เมื่อเฉินเฉินมองขบวนรถที่กำลังออกไปจากเมือง เขากินข้าวเช้าอย่างช้าๆ ก่อนที่จะพาทุกคนไปยังที่จอดรถม้า

 

มันว่างเปล่าตอนนี้ เหลือเพียงแค่รถเกวียนสามคันที่อยู่ตรงมุมเท่านั้น ยามที่ให้อาหารม้านั้นต่างดูขยันขันแข็งกันมาก

 

“ไม่เลยเลยนี่ พวกเราควรจะให้ทิปกับพวกเขานะ!” เฉินเฉินชื่นชมออกมาจากระยะไกล

 

จางจีพูดเตือนเขามาด้วยความเขินอาย “พี่ พวกเราได้ใช้เงินไปกว่าหมื่นตำลึงเงินในหอลมใบไม้ผลิแล้วนะครับ พวกเราไม่มีเงินแล้ว”

 

“งั้นเหรอ?” เฉินเฉินหน้าตึง แต่เขาโบกมือทันที “ถ้าพวกเราใช้มันไปหมดแล้วก็ไม่เป็นไร เงินมันเป็นของที่ยุ่งยากสำหรับพวกเรา ผู้ฝึกตนอยู่แล้วละนะ”

 

หลังจากพูดเสร็จ เฉินเฉินเดินเข้าไปในรถเกวียนและค้นของอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะหยิบโสมออกมาโยนให้กับยาม

 

“ดูจากสีหน้าของเจ้าแล้ว มันเหมือนกับว่าเจ้ามีปัญหากับไตนะ นี่คือโสมมังกรไฟตะวันตก มันเป็นของขวัญสำหรับเจ้า”

 

“ข้าเหนื่อยกับการที่จะได้รับมันมาอยู่นะ แต่มันก็ไร้ประโยชน์สำหรับคนที่ยอดเยี่ยมอย่างข้าอยู่ดี เพราะข้าเป็นคนที่มีสุขภาพดี”

 

เฉินเฉินตั้งชื่อขึ้นมามั่วๆตรงนี้เลย แต่ยามก็รู้สึกขอบคุณอย่างมาก

 

เขามีปัญหาด้านไตจริงๆ ในตอนนี้เขาก็ได้รับรางวัลจากชนชั้นสูง ดังนั้นเขาจึงมีความสุขมาก เหมือนกับว่าเขาได้รับทิปที่เหมือนกับเงินยังไงยังงั้น

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถเกวียนสามคันได้ขับออกไป

 

ไปจากเมืองสายลมสีคราม แทนที่จะไปยังบนถนนที่กว้างขวางและถนนหลัก พวกเขาต่างเลือกที่จะไปบนเส้นทางเล็กๆแทน

 

เส้นทางนี้ได้ผ่านภูเขาและป่ามากมาย ซึ่งปกติแล้วมันต่างเต็มไปด้วยกองโจร

 

คนส่วนใหญ่ไม่มีทางที่จะเลือกเส้นทางนี้ แต่เฉินเฉินและกลุ่มของพวกเขาไม่ได้สนใจอะไรสักนิด

 

ตลอดทาง เฉินเฉินก็ลงจากรถเกวียนเป็นครั้งเป็นคราว ก่อนที่จะเดินไปเก็บของป่า

 

“รากดอกไม้ขนแกะพันปี +1”

 

“ผลไม้วิญญาณอสูร +10”

 

“แร่หินที่มีวิญญาณเหล็ก +1”

 

….

 

จางจีและคนอื่นต่างคุ้นเคยกับภาพแบบนี้ แต่อสูรจิ้งจอกกลับตกตะลึง

 

เจ้าเด็กนี่เป็นอสูรหมาหรือยังไงกัน? หรือเขาเป็นนักล่าสมบัติในตำนานที่แปลงเป็นมนุษย์กันแน่?

 

เมื่อเห็นเฉินเฉินถือผลไม้วิญญาณอสูร อสูรจิ้งจอกอดจะพูดขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าเด็กน้อย ถ้าพรสวรรค์ของเจ้าถูกล่วงรู้โดยผู้ฝึกตนชั้นยอด ข้าละกลัวว่าเจ้าจะถูกจับให้กลายเป็นนักล่าสมบัติแทนอีก”

 

เฉินเฉินบีบผลไม้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนที่จะเทน้ำของมันลงไปบนดอกไม้ “อืม ข้ามีเจ้าแล้วไง”

 

เมื่อได้ยินมัน จิ้งจอกอสูรงุนงง มันไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

 

“เมื่อถึงเวลาแบบนั้น ข้าก็จะบอกว่าเจ้ามีจมูกที่ยอดเยี่ยม หลังจากนั้นข้าก็จะมอบเจ้าไปให้อีกฝ่ายไง ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าก็ดูเหมือนอสูรหมามากกว่าข้าใช่ไหมละ?”

 

“ถ้าพวกเขาไม่เชื่อข้า ข้าก็จะบอกว่ามันต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวกับเจ้าของคนใหม่และเจ้ายังจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนอีกมากด้วย เห็นไหม? มันก็จะสมเหตุสมผลละ”

 

จิ้งจอกอสูรไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี

 

เจ้าเด็กนี่มันต้องการใช้ร่างกายของเธอทุกส่วนเลยหรือไงกัน?! เขากล้าพูดอย่างงี้ออกมาได้ยังไงกัน?

 

“ระบบ มันมีของงล้ำค่าที่อยู่ในระยะ 20 เมตรไหม?”

 

“มันมีแร่ทองอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 19 เมตร”

 

“ฉันขี้เกียจขุดทองแล้วนี่สิ”

 

….

 

เมื่อพวกเขาเดินทางข้ามภูเขาและป่าไม้ไป เฉินเฉินก็ได้รวบรวมของไปเป็นจำนวนมาก เมื่อตอนกลางคืนมาถึง รถเกวียนทั้งสามคันต่างมีของเต็มขบวน

 

เฉินเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะใช้ของที่มีค่าน้อยเหล่านี้เอามาทำอาหาร

 

ถึงแม้ว่าอาหารเหล่านี้จะไม่อร่อยก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้มันนั้นทรงพลังมากพอที่จะทำให้ผู้คนในขบวนรถต่างกระปรี้กระเปร่า หลังจากที่กินพวกมันไป พวกเขาไม่จำเป็นต้องหลับนอนกันเลยสักนิด

 

พวกเขายังคงเดินทางไปตลอดทั้งคืน

 

 

หลังจากผ่านไปหลายวัน เมืองใหญ่ก็อยู่ในสายตาของพวกเขา

 

กำแพงเมืองนั้นสูงกว่าห้าสิบเมตรและยาวเกือบจะหนึ่งพันเมตร มันกว้างขวางจนตามองไม่ครบ มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะสร้างเมืองใหญ่แบบนี้โดยปราศจากเซียน

 

“นี่คือเมืองจี๋โจว ที่แห่งนี้น่าจะมีเซียนอยู่จำนวนมากเลย ข้าจะต้องซ่อนเจ้าเอาไว้ก่อนแล้วละ”

 

ในขณะที่พูดไปด้วย เฉินเฉินก็พันเจ้าอสูรจิ้งจอกไว้แน่น ก่อนที่จะโยนมันเข้าไปในรถเกวียน

 

เจ้าอสูรจิ้งจอกนั้นคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้แล้ว ไม่เพียงแค่มันจะเงียบ มันยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีอีกด้วย

 

หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง รถเกวียนสามคันได้คับเข้าไปในในประตูของเมืองจี๋โจว

 

เมื่อเป็นเมืองหลวงของรัฐแห่งนี้ จี๋โจวนั้นรุ่งเรืองยิ่งกว่าเมืองสายลมสีครามมาก นอกจากนี้แล้ว วันนี้ยังเป็นวันที่ 31 กรกฏาคมและวันพรุ่งนี้เป็นวันที่สำนักเทียนหยุนจะรับสมัครลูกศิษย์ ดังนั้นมันจึงมีคนมากมายอยู่ภายในเมือง

 

เมื่อเขาฟังคนอื่นพูดกัน ทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นต่างพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการรับลูกศิษย์ของสำนักเทียนหยุดกันทั้งนั้น

 

สำนักเทียนหยุนนั้นเป็นสำนักที่เป็นเจ้าเมืองปกคลองจี๋โจวและอิทธิพลภายในเมืองนั้นสูงส่งมาก

 

ในครั้งนี้ เฉินเฉินไม่ได้เลือกที่จะเข้าไปในร้านอาหารที่แพงที่สุดในจี๋โจว เขากลับสุ่มหาโรงเตี๊ยมสักแห่งและเข้าไปนั่งพัก เฉินเฉินและจางจีต่างนั่งพักกันในโรงเตี๊ยม

 

ถึงแม้ว่าจางจีได้รับเหรียญตรายืนยันตนมาจากสำนักเทียนหยุน เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสำนักเทียนหยุนนั้นเลือกลูกศิษย์ยังไง

 

ดังนั้นทั้งสองคนจึงต้องหาข้อมูลจากที่ที่วุ่นวายเช่นนี้

 

“มันเหมือนกับมีคนที่มาจากต่างเมืองมากกว่าปีก่อนอีกนะ!”

 

คนที่อยู่โต๊ะข้างๆเขาเริ่มพูดคุยกันขึ้นมา

 

“ไม่หรอก เหตุผลหลักมันเป็นเพราะสำนักเล็กๆของจี๋โจวสองสำนักถูกทำลายไปเมื่อปืที่แล้ว ทุกคนต่างมีตัวเลือกที่น้อยลง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะมีคนจำนวนมากขึ้น ยังไงก็ตาม เหมือนว่าปีนี้จะมีคนจำนวนมากที่ตายไปเลยนะ

 

“ใช่แล้ว มู่หลงหยุนหลานได้ถูกลอบโจมตีบนถนนเมื่อไม่กี่วันก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเซียนที่มากับเธอแล้ว เธอคงไม่มีทางมาถึงจี๋โจวได้หรอก พวกเขาต่างปกป้องเธอไว้ด้วยชีวิต”

 

เฉินเฉินแปลกใจเล็กน้อยกับเรื่องที่เขาได้ยิน

 

มันเหมือนกับว่าคุณหญิงมู่หลงได้ถูกโจมตีเข้าตามที่เขาคาดไว้ แต่เธอกลับมาถึงเมืองจี๋โจวอย่างปลอดภัย

 

แต่ถ้าเซียนที่ร่วมมือกับเธอต่อสู้จนตัวตาย แล้วกลุ่มคนที่ตามไปละ?

 

“ข้าได้ยินมาว่า เมื่อพวกเธอมาถึงยังจี๋โจว กลุ่มผู้ชายและผู้หญิงชั้นสูงที่ตามคุณหญิงมู่หลงได้ถูกโจมตีไปด้วย พวกเขาไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บและคนที่ดูมีคุณสมบัติที่ดีก็ถูกลักพาตัวไปยังสำนักอสูรแล้ว”

 

“นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงพูดกันว่าสาวงามนั้นเป็นตัวสร้างปัญหา ถ้าพวกเขาไม่ตามคุณหญิงมู่หลงไป พวกเขาอาจจะไม่พบเจอปัญหานี้ก็ได้”

 

เฉินเฉินไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรสักนิด หลังจากที่เขาได้ยินมัน

 

พวกคนที่ยกยอเธอกลับตายไปอย่างไร้ค่าอย่างงั้นเหรอ? ช่างน่าสงสารจริง!

 

“พี่ชาย พี่รู้ไหมว่าสำนักเทียนหยุนรับสมัครลูกศิษย์ยังไงกัน?”

 

จางจีไม่ต้องการได้ยินข่าวเกี่ยวกับคุณหญิงมู่หลงอีกแล้ว เขานั้นกังวลเกี่ยวกับว่าสำนักเทียนหยุนจะรับสมัครลูกศิษย์ยังไงมากกว่า

 

ในขณะที่เขามีเหรียญตราของสำนักเทียนหยุนแล้วและเขาสามารถเข้าไปในสำนักได้ทันที แต่เฉินเฉินนั้นไม่มี เขาเชื่อว่าคุณสมบัติของเฉินเฉินนั้นดีพอที่จะเข้าร่วมกับสำนัก แต่เขายังรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“โอ้ เมื่อเวลามาถึง ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนจะมาตรวจสอบความเหมาะสมในการฝึกตนของเจ้าเอง ถ้าเจ้าผ่านเกณฑ์แล้ว พวกเขาก็จะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ทันที”

 

“ถ้าเจ้าไม่ผ่านเกณฑ์ความต้องการ แต่ยังพอมีคุณสมบัติอยู่บ้าง เจ้าก็จะได้รับคำแนะนำไปยังสำนักที่เล็กกว่า”

 

“ถ้าเจ้าไม่มีอะไรเลยสักนิด ถ้าอย่างงั้นก็มีแต่การโบกมือลาแล้วละ”

 

จางจีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกกับสิ่งที่เขาได้ยิน กฎเหล่านี้มันธรรมดาและชัดเจนมาก ตราบเท่าที่ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนไม่ได้ตาบอด พวกเขาก็น่าจะเห็นว่าพี่ใหญ่ของเขามีพรสวรรค์ที่น่ามหัศจรรย์มาก

 

สำหรับว่าเฉินเฉินนั้นพิเศษตรงไหน จางจีไม่รู้ แต่ยังไงก็ตามพี่ใหญ่ของเขาก็ยังพิเศษมากอยู่ดี

 

“พี่ชาย พรุ่งนี้ท่านจะต้องดังมากในเมืองจี๋โจวแน่เลย”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว จางจีมองไปที่เฉินเฉินอย่างคาดหวัง สีหน้าของเขามีความสุขเหมือนกับว่าเขานั้นจะกลายเป็นคนดังแทนเสียนี่

 

 

Chapter 142: ไล่ล่า Chapter 141: อย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยัง อ่อนแอ Chapter 140: ก้าวสู่เมืองหลวงของรัฐจีน Chapter 139: หัวหน้าสาขาอาวุธผู้บ้าคลั่ง Chapter 138: แปรธาตุ Chapter 137 ความลับของสํานักอสูร Chapter 136 เป็นรองแค่คนๆเดียว Chapter 135 เข้ารับการทดสอบเป็นนายน้อยส่านัก Chapter 134 ฝันไปเถอะ Chapter 133 พักผ่อนให้สงบนะ ศิษย์พี่ Chapter 132 การเข้าใจผิดอีกครั้งหนึ่ง Chapter 131 ความแตกต่างของระดับลูกศิษย์ Chapter 130 ชายแก่ที่เกรี้ยวกราด Chapter 129 พลังที่แท้จริง Chapter 128 นี่แหละยา Chapter 127 แก่นเต๋าทองคำศักดิ์สิทธิ์ Chapter 126 หุ่นศพอสูรหยิน Chapter 125 พลังแห่งวิถีสำนักอสูร Chapter 124 ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ Chapter 123 หลอกลวงคนซื่อตรงอยู่บ่อยๆ Chapter 122 นี่คือนรกเหรอ Chapter 121 ร่วมมือครั้งแรก Chapter 120 เต่าดำทำลายการยับยั้ง Chapter 119 เป้าหมายคือจักรวาล Chapter 118 จะไม่หยุดจนกว่าจะจบ Chapter 117 การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้น Chapter 116 อาจารย์และลูกศิษย์ได้พบหน้ากัน Chapter 115 เจ้าต้องการกลับไปยังรัฐจิน Chapter 114 สามสิบหกสาขาของสำนักอสูร Chapter 113 ลูกศิษย์เพียงคนเดียว Chapter 112 เจ้าคือใครกัน Chapter 111 ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ Chapter 110 มีมรดกอยู่ทั่วทุกที่ Chapter 109 อะไรนะ มีสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอ Chapter 108 สำนักงานใหญ่สำนักอสูร Chapter 107 ร่างกายไร้เทียมทาน Chapter 106 ยอดฝีมือที่แท้จริงคืออะไร Chapter 105 ความโกลาหลครั้งใหญ่ในเมืองหลวง Chapter 104 ข้าแพ้ส่วนเจ้าตาย ความเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ Chapter 103 การปรากฏตัวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง Chapter 102 ผู้ฝึกตนชั้นยอดในรัฐจิน Chapter 101 การเนืองเลือดที่บ้านดอกไม้พระจันทร์ Chapter 100 ตายอย่างแน่นอน Chapter 99 ไม่ฆ่าบนสังเวียน Chapter 98 ทำให้เขาพิการซะ Chapter 97 เจ้าเป็นคนต่อไป Chapter 96 เสียหาย Chapter 95 เหมือนกับหักแขน Chapter 94 โอกาสในการรีดไถมาถึงแล้ว Chapter 93 พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่ Chapter 92 ถึงเวลาแก้แค้น Chapter 91 ไม่มีข้อยกเว้น Chapter 90 ทำไม่ได้ Chapter 89 มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรอ Chapter 88 กับดักมือเปล่า Chapter 87 วิชาที่เลือกมาเพื่อเอาชนะ Chapter 86 การพัฒนาการที่ก้าวกระโดด Chapter 85 ยินยอมที่จะเข้าร่วมกับสำนักอู๋ซิ่นไหม Chapter 84 อันดับของผู้สืบทอด Chapter 83 ข้าดูเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ย Chapter 82 มีเพียงคนหน้าด้านเท่านั้น Chapter 81 ทำไมถึงมีความแตกต่างกันมากระหว่างผู้คน Chapter 80 ใครก็ตามที่รับใช้ข้าจะเติบโต ส่วนคนที่ไม่ยอมจะรับใช้ข้าจะต้องตาย Chapter 79 ผู้สืบทอดพยัคฆ์ขาว Chapter 78 มีอะไรต้องกลัวด้วย Chapter 77 ทดสอบ Chapter 76 เรือยักษ์ที่ลอยเหนือฟากฟ้า Chapter 75 เดียวดาย Chapter 74 ท่านผู้สืบทอดเป็นคนดีจริงๆ Chapter 73 ปรับปรุงสำนักเทียนหยุน Chapter 72 ตรวจจับความโชคดี Chapter 71 ศิษย์เอ๋ย นี่สำหรับเจ้า Chapter 70 ฝากฝังเด็กคนนึง Chapter 69 นองเลือด Chapter 68 นี่มันยุ่งเหยิงกันชะมัด Chapter 67 ไปซะ ไปยกกระถางได้แล้ว Chapter 66 ผ่อนคลายมาก Chapter 65 พลังปราณกว่าหนึ่งร้อยล้านปี Chapter 64 การเป็นชายที่ยอดเยี่ยมก็สร้างปัญหาเหมือนกันนะ Chapter 63 ของพิเศษ Chapter 62 ค้นหาในภูเขาเทียนหยุน Chapter 61 เจ้ากำลังดึงดูดปัญหา Chapter 60 หัวหน้า เรามาคุยเรื่องนี้กันเองดีกว่า Chapter 59 หินวิญญาณ 8000 ก้อน ก้มหน้ารับกรรม Chapter 58 คุกคาม Chapter 57 สั่งให้มาสร้างปัญหา Chapter 56 สายลับของสำนักอู๋ซิน Chapter 55 ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ Chapter 54 วิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปี Chapter 53 ความเข้าใจผิดที่งดงาม Chapter 52 สำนักเทียนหยุนนี่มันช่างยอดเยี่ยม Chapter 51 นี่คือประเทศของข้า Chapter 50 เลื่อนระดับภายในเวลาครึ่งวัน Chapter 49 สำนักเทียนหยุน Chapter 48 ขอบคุณมาก อาจารย์ Chapter 47 แล้วเจ้าจะทำอะไรได้ Chapter 46 พายุกำลังก่อตัวขึ้น Chapter 45 ตื่นตระหนก Chapter 44 เจ้าคือใครกัน Chapter 43 มาถึงเมืองจี่โจว Chapter 42 ไล่ตามเส้นทางอื่น Chapter 41 ท่านหญิงมู่หลง Chapter 40 ใครสามารถอธิบายได้บ้าง Chapter 39 พล่ามตลอดเวลา Chapter 38 ขอร้องหล่ะ ฆ่าข้าเถอะ Chapter 37 ฝันไปเถอะ Chapter 36 โลกที่ชอบธรรม Chapter 35 หมดเวลาเล่นกับพวกเจ้าแล้ว Chapter 34 คิดซะว่าเป็นน้ำอมฤตหมดอายุ Chapter 33 การเดินทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและอันตราย Chapter 32 เจ้าผักบุ้งน้อย Chapter 31 เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปฝึกตน Chapter 30 ข้าตามใจมากเกินจนทำให้เขาบาดเจ็บขา Chapter 29 ต้องการที่จะทำตัวเรื่อยเปื่อยและเสียเวลาไปเรื่อยงั้นเหรอ ไม่มีทางเสียละ Chapter 28 น้ำอมฤตลมปราณและหินลมปราณ Chapter 27 ห้องลับ Chapter 26 ท่านรู้ไหมว่าสาวงามนั้นเป็นสิ่งอันตราย Chapter 25 ก่อนหน้านี้เจ้าสาบานอะไรออกมากันนะ Chapter 24 ข้าคือพี่ใหญ่ของจางจี Chapter 23 ไร้สมอง Chapter 22 สัญญาณแก้วแตก Chapter 21 ให้เสี่ยวหยาแต่งงานกับเขา Chapter 20 ทำลายตระกูลหวัง Chapter 19 มาถึงตระกูลหวัง Chapter 18 โปรดรับความเคารพจากข้าด้วย Chapter 17 มีสุสาน Chapter 16 ผลกรรมย้อนเข้าหาตัวเอง Chapter 15 เจ้ามีสิทธิรึไง Chapter 14 เปิดเผยเจตนาที่แท้จริง Chapter 13 ขี้วัวเป็นเหตุถึงแก่ความตาย Chapter 12 ข้าเจอเซียน Chapter 11 โคตรซวย Chapter 10 ไปที่ว่าการกับข้า Chapter 9 สมบัติโลก Chapter 8 เดี๋ยวก่อนพวก Chapter 7 ซุปปลาคาร์ฟ เสิร์ฟพร้อมเห็ดพิษ พืชทะเล และก้อนหิน Chapter 6 ‘องค์ประกอบแถม’ วิธีเสริมพลัง Chapter 5 สุกรตัวหนึ่งที่มีความฝัน Chapter 4 จิตใจที่ต่ำตม Chapter 3 ชีวืตแห่งการเก็บของหาย Chapter 2 ใครรักข้าในรัศมีสิบเมตร Chapter 1 ตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างในระยะสิบเมตร

Prev Next

แทงหวยออนไลน์