ตอนที่ 1704 ทวดถึงซิ (4)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1704 ทวดถึงซิ (4)

 

จวินอู๋เสียรู้ได้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นจึงรีบมาทันที และบังเอิญเจอกับจื่อจินที่ร้อนรนอย่างมาก เพราะเหตุนี้นางจึงได้รู้ว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่เวทีประลอง

 

ในการเดินทางมาที่วิหารจิงหงครั้งนี้จวินอู๋เสียแค่ตั้งใจจะจัดฉากอยู่เบื้องหลังเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจูเก๋ออินจะทำตัวเป็นหมาบ้ากัดเยว่อี้ไม่ยอมปล่อย เมื่อมองดูบาดแผลบนร่างของเยว่อี้ก็เห็นได้ชัดว่าจูเก๋ออินพยายามจะฆ่าเขา ถ้านางมาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เกรงว่าคงไม่มีพลังที่จะฟื้นคืนชีพเขาได้!

 

เหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างคาดไม่ถึงเช่นนั้นทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจ

 

วิหารเงาจันทราและวิหารมังกรไม่เคยเป็นศัตรูกันเยว่อี้กับจูเก๋ออินก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วทำไมจูเก๋ออินถึงได้จ้องเล่นงานเยว่อี้?

 

จวินอู๋เสียคิดเกี่ยวกับประเด็นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนระหว่างวิ่งมาที่นี่แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เมื่อนางเดินมาที่ข้างเวทีประลองและเห็นสภาพอันเลวร้ายของเยว่อี้ ข้อสงสัยนั้นก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอีกต่อไป!

 

จูเก๋ออินแค่รนหาที่ตายนั่นแหละ!

 

“หมายความว่ายังไงน่ะหรือ?”จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเผชิญกับสายตากินเลือดกินเนื้อของจูเก๋ออิน ดวงตาของนางทอประกายเย็นชาขณะที่พูดว่า “ก็วิหารมังกรนั้นแข็งแกร่ง สามารถทำร้ายผู้คนได้ตามใจชอบ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าคนที่ต่อต้านท่านบนเวทีประลองวันนี้เป็นศิษย์ของวิหารเงาจันทราเรา ต่อให้เป็นศิษย์ของวิหารอื่น แค่เพราะท่านอยากจะฆ่าก็ฆ่าเลยไม่ใช่หรือ? อยากเฉือนเนื้อเถือหนังก็ทำเลยไม่ใช่หรือ? ขอถามหน่อย มีใครบ้างที่กล้าทำร้ายประมุขน้อยวิหารมังกรแม้เพียงปลายเส้นผม? ประมุขน้อยแห่งวิหารมังกร ถ้าท่านเบื่อมากจนทนไม่ไหว อยากได้เลือดคนอื่น บอกมาตรงๆเลยก็ได้ ศิษย์วิหารเงาจันทราของเราคนนี้ จะมอบให้ท่านจัดการได้ตามใจชอบ จะไม่เจ็บแค้นภายหลัง แค่แค้นใจที่วิหารเงาจันทราไม่สามารถเทียบกับวิหารมังกรได้”

 

จวินอู๋เสียพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาและไม่ได้วิงวอนขอความเมตตาให้เยว่อี้เลย แต่กลับพูดว่าจะทิ้งเยว่อี้ให้จูเก๋ออินจัดการได้ตามใจ จะฆ่าจะแกงยังไงก็ได้

 

เมื่อคำพูดนั้นออกมาทุกคนที่นั่นก็พากันตกตะลึง

 

จื่อจินที่คิดว่าจวินอู๋เสียจะช่วยเยว่อี้ก็ตกใจจนนิ่งค้างไปทันทีนางมองด้านหลังของจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงพูดเช่นนั้น

 

[เขา……มาที่นี่เพื่อช่วยเยว่อี้ไม่ใช่หรือ?]

 

ดวงตาของจื่อจินเบิกกว้างพวกผู้เยาว์ที่อยู่รอบๆก็ตกตะลึงพูดไม่ออกกับคำพูดที่น่าตกใจของจวินอู๋เสีย

 

แต่มีเพียงชายที่ยืนอยู่ด้านหลังจวินอู๋เสียเท่านั้นที่ดวงตายังคงมีรอยยิ้มขณะมองตรงไปที่ด้านหลังของร่างเล็กๆตรงหน้าเขา

 

[เด็กน้อยกำลังจะเอาเรื่องแล้ว]

 

จูเก๋ออินเองก็ตกใจกับคำพูดของจวินอู๋เสียเขาคิดว่าจวินอู๋เสียจะมาเพื่อช่วยเยว่อี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะอ่อนแอถึงขนาดกลัวตำแหน่งของเขาในฐานะประมุขน้อยวิหารมังกร และถึงกับยอมดูศิษย์ร่วมวิหารของตัวเองตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของเขาโดยไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากอ้อนวอนสักคำ

 

ทันใดนั้นความเกลียดชังที่เขามีต่อจวินอู๋เสียก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจในตัวเองเขามองไปที่กู่ซินเยียนโดยไม่รู้ตัว หวังว่ากู่ซินเยียนจะได้เห็นว่าเจ้าเด็กอ่อนแอไร้กระดูกสันหลังจากวิหารเงาจันทราแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร

 

อย่างที่คาดไว้กู่ซินเยียนมองจวินอู๋เสียด้วยสายตางงงวยอย่างมากพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

ปฏิกิริยาของกู่ซินเยียนทำให้ในใจจูเก๋ออินเต็มไปด้วยความยินดีเขาหันไปมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาหยิ่งผยองอวดดี

 

“อย่างน้อยเจ้าก็รู้สถานการณ์รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่วิหารเงาจันทราเลี้ยงดูขยะอย่างพวกเจ้ามายังไง? เห็นเพื่อนตัวเองอยู่ในมือข้า แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากขอชีวิตเขาแม้แต่คำเดียวเนี่ยนะ? ไอ้หนู ข้าให้ตัวเลือกเจ้าดีไหมล่ะ? เจ้าแค่คุกเข่าลงกับพื้นและคำนับสามครั้งต่อหน้าข้า แล้วข้าจะปล่อยเยว่อี้ เจ้าจะว่ายังไงล่ะ??”