มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 456
ดอกแท้สามเป็นยาวิเศษระดับ 7 ที่ค่อนข้างหาได้ยาก สามารถนำมาใช้กลั่นเป็นยาระดับ 7 อย่างยาเสวียนสามได้หรือยาจิตมังกรสามรู

นอกจากนั้นยาเสวียนสามยังเป็นยาที่ผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ใช้สำหรับยกระดับการฝึกตน และยาจิตมังกรสามรูยังเป็นยาที่สามารถนำมาใช้สำหรับชุบร่างเนื้อได้ ประสิทธิภาพที่ได้นั้นเช่นเดียวกับยาสลายร่างหลงหยางแต่ได้ผลดีกว่าด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ชายวัยกลางคนผู้นี้พยายามปิดบังออร่าพลังจิตแท้ของตนเอาไว้ แต่ด้วยกระแสสัมผัสพลังชีวิตของหลัวซิว ทำให้มองออกว่าคนผู้นี้อยู่ในแดนจักรพรรดิยุทธิ์ขั้น 4

จักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งต้องการสมุนไพรวิเศษระดับ 7 ไปเพื่ออะไรกัน?

แน่นอนว่าเหตุที่อีกฝ่ายจะต้องการดอกแท้สามไปทำอะไรนั้น ไม่มีความข้องเกี่ยวกับหลัวซิวแต่อย่างใด แต่ดอกแท้สามเป็นสิ่งที่เขาเคยครอบครองมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะเขาได้นำไปใช้ในการกลั่นยาหมดแล้ว

ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้รับยาวิเศษมาจากแดนแต่งตั้งราชาเป็นจำนวนมาก แต่หลัวซิวไม่ได้มีนิสัยที่ชอบเก็บยาวิเศษเอาไว้ในมือเฉยๆ เขาจึงนำเอาไปใช้สำหรับกลั่นยาเรียบร้อยแล้ว

เช่นเดียวกับสมบัติระดับ 7 จะต้องใช้ดอกแท้สามเพื่อแลกดินเหลืองเสวียนถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่มีคุณค่าเทียบเท่ากัน

แต่หากนำยาระดับ 7 ไปแลกกับดินเหลืองเสวียน นั่นหมายความว่าหลัวซิวจะเป็นฝ่ายขาดทุน

“ท่านมีดินเหลืองเสวียนหรือ” หลัวซิวถามออกไป

เจ้าของแผงวัยกลางคนขมวดคิ้ว “แล้วท่านล่ะมีดอกแท้สามไหม ถ้าไม่มี ก็อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลาอยู่เลย”

หลัวซิวอมยิ้มเล็กน้อย แล้วผายมือออกไป พลังจิตแท้ได้สร้างแดนกั้นเสียงขึ้นมา

เมื่อเจ้าของแผงวัยกลางคนเห็นการเคลื่อนไหวดังนั้นของหลัวซิว เขาก็หรี่ตาลงทันใด

ในตอนนั้นเองหลัวซิวจึงเอ่ยช้าๆ ขึ้นมาว่า “ผมไม่มีดอกแท้สามหรอก แต่ผมมียาเสวียนสามอยู่เม็ดหนึ่ง เป็นยาที่กลั่นออกมาจากดอกแท้สาม สามารถแลกกับดินเหลืองเสวียนของท่านสัก 5 กิโลได้หรือไม่”

“ยาเสวียนสามระดับ 7?” เจ้าของแผงวัยกลางคนมองหลัวซิวอย่างประหลาดใจ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าในมือของราชายุทธ์คนหนึ่งจะมียาระดับ 7 อันล้ำค่าเช่นนี้อยู่ด้วย

ทว่าเจ้าของแผงวัยกลางคนกลับส่ายหน้า “ยาเสวียนสามเป็นของดี แต่ข้าคงไม่ได้ใช้”

หลัวซิวขมวดคิ้ว “หากท่านใช้ยาเสวียนสามไปแลกกับดอกแท้สาม ผมคิดว่าน่าจะแลกได้ง่ายกว่าใช้ดินเหลืองเสวียนไปแลก”

“แม้ว่าจะกล่าวแบบนั้น ได้ แต่ข้าคิดว่าการครอบครองยาเสวียนสามจะเป็นการดึงดูดความสนใจเกินไป และเกรงว่าอาจจะยังไม่ทันได้แลกดอกแท้สาม แต่จะไปดึงดูดความสนใจของคนอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่”

ระหว่างที่พูดประโยคนี้ เจ้าของแผงวัยกลางคนก็มองไปที่หลัวซิว ความหมายของเขานั้นไม่มีอะไรซับซ้อน

หากข่าวจักรพรรดิยุทธ์ครอบครองยาเสวียนสามแพร่กระจายออกไป คงจะดึงดูดความวุ่นวายเข้ามาอีกไม่น้อย ส่วนเขาที่เป็นราชายุทธ์ การครอบครองยาเสวียนสามจะต้องส่งผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน

และเพราะอย่างนี้เอง ระหว่างที่สนทนากันอยู่นี้ หลัวซิวจึงได้สร้างแดนกั้นเสียงขึ้นมา เพราะไม่อยากให้เกิดความยุ่งยากกับตนเองโดยไม่จำเป็น

แต่เขาไม่คิดเลยว่า คนผู้นี้จะไม่ยอมแลก และคนผู้นี้ก็ได้ล่วงรู้แล้วด้วยว่าเขามียาเสวียนสาม หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย หลัวซิวเดาว่าเมื่อตนเองออกจากสำนักไม้เสวียนแล้ว จะต้องมีคนจำนวนมากวางแผนสังหารเขาเพื่อชิงของล้ำค่านี้ไป

และดูเหมือนว่าเจ้าของแผงวัยกลางคนคนนั้นจะอ่านความคิดของเขาออก จึงกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ข้าในนามเย่เฟยเทียนไม่มีทางนำเรื่องที่เจ้าครอบครองยาเสวียนสามแพร่งพรายออกไป เรื่องนี้ขอให้เจ้าวางใจ”

คนผู้นี้ดูเป็นคนที่มีหลักการ แต่หลัวซิวก็ยังไม่อาจเชื่อใจเขาได้เสียทีเดียว

หลัวซิวขมวดคิ้ว “นอกจากดอกแท้สามแล้ว ไม่สามารถใช้ของอย่างอื่นแลกดินเหลืองเสวียนของท่านได้เลยหรือ”

ใบหน้าไร้อารมณ์ของเย่เฟยเทียนปรากฏความขมขื่นออกมา “ภรรยาของข้าได้รับบาดเจ็บหนัก จำเป็นต้องใช้ยาเสวียนจือระดับ 6 ข้าได้ยินมาว่ามีคนครอบครองยาเสวียนจือเอาไว้ แต่คนผู้นั้นกลับขอดอกแท้สามเป็นการแลกเปลี่ยน”

เมื่อกล่าวออกมาอย่างนี้แล้ว ความหมายของเย่เฟยเทียนจึงชัดเจนขึ้นมา เป้าหมายที่แท้จริงของเขาไม่ใช่ดอกแท้สาม แต่เป็นยาเสวียนจือระดับ 6

แม้ว่ายาเสวียนจือจะเป็นยาระดับ 6 แต่เนื่องจากเป็นยาที่ใช้สำหรับซ่อมแซมจุดตันเถียน ไม่ต่างอะไรกับยาวิญญาณหยินหยางมากนัก ดังนั้นมูลค่าของมันจึงเทียบเท่าได้กับยาระดับ 7

ทว่ายาเสวียนจือยังมีอีกจุดที่ล้ำค่านั่นคือวิธีการในการกลั่นยาชนิดนี้ มีคนทำเป็นไม่มากนัก แม้แต่ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ7 จำนวนมาก และผู้ที่มีวัตถุดิบสำหรับกลั่นยาเสวียนจือนี้ หากไม่มีวิธีการพิเศษก็ไม่มีทางกลั่นยาออกมาได้