บทที่ 245 ข้าต้องการเป็นจักรพรรดิของโลกทั้งใบ

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 245 ข้าต้องการเป็นจักรพรรดิของโลกทั้งใบ[ฟรี]

มี่ตั้วตั้วในเวลานี้ได้มาเยือนคฤหาสน์สราญรมย์ภายใต้การคุ้มครองของเหล่าอสูรทมิฬและโม่จู่

รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจฉาบอยู่บนใบหน้าของเขา

เขาเคยคิดว่าความร่ำรวยเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว

แต่ต่อมาหลิงตู้ฉิงได้ชี้ให้เขาเห็นถนนสายใหม่ที่สูงกว่าซึ่งนำไปสู่สวรรค์ และตอนนี้เขาเข้ามาใกล้เป้าหมายนั้นอีกก้าว เขาได้กลายเป็นราชวงศ์ไปเรียบร้อยแล้ว

จากการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กับโม่จู่ เป้าหมายของมี่ตั้วตั้วในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ ‘ทวีปเทียนหยวน’ อีกแล้ว สำหรับเขาพื้นที่เล็ก ๆ ที่เรียกว่า ‘ทวีป’ นี้ไม่เพียงพอสำหรับเขาอีกต่อไป

กลับมาที่การถูกเรียกให้เข้าพบในครั้งนี้ หากเป็นราชวงศ์อื่น ๆ ในทวีปนี้ที่เป็นผู้เรียกให้เขาไปพบ เขาคงจะไม่มีทางใส่ใจและตอบปฏิเสธไปอย่างทันที

แต่ตอนนี้ราชวงศ์ที่เรียกให้เขาเข้าพบกลับเป็นราชวงศ์ที่เขามีสายสัมพันธ์เกี่ยวดองอย่างแน่นแฟ้น และหัวเรือใหญ่ของราชวงศ์นี้ก็คือ หลิงตู้ฉิง ผู้มหัศจรรย์ที่สามารถนับได้ว่าในอาณาเขตทะเลชางหมางเขาคือผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดไปเรียบร้อยแล้ว มี่ตั้วตั้วรู้สึกพึงพอใจมากที่ถูกเรียกพบอย่างรวดเร็วเช่นนี้

แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงตามหาเขา

เมื่อมาถึงคฤหาสน์สราญรมย์ เขาก็รู้ว่าไม่ใช่หลิงตู้ฉิงที่เรียกตามหาเขา แต่เป็นลูกชายของหลิงตู้ฉิงต่างหากที่เรียกเขามา

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่าเป็นหลิงยี่เทียนเรียกเขามา เขาก็ไม่ได้ดูถูกสติปัญญาของเด็กผู้นี้ เพราะข้อความที่ส่งมาได้ระบุนามของผู้ส่งอย่างชัดเจนว่ามาจากหลิงยี่เทียนผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดิอาณาจักรจันทรา

“ยี่เทียน ข้าจะทำอะไรให้เจ้าได้บ้าง?” มี่ตั้วตั้วถามด้วยรอยยิ้ม จากความสัมพันธ์ของมี่ไลกับหลิงตู้ฉิง มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะเรียกชื่อของหลิงยี่เทียนโดยตรง และที่สำคัญเด็กที่นั่งตรงหน้าเขาตอนนี้ยังไม่ได้เข้าพิธีขึ้นครองราชสมบัติอย่างเป็นทางการ

หลิงยี่เทียนหัวเราะ “เหตุผลที่ข้าเรียกท่านตามี่มา นั่นก็เพราะข้าต้องการทำข้อตกลงกับท่าน”

“ข้อตกลงแบบไหน?” มี่ตั้วตั้วถามขึ้น

หลิงยี่เทียนหัวเราะ “ข้าอยากจะขอให้ท่านตามี่ขายโอสถกำเนิดรากฐานให้ข้าในราคาที่ถูกกว่านี้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ในอนาคตหอการค้าของตามี่จะได้รับการยกเว้นภาษีสองในสิบส่วนจากอาณาจักรของข้า”

มี่ตั้วตั้วหัวเราะ “นี่เจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่าโอสถกำเนิดรากฐานนี้ เป็นข้าที่ได้รับมาจากพ่อของเจ้า ดังนั้นถ้าหากเจ้าต้องการมัน และถ้าเป็นในจำนวนที่ไม่มากจนเกินไป ข้าจะให้เจ้าเปล่า ๆ เลย”

หลิงยี่เทียนส่ายหัว “แต่ท่านตามี่ ข้าต้องการมันเยอะมาก! เป้าหมายของข้าคือ ข้าจะทำให้คนในอาณาจักรจันทราสามารถบ่มเพาะให้ได้จำนวนเยอะให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือถ้าเป็นไปได้ข้าก็หวังให้ทุกคนบ่มเพาะได้หมดเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นด้วยจำนวนมากขนาดนี้ขืนข้าเอาโอสถมาจากท่านเปล่า ๆ มีหวังท่านคงต้องอกแตกตายแน่นอนจริงไหม?”

“และท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ที่จะทำให้ท่านขาดรายได้ เนื่องจากข้าจะให้เวลาท่านได้จำหน่ายโอสถกำเนิดรากฐานในราคาเต็มกับบุคคลอื่น ๆ ไปก่อนเป็นเวลา 10 ปี แล้วจากนั้นข้าถึงจะปล่อยโอสถรากฐานที่ข้ามีทั้งหมดออกให้ประชาชนทั่วไปได้กินมันเพื่อทำให้พวกเขาทุกคนสามารถบ่มเพาะได้ ข้าต้องการเห็นประชาชนของข้าทุกคนกลายเป็นผู้บ่มเพาะ! ดังนั้นถ้าท่านต้องการทำกำไรท่านควรเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนี้ได้แล้ว!”

มี่ตั้วตั้วเลิกคิ้วและหัวเราะ “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้หอการค้าของข้าได้กระจายออกไปตามเกาะอื่น ๆ จนทั่วแล้วเพื่อขายโอสถกำเนิดรากฐาน และข้าก็ได้กำไรมามากพอสมควรแล้วล่ะ ฉะนั้นแม้ว่าเจ้าจะแจกโอสถในตอนนี้ มันก็ไม่ส่งผลกระทบกับข้ามากนัก”

“ไม่ได้หรอก เพราะไม่ว่าจะยังไงพ่อของข้าก็มอบโอสถกำเนิดรากฐานไว้ให้ท่านทำกำไรไปแล้ว ดังนั้นข้าจะยึดตามแผนเดิมคือให้เวลาท่านได้ขายไปก่อนอีก 10 ปี!” หลิงยี่เทียนหัวเราะ “นอกจากนี้ข้าอยากจะร่วมมือกับท่านตามี่ให้ท่านช่วยข้ารวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับอาณาจักรอื่น ๆ ในขณะที่ท่านขยายหอการค้า”

“และยังมีอีกอย่าง ท่านตามี่สามารถส่งคนของท่านมาฝึกกับคนของข้าได้ด้วย ตอนนี้เหล่าเจ้าสำนักรวมไปถึงบรรพบุรุษของสำนักในทะเลชางหมางสำนักต่าง ๆ ส่วนใหญ่พวกเขาได้เข้ามาเป็นข้ารับใช้ของข้าเรียบร้อย”

“ข้าจะให้พวกเขาสอนทักษะวิชาของสำนักพวกเขาให้กับทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และข้ายังจะให้พวกเขานำผู้เชี่ยวชาญในสำนักของพวกเขามาที่อาณาจักรจันทราในฐานะผู้สอนอีกด้วย”

นี่เป็นการตัดสินใจของหลิงยี่เทียนหลังจากการสนทนากับหลิงว่านจุน เนื่องจากพวกเขาทั้งสองต้องการพลังปราณของมังกรจักรพรรดิและพลังแห่งความเชื่อมั่นจากเหล่าพสกนิกร ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องขยายความแข็งแกร่งของอาณาจักรอย่างรวดเร็วในทุก ๆ วิธีที่จะทำได้

และเมื่อบรรดาผู้คนจากสำนักต่างทวีปมาถึงที่อาณาจักร ในเวลานั้นความแข็งแกร่งที่พวกเขาสั่งสมไว้ในมือ พวกเขาจะมีพลังพอที่จะรวมทะเลชางหมางได้แล้ว

มี่ตั้วตั้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงถามว่า “เจ้าบอกได้ไหมว่าเป้าหมายของพวกเจ้าคืออะไร?”

ที่เขาถามเช่นนี้ก็เพราะมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะพัฒนาหอการค้าในพี้นที่ทะเลชางหมาง ถ้าเขายอมร่วมมือกับหลิงยี่เทียนแบบนี้

เนื่องจากหอการค้าของเขาจะถูกกีดกันทางการค้าจากอาณาจักรอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากสำหรับการพัฒนาหอการค้า

ดังนั้นเขาต้องรู้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของหลิงยี่เทียนคืออะไร ท้ายที่สุดแล้วการรวมทะเลชางหมาง ทำไปเพื่อเล่นสนุกหรือเปล่า? หรือมีความคิดอื่น ๆ ที่ทะเยอทะยานมากกว่านี้?

“เป้าหมายของข้าคือการเป็นจักรพรรดิของโลกทั้งใบ!” หลิงยี่เทียนพูดอย่างภาคภูมิ “ไม่เพียงแค่ทะเลชางหมาง แต่รวมถึงดินแดนของมนุษย์ทั้งหมด ซึ่งข้าจะทำให้มันเป็นดินแดนของอาณาจักรจันทรา”

ที่เขาต้องทะเยอทะยานเช่นนี้นั่นก็เพราะนี่คือเส้นทางการบ่มเพาะของเขา หลิงยี่เทียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้น

ดวงตาของมี่ตั้วตั้วสว่างวาบขึ้นและเขาก็หัวเราะ “โลกทั้งใบงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นข้อเสนอของเจ้าเมื่อครู่มันนับรวมกับทุก ๆ ที่ที่เจ้าปกครองเลยใช่ไหม? ตราบใดที่ข้าอยู่ในอาณาจักรของเจ้า ภาษีของข้าจะถูกยกเว้นสองในสิบใช่ไหม?”

“ตราบใดที่ท่านตามี่เต็มใจช่วยข้า ข้าย่อมทำตามสัญญา” หลิงยี่เทียนหัวเราะ “และอีกอย่างท่านอย่าลืมไปสิว่ายังไงเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน!”

“ถ้างั้นก็เป็นอันตกลง!” มี่ตั้วตั้วพยักหน้า “เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าคงจะต้องขออวยพรให้องค์จักรพรรดิมีอายุยิ่งยืนนานเป็นหมื่น ๆ ปี ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ท่านตามี่ล้อข้าเล่นแล้ว ว่าแต่ เราจะคำนวณราคาของโอสถกำเนิดรากฐานนี้อย่างไร?” หลิงยี่เทียนถาม

มี่ตั้วตั้วยิ้มและพูดว่า “โอสถกำเนิดรากฐาน 1 เม็ด คิดต้นทุนในส่วนผสมของยาต้องใช้เงินมากที่สุดถึงพันเหรียญทอง และปัจจุบันมีคนที่สามารถหลอมมันได้เพียงไม่กี่คน ซึ่งก็คือหวงอี้เฟยและศิษย์ของเขาเท่านั้น”

“สำหรับปริมาณของโอสถกำเนิดรากฐานที่ข้าได้สะสมจากการผลิตในปีที่ผ่านมาก็มีมากกว่าแสนเม็ดในตอนนี้ ส่วนที่เคยผลิตออกไปก่อนหน้า ซึ่งเป็นจำนวนมากแล้วพวกนั้นข้าได้ทำการแพร่กระจายส่งพวกมันไปยังที่อื่น ๆ เรียบร้อย ฉะนั้นถ้าเจ้าสามารถส่งนักหลอมโอสถมาช่วยหลอมโอสถนี้กับอาจารย์หวงยี่เฟย ข้าจะเรียกราคาเจ้าเพียงแค่เม็ดละ 1,000 เหรียญทองเท่านั้นก็พอ”

หลิงยี่เทียนพยักหน้าและพูดว่า “ไม่มีปัญหา ส่วนโอสถที่ท่านเก็บไว้ 100,000 เม็ดข้าจะขอรับมันเอาไว้ก่อน นอกจากนี้ข้าจะส่งผู้อาวุโสสูงสุด จือหมิงฮ่าว จากสวนร้อยพฤกษาไปที่กระทรวงโอสถเพื่อคัดเลือกศิษย์ไปฝึกกับคนของท่าน”

หลังจากพูดคุยกันจบ หลิงยี่เทียนได้มอบเหรียญทองให้กับมี่ตั้วตั้ว และมี่ตั้วตั้วก็มอบโอสถกำเนิดรากฐานให้กับเขา 100,000 เม็ด

หลิงยี่เทียนนั้นครอบครองแหวนมิติจากผู้เชี่ยวชาญมากมาย ทรัพยากรที่เขาสะสมไว้นั้นมีค่ามากกว่าในคลังของอาณาจักรหลายเท่า ดังนั้นมี่ตั้วตั้วจึงไม่ลังเลที่จะรับมัน

หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ระดับการบ่มเพาะของมี่ตั้วตั้วก็เพิ่มขึ้นทันที จนไปถึงขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 10 ต่อหน้าเด็กทั้งสองที่ยืนดูด้วยความมึนงง

การฝึกฝนจนถึงขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 10 ในเวลาไม่กี่ปี ความเร็วในการบ่มเพาะเช่นนี้นี้ถือเป็นความเร็วของอัจฉริยะที่อยู่ในระดับสูงสุด

มี่ตั้วตั้วมีความสุขมากและกลับไปจัดการวางแผนที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต

สำหรับหลิงยี่เทียนและหลิงว่านจุนที่ได้เห็นภาพการเลื่อนระดับเช่นนี้ เด็กทั้งสองก็ประหลาดใจมาก

พวกเขาพึมพำกันเองว่า “วิธีบ่มเพาะของตามี่ช่างน่าประหลาดจริง ๆ!”

“เขาคงก็เหมือนพวกเราล่ะมั้ง แค่คงจะมีวิธีที่ต่างกันไป”

ทั้งสองต่างก็มีวิธีการบ่มเพาะที่ผิดปกติเช่นกัน และพวกเขาก็รู้ดีว่าเมื่อพวกเขาเริ่มบ่มเพาะได้อย่างจริงจัง พวกเขาจะไม่ช้าไปกว่าท่านตามี่ของพวกเขา

ตอนนี้พวกเขายังคงหารือเกี่ยวกับแผนการในอนาคต อย่างไรก็ตามเป้าหมายของพวกเขาไปไกลกว่าอาณาจักรจันทราแล้ว

หลังจากสนทนากันสักพัก หลิงยี่เทียนก็ถอนหายใจ “ลืมไปเถอะ เราไม่รู้ว่ามีเกาะทั้งหมดกี่เกาะในทะเลชางหมางและไม่รู้ว่ามีสำนักและอาณาจักรอีกกี่แห่ง ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อ ตอนที่เรามีข้อมูลทั้งหมดนี้อยู่ในมือแล้ว”