ตอนที่ 408 อย่าหึงสุ่มสี่สุ่มห้า / ตอนที่ 409 รีบไปโรงพยาบาล

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 408 อย่าหึงสุ่มสี่สุ่มห้า

 

 

           เจียงมู่เฉินออกมาจากโรงแรม ก็ขับรถมุ่งหน้าไปหาซือเหยี่ยนทันที

 

 

           ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ในห้องทำงาน ได้ยินเสียงกระแทกดัง เจียงมู่เฉินผลักประตูเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดันกระฟัดกระเฟียด

 

 

           เขาเงยหน้ามองเจียงมู่เฉินเลิกคิ้วเบาๆ

 

 

           เจียงมู่เฉินเดินผ่านประตูเข้ามา ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็เอ่ยปากขึ้นทันที “แม่ฉันให้ฉันหมั้นกับจี้ฉิง”

 

 

           รูม่านตาซือเหยี่ยนหดเกร็งในพริบตา แต่พอคิดว่าเวลานี้เขาเผ่นมาหาตัวเองที่นี่ได้ การหมั้นก็คงจะไม่ได้เกิดขึ้นจริง

 

 

           ด้วยเหตุนี้ซือเหยี่ยนจึงกดเก็บความตื่นตระหนกในใจนี้ลงไป มองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่งด้วยท่าทีเรียบเฉย “อืม”

 

 

           เพียงชั่วครู่เดียวเจียงมู่เฉินก็ระเบิดลงแล้ว

 

 

           ‘ท่าทีแบบนี้ของซือเหยี่ยนนี่มันอะไรกัน เขาเกือบจะต้องหมั้นกับผู้หญิงแล้ว เจ้าหมอนี่ยังนิ่งเฉยอยู่ได้’

 

 

           ‘แม่งเอ๊ย!’

 

 

           ‘จะรอให้เขาไปแต่งงานกับคนอื่นแล้ว ถึงจะมีปฏิกิริยาตอบสนองใช่ไหม’

 

 

           เจียงมู่เฉินหัวร้อนจนไม่ไหว เขาพุ่งตัวไปอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยน “นายแม่งหมายความว่าไง”

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “นั่นมันแฟนสาวของคุณ ผมจะหมายความว่าไงได้ล่ะ”

 

 

           ‘เจียงมู่เฉินแอบสวมเขาให้ตัวเอง เขายังไม่ได้คิดบัญชีนี้กับเจียงมู่เฉินเลยนะ’

 

 

           หาแฟนเป็นผู้หญิงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ยังต้องหมั้นกันอีก

 

 

           เจียงมู่เฉินเดือดแล้วจริงๆ ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของซือเหยี่ยนตกลงแล้วหมายความว่าไงกันแน่ เขาทนไม่ไหวเอื้อมมือไปกระชากคอเสื้อของซือเหยี่ยน “นายแม่งบอกฉันมาเคลียร์ๆ เลย ตกลงแล้วนายหมายความว่าไงกันแน่”

 

 

           ซือเหยี่ยนเองก็ไม่ดึงมือเขาออก ปล่อยให้เขายื้อตัวเองไว้อยู่อย่างนี้

 

 

           ดวงตาคู่นี้ของเจียงมู่เฉินจ้องมองซือเหยี่ยนด้วยอารมณ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

 

           ซือเหยี่ยนตีสีหน้าสงบนิ่งปล่อยให้เขามอง

 

 

           “นายแม่งโกรธแล้วใช่ไหม” เจียงมู่เฉินถามอีก “ตอนนั้นนายจะเลิกกับฉันให้ได้ ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ยอมตกลงจะเลิกกับนาย ยังชื่นใจเป็นพิเศษ แม้แต่จะมายุ่มย่ามกับนายก็ไม่มี…

 

 

           …อะไรกัน นายเป็นคนถีบหัวส่งฉันเอง ยังไม่ยอมให้ฉันหาแฟนเป็นผู้หญิงอีกเหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขาเงียบๆ

 

 

           เจียงมู่เฉินกำคือเสื้อซือเหยี่ยนไว้แน่น ราวกับจะบีบคอเสื้อเขาให้แหลกคามือภายในไม่กี่นาทีนี้

 

 

           “นายกับซูเตอร์จับมือถือแขนกัน กอดกัน ร่วมความเป็นความตายกันมา ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลย ฉันกับจี้ฉิงร้อยวันพันปีก็แค่จูงมือกัน เทียบกับนายแล้ว ของฉันแค่นิดเดียวเอง”

 

 

           “หึ” ซือเหยี่ยนทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ “คุณก็แค่จูงมือกัน อะไรก็ยังไม่ได้ทำจะไปหมั้นหมายกันแล้ว ถ้าเกิดทำอะไรลงไป ไม่ใช่ว่าจะแต่งงานกันเลยเหรอ”

 

 

           แค่คิดว่าเจียงมู่เฉินเจ้าหมอนี่จะกล้าไปหมั้นกับคนอื่นโดยไม่คาดคิด ซือเหยี่ยนก็อยากจะกักขังเจียงมู่เฉินไว้ในบ้านแล้ว

 

 

           จะได้ไม่ทำให้เขาไม่สบายใจ วันๆ ออกไปก่อเรื่องก่อราววุ่นวาย

 

 

           “คุณชายไม่ได้ยอมตกลง โอเคไหม”

 

 

           “หึ” ซือเหยี่ยนทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ “นั่นเป็นแฟนสาวที่ถูกทำนองคลองธรรมของคุณ ยอมตกลงหรือไม่จะแตกต่างอะไร”

 

 

           พูดถึงตรงนี้ ซือเหยี่ยนยิ่งรู้สึกหัวร้อน

 

 

           เขาเป็นตัวจริงของเจียงมู่เฉินอยู่ทนโท่ ตอนนี้กลับยิ่งทำเป็นเหมือนต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่มีผิด

 

 

           ไม่เพียงแต่ต้องจ้องมองชื่อ ‘จี้ฉิง’ แฟนสาวที่ออกหน้าออกตา เดินเข้าบ้านเจียงมู่เฉินอย่างเปิดเผยเท่านั้น ตอนนี้ยังหารือเรื่องหมั้นหมายกันอย่างเปิดเผยอีก

 

 

           เปิดเผยขนาดนี้ ประธานซือรู้สึกเหมือนว่ากินแมลงวันเข้าไปอย่างหน้าชื่นอกตรม

 

 

           เจียงมู่เฉินจ้องมองใบหน้าแสนเย็นชาของซือเหยี่ยน ก็โมโหจนขบกรามแน่น สะบัดมือออกอย่างรุนแรง “คุณชายคร้านจะไร้สาระกับนายแล้ว”

 

 

           พูดจบก็สะบัดมือเดินออกไปข้างนอก

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเขาโมโหจนกระฟัดกระเฟียดออกไป ก็ไม่ได้ร้อนใจอะไร

 

 

           เขามองมือถือแวบหนึ่งด้วยความเอ้อระเหยลอยชาย ยังดูหน้าจอไม่ถึงห้านาที ประตูห้องทำงานก็โดนผลักเข้ามาอีกครั้ง

 

 

           มีเสียงกระแทกดังอึกทึกโครมครามอีกครั้ง

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้วด้วยท่าทีเรียบเฉย ระหว่างนั้นเจียงมู่เฉินเดินเข้ามาถึงทางเข้าอีกครั้ง ราวกับลมพายุพุ่งมาอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยน ยื่นมือไปกระชากคอเสื้อของซือเหยี่ยนมาอย่างรุนแรง

 

 

           “ฉันบอกกับแม่ฉันชัดเจนแล้ว…

 

 

           …ดังนั้น นายแม่งอย่าหึงสุ่มสี่สุ่มห้าขี้อิจฉาเลย”

 

 

           

 

 

       ตอนที่ 409 รีบไปโรงพยาบาล

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองเกินเยียวยาแล้วจริงๆ เขาปฏิเสธเรื่องหมั้นกับจี้ฉิงต่อหน้าผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูล ทั้งยังสารภาพเรื่องความสัมพันธ์ของจี้ฉิงด้วย

 

 

           ถึงขั้นไม่เสียดายที่ทำให้แม่เขาโกรธ

 

 

           เขาทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อซือเหยี่ยนเจ้าคนระยำคนนี้

 

 

           เพื่อเขาแล้ว แม้แต่หน้าตัวเองก็ไม่รักษาไว้แล้ว แต่เขากลับทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วยังมาพูดจาทำให้เขาโมโหอีก

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินคำพูดเหล่านั้นของเขา รอยยิ้มก็ประกายในแววตา

 

 

           ถึงแม้สีหน้าเจียงมู่เฉินจะเดือดดาล เขาก็ไม่เร่งรีบมาง้อเจ้าตัว แต่กลับเชิดมุมปากมองเจียงมู่เฉิน แล้วขานรับด้วยท่าทีเรียบเฉย

 

 

           “รับทราบแล้ว”

 

 

           ‘เจียงมู่เฉินตะลึงงัน เขาไม่รักษาหน้า กลับมาที่นี่ ก็ได้ยินเขาพูดแค่สามคำนี้เหรอ’

 

 

           “นายแม่งนอกจากมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ ยังมีแบบอื่นบ้างอยู่อีกไหม”

 

 

           ดวงตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนประกายความลึกล้ำ จู่ๆ เขาก็หรี่ตาลง พลิกมือมาจับเจียงมู่เฉินกดลงไป แล้วประกบปากจูบเขาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

 

 

           เจียงมู่เฉินคิดไม่ถึงว่าเขาจะจูบตัวเองกะทันหัน ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาในทันที

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเขาทำหน้างงงัน ก็กัดเขาด้วยความติดตลก

 

 

           เมื่อเจียงมู่เฉินเห็นเขาแอบยิ้ม ก็เข้าใจได้ในพริบตา เจ้าหมอนี่วางกับดักเขาแล้ว

 

 

           “นายแม่งเล่นแง่กับฉันอีกแล้วนะ” เจียงมู่เฉินโมโหแล้ว เมื่อครู่นี้เขาคิดจริงๆ ว่าซือเหยี่ยนโกรธเขาแล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความขบขัน “อะไรกัน เล่นแง่กับคุณไม่ได้เหรอ”

 

 

           “ถ้าต่อไปนายเล่นแง่กับฉันอีก เชื่อไหมว่าคุณชายอย่างฉันจะแตกหักกับนายจริงๆ”

 

 

           ซือเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความขบขัน “อะไรกัน คุณจะแตกหักกับผมได้ลงคอเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินสีหน้าเดือดดาลทันที เจ้าหมอนี่รู้ว่าตัวเองไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา ดังนั้นถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้

 

 

           ‘แม่งเอ๊ย เขาจะอกแตกตายแล้วจริงๆ’

 

 

           “นายไปให้พ้น ออกห่างจากฉันเลย” เจียงมู่เฉินส่งมือไปผลักเขาออก

 

 

           ซือเหยี่ยนกดเขาไว้เตรียมจะเข้าไปกดจูบซ้ำ ผลปรากฏว่ามือถือที่วางอยู่ข้างๆ ดังขึ้นมากะทันหัน

 

 

           ซือเหยี่ยนหันข้าง ก็เห็นมือถือของตัวเองแสดงเบอร์แปลกขึ้นมา

 

 

           เขาไม่แม้แต่จะคิดดูก่อน ตัดสินใจจะไม่รับสายแล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้เจ้าหมอนี่ผละออกไปได้ โทรศัพท์ก็มาได้จังหวะพอดี เขาฉวยโอกาสใช้เท้าถีบอีกฝ่ายออกไป “รับสายสิ”

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ เวลานี้ถึงเพิ่งจะไปรับสาย

 

 

           เขายื่นมือไปกดรับสาย ก็ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นมา

 

 

           “ซือเหยี่ยน ซือเหยี่ยนใช่ไหม”

 

 

           “คุณเป็นใคร” ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วในทันใด เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองรู้จักคนคนคนนี้

 

 

           “ฉันจี้ฉิงเอง…” เธอพูดประโยคนี้จบก็หยุดไปสักพัก

 

 

           ซือเหยี่ยนเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิด “หาผมมีธุระอะไร”

 

 

           เขาไม่รู้ว่าตัวเองกับแฟนสาวในนามของเจียงมู่เฉินจะมีความสัมพันธ์อะไรอย่างอื่นได้

 

 

           “เจียงมู่เฉินอยู่กับคุณใช่ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “อืม”

 

 

           จี้ฉิงได้ยินคำนี้ก็โล่งใจในพริบตา “คุณรีบให้เขามาโรงพยาบาลที คุณน้าเป็นลมกะทันหัน”

 

 

           ทันทีที่ได้ยินว่าคุณแม่เจียงเป็นลม สีหน้าซือเหยี่ยนก็เคร่งเครียดบ้างแล้ว เขามองเจียงมู่เฉินที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “อยู่ที่ไหน”

 

 

           “โรงพยาบาลรัฐแห่งแรกของถานโจว”

 

 

           หลังจากจี้ฉิงพูดประโยคนี้จบ ซือเหยี่ยนขานรับเสียงหนึ่ง ก็ตัดสายลงทันที

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นท่าทางร้อนรนของเขา ก็อดจะถามไม่ได้ “เป็นไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนคว้าตัวเขาเดินมุ่งหน้าออกไปข้างนอก เขาเดินไปพลางเอ่ยเสียงต่ำ “แม่คุณเกิดเรื่องเข้าโรงพยาบาล”

 

 

           เจียงมู่เฉินตกตะลึงในทันใด “นายว่าอะไรนะ”

 

 

           “รายละเอียดผมยังไม่ชัดเจน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พวกเราเข้าไปกันก่อนเถอะ”

 

 

           ในสายโทรศัพท์ ซือเหยี่ยนไม่ได้ถามอะไรมากมาย ถึงอย่างไรรอไปถึงโรงพยาบาลก็จะรู้ได้เองอยู่แล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนพาเจียงมู่เฉินออกจากบริษัท ทันทีหลังจากนั้นก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

 

 

           ตลอดทาง เจียงมู่เฉินค่อนข้างกระวนกระวายใจอย่างเห็นได้ชัด คำพูดที่เขาพูดอยู่ในห้องอาหารเมื่อครู่นี้ดูจะทำเกินไปมากทีเดียว คงจะไม่ใช่ว่าหลังจากแม่เขาได้ยินก็เป็นลมล้มพับไปเลยหรอกใช่ไหม