ตอนที่ 548 ยิ่งเปล่าเปลี่ยว / ตอนที่ 549 ผมรอวันนี้มานานแล้ว

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 548 ยิ่งเปล่าเปลี่ยว

 

 

           ถ้าเขาไม่หาวิธีข้ามแม่น้ำนี้ล่ะก็ เขาก็จะเป็นเหมือนคนจมน้ำตายอยู่ในแม่น้ำ เช่นนี้ทั้งชีวิตนี้ของเขาก็อย่าคิดที่จะได้ครอบครองเธออีกเลย

 

 

           ระยะทางจากเมือง A ถึงสหรัฐอเมริกาใช้เวลาเพียงกว่าสิบชั่วโมง แต่ทั้งๆ ที่ระยะทางระหว่างเขากับฉู่เจียเสวียนใกล้เพียงนี้ เขาต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเข้าใกล้เธอ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ความรู้สึกทั้งหมดในใจถูกแทนที่ได้ความไม่พอใจ ทั้งๆ ที่เธอเคยเป็นภรรยาของเขามาก่อน ทั้งๆ ที่พวกเขาเคยมีความใกล้ชิดขนาดนั้น

 

 

           แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาสองคนกลับกลายเป็นคนแปลกหน้ากันจนทำให้เขาทั้งปวดใจและหนาวใจ

 

 

           หัวใจของเขาเหมือนลมหนาว เขาอดใจไม่ไหวอยากจะพัดพาเธอมาอยู่ข้างกาย ในเวลานี้ สิ่งที่อยู่เต็มหัวใจของเขาก็คือฉู่เจียเสวียน

 

 

           ความรักที่เขามีต่อเธอนั้น มันอยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปแล้ว

 

 

           เขาไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่ง เขาจะสิ้นไร้ไม้ตอกกับผู้หญิงคนหนึ่งถึงขนาดนี้ ต้องการจะปล่อยมือแต่กลับไปเข้าใกล้โดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว

 

 

           ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกนับจากกลับมาจากต่างประเทศ สายตาของเขาก็ถูกเธอดึงดูดอย่างประหลาด ติดตามเธออย่างใกล้ชิด อดไม่ได้ที่จะอยากอยู่ใกล้เธอ

 

 

           เครื่องบินมาถึงที่หมายในเช้าวันรุ่งขึ้น ยืนอยู่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย โอกาสที่จะพบเจอคนรู้จักเท่ากับศูนย์ น่าประหลาดที่ความรู้สึกนี้ทำให้อารมณ์เศร้าโศกของเผยหนานเจวี๋ยชัดเจนมากขึ้น

 

 

           “ท่านประธานครับ” ผู้ช่วยได้มารอเขาที่นอกสนามบินแล้ว หลังจากที่เห็นเผยหนานเจวี๋ย

 

 

ออกมา เขาก็รุดเข้าไปหาทันที

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยตอบรับเฉยเมย ขาที่เรียวยาวก้าวเข้าไปในรถโดยตรง ประตูรถปิดลงเสียงดัง “ปัง”

 

 

           “ไปที่สตาร์ทาวเวอร์” ทันทีที่เผยหนานเจวี๋ยขึ้นรถก็ออกคำสั่ง

 

 

           วันนี้เป็นวันสำคัญ สำหรับเขาแล้ว นี่คือวันที่บริษัทเผยก้าวเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญ ต่อไปบริษัทเผยก็จะก้าวไปอีกขั้นแล้ว

 

 

           “ได้ครับ ท่านประธาน วันนี้ฝนอาจจะตก มีร่มอยู่ด้านหลังรถนะครับ” ผู้ช่วยรายงานสภาพอากาศให้เผยหนานเจวี๋ยฟัง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเปียกฝน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า จากนั้นก็พิงพนัก หลับตาพักผ่อน

 

 

           สตาร์ทาวเวอร์ยังเป็นเช่นเคย รถเข้ามาจอดที่หน้าประตูหลัก เผยหนานเจวี๋ยลงมาจากรถ เขาเงยหน้ามองตึกที่สูงตระหง่านตรงหน้า ไม่สามารถมองเห็นยอดตึกได้เลย

 

 

           มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ในปัจจุบันนี้จะมองไม่เห็นยอดตึกสูง เพียงแต่สตาร์ทาวเวอร์นี้ไม่เหมือนกับตึกอื่นๆ ภายในตึกนี้ มีแต่คนเก่งๆ ระดับโลก ไม่สามารถมองข้ามความสามารถของแต่ละคนได้เลย

 

 

           และเผยหนานเจวี๋ยก็เป็นหนึ่งในบรรดาคนเก่ง ความสามารถก็ยิ่งไม่อาจจะละเลยได้

 

 

           มุมปากของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อย เหยียดยื่นมือจัดแจงแขนเสื้อ แม้ว่าเขาจะนั่งเครื่องบินมาทั้งคืนแล้ว แต่ว่าใบหน้าของเขากลับไม่มีความอ่อนล้าเลยแม้แต่น้อย เขายิ่งดูสดใสมีชีวิตชีวา หน้าตายิ่งหล่อเหล่ากว่าปกติ

 

 

           เขามักจะสง่างามเช่นนี้อยู่เสมอ สง่างามจนไม่คิดว่าก้มหัวให้ผู้หญิงคนไหนได้ แม้แต่ตอนที่เขาคิดว่าตัวเองรักฉู่อีอีอย่างสุดหัวใจ เขาก็ไม่เคยก้มหัวเพื่อเธอ แต่ว่าฉู่เจียเสวียนนั้น เขายอมก้มให้เธอนับครั้งไม่ถ้วน

 

 

           เขาประเมินอิทธิพลของความรักต่ำเกินไป ฉะนั้นเมื่อเขาได้พบกับฉู่เจียเสวียนอีกครั้ง จึงถูกเธอดึงดูดโดยที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากเธอได้ และตกหลุมรักเธออย่าสุดซึ้ง

 

 

           บางทีตอนที่สวรรค์ให้เขาพบกับฉู่เจียเสวียน อาจคิดว่าเขาคือชิ้นงานจากสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบเกินไป ฉะนั้นจึงให้เขาเดินอยู่บนเส้นทางความรักแสนยากลำบากแบบนี้

 

 

           ความรักคืออะไร ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะร่ำรวยเท่าไร ก็ไม่มีทางเทียบกับความรักได้เลย

 

 

           การเชื่อมต่อไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ นั้นก็เป็นเหมือนชีวิตของเรา ทุกคนต่างพยายามสุดชีวิตเพื่อปีนขึ้นไป และเมื่อพวกเขาปีนขึ้นไปบนที่สูงแล้วก็จะรู้สึกเปล่าเปลี่ยว

 

 

 

 

       ตอนที่ 549 ผมรอวันนี้มานานแล้ว

 

 

           ยิ่งปีนสูงมากเท่าไรก็ยิ่งอ้างว้างมากเท่านั้น เหงาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็อยากมีใครสักคนอยู่ด้วย อยู่คนเดียวมันหนาวเกินไป หากมีสองคนพึ่งพาซึ่งกันและกันจึงจะรู้สึกอบอุ่น เขาจะต้องมีใครสักคนข้างกายคอยดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเคียงข้างเขา

 

 

           ออกมาจากลิฟท์ คุณโจนกำลังรออยู่ในห้องประชุมแล้ว เผยหนานเจวี๋ยผลักประตูเข้าไปด้วยสีหน้ามั่นใจ

 

 

           ต่อให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างในจะแข็งแกร่งกว่าเขา เขาก็แพ้ไม่ได้ ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ควรหวาดกลัว

 

 

           เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง ไม่นานหรอก ไม่นานเขาก็จะให้คนทั้งโลกรู้จักชื่อของเขา ว่าเขาคือพ่อมดและตำนานแห่งโลกธุรกิจ

 

 

           “คุณโจน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือจับมือกับโจน บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ

 

 

           โจนยื่นมือจับมือของเขา

 

 

           “ผมรอวันนี้มานานแล้ว ประธานเผย” โจนเอ่ยขึ้น มองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

 

 

           “งั้นขอให้พวกเราทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขนะครับ” หยิบปากกาขึ้นมา เซ็นต์ชื่อของตัวเองอยู่บนสัญญา

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยิ้มให้กับโจน มันเป็นของรอยยิ้มระหว่างกษัตริย์ และรอยยิ้มนั้นลึกซึ้งมาก

 

 

           จากนี้ไป มันคือการพัฒนาบริษัทเผยไปในทิศทางที่ดีขึ้น เดินไปยังทิศทางที่สูงขึ้น และเดินสู่เวทีระดับนานาชาติ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเก็บสัญญา กล่าวทักทายโจนสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ออกจากสตาร์ทาวเวอร์ไป

 

 

           เขายังมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ มันไม่มีความหมายที่จะทำให้เวลาของกันและกันล่าช้า

 

 

           เมื่อออกมาหน้าประตูสตาร์ทาวเวอร์ เผยหนานเจวี๋ยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ฝนที่ตกลงสู่พื้นส่งเสียงดัง ‘เปาะแปะ’

 

 

           เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด ท้องฟ้าเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆดำ ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกหนัก สีหน้าของเขาเย็นเฉียบ

 

 

           เขารอรถมารับ มีคนเดินผ่านเขาอยู่บ้าง คนจำนวนไม่น้อยต้องการจะถือร่มให้เขา แต่ว่าพวกเขาต่างกลัวแววตาและการแสดงออกที่เย็นเยือกดุจน้ำค้างแข็งนั้น ลมหายใจของเขาทำให้ผู้คนหยุดอยู่กับที่ แววตาที่ไร้ความอบอุ่นของเขาทำให้ผู้คนเห็นแล้วตัวสั่นเทา

 

 

           เขายืนอยู่ที่นั่นเพียงสองนาที ก็รู้สึกว่าการรอคอยยาวนานเป็นพิเศษ

 

 

           ผู้ช่วยลงมาจากรถครึ่งหนึ่ง ช่วยเขาเดินไปยังรถ “ท่านประธาน จะไปที่ไหนต่อครับ”

 

 

           “โรงแรม” น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ย ใบหน้าที่หล่อเหลาดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยลมและน้ำค้างแข็ง

 

 

           ลมหายใจบนตัวของเผยหนานเจี๋ยกลายเป็นเยือกเย็น ใบหน้าไร้อารมณ์ ท่าทางหยิ่งทะนง ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้

 

 

           ภายในรถ เขาฟังเสียงฝนที่ตกลงบนรถดัง ‘เปาะแปะ’  เสียงฝนนั้นราวกับตกลงในหัวใจของเขา

 

 

           ความโหดร้ายของฉู่เจียเสวียนเหมือนใบมีดที่คมกริบ ฉีกหัวใจของเขาทีละน้อยๆ ปล่อยให้เขาเจ็บปวดปานหัวใจจะแยกออกจากกัน เขาทำได้เพียงเลียบากแผลของตัวเองเพียงลำพัง

 

 

           เขาแข็งแกร่งราวกับยอดมนุษย์ ตราบใดที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนเขาก็จะสามารถคิดหาวิธีจนได้ เขานึกว่าในชีวิตนี้จะไม่มีสิ่งที่เขาไม่อาจครอบครองได้เสียอีก

 

 

           แต่ว่าน่าขำที่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับความรัก ตอนนี้เขามอบความรักทั้งหมดให้กับฉู่เจียเสวียนแล้ว แต่ว่าเธอกลับปฏิเสธเขาและอยู่ห่างจากเขาเป็นพันไมล์ ทำให้เขาเป็นเหมือนผีผู้โดดเดี่ยว ไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และไม่มีความรู้สึกปลอดภัย

 

 

           ฉู่เจียเสวียน คุณคือโจนในชีวิตผม โจรที่ผมหนีไม่พ้น

 

 

           ขณะที่กำลังเหม่อลอยนั้น เสียงของผู้ช่วยก็ดังขึ้น “ท่านประธานครับ ครั้งนี้กะจะอยู่ที่อเมริกานานแค่ไหนครับ”

 

 

           บรรยากาศในรถเงียบมากจนน่ากลัว เขาแค่ต้องการพูดอะไรบางอย่างเพื่อผ่อนคลายสติของเขาที่ถูกกดดันจนตื่นเต้นและคิดอะไรไม่ออก

 

 

           “ไปฮาวาย” เผยหนานเจวี๋ยกะจะเที่ยวอยู่ในอเมริกา ผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อย

 

 

           เดิมทีเขากะว่าจะทำงานให้เสร็จแล้วกลับไปเร็วขึ้น แต่คิดว่าต่อให้กลับเมือง A แล้วยังไงเหรอ ฉู่เจียเสวียนก็ไม่อยากเจอเขา เขาก็ไม่สามารถทวงคืนความรักของฉู่เจียเสวียนที่มีต่อเขาได้ แบบนี้มันไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เช่นนั้นก็เที่ยวอเมริกาหลายวันสักหน่อยดีกว่า