บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 678

เธอรู้สึกงุนงงว่าทำไมคนที่สูญเสียความทรงจำไปหมดอย่างเมเดลีน ถึงกระโดดเข้าไปช่วยชีวิตเจเรมี่แบบนั้น

‘เธอคงจะไม่ได้ทำสิ่งนั้นลงไปตามอารมณ์ใช่ไหม ถ้าลึก ๆ แล้วเธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหนกันล่ะ?’

เฟลิซิตี้คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ดังนั้นเธอจึงรออยู่ตรงประตูทางเข้าโรงพยาบาล หลังจากผ่านไปนาน เจเรมี่และเมเดลีนยังไม่ออกมาเลย

เฟลิซิตี้เดินวนไปวนมาขณะที่รอ หลังจากหมดความอดทน เธอจึงนั่งตัดต่อคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายไว้

แต่เดิม เธอต้องการแค่ถ่ายรูปเมเดลีนและเจเรมี่ที่พบหน้ากับสองต่อสองให้เฟลิเป้ดู แต่เธอนึกบางอย่างออกมาได้

เธอตัดต่อวิดีโอให้เหมือนกับว่าเมดลีนและเจเรมี่กำลังทะเลาะกับอยู่ริมถนนก่อนที่เมเดลีนจะหันหลังเดินจากไป จากนั้น เธอตัดต่อให้เจเรมี่วิ่งไล่ตามเธอไปและเกือบจะโดนรถชน ฉากต่อไปที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือฉากเลือดท่วมบนถนน

ในที่สุด เธอเขียนคำบรรยายใต้คลิปวิดีโอว่า แฟนสาวไร้จิตสำนึกและแฟนหนุ่มตาบอดของเธอกำลังทะเลาะกันอยู่ริมถนน ก่อนที่แฟนหนุ่มของเธอจะกระโดดออกไปให้โดนรถชนตาย

เฟลิซิตี้โพสต์คลิปวิดีโอลงบนโลกโซเชียลโดยใช้บัญชีที่ใช้แล้วทิ้งและจ่ายเงินให้คลิปนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่ว ไม่นานคลิปวิดีโอนี้ก็กระจายไปทั่ว

มีหลายคนในโลกโซเชียลก่นด่าเธอหลังจากที่ดูคลิปวิดีโอจบ

เมื่อหญิงสาวเห็นชายหนุ่มตาบอดสุดหล่อถูกรถชน พวกเธอทั้งหมดก็รู้สึกขมขื่นและเสียใจกับผู้ชายคนนั้นมาก พวกเธอคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าเมเดลีนต้องเกลียดเขามากแน่ ๆ เพราะว่าเขาตาบอดและนี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเลิกกับเขาตรงริมถนน

เจเรมี่ถูกรถชนและตายในท้ายที่สุด เพราะว่าเขาอยากจะอยู่กับเธอ

เฟลิซิตี้รู้สึกดีเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่ามีหลากหลายข้อความที่ก่นด่าเมเดลีนไหลทะลักมาเรื่อย ๆ

เมื่อเมเดลีนมาตรวจร่างกายเป็นเพื่อนเจเรมี่ เธอจึงรู้ว่าแขนของเขาได้รับบาดเจ็บหนัก

ดูเหมือนว่าตอนที่พวกเขาอยู่ใต้ท้องรถบรรทุก เขาต้องทำให้มั่นใจว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากโครงสร้างรถบรรทุก และเขาป้องกันหัวเธอเอาไว้ ดังนั้นเขาถึงได้รับบาดเจ็บเสียเอง

ตอนที่พวกเขาออกมาจากโรงพยาบาล ก็รุ่งสางแล้ว

เมเดลีนเรียกแท็กซี่และพาเจเรมี่กลับไปยังวิลล่า

ตอนแรกเธอต้องการที่จะตรงกลับบ้านของเธอทันที แต่เมื่อเห็นว่าเจเรมี่ไม่สามารถเดินได้ปกติ เมเดลีนจึงเดินลงมาช่วยพยุงเขาเข้าบ้าน

ตอนนั้น ทั้งนายท่านอาวุโสวิทแมนและพ่อแม่ของเจเรมี่หลับอยู่

เมเดลีนช่วยพยุงเจเรมี่ขึ้นมาที่ห้องนอน ก่อนที่จะหันหลังกลับลงไป เธอเห็นอัลบั้มรูปแต่งงานบนเตียง และสมุดไดอารี่ที่ดูคุ้นตา เธอหยุดฝีเท้าเอาไว้

เธอหยิบสมุดไดอารี่เล่มนั้นขึ้น และพลิกดูไปสองสามหน้า เธอนึกขึ้นมาได้ว่านี่เป็นสมุดไดอารี่ของเธอเมื่อสองสามปีที่แล้ว

ภายใน เธอเขียนความหลงใหลที่มีต่อเจเรมี่ลงไป แต่ความรักของเธอลดน้อยลงทุกที และเขาก็คอยแต่จะเหยียบย่ำมันให้จมดิน

ในท้ายที่สุด เธอลงเอยว่า [ขอให้ชาติหน้าฉันไม่เจอหน้าเขาอีก]

เจเรมี่รู้ว่าเมเดลีนยังไม่เดินออกไป แต่อยู่ดี ๆ เธอก็หยุดเดิน มันทำให้เขากังวลมาก

“ลินนี่ ลินนี่ครับ?”

ปัก!

เมเดลีนขว้างไดอารี่เล่มนั้นทิ้งลงไปตรงชั้นวางข้างเตียงนอนด้วยความโกรธเกรี้ยวในดวงตา

“ลินนี่?” เจเรมี่เอาแต่เรียกชื่อเธอไม่หยุด แต่เมเดลีนหันหลังและเดินออกไป

ตอนที่เกิดออกมาจากบ้าน เธอยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนอันมืดมิดและรู้เหมือนคนหลงทาง เธอสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่

เธอจะทำผิดพลาดซ้ำสองอีกแล้วเหรอ?

เธอกำลังจะมีใจให้กับผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เธอเจ็บช้ำมาก ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำของเธอยังไม่กลับมาแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?

‘ไม่ ไม่มีทาง’

เมเดลีนปฏิเสธว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเขาทั้งนั้น เธอเพียงไม่ต้องการติดค้างอะไรกับเขาอีก

นั่นคือเหตุผลเดียวเท่านั้น

หลังจากที่เมเดลีนออกไป เจเรมี่เดินไปหยิบไดอารี่ขึ้นมาและเข้าใจว่าทำไมอยู่ดี ๆ เมดลีนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและเดินจากไป

เขาสัมผัสไดอารี่ราวกับว่ากำลังลูบไล้ใบหน้าของเดมลีนอยู่ และยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข

เมเดลีนกลับไปถึงคฤหาสน์มอนต์โกเมอรี เธอไอและล้มตัวลงนอนบนเตียง เมื่อรู้สึกหลับลึกขึ้นเรื่อย ๆ เธอพลันได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น

เธอลืมตาขึ้นด้วยความไม่พอใจและพบว่ามันเช้าแล้ว

“เอวลีน เอวลีน ลูกตื่นรึยัง?” น้ำเสียงของเอโลอิสฟังดูแตกตื่น

เมเดลีนลุกออกจากเตียงและเดินไปเปิดประตู “มีอะไรคะ? เกิดอะไรขึ้น?”