Sign in Buddha’s palm 303 ทุบตี
หลังจากที่ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพีทั้งเจ็ดใช้ทักษะโจมตีผสานเพื่อสร้างพลังที่เกินขีดจํากัดไม่เพียงแต่พวกเขาจะล้มเหลวในการสั่งหารซูฉินเท่านั้นแต่ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย
นี่คือสิ่งที่ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทุกคนในที่แห่งนี้คาดไม่ถึง
การโจมตีของพวกเขาทรงพลังในระดับที่แตะขอบประตูของขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วแม้ว่าซูฉินจะรอดตายมาได้โดยบังเอิญ แต่ก็ควรจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจะดูเป็นปกติเช่นนี้ได้อย่างไร?
“ไม่ถูกต้อง”
“เขาแตกต่างไปจากเดิมแล้ว”
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมองซูฉินด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ในขณะนี้ แม้ว่ารูปลักษณ์โดยพื้นฐานของซูฉินจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่ก็มีความแตกต่างในจุดเล็กๆหลายจุดนอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่แสนละเอียดอ่อนนี้ทําให้ความรู้สึกที่ได้รับจากฉินนั้นเปลี่ยนไปหมดเปลี่ยนทั้งร่างของซูฉินให้เหมือนกับดวงตะวันลุกโชนโชติช่วงด้วยเพลิงผ ลาญอนันตกาล
โดยเฉพาะในส่วนลึกของดวงตาซูฉินภาพลวงตารูปดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ทําให้เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางรู้สึกเหมือนกับอยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์ที่แท้จริง
แต่สิ่งนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรเล่า?
ดวงอาทิตย์อยู่สูงขึ้นไปเหนือน่านฟ้าเหนือท้องฟ้าทั้งหมดแม้แต่ในยุคเฟื่องฟูของกระแสปราณฉีผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดยังไม่สามารถข้ามผ่านชั้นบรรยากาศออกไปได้และไม่เคยแม้แต่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์
ขณะเดียวกันกับที่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดกําลังตกตะลึงและสงสัยใคร่รู้ไอพลังของซูฉินก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขอบเขต เกือบ ทุกตารางนิ้วในอากาศเต็มไปด้วยพลังที่แสนน่ากลัวเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางและคนอื่นๆแทบหายใจไม่ออก
“รอต่อไปไม่ได้แล้ว”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนแทบจะสติหลุดแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับซูฉินในตอนนี้แต่สิ่งที่เขารู้คือตอนนี้ต้องป้องกันไม่ให้ซูฉินพัฒนาไอพลังของเขาต่อไปได้
ไม่เช่นนั้น ซูฉันอาจจะไม่จําเป็นต้องทําอะไรเลยแค่ปล่อยเวลาไปสักครึ่งชั่วโมง เมื่อผลของทักษะโจมตีรูปแบบผสานสิ้นสุดลงพวกเขาจะไม่อาจต้านทานได้
“ม่านฟ้ามืดทมิฬ!!!”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนยกมือขวาขึ้นมา
ทันใดนั้นความมืดมิดก็ปกคลุมไปทั่ว ม่านฟ้ามีดทมิฬเป็นทักษะลับของนิกายเฮยหยวนซึ่งเป็นอํานาจบางอย่างที่ได้มาจากรูปแบบฝันร้ายด้วย ความแข็งแกร่งของปฐมบรรพชนเมื่อม่านฟ้ามีดทมิฬปรากฏขึ้นแม้จะเป็นครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็ไม่อาจต่อต้านต้องสูญสลายไป ทันตา
สุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของปฐมบรรพชนกมาถึงขอบธรณีประตูของขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วด้วยทักษะโจมตีผสานที่ทําให้พลังเพิ่มขึ้น ทุกกระบวนท่าก็เพียงพอจะเขย่าโลกบดขยี้ทุก
“งั้นๆ”
ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง ในตอนนี้เขาได้เข้าสู่สภาวะร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําแล้วภายใต้พลังรับรู้ที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมออกไปทั่วนี้ทุกสิ่งบนโลกย่อมเห็นชัดเจนในสายตาของเขา
ซูฉินเหยียดมือออกไปจับม่านฟ้ามืดทมิฬอย่างสบายๆจากนั้นจึงค่อยๆ ดึงมันออกไปทั้งสองด้าน
“ฉีก!!”
เป็นเหมือนกับเสียงของอากาศที่ถูกฉีกขาดออกจากกันทันใดนั้นม่านฟ้ามืดทมิฬก็ถูกฉีกออกเป็นสองชิ้นด้วยมือเปล่าราวกับผ้าผืนหนึ่งในสายตาคนนอกมันเหมือนกับอากาศทั้งหมดถูกฉีกแยกออกจากกันด้วยน้ํามือของซูฉิน ทําให้หัว ใจของผู้คนต้องหวาดหวั่นตกตะลึง
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนถูกพลังตึกลับพ่นเลือดออกมาเป็นฝอย แต่เมื่อเทียบกับ ฉากสยองขวัญตรงหน้าแล้วอาการบาดเจ็บทางกายก็ไม่นับเป็นอะไรเลย
ปฐมบรรพชนมองม่านฟ้ามืดทมิฬที่ถูกฉีกขาดและพังทลายลงในใจของเขาพลันรู้สึกเย็นวาบและไม่อยากจะเชื่อ
ม่านฟ้ามืดทมิฬนั้นไร้ลักษณ์ยากจับต้องแม้ว่าจะเป็นพลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ไม่สามารถดักจับมันไว้ได้แต่ตอนนี้มันกลับถูกฉีกออกด้วยน้ํามือของซูฉินหากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเองปฐมบรรพชนคงจะไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้ตนเองจะอยู่ในเหตุการณ์ก็ตาม
“หมื่นสายฟ้า ฉุดกระชาก!”
เมื่อปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนตกอยู่ในความรู้สึกหวาดกลัว อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นตามมาบรรพชนสายฟ้าที่ดูระมัดระวังตัวก็เปล่งวาจาออก มาจากปากเขาด้วยความยากลําบาก
เกิดการปะทะกันที่เบื้องบน
ก้อนเมฆระเบิดคําราม
เห็นกระแสไฟฟ้านับหมื่นพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าเหมือนมังกรคะนองแล้วพุ่งฟาดลงมาใส่ซูฉิน
พันสายฟ้าฉุดกระชากเป็นทักษะลับต้องห้ามของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า และหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากก็เป็นทักษะที่เซียนเทพปฐพี่เท่านั้นที่ใช้ออกได้
บรรพชนสายฟ้าใช้ประโยชน์จากทักษะโจมตีผสานสัมผัสได้ว่าตนแตะบานประตูขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วจึงฝืนใช้กระบวนท่านี้ออกมาไม่เช่นนั้น หากไม่มีทักษะโจมตีผสานเกรงว่าในยามที่บรรพชนสายฟ้าเรียกใช้หมื่นสายฟ้าฉุดกระชากร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดของเขาคงถูกสายฟ้าขนาดใหญ่ฉีกออกเป็นชิ้นๆไปแล้ว
แต่การจ่ายราคามหาศาลของบรรพชนสายฟ้าเพื่อปล่อยหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากอํานาจที่ได้มาก็สามารถทําลายล้างผืนแผ่นดินได้โดยแท้จริงหากไม่ได้อยู่บนท้องฟ้าหลายพันลี้อาจจะเปลี่ยนรัศมีหลายร้อยล้ําบนพื้นโลกให้กลายเป็นซากสุสานเลยก็เป็นได้
ครืน
สายฟ้านับหมื่นส่งเสียงคํารามก้องพร้อมกันฟ้าดินกลายเป็นดั่งทะเลสายฟ้า
“ดูซิว่าเขาจะเผชิญหน้ากับพลังสายฟ้าทําลายล้างนี้อย่างไร?”
เมื่อเห็นฉากนี้เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็จ้องไปที่ใจกลางทะเลสายฟ้าในทันที แม้ว่าซูฉินจะ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้วยการฉีกม่านฟ้ามืดทมิฬด้วยมือเปล่าแต่หมื่นสายฟ้าฉุดกระชากที่ชักนําโดยบรรพชนสายฟ้านั้นน่ากลัวจริงๆ
“แม้แต่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีที่เผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ก็ต้องล่าถอยออกไปใช่หรือไม่?” บรรพชนหิมะพึมพํากับตนเอง
ถึงเซียนเทพปฐพีจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่โง่จะเอาตัวเข้ารับพลังสายฟ้าได้อย่างไร? มีหลากหลายวิธีที่ตัวตนขอบเขตเชียนเทพปฐพี่จะหลบเลี่ยง ทะเลสายฟ้า
อย่างไรก็ตาม
ช่วงเวลาต่อมา
ท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของทุกคน
ทะเลสายฟ้าค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมันถูกดูดกลืนด้วยเหวนรกอย่างต่อเนื่อง จากนั้นสักครู่ หลังจากสายฟ้าสายสุดท้ายเข้าไปใน ร่างของซูฉิน ความสามารถทั้งหมดก็ค่อยๆ ถูกกระตุ้น
“เหลยสิ่งไม่ได้บอกหรือว่าสายฟ้านั้นไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า?” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อยเมื่อหลายสิบปีก่อนซูฉินได้อาบทะเลสายฟ้าด้วย ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้ามาแล้วแล้วตอนนี้เล่า?
หากจะกล่าวถึงร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําซูฉินสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีธาตุไฟส่วนใหญ่บนโลกได้ด้วยซ้ํายกเว้นแต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า สายฟ้าธรรมดาไม่สามารถคุกคามซูฉินได้
“โอ”
“ใช่สิ”
“เหลยสิ่งนั้นตายไปแล้ว แน่นอนว่าคงจะไปบอกเจ้าไม่ได้”ซูฉินดูเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ในทันทีรอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าแล้วมองไปทางบรรพชนสายฟ้าก่อนจะพูดต่อไป“ตอนนี้ถึงตาเจ้าแล้ว”
เสียงที่เปล่งออกมายังไม่ทันจบ
ร่างของซูฉินก็หายไป
“ไม่ดีแล้ว!!”
ร่างของบรรพชนสายฟ้าถอยกลับทันทีใบหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาคิดว่าหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากที่ต้องจ่ายราคามหาศาลในการปลดปล่อยออกมาปรามารถปราบซูฉินได้แต่คู่ต่อสู้กลับกลืนมันจนหมดไม่เพียงแต่ปราบปรามไม่ได้ แต่ยังช่วยเสริมพลังให้กับอีกฝ่ายด้วย?
หวิ่ง!!!
ชั่วพริบตา!
ร่างของซูฉินก็ได้มาปรากฏอยู่หน้าบรรพชนสายฟ้าในระยะสิบเมตร
ระยะทางสิบเมตรแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถข้ามมาด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียวนับประสาอะไรกับผู้แข็งแกร่งที่อยู่รวมกันตรงนี้?
“จบแล้ว”
บรรพชนสายฟ้าที่ได้เห็นฉากนี้ก็เหมือนตัวเองตกลงไปในก้นเหว
ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในยามนี้ไม่ว่าบรรพชนสายฟ้าจะมั่นใจแค่ไหน ก็คงไม่คิดว่าตัวเขาจะสามารถหยุดซูฉินได้หรอกใช่ไหม?
แม้ว่าเขาจะได้รับผลจากทักษะโจมตีผสานทําให้อาการบาดเจ็บจะถูกส่งไปยังอีกหกคนที่เหลือด้วยแต่อย่างไรเสียเขาอาจจะต้องรับภาระอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาการบาดเจ็บ
ขณะที่ฝ่ามือของซูฉันกําลังจะเข้ามา บรรพชนสายฟ้าก็หลับตาลงรอคอยความตายที่กําลังจะมาถึง
ชายสวมชุดคลุมผู้วิเศษพลันมายืนอยู่หน้าบรรพชนสายฟ้าในทันใดร่างของเขาพุ่งทะยานเข้ามา
เมื่อเห็นดังนี้ บรรพชนสายฟ้าก็หนีไปทันทีมองมาที่ซูฉินราวกับตนเองพ้นอันตรายแล้ว
“กายแห่งธรรมชาติ?”
ซูฉินเหลือบมองเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางรอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
มันคือเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางที่เข้ามาขวางฝ่ามือเอาไว้ ในตอนนี้ชุดคลุมผู้วิเศษของเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆไปตั้งนานแล้ว เหลือเพียงปราณเลือดในร่างที่ผันผวนราวกับเกลียวคลื่น แสดงพลังของร่างกายแห่งธรรมชาติที่มีเฉพาะเพียงขอบเขตเชียนเทพปฐพีเท่านั้น
“สํานักผู้วิเศษของข้าเชี่ยวชาญด้านการขัดเกลาร่างกายเมื่อหลายพันปีก่อนข้าได้ใช้โอสถที่ สํานักผู้วิเศษทิ้งไว้เพื่อก้าวเข้าสู่กายแห่งธรรมชาติกึ่งหนึ่งและตอนนี้มันก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเพราะทักษะโจมตีผสานร่างกายก็เริ่มเข้าสู่กายแห่งธรรมชาติแล้วแต่เมื่อเทียบกับสหายเต่แล้วดูจะไม่มีค่าควรแก่การพูดถึง….”
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางดูสงบกล่าวออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
ในบรรดานิกายใหญ่มากมายในต่างแดนบ้างก็เก่งในเชิงดาบบ้างเชี่ยวชาญทักษะมีดบ้างก็เชี่ยวชาญวิถีสายฟ้าบางแห่งก็เก่งในเรื่องปรุงก ลั่นโอสถ แต่สํานักผู้วิเศษเก่งกาจในการขัดเกลาร่างกาย
“โอ้?”
“ถ้าเจ้าใช้พลังอย่างเต็มที่มันก็น่าจะใช้ได้ไม่นานใช่ไหมเล่า?” ซูฉินส่ายศีรษะอย่างไม่ใส่ใจ
หากพลังชีวิตของเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางมีเพียงพอก็คงไม่มีปัญหาในการกระตุ้นปราณเลือดเช่นนี้ เหมือนอย่างซูฉินที่สามารถลงมือเต็มที่ ด้วยพละกําลังทั้งหมด
ทว่าเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางหลับใหลมานานนับพันปีและอายุขัยก็เหลือไม่มากนักปราณชีวิตและเลือดเนื้อก็ลดลงไปมากในช่วงพันปีนี้ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องใช้ปราณเลือดอย่างเต็มที่แม้จะเป็นการใช้ร่วมกับทักษะโจมตีผสานก็เท่ากับเป็นการมองหาความตาย
“ถ้าข้าไม่ลงมือ และรอให้สหายเต่สังหารบรรพชนสายฟ้าจนทักษะโจมตีผสานพังทลายลงข้าก็ต้องตายอยู่ดี”
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางพูดเบาๆ
ครึ่งก้าวเข้าสู่เซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดไม่สามารถต้านทานซูฉินได้เลยแม้จะใช้ทักษะโจมตีผสานแล้วหากพวกเขาหลุดออกจากทักษะโจมตี ผสาน ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินผลลัพธ์คงจะเป็นการตายในทันที
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอให้ข้าได้เห็นร่างกายจากสํานักผู้วิเศษของเจ้าหน่อยเถอะ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉินเขาก้าวไปข้างหน้าโผล่ออกไปชกใส่เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางตรงๆ
ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนสายฟ้าหรือปฐมบรรพชนนิกายเฮยหยวนพวกเขาทั้งหมดต่างโจมตีซูฉินจากระยะไกล
เป็นสาเหตุให้ซูฉินหงุดหงิดเล็กน้อย แม้การโจมตีระยะไกลเหล่านี้จะไม่สามารถโจมตีเขาได้แต่จะทําให้เขามีความสุขเท่ากับการต่อสู้ระยะประชิดได้อย่างไร?
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางจึงทําได้เพียงกัดฟันเข้าต่อสู้
ตึง ตึง ตึง!!!
ชั่วครู่เดียว เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิงถ้าไม่ใช่เพราะทักษะลับของสํานักผู้วิเศษควบคู่ไปกับทักษะโจมตีผสานเพื่อกระจาย ผลจากพลังของซูฉินเกรงว่าเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางคงถูกกําจัดในทันที
“ข้าจะลงมือขัดขวาง”
เมื่อเห็นฉากนี้ บรรพชนหิมะและคนอื่นๆ ก็ลงมือทันที
บรรพชนหิมะเรียกแรงระเบิดน้ําแข็งออกมาเพื่อลดอุณหภูมิรอบตัวในระยะสิบลี้พยายามจํากัดความเร็วของซูฉิน
จ้าวโอสถสํานักเทพโอสถหยิบเม็ดยาสีดําออกมาขว้างไปยังตําแหน่งของซูฉิน แล้วกระซิบคํา“ระเบิดออก”
ทันใดนั้นควันพิษที่น่าสะพรึงกลัวก็แพร่ออกมาพิษนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อหนัง แต่ส่งผลต่อจิตวิญญาณแรกกําเนิด
สํานักเทพโอสถเป็นนิกายใหญ่ที่เชี่ยวชาญได้การปรุงกลั่นมีความสามารถในการกลั่นโอสถจิตวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนที่ทั้งช่วยในการฝึกฝนและช่วยเหลือชีวิตได้ นอกจากนั้นยังปรุงแต่งยาพิษที่ใช้สังหารมนุษย์ได้ด้วยอย่างไรก็ตาม
น่าเสียดายยิ่ง
การโจมตีทุกวิถีทางของเหล่าครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งหกนั้น เมื่ออยู่ห่างจากซูฉินร้อยจ้างทั้งหมดก็สลายหายไปที่ละนิดและเมื่อมันไปถึงร่างของซูฉินจริงๆพลังก็ไม่เหลือแล้วกลายเป็นเพียงอากาศธาตุภายใต้พลังของปราณเลือดอันยิ่งใหญ่
“ถึงใจจริงๆ!”
ซูฉินต่อสู้กับเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมาง
ท่วงท่าของซูฉินนั้นเรียบง่ายมากออกหมัดออกเท้าไม่มีความพลิกแพลงใดๆแม้แต่น้อยแต่ก็มีกลิ่นอายบรรพกาลไหลออกมาจางๆแม้ว่าเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางจะใช้กายแห่งธรรมชาติและทักษะโจมตีผสานร่วมกับครึ่งก้าวเข้าสู่เซียนเทพปฐพี่อีกหกคน แต่เขาก็ค่อยๆเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ
กายแห่งธรรมชาตินั้นทรงพลัง แต่ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินนั้นอยู่เหนือกายแห่งธรรมชาติธรรมดาๆ ไปแล้วเพียงอาศัยร่างศักดิ์สิทธิ์อีกา ทองคําก็เทียบเคียงได้กับเซียนเทพปฐพี่คนหนึ่งกายแห่งธรรมชาติธรรมดาๆ จะมาเทียบเคียงได้อย่างไร?
ในที่สุด
ซูฉินก็ปล่อยหมัดออกไป พร้อมกับสายตาที่สิ้นหวังของเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมาง หมัดทะลุหน้าอกยิงตรงยาวออกไปยังผืนฟ้าเบื้องหลัง
เพียงหนึ่งหมัด
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็ตกตาย!