686 – โต้กลับไม่คิดชีวิต
ซูม
เสียงอันน่าตกใจดังขึ้น
เอี๊ยด
เสียงบดขยี้ดังอย่างต่อเนื่องราวกับมีอะไรแตกออกมา พร้อมกันนั้นพื้นที่โดยรอบยังถูกอัดแน่นมาอยู่ในที่เดียว
พรึบ
เพลิงขนาดเท่าเมล็ดข้าวปรากฏเหนือหัวของพวกเขา มันเป็นเพลิงอ่อนๆที่ราวกับเปลวเทียน
เพลิงเริ่มเปล่งแสงด้วยความเร็วสูง แสงของเปลวเพลิงแผ่ขยายไปหนึ่ง เพลิงเริ่มสว่างขึ้นและสว่างขึ้นเรื่อยๆ เหล่าทหารทัพทมิฬรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวในดวงวิญญาณ
“นั่นมันอะไร?”
ฮงหยูถาม แม้เขาจะผ่านการต่อสู้มาหลายพันครั้ง เขาก็ไม่เคยเห็นเพลิงแปลกๆเช่นนี้ แต่เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“จัดทัพใหม่!”
ฮงหยูสั่งการอย่างรวดเร็วและถอยไปหลายก้าว เขาจ้องมองลูกไฟตาไม่กระพริบ
ลูกไฟขยายขนาดจากเมล็ดข้าวมาเป็นเท่าชามใจเล็ก จากนั้นมันก็ขยายไปเท่าถังไม้ และเมื่อมันเข้าใกล้กองทัพได้สองลี้ พวกเขาก็ได้เห็นมันอย่างชัดเจน มันคือวัตถุทรงกลมที่มีสีครามอําพัน
แรงกดดันนี้ทําให้พวกเขาใจสั่น พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้เจอกับลูกกลมขนาดใหญ่ แต่เป็นอุกกาบาตทั้งลูก!
ตู้ม
พลโล่ทั้งสี่ร้อยคนขวางมันในท่าเดียวกับที่ต้านรับวงแหวนรวมพลัง แต่เมื่อได้สัมผัสกับลูกแก้วลูกใหญ่นี้ ความเยือกเย็นบนใบหน้าพวกเขาทั้งหมดได้หายไปและแทนที่ด้วยความกลัว
ลูกแก้วตกกระทบโล่ทั้งหลายโดยไม่ช้าลงเลย! คนทั้งสี่ร้อยคนถูกต้านลงมาด้วยความเร็วสูง!
“นั่นมันลูกอะไรกัน?”
ฮงหยูแสดงความกวาดกลัวออกมาเป็นครั้งแรก
ทหารหกร้อยคนที่พลโล่ปกป้องถูกอัดลงมาเช่นเดียวกัน พวกเขาอาจจะแยกตัวและหนีไปจากลูกกลมประหลาดนี้
แต่พวกเขาถูกม่านแสงล้อมรอบ มันทําให้ที่นี่ถูกปิดตาย ไม่มีทางที่พวกเขาจะหนี ทั้งกองทัพถูกอุกกาบาตกดทับราวกับมดปลวก
ฮงหยูชักสีหน้าอย่างแรง ถ้าหากมันยังหล่นลงมาเรื่อยๆก็คงใช้เวลาอีกไม่มากก่อนที่ทั้งกองทัพจะตายหมด ต่อให้ทหารของเขาไม่ถูกน้ำหนักบดขยี้ก็จะถูกพิษของม้าเมฆาที่อยู่เบื้องล่างฆ่าตาย
“พลหอก พลธนู หาจุดอ่อนม่านแสงแล้วหาทางออก หนีไปให้เร็วที่สุด! พลโล่ต้านต่อไป!”
ฮงหยูตะโกนเสียงดัง
คําสั่งพลโล่ให้ต้านต่อไปนั่นหมายถึงการสละพลโล่ เพราะพวกเขาจะต้องตายไม่จากน้ำหนักก็เพราะพิษมาเมฆา ถ้าหากพลธนูและพลหอกหาทางออกไม่ได้ พวกเขาก็หนีไปไม่ได้เช่นกัน
ไม่มีใครคิดเลยว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แท้จริงแล้วเมื่อไม่กี่นาทีก่อน พวกเขาได้บดขยี้พันธมิตรผู้คุมสวรรค์อยู่ฝ่ายเดียวจนถึงขั้นที่พวกเขาโต้กลับไม่ได้ แต่จู่ๆทัพทมิฬไร้เทียมทานก็พบว่าตั้งเองกําลังจะตายกันหมด!
จากนั้น ฮงหยูเงยหน้าไปทางเมฆาครึม ตาเขาเป็นประกายเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งคําถามว่าเขากําลังต่อสู้อยู่กับอะไร นี่น่ะรีเจ้าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์?
ทัพทมิฬตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทหารร้อยคนสร้างช่องว่างในม่านแสงได้อย่างรวดเร็ว
ปั้ง
ช่องว่างที่กว้างพอสําหรับสามคนได้เกิดขึ้นบนม่านแสง ทหารทัพทมิฬรีบพุ่งออกไปราวกับปลาที่กระชากแหจนขาด
“ยิง!”
แต่ทันทีที่พวกเขาออกจากม่านแสง พวกเขาก็ต้องเจอกับห่าธนูที่ยิงเข้ามา!
ดูเหมือนว่าพลธนูที่ตั้งตัวได้จากในเมืองจะออกมาแล้ว กําลังเรียงรายในแถวหน้านี้คือพลธนูที่ยิงใส่ศัตรูไม่หยุดหย่อน!
คนกลุ่มแรกที่ออกมาจากลําดับห้าธาตุถูกฆ่าตายหมด! เหล่าทหารที่ไร้พลโล่ป้องกันไม่มีทางต้านทานธนูที่เข้ามาได้! แค่อึดใจเดียวคนที่หนีออกมาเก้าคนก็ติดพิษจนตาย!
ฮงหยูโกรธเกรี้ยวเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทุกคนพุ่งออกไปพร้อมกัน อย่าเหลือช่องว่าง ออกไปได้แล้วให้ฆ่าพลธนูของพวกมัน!”
ซูม
ทหารทัพทมิฬกรูกันออกมา พวกเขายืนแนบกายเพื่อให้ออกมาได้มากที่สุด แม้พลธนูจะไม่หยุดยิงก็ยังมีช่องว่างให้พวกเขาหนี ดังนั้นจึงมีทหารทัพทมิฬบางคนที่รอดออกมาได้
ด้วยความตายของทหารหกคน จะมีทหารสามคนหนีออกมาได้ คนที่หนีออกมาได้นั้นพุ่งเข้าใส่พลธนูของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ทันที
มีเพียงการกําจัดพลธนูเท่านั้นที่จะทําให้ทัพทมิฬหนีออกมาได้เป็นจํานวนมาก พวกเขาที่คิดเช่นนี้มั่นใจมากว่ามีพลังพอจะกําจัดพลธนู
ซูม
แต่ก่อนที่ทัพทมิฬจะได้เข้าใกล้พลธนู มีคนยี่สิบคนปรากฏตัวออกมาจากหมู่เมฆา แต่ละคนมีฐานพลังในขอบเขตภูติ! ทหารทัพทมิฬที่ออกจากลําดับห้าธาตุมาได้ถูกสังหารในพริบตาเดียว
“ถ้ามีพวกข้า พวกเจ้าก็ไม่มีโอกาสไปไหนทั้งนั้น!”
กังต้าเหล่ยพูด
เขาหัวเราะเมื่อฆ่าพลหอกด้วยการเตะครั้งเดียว เขากับเหล่าภูติคอยปกป้องพลธนูเป็นอย่างดี
อํานาจสังหารของพลธนูเพียงอย่างเดียวนั้นเทียบได้กับพลังของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ทั้งกองทัพ พิษของม้าเมฆาในลูกธนูนั้นมากพอจะสังหารภูติระดับสาม แล้วกึ่งภูติที่มีแก้วสามดวงจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?
เหล่าคนของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ส่งเสียงร้องอย่างมีพลัง ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในใจของพวกเขา นั่นคือตอนที่ซือหยูสั่งให้พวกเขาเตรียมกลุ่มพลธนู ไม่มีคิดเลยว่าเขาทําไปเพื่ออะไร
แต่ตอนนี้มันสมเหตุสมผลแล้ว นี่คือไม่ตายที่ซือหยูเตรียมเอาไว้!
ทหารทัพทมิฬทุกคนไม่ต่างกับแมงเม่าที่บินเข้ากองเพลิง พวกที่ออกมาจากม่านแสงถูกฆ่าไปหกในสืบสวน
ซึ่งคนที่รอดจากธนูมาได้ก็จะตายเมื่อเจอกับเหล่าภูติที่นําโดยกังต้าเหลีย ถึงจะมีบางคนที่ไปถึงตัวพลธนูและสังหารพลธนูได้บ้าง แต่สุดท้ายพวกมันก็ตายหมด
แม้ทั้งสองฝั่งจะเกิดการสูญเสีย แต่จํานวนของทัพทมิฬนั้นตายเยอะกว่ามาก!
ฮงหยูเจ็บปวดเมื่อเห็นสถานการณ์พลิกผัน
“คนที่หนีออกไปได้ ให้ถอยไปรวมกลุ่มใหม่!”
แต่ตอนนั้นก็มีคําสั่งจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ออกมาเช่นกัน
“ทุกคนนอกจากพลธนูบุกเข้าไปซะ! ฆ่ามันด้วยทุกสิ่งที่เจ้ามี!”
คนที่สั่งคือขุนพลเฒ่า ความสงสัยในตัวซือหยูที่เคยมีจางหายไปแล้ว เขาทั้งประทับใจและตื่นเต้น เขามิอาจบรรยายสิ่งที่รู้สึกในตอนนี้ได้เลย
พวกเขามีหวังอย่างมากที่จะชนะ! ทั้งหมดเป็นเพราะซือหยู
“ฆ่ามันให้หมด!”
กลุ่มคนร้องพร้อมกัน
คนนับหมื่นแผ่ขยายเต็มท้องนภาราวกับน้ำไหลหลาก พวกเขาพุ่งไปยังทหารทัพทมิฬที่หลบหนี
ฮงหยูตาแดงก่ำ เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”
ฮงหยูผละออกจากม่านแสงและทิ้งทหารที่เหลือเอาไว้ แต่เขาก็ต้องเจอกับธนูนับร้อยดอกเมื่อออกมา
แม้ฮงหยูจะหยาบคาย แต่เขาก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้าต่อพิษม้าเมฆา เขาถอยกลับในทันที
“อาจารย์หลบิน ทําไมเราสองคนไม่ทําอะไรเสียบ้างเล่า?”
ฉีตงไล่พูดด้วยความกระหาย
เขากระหายที่จะทดลองพลังใหม่ตั้งแต่ที่ได้เป็นภูติ และเมื่อนายทัพใหญ่ของศัตรูอยู่ที่นี่ มันก็เป็นโอกาสของเขานั่นเอง
หลินหยุนฮียิ้ม
“ข้ายิ่งกว่ายินดีเสียอีก จะชนะสงครามก็ต้องเด็ดหัวขุนศึก จบสงครามเร็วเท่าใด เราก็ยิ่งเสียหายน้อยเท่านั้น!”
“ฝากที่เหลือกับพวกเจ้าด้วย!”
ฉีตงไล่พูดและหัวเราะ เขาจับมือกับหลินหยุนฮีตรงไปยังฮงหยู
ฮงหยูเพียงจะออกมาได้ แต่เขาก็ถูกฉีตงไล่กับหลินหยุนฮีล้อมในทันที
“ไสหัวไป!”
ฮงหยูตะโกน เขาลืมความเยือกเย็นของตัวเองไปหมดแล้ว ทัพทมิฬสูญเสียมากถึงเพียงนี้ เขาไม่มีอะไรให้เสียอีกเขา
หลังจากที่ต่อสู้มาครู่เดียว ฉีตงไล่กับหลินหยุนฮียังเอาชนะฮงหยูไม่ได้ นั่นก็เพราะทั้งคู่เพิ่งจะได้เป็นภูติและยังไม่ปรับฐานพลังให้มั่นคง
และฮงหยูเองก็เป็นทหารมากฝีมือที่ผ่านสงครามมาหลายครั้ง ดังนั้นสองผู้เฒ่าจึงมิใช่คู่มือของเขา แต่ทั้งสองก็ยังต้านเขาไม่ให้หนีได้
ตู้ม
แต่ตอนนั้นเอง สิ่งที่เหมือนกับอุกกาบาตได้ตกมาถึงพื้นดิน! ฮงหยูประมาทมันเกินไป! พลธนูกับพลหอกไม่มีโอกาสได้หนีอีกแล้ว พวกเขาถูกบดขยี้ตายหมด
มีพลธนูห้าในหกร้อยคนที่หนีออกมาได้ ที่เหลืออีกร้อยคนถูกอุกกาบาตนบดขยี้ไปพร้อมกับพลโล่
เสียงกรีดร้องทุรนทุรายดังลั่น ศพทหารหลายร้อยคนถูกบดขยี้ด้วยน้ำหนักมหาศาลและกลายเป็นก้อนเนื้อบด
มีเพียงไม่กี่คนที่มีชีวิตรอด แต่คนเหล่านั้นก็กลายเป็นฝุ่นผงเมื่อตกลงมาเจอกับพิษของม้าเมฆาพลโล่ทั้งสี่ร้อยคนกับพลธนูร้อยคนและพลหอกถูกฆ่าในทันที!
“ไม่นะ!”
ฮงหยูตะโกนอย่างโกรธแค้น ดวงตาของเขาแดงคล้ำ
เขาสลัดจากหลินหยุนฮีและฉีตงไล่หลุดด้วยความยากลําบาก เขารีบหนี เขาเร็วอย่างประหลาดจนผู้เฒ่าทั้งสองตามไม่ทัน
ตลอดทาง ฮงหยูใช้หมัดสังหารคนของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ที่ล้อมทัพทมิฬไปหลายสิบคน แม้ว่าเขาจะช่วยทหารมาได้บ้าง เขาก็ไม่มีหวังจะกอบกู้สถานการณ์อีกแล้ว
เขามองทัพทมิฬที่เหลือแค่ร้อยแปดสิบคน พวกเขาถูกพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ปิดล้อมอย่างแน่นหนา สิ่งที่เกิดขึ้นทําให้ฮงหยูรู้สึกโศกเศร้าจากก้นบึงของจิตใจ
ทัพทมิฬไร้เทียมทานที่เพียงได้ยินชื่อก็เรียกความกลัวจนแผ่นดินสะเทือนถูกล้างบ้างเกือบหมดโดยกลุ่มคนจากเฉินหลง! แต่ที่น่ากลัวหาใช่คนนิรนามเหล่านี้ไม่ แต่เป็นแม่ทัพประหลาดที่แฝงกายอยู่ในหมู่เมฆามาจนถึงตอนนี้
แม่ทัพนี้รอบคอบและเจ้าเล่ห์ในทุกย่างก้าว เขาวางกับดักไว้ทุกหนทุกแห่ง
ยิ่งไปกว่านั้น การจู่โจมแต่ละครั้งยังหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าครั้งก่อนหน้า เขามีแม้กระทั่งสมบัติประหลาด ซึ่งเขาใช้ทั้งกลยุทธ์และสมบัติได้อย่างเฉียบขาด บอกได้เลยว่าเขาใช้เพียงมือข้างเดียวในการพลิกสถานการณ์ของสงครามนี้
“ทัพทมิฬจงฟัง ใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่เจ้ามี ภารกิจครั้งนี้คือการหลบหนี!”
ฮงหยูฝืนตัวเองให้ใจเย็นเมื่อออกคําสั่ง
ทันใดนั้น เหล่าทหารทัพทมินได้หยิบขวดหยกออกมา ในขวดหยกนี้มีโอสถสีแดงอยู่ พวกเขากลืนมันอย่างรวดเร็ว
แค่ไม่กี่อึดใจ ฐานพลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง! ทุกคนที่กินเม็ดโอสถเข้าไปได้กลายเป็นภูติระดับหนึ่ง
อ้ากกกกกกก
พริบตาเดียว เสียงกรีดร้องจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ดังขึ้น พวกเขากระอักเลือดและตกลงสู่พื้น มีเกือบพันคนที่ตายในชั่วพริบตานั้น!
พลังอันน่ากลัวของภูติมากกว่าร้อยคนบนสนามรบปรากฏขึ้นมา
สีหน้าของเหล่าภูติฝั่งพันธมิตรตึงเครียด ตอนนี้อีกฝ่ายมีภูติถึงร้อยสามสิบคน!
พวกเขาแอบสูดหายใจเข้าลึกเพื่อให้ใจเย็น ภูติจํานวนมากมายเท่านี้มากเกินพอที่จะสังหารพวกเขาทุกคน!
แต่เหล่าภูติหน้าใหม่จากทัพทมิฬมิได้ไล่ล่าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ พวกมันไปรวมตัวกับฮงหยูและเตรียมหนี!
แม้ทั้งหมดจะเป็นภูติแล้วแต่พวกเขาก็แสดงความเจ็บปวดออกทางสีหน้า หยดโลหิตซึมออกมาทางผิวหนัง
โอสถสีแดงที่พวกเขากินไปนั้นให้พลังมามาก แต่ก็ต้องแลกกับความเจ็บปวด ผลข้างเคียงของมันร้ายแรงมาก แม้พวกเขาจะมีโอกาสชนะ พวกเขาก็ต้องเลือกที่จะหนี
ฮงหยูไม่มองทัพของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์อีกแล้ว เขาเอาแต่เงยหน้ามองท้องนภาด้วยความชิงชังตั้งแต่ต้นจนจบ