ตอนที่ 568 ยังตั้งสติไม่ได้
“ได้ตามที่เจ้าปรารถนา”
อะไรที่ควรพูดก็พูดหมดแล้ว มู่หรงกวานเสวี่ยเหมือนไม่มีเรื่องอะไรจะสั่งเสียอีก ไม่นานนางก็หลับตาลง มั่วชิงยืนอยู่ข้าง ๆ ใจไม่อยู่กับตัวขณะมองศพของมู่หรงกวานเสวี่ย ตอนนี้นางหวังเพียงว่าจะได้กำจัดเจียงสือเร็ว ๆ ไม่รู้นางทำร้ายคนไปเท่าไหร่กันแน่
หลิงอวี้จื้อและเซียวเหยี่ยนเข้าห้องไปด้วยกัน โต๊ะมีกับข้าววางเต็ม ทั้งหมดเป็นกับข้าวที่มู่หรงนี่อวิ๋นทำ เซียวเหยี่ยนยังรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่ามู่หรงนี่อวิ๋นก็ทำกับข้าวเป็น นี่เหนือความคาดหมายของเขามาก
หลิงอวี้จื้อยกเก้าอี้หวายมาตัวหนึ่ง สองคนยกมู่หรงนี่อวิ๋นมานั่งบนเก้าอี้หวาย เธอพยายามแค่นยิ้มให้เซียวเหยี่ยน
“อาเหยี่ยน ท่านดูสิ ทั้งหมดนี้นี่อวิ๋นทำเอง ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย พวกเรากินอะไรกันสักหน่อยเถิด”
“ไม่นึกเลยว่านี่อวิ๋นก็มีทักษะเหมือนกัน”
เซียวเหยี่ยนรู้สึกซาบซึ้งในทุกสิ่งที่มู่หรงนี่อวิ๋นทำให้หลิงอวี้จื้อเหลือเกิน
เขารู้ดีว่าคราวนี้มู่หรงนี่อวิ๋นก็ช่วยหลิงอวี้จื้ออีกครั้ง เมื่อก่อนเขายังคิดจะตอบแทนน้ำใจของมู่หรงนี่อวิ๋น นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันรอให้โอกาสมาถึง มู่หรงนี่อวิ๋นก็ตายจากไปเสียก่อน
และเขาก็รู้ดีว่าจากวันนี้เป็นต้นไปหลิงอวี้จื้อจะจดจำมู่หรงนี่อวิ๋นฝังใจ ถึงแม้จะไม่ได้มีความรู้สึกแบบหญิงชาย แต่ในใจหลิงอวี้จื้อ มู่หรงนี่อวิ๋นก็มีตำแหน่งอยู่ในใจเธอ
เซียวเหยี่ยนไม่ได้หึงหวงเลย สิ่งที่เขาต้องการคือหัวใจของหลิงอวี้จื้อ เพียงรู้ว่าใจของหลิงอวี้จื้อคิดถึงแต่เขา ไม่ว่าจะมีคนกี่มากน้อยจะมารักหลิงอวี้จื้อ เขาก็ไม่สนใจ
หลิงอวี้จื้อคีบเนื้อปลาเข้าปาก เคี้ยวอย่างละเอียด แล้วหันไปทางมู่หรงนี่อวิ๋นพูดชมว่า
“นี่อวิ๋น เจ้าทำปลานี้อร่อยจริง ๆ ฝีมือระดับหัวหน้าพ่อครัวเลย”
พูดพลาง หลิงอวี้จื้อก็ก้มหน้า น้ำตาพรั่งพรูออกมาอีก ไหลรินลงมาตามแก้มหยดลงในชามข้าว เซียวเหยี่ยนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ย่อมรู้ว่าหลิงอวี้จื้อร้องแล้ว เอื้อมมือไปโอบหลิงอวี้จื้อไว้ในอ้อมแขน หลิงอวี้จื้อพิงไหลเซียวเหยี่ยนร้องไห้สะอึกสะอื้น นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเหยี่ยนเห็นหลิงอวี้จื้อเสียใจขนาดนี้
เห็นเธอเป็นเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนก็ปวดใจมาก ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้หลิงอวี้จื้อ
“อวี้จื้อ นี่อวิ๋นไม่อยากเห็นเจ้าเสียใจขนาดนี้หรอก ข้ามาช้าไปเอง”
หลิงอวี้จื้อร้องจนพูดไม่ออก เสียงก็แหบแห้งไปหมด อาจจะเพราะเหนื่อยเหลือเกิน สุดท้ายเธอก็หลับสนิทในอ้อมแขนของเซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็อุ้มหลิงอวี้จื้อกลับจวน
จากนั้นสองสามวัน หลิงอวี้จื้อก็สลดหดหู่มาก ทุกวันนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้อง ไม่เห็นรอยยิ้มใด ๆ บนใบหน้าของเธอ เธอยังตั้งสติไม่ได้ และยังไม่เชื่อว่ามู่หรงนี่อวิ๋นตายแล้ว
สำหรับจวนมู่หรงแล้ว ข่าวนี้คือปรากฏการฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ
เดิมทีมู่หรงหงก็ร้อนใจแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว จัดแจงให้มู่หรงนี่อวิ๋นแต่งงาน นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้แต่งเข้าบ้าน มู่หรงนี่อวิ๋นก็ไปก่อนเสียแล้ว เมื่อคิดได้ว่าจากนี้ไป จวนมู่หรงจะไร้ทายาทแล้ว ทันใดนั้นมู่หรงหงก็แก่ลงหลายปี ทันใดนั้นก็ล้มป่วยไป
หลิงอวี้จื้อไม่ไปงานศพของมู่หรงนี่อวิ๋นเลย เธอไม่กล้าเผชิญหน้า และรับความจริงไม่ได้ว่ามู่หรงนี่อวิ๋นไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงเอาแต่ปิดประตูอยู่แต่ในจวนไม่ออกไปไหน ใช้ชีวิตสลดหดหู่อยู่หลายวัน
ช่วงเวลานี้ เซียวเหยี่ยนคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด และไม่ได้พูดอะไรมาก ทำเพียงอยู่เคียงข้างเธอเงียบ ๆ เมื่อฝังศพมู่หรงนี่อวิ๋นแล้ว จู่ ๆ จูจิ่นก็มาปรากฏตัวที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จูจิ่นผอมลงไปมาก ดูซูบซีดอย่างยิ่ง ใบหน้าไม่ได้ทาแป้ง แต่สวมชุดสีแดงชาด นี่เป็นสีที่มู่หรงนี่อวิ๋นชอบที่สุด
ตอนที่ 569 ตั้งครรภ์แล้ว
“อาจิ่น นั่งสิ”
เงียบสักครู่หนึ่ง หลิงอวี้จื้อก็แค่นยิ้มทักทายจูจิ่น
ระยะนี้เธอไม่ได้เจอจูจิ่นเลย เธอเหมือนจะรับรู้ความคิดของจูจิ่นได้ จู่ ๆ เห็นจูจิ่นมีลักษณะเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองเดาไม่ผิด จูจิ่นต้องมีความรู้สึกพิเศษกับมู่หรงนี่อวิ๋นแน่นอน
จูจิ่นนั่งลง นางผอมลงมากจริง ๆ ขนาดเบ้าตายังจมโบ๋ลงไป
เดิมทีจูจิ่นไม่ใช่หญิงสาวร่างเล็ก ตอนนี้กลับผอมเสียจนลมพัดวูบหนึ่งก็ปลิวได้ ดูเหมือนคนป่วยไปทั้งร่าง
สีหน้าก็ขาวซีดไม่มีเลือดฝาด หากมองแวบเดียวเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดูไม่มีเสน่ห์ดึงดูดเลย จูจิ่นเมื่อก่อนนับว่าเป็นหญิงสาวที่ทั้งช่างพูดและขี้เล่น
“อาจิ่น เหตุใดเจ้าผอมลงขนาดนี้ ป่วยแล้วหรือไม่”
จูจิ่นส่ายหน้า มองหลิงอวี้จื้อด้วยแววตาที่ซับซ้อน ผ่านไปนาน ในที่สุดก็เอ่ยว่า
“สุดท้ายเขาก็ตายเพื่อเจ้าได้ ข้ารู้มานานแล้วว่าเขารักเจ้าขนาดนี้ ข้าไม่ได้ตำหนิเจ้า เรื่องนี่อวิ๋นชอบเจ้าไม่ใช่ความลับตั้งนานแล้ว นอกจากเจ้า ใคร ๆ ก็รู้”
“คนที่เจ้าชอบคือนี่อวิ๋น ถูกต้องหรือไม่”
ถึงแม้ว่าหลิงอวี้จื้อจะสงสัย แต่ก็ไม่เคยถามจูจิ่นมาก่อน ตอนนี้ในเมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว หลิงอวี้จื้อจึงถามไปตรง ๆ เสียเลย
จูจิ่นไม่ได้ปฏิเสธ และไม่ได้ยอมรับ มือของนางวางบนท้อง
“ข้าเพิ่งรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ ยังไม่ทันบอกเรื่องนี้กับเขา เขาก็ไปเสียแล้ว”
“เจ้า…เจ้า…”
หลิงอวี้จื้อมองจูจิ่นอย่างตกใจ นางตั้งครรภ์แล้วหรือ ซ้ำยังเป็นลูกของมู่หรงนี่อวิ๋นด้วย พวกเขามีความสัมพันธ์เช่นนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
“จำได้หรือไม่ ครั้งก่อนที่เราดื่มสุรากัน วันนั้นข้าพาเขากลับจวน มีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา เขาดื่มสุราไปเยอะมาก สะลึมสะลือนึกว่าข้าเป็นเจ้า ข้าควรจะผลักเขาออกไป สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
นี่อวิ๋นไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์แล้ว ข้าก็อยากบอกเรื่องนี้ให้เขารู้ แต่ข้าไม่กล้า ข้ากลัวว่านี่อวิ๋นจะดูถูกข้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา ข้าเองที่ไม่รู้จักศีลธรรมและความละอายใจ ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวข้าเป็นอะไร ตอนนี้เขาไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ข้าอยากคลอดลูกคนนี้”
หลิงอวี้จื้อยังไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ได้แต่มองจูจิ่นเหม่อ ๆ ทื่อ ๆ อยู่อย่างนั้น สมองตามไม่ค่อยทัน จูจิ่นท้องลูกของมู่หรงนี่อวิ๋น นี่เหนือความคาดหมายจริง ๆ และแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การยินดี เธอยื่นมือไปจับข้อมือของจูจิ่น
“อาจิ่น เจ้าตั้งครรภ์จริง ๆ ใช่หรือไม่”
จูจิ่นพยักหน้า ครั้งนี้ไม่มีเจตนาที่จะล้อเล่นเลย น้ำเสียงจริงจังมาก
“ดีจังเลย”
เมื่อมั่นใจแล้ว ใบหน้าหลิงอวี้จื้อก็ปรากฏรอยยิ้ม เธอดีใจแทนมู่หรงนี่อวิ๋นจริง ๆ
เธอมาจากยุคปัจจุบัน ไม่ได้คิดอะไรมากในทันที ลืมไปว่าจูจิ่นยังไม่ได้แต่งงาน ยุคเว่ยตะวันตกนี้ไม่ยอมเรื่องจูจิ่นท้องก่อนแต่งแน่
นี่เป็นความผิดร้ายแรงมาก เมื่อใดที่รายงานทางการ จะต้องนั่งคุกเมื่อนั้น ถึงแม้จะไม่รายงานทางการ ปิดเรื่องนี้ต่อไป คนในครอบครัวส่วนใหญ่ก็จะต้องโดนโทษรุนแรงไปด้วย เด็กก็จะไม่ถูกเก็บไว้แน่
“ตอนนี้มีแต่เจ้าที่ช่วยข้าได้ เด็กคนนี้ต้องรักษาเอาไว้”
หลิงอวี้จื้อเพิ่งตระหนักถึงความหมายในคำพูดของจูจิ่น รอยยิ้มบนใบหน้าหุบหายในพริบตา
จริงด้วย ตัวเองลืมไปได้อย่างไร นี่ยุคเว่ยตะวันตกนะ
จูจิ่นยังไม่ได้แต่งงานกับมู่หรงนี่อวิ๋น ที่สำคัญที่สุดคือมู่หรงนี่อวิ๋นจากโลกนี้ไปแล้ว หากบอกว่าเด็กคนนี้เป็นของมู่หรงนี่อวิ๋น ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลย