ตอนที่ 550 ช่างพูด / ตอนที่ 551 โดนพิษไม่หนัก

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 550 ช่างพูด 

 

 

           จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกหิว ดังนั้นเขาจึงคิดจะไปหาอะไรกิน 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยพยายามออกมาจากห้องขังแห่งความคิด หัวใจของเขาผูกติดอยู่กับฉู่เจียเสวียนแล้ว เขาไม่มีใจให้คนอื่นแล้ว หนทางที่ดีที่สุดคือการไม่เข้าใกล้ ถ้าไม่เข้าใกล้ก็จะไม่เจ็บปวด 

 

 

           การท่องเที่ยวคนเดียวนั้นน่าเบื่อมาก เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนที่นั่ง สีหน้าเย็นชา การแสดงออกที่เยือกเย็นของเขา ทำให้ผู้หญิงพวกนั้นที่ต้องการเข้ามาใกล้เขาถอยห่าง 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยหันมองนอกหน้าต่างด้วยอารมณ์ว้าวุ่น ราวกับรุ้งเจ็ดสีที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ได้ออกมาจากเมือง A ที่นี่มีอากาศที่บริสุทธิ์และผู้คนก็อัธยาศัยดี แต่ว่าเขากลับขาดคนรักของเขาอยู่ข้างกาย  

 

 

           ฉู่เจียเสวียน ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ 

 

 

           ที่เมือง A ฉู่เจียเสวียนกำลังนั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือ สองมือเท้าคาง เธอนั่งอยู่ในท่านี้นานแล้ว 

 

 

           ระยะหลังมานี้เวลาที่อยู่คนเดียว ดูเหมือนเธอจะคิดมากเป็นพิเศษ บางทีก็กำลังคิดว่ากงจวิ้นฉือกำลังทำอะไรอยู่ เขาคงไม่คิดมากเหมือนเธอสินะ? 

 

 

           บางทีเธอก็จะคิดว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังทำอะไรอยู่ เวลาที่คิดถึงเผยหนานเจวี๋ย เธอก็จะสลัดความคิดในสมองทิ้ง 

 

 

           เธอก็เหมือนกับผู้หญิงที่กำลังบำเพ็ญตบะ ตัดขาดความคิดทั้งหมดที่เกี่ยวกับเผยหนานเจวี๋ยทิ้ง 

 

 

           ไม่รักเผยหนานเจวี๋ยอีกต่อไป เธอไม่สามารถให้สัญญากับเผยหนานเจวี๋ยได้อีก สำหรับกงจวิ้นฉือนั้น เธอเข้าใจอย่างชัดเจนว่าในใจของเธอไม่ได้รักกงจวิ้นฉือ 

 

 

           เพียงเพราะว่าเขาให้ความช่วยเหลือและความรักแก่เธอนับไม่ถ้วน สิ่งที่เธอสามารถตอบแทนเขาได้ก็มีแต่ตัวเธอเอง 

 

 

           ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไปแล้ว ฤดูหนาวกำลังย่างเข้ามา ไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าอุบัติเหตุกับพรุ่งนี้อันไหนจะมาก่อนกัน ดูภายนอกสงบนิ่ง แต่จริงๆ แล้วมันกำลังถูกซ่อนเอาไว้ 

 

 

           กลางคืนยิ่งล้ำลึก ฉู่เจียเสวียนนวดคลึงขมับด้วยความอ่อนล้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้ 

 

 

           ท้องฟ้านอกหน้าต่างมืดแล้ว เข็มนาฬิกาก็ชี้ไปที่เวลาเที่ยงคืน ถึงเวลานอนแล้ว 

 

 

           สายลมเย็นพัดผ่านนอกหน้าต่าง นำความสดชื่นมาสู่ค่ำคืนที่มืดมิด 

 

 

           เช้าวันต่อมา แสงยามรุ่งอรุณปรากฏขึ้น อากาศสดชื่นแจ่มใส 

 

 

           ขนตายาวของฉู่เจียเสวียนขยับ จากนั้นดวงตาที่สดใสดุจไข่มุกก็เปิดขึ้น บิดขี้เกียจ จากนั้นก็เปิดผ้าห่มแล้วลงจากเตียง 

 

 

           หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว สวมชุทสูทแฮนเมดสีขาวดำ เธอดูฉลาดและสดชื่น ลมหายใจที่เป็นผู้ใหญ่แต่แฝงความอ่อนเยาว์แผ่ออกมาจากร่างกาย เธอยกริมฝีปากยิ้มให้กับตัวเองในกระจก แล้วหันหลังลงชั้นล่าง 

 

 

           ที่ชั้นล่าง ซูซานทำอาหารเช้าเสร็จแล้วเหมือนทุกครั้ง 

 

 

           “แม่ อรุณสวัสดิ์ค่ะ” มองดูซูซานที่กำลังยุ่งกับอาหารเช้า ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเรียกอย่างอ่อนหวาน 

 

 

           “อรุณสวัสดิ์จ้ะ” ซูซานเงยหน้า มองฉู่เจียเสวียนแล้วยิ้มกว้าง 

 

 

           เธอเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร มองดูของว่างที่ซูซานทำแล้วลงมือกินอย่างไม่ลังเล “อร่อยค่ะแม่ ฝีมือของแม่ดีอีกแล้ว” 

 

 

           “ลูกน่ะช่างพูดจริงๆ” นั่งลงที่ตำแหน่งตรงข้ามฉู่เจียเสวียน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกวาดตามองฉู่เจียเสวียน 

 

 

           เวลาสำหรับอาหารเช้าอันน่ารื่นรมย์ผ่านไปแล้ว ฉู่เจียเสวียนกินอย่างอิ่มหนำสำราญ 

 

 

           หลังอาหารเช้าเธอก็ขับรถตรงไปที่ร้านชุดแต่งงาน 

 

 

           ช่วงนี้เธอไม่ได้ไปที่บริษัทกง และใช้เวลาส่วนใหญ่ในร้านชุดแต่งงาน 

 

 

           จอดรถแล้วเดินตรงไปที่ร้านชุดแต่งงาน 

 

 

           “พี่เจียเสวียน…” 

 

 

           “พี่เจียเสวียน อรุณสวัสดิ์…” 

 

 

           “อรุณสวัสดิ์…” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเข้าประตูร้านชุดแต่งงาน พนักงานเห็นเธอก็กล่าวทักทายเธอทีละคน เธอตอบกลับอย่างมีมารยาท 

 

 

           เดินเข้าออฟฟิศ ยังไม่เห็นเงาของถังถังตามคาด 

 

 

           ช่วงนี้เมื่อเธอถึงที่บริษัทก็เป็นเวลาสิบโมงแล้ว เธอส่ายหน้า วางกระเป๋าลง นั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ แล้บหยิบไฟล์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาอ่าน 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 551 โดนพิษไม่หนัก 

 

 

           “ที่รัก อรุณสวัสดิ์” ฉู่เจียเสวียนมาถึงออฟฟิศยังไม่ถึงห้านาที ถังถังก็มาถึงแล้ว พร้อมทักทายฉู่เจียเสวียนด้วยอารมณ์ที่สดใสเป็นอย่างยิ่ง 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้น มองดูถังถังในชุดแดงก็ยิ้ม “ฉันว่า ช่วงนี้เธอดูเหมือนชอบใส่เสื้อผ้าสีแดงจังเลยนะ” 

 

 

           ทุกวันนี้ ถังถังมักแต่งกายด้วยชุดสีแดง แต่เสื้อผ้าสีแดงทุกชุดแตกต่างกัน และชุดสีแดงทุกชุดมีสไตล์ที่แตกต่างกัน 

 

 

           เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใส่สีแดงบ่อยขนาดนี้ 

 

 

           ริมฝีปากของถังถังยกยิ้ม วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ เดินมาหยุดอยู่ข้างเธอ มองเธอพร้อมเอ่ยปาก “สวยไหม” 

 

 

           พูดจบก็ตั้งใจหมุนให้ฉู่เจียเสวียนดูรอบหนึ่ง 

 

 

           เสื้อผ้าเหล่านี้ออกแบบโดยถังถังเอง เสื้อผ้าที่สวมใส่โดยฉู่เจียเสวียนและถังถังล้วนได้รับการออกแบบด้วยตัวเองทั้งสิ้น แต่ละชุดล้วนทำด้วยมือ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเธออย่างพิจารณา ชุดสีแดงของเธอในวันนี้ ขอบเสื้อนั้นติดไปถึงคอ กางเกงท่อนล่างนั้นผ่าตรงบริเวณน่อง ส่วนเอวก็ออกแบบไว้ดีมาก เปิดเผยเอวและขาของเธออย่างงดงาม ทำให้เอวของเธอดูบางมาก 

 

 

           เสื้อแขนกุด นอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมสีแดงเล็กๆ ทำให้บุคลิกของถังถังสง่างามมาก 

 

 

           “สวย” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า พร้อมพูดตรงประเด็น เสื้อชุดนี้ที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดูดีมากจริงๆ ดูเย่อหยิ่งและมีสไตล์ดุจราชินี 

 

 

           แม้ว่าถังถังจะดูสไตล์ดุจราชินีอยู่แล้ว แต่ว่าเธอที่เป็นแบบนี้ดูมีอำนาจมาก 

 

 

           “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเป็นดีไซเนอร์จะไม่สวยได้ยังไง!” ถังถังเชิดคางอย่างภูมิใจ สีหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ 

 

 

           “แต่ว่า เธอใส่สีแดงมาทั้งอาทิตย์แล้ว ทำไมเหรอ เลียนแบบซีรี่ย์เรื่อง ‘เพียงใจในเพลงพิณ’ เหรอ ใส่สีแดงทั้งตัว?” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยแซว แววตาเปื้อนรอยยิ้ม 

 

 

           ทันใดนั้นเธอจำได้ว่ามีซีรีย์ทางทีวีที่ดังมากๆ เมื่อไม่นานมานี้ นางเอกในซีรี่ย์เรื่องนั้นชอบใส่เสื้อผ้าสีแดงเป็นพิเศษ 

 

 

           ถังถังแววตายินดี เอาหน้ามาใกล้ฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนตกใจ หลบไปด้านหลังโดยสัญชาตญาณ คิ้วขมวดกัน ไม่เข้าใจรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ 

 

 

           “เธอทำอะไรน่ะ” มองดูถังถังที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย 

 

 

           “ฉันเพิ่งดูซีรี่ย์เรื่องนี้ ก็เลยชอบสีแดงมากขนาดนั้น เธอไม่เห็นเหรอว่านางเอกใส่สีแดงทั้งตัวแล้วสวยมากเลย แล้วก็นะ คนที่ชอบเธอก็เยอะมากด้วย…” ถังถังกอดไหล่ของฉู่เจียเสวียน ดวงตาเต็มไปด้วยความเพ้อฝัน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะมองค้อน ส่ายหน้า ทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าถังถังมีด้านที่แตกต่างเช่นนี้ด้วย 

 

 

           จากนั้นเธอก็พูดด้วยความไม่พอใจ “ซีรี่ย์เรื่องนั้นไม่สมจริง” 

 

 

           “เชอะ เธอจะไปเข้าใจอะไร? เธอไม่รู้หรอกว่าอิ๋นเสวี่ยในซีรี่ย์ทำให้ฉันหลงแค่ไหน ผู้ชายที่มากความสามารถ เมื่อไรฉันจะมีผู้ชายที่ดีกับฉันแบบนี้บ้าง” นึกถึงอิ๋นเสวี่ยในซีรี่ย์ ท่าทางที่สง่างาม แววตาที่อ่อนโยน ถังถังรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นช้าจนน่ากลัว 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า “เธอน่ะ โดนพิษไม่หนักจริงๆ เธอ…” 

 

 

           ในระหว่างที่คุยกัน โทรศัพท์มือถือของฉู่เจียเสวียนดังขึ้นขัดจังหวะเสียงพูดคุยทั้งสองคน 

 

 

           “ฉันรับสายก่อน” เธอหยิบโทรศัพท์มือถือพลางพูด ขณะที่เธอเห็นสายเรียกเข้าในโทรศัพท์มือถืออย่างชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนจึงจางลง 

 

 

           เงยหน้ามองถังถัง แววตาของถังถังมีความสงสัย ฉู่เจียเสวียนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น “ฮัลโหล คุณย่า” 

 

 

           “เจียเสวียนเอ๋ย คืนนี้มีเวลามากินข้าวไหม” เสียงแหลมสูงดังขึ้นในโทรศัพท์มือถือ