม้ยามหลับตา’

 

 

           โลกภายนอกต่างก็ล่ำลือกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉินไม่ค่อยดี ไม่ถูกกัน

 

 

           แต่วันนี้ที่เธอเห็น ไม่เห็นจะไม่ถูกกันตรงไหนเลย เธอกลับรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีจนไม่ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

 

 

           ก็ลองถามดู คนอะไรถูกพ่อแม่ตัวเองทางนั้นเย็นชา ยังรักษาอากัปกิริยาเรียบร้อยพร้อมท่าทีที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี

 

 

           ถ้าบอกว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว เธอก็ไม่เชื่อมาอยู่แล้ว

 

 

           “จี้ฉิง ตอนนั้นที่ฉันยอมตกลงร่วมมือกับเธอ ก็แค่รู้สึกว่าเธอคนนี้ยังถือว่าพอจะคบเป็นเพื่อนกันได้”

 

 

           เจียงมู่เฉินเอ่ยเสียงต่ำข่มขู่ “ถ้าให้ฉันได้ยินอะไรที่เป็นข่าวโคมลอยไม่เข้าท่าอีก อย่าโทษที่ฉันจะไม่เห็นเธอเป็นเพื่อนก็แล้วกัน”

 

 

           โดนเจียงมู่เฉินข่มขู่ขนาดนี้ จี้ฉิงไม่กลัวเลยสักนิด กลับยิ่งช่วยยืนยันการคาดเดาของตัวเองมากขึ้นไปอีก

 

 

           “จะว่าไป พวกคุณคงจะไม่ได้กำลังอยู่ในสถานะคนรักกันหรอกใช่ไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินสีหน้าบึ้งตึงในทันใด “จี้ฉิง!”

 

 

           “วางใจเถอะ ฉันจะไม่พูดส่งเดชไปหรอก ฉันคนนี้ไม่ใช่คนปากสว่างสักหน่อย โอเคไหม…

 

 

           …ตอนที่พวกคุณสองคนเข้า ฉันก็มองออกแล้ว พิรุธสุดๆ เพียงแต่เดิมทีฉันก็แค่เดา ตอนนี้ถึงได้มั่นใจแล้ว”

 

 

           จี้ฉิงทำหน้าทำตาดีอกดีใจ เหมือนว่าไปพบเรื่องอะไรเด็ดๆ มาไม่มีผิด

 

 

           “จะว่าไป พวกคุณสองคนก็ยังดูเหมาะสมกันจริงๆ นะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ฟังเธอพูดไม่หยุดปากอยู่ตั้งนาน กุมขมับอย่างจำใจ “เธอรู้ก็โอเคแล้ว อย่าพูดส่งเดชแล้วกัน”

 

 

           เรื่องของเขากับซือเหยี่ยน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้เคลียร์ปัญหากัน

 

 

           ถ้ามีข่าวโคมลอยกระพือออกมา ถึงเวลาจะยิ่งยุ่งยากไปกันใหญ่

 

 

           จี้ฉิงทำท่ารูดซิบปาก “วางใจเถอะ ปากฉันปิดแน่นสนิท รับรองจะพูดไม่สักคำ”

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินเธอพูดแบบนี้ ถึงได้ทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ “เอาล่ะ ฉันยังมีธุระอีก ต้องวางสายแล้ว”

 

 

           เขาพูดจบก็วางสายทันที

 

 

           จี้ฉิงกุมมือถือ ทนไม่ไหวกลิ้งไปมาอยู่บนโซฟา เจียงมู่เฉินกับซือเหยี่ยน…อืม เติมเต็มจินตนาการของเธอที่วาดฝันเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว

 

 

           เธอเอนพิงโซฟาอดจะจินตนาการภาพต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะจินตนาการอย่างไร ก็รู้สึกว่าทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันเป็นที่สุด

 

 

           ดั่งเกิดมาแล้วต้องคู่กันอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ส่วนเจียงมู่เฉินกลับไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนจี้ฉิง ในใจเขากลัดกลุ้ม จะทำอย่างไรถึงจะทำให้คุณแม่เจียงยอมรับซือเหยี่ยนได้

 

 

           ‘ถึงยังไงการที่พวกเขาสามคนยังยื้อกันอยู่แบบนี้ เอาจริงมันก็ทรมานใจกันอยู่ไม่น้อย’

 

 

           เจียงมู่เฉินกุมขมับแล้วยื่นมือเปิดประตูเดินออกไป