ตอนที่ 349 มาวางเดิมพันกัน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

“ฮ่าๆ…” คราวนี้ถังซีหัวเราะบ้าง เธอมองหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะด้วยท่าทางสบายใจ แล้วหัวเราะเยาะ “แล้วทำไมล่ะ ทำไมฉันต้องแก้โจทย์นอกเหนือจากนี้ตามที่เธอสั่งด้วย เธอคิดว่าเธอเป็นใครเหรอ” 

 

 

“เผิงอวี้ ฉันชื่อเผิงอวี้ เป็นหัวหน้าห้องชั้นเรียนทดลอง” เผิงอวี้จ้องมองถังซี และกล่าวอย่างเย็นชา “ทำไมเธอถึงปฏิเสธล่ะ ไม่กล้า หรือว่าเธอทำไม่ได้” 

 

 

“ฮ่าๆ…” ถังซีหันไปหาผูกั๋วชิ่ง ซึ่งยืนอยู่บนแท่นยกพื้นหน้าห้องโดยไม่พูดอะไร เธอถามเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “คุณครูผูคะ ทำไมไม่พูดล่ะคะ คุณครูก็ไม่เชื่อหนูเหมือนกันเหรอ” 

 

 

ผูกั๋วชิ่งเชื่อเธออย่างแน่นอน เพราะเขาเคยเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้แก้โจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานดำโดยบังเอิญ ตอนที่เขาเดินผ่านห้องเรียนทดลองของชั้นมัธยมปลายปีที่หนึ่ง เธอแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้เร็วมาก! แต่เพื่อเป็นการโน้มน้าวและกระตุ้นความกระตือรือร้นให้กับนักเรียนในห้อง เขาอยากให้เซียวโหรวแก้โจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานดำ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม! 

 

 

“เธอจะเสนอเงื่อนไขอะไรก็ได้” ผูกั๋วชิ่งมองหน้าถังซี และกล่าวอย่างจริงจัง “เธอคงไม่อยากให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนใหม่ของเธอสงสัยในความสามารถของเธอหรอกใช่ไหม และเธอคงไม่อยากฝากความประทับใจไม่ดีไว้กับพวกเขาด้วยจริงไหม เพราะฉะนั้นเธอจะเสนอเงื่อนไขอะไรดีล่ะ แลกกับการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ครูจะให้เธอทำบนกระดาน” 

 

 

ถังซียิ้ม มองหน้าเผิงอวี้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาอย่างนี้ดีไหมคะ หนูขอเดิมพันกับหัวหน้าห้องชั้นเรียนพิเศษของเรา หนูจะแก้โจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานดำ และเธอแก้โจทย์ข้อเดียวกันอยู่ที่โต๊ะ มาดูกันว่าเราคนไหนจะแก้โจทย์ได้เสร็จก่อน ถ้าเธอทำเสร็จก่อน หนูจะกลับไปเรียนมัธยมปลายปีที่หนึ่ง แต่ถ้าหนูทำเสร็จก่อนเธอต้องออกจากตำแหน่งหัวหน้าชั้นเรียน และคุณครูผูคะ หนูอยากให้คุณครูสัญญากับหนูอีกข้อหนึ่ง เพราะจริงๆ แล้วคุณครูก็เข้าข้างเธอ” 

 

 

ผูกั๋วชิ่งแอบถอนหายใจ ยายเด็กโง่ ฉันเข้าข้างเธอต่างหาก! ฉันทำเพื่อลบล้างความเข้าใจผิดของนักเรียนทุกคนที่มีต่อเธอ! แต่เขาก็ต้องพยักหน้า… 

 

 

เมื่อมองหน้าถังซีซึ่งดูมั่นใจมาก หนิงเคอก็ยิ้ม เมื่อเห็นเขายิ้มเพื่อนร่วมโต๊ะก็หน้าแดงขึ้นมาอีก 

 

 

ถังซีมองหน้าเผิงอวี้ที่ไม่พูดอะไร และเลิกคิ้วถามว่า “ทำไมล่ะ เธอไม่กล้ารับคำท้าของฉันเหรอ” 

 

 

เผิงอวี้ผลุดลุกขึ้นทันที และกล่าวด้วยท่าทางเกลียดชัง “ตกลง เรามาเดิมพันกัน!” 

 

 

ผูกั๋วชิ่งกระแอม ก่อนจะกล่าวว่า “ตกลง ถ้าอย่างนั้นครูจะให้โจทย์คณิตศาสตร์กับพวกเธอ” 

 

 

ถังซีมองคุณครูผูกั๋วชิ่ง และยิ้มขณะกล่าวว่า “หนูคิดว่าไม่ยุติธรรมเลยถ้าคุณครูจะเป็นคนให้โจทย์กับเรา หนูจะแน่ใจได้ยังไงคะ ว่านักเรียนห้องนี้ไม่เคยแก้โจทย์ข้อที่คุณครูให้มาก่อน นั่นไม่ยุติธรรมกับหนูเลย จริงไหมคะ เราเชิญผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษามาตั้งโจทย์ให้เราดีไหมคะ แต่แน่นอนว่าเราไม่ต้องบอกท่านว่าเกิดอะไรขึ้น” ถังซียิ้มเมื่อเห็นผูกั๋วชิ่งมองมาด้วยสายตาท้อแท้ “ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องยุติธรรม และให้ความเท่าเทียมกัน จริงไหมคะ จะเป็นเรื่องไม่ดีอย่างมากสำหรับเรา ถ้าผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษารู้ว่าทำไมเราถึงต้องมาเดิมพันกันแบบนี้ อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวหนูกับโรงเรียน จะเป็นอย่างไรหากนักเรียนคนอื่นๆ คิดว่าหนูสมรู้ร่วมคิดกับผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา” 

 

 

“เอาละ ถ้าอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาหรอก เราขอให้ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาคณิตศาสตร์ ประจำชั้นมัธยมปลายปีที่สาม มาเป็นผู้ตั้งโจทย์ก็แล้วกัน” 

 

 

ด้วยเหตุนี้ผูกั๋วชิ่งจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาผู้อำนวยการฝ่ายวิชาคณิตศาสตร์ ประจำชั้นมัธยมปลายปีที่สาม เพื่อขอให้เขามาที่นี่ 

 

 

ถังซียิ้ม นักเรียนบางคนกล่าวกับเธอว่า “เซียวโหรว พยายามให้ดีที่สุดนะ เธอทำให้หัวหน้าชั้นเรียนของเราต้องเผชิญกับวิกฤติแล้ว ในฐานะนักเรียนที่เก่งที่สุดในชั้น เผิงอวี้เคยแต่สร้างความรู้สึกต้องเผชิญวิกฤติให้คนอื่น แต่ตอนนี้เธอทำให้เผิงอวี้สติแตก…” 

 

 

“จริงเหรอ” ถังซีขัดจังหวะพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “ฉันคิดว่าเธออิจฉาฉันน่ะ! หรือพูดตามตรงก็คือ เธอจะมีปมด้อยทันทีเวลามีคนเก่งกว่าเธอ เธอจะกล่าวหาว่าคนคนนั้นโกง!” 

 

 

นักเรียนเงียบลง แม้พวกเขาจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด แต่เผิงอวี้ก็ยังคงเป็นหัวหน้าชั้นเรียน จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอหมายหัวพวกเขาในอนาคต ดังนั้นพวกเขาควรเงียบไว้ก่อน ก่อนที่ผลจะออกมา 

 

 

ในไม่ช้าผู้อำนวยการเจี่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาคณิตศาสตร์ ประจำชั้นมัธยมปลายปีที่สาม ก็มาถึง ผูกั๋วชิ่งรีบเดินเข้าไปหาท่าน ผู้อำนวยการเจี่ยงขมวดคิ้ว มองผูกั๋วชิ่ง และถามว่า “ทำไมคุณถึงขอให้ผมรีบมาที่นี่” 

 

 

ผูกั๋วชิ่งปาดเหงื่อ มองผู้อำนวยการเจี่ยงและกล่าวว่า “เด็กๆ พวกนี้บอกว่าโจทย์คณิตศาสตร์ที่ผมตั้งให้ง่ายเกินไปครับ และพวกเขาแก้โจทย์ได้เร็วเกินไป” ผูกั๋วชิ่งชี้ไปที่โจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานดำ ขณะกล่าว “ผมจึงอยากขอให้อาจารย์ช่วยผมตั้งโจทย์ที่ยากๆ ให้พวกเขาลองคิดคำนวณ ให้พวกเขาได้รู้ว่าแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขามั่นใจในตัวเองมากเกินไป จะไม่มีใครเอาจริงเอาจังกับวิชาคณิตศาสตร์! ใครจะรู้ว่าข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะต้องทำโจทย์คณิตศาสตร์แบบไหน จริงไหมครับ ดังนั้นเราควรสอนบทเรียนให้พวกเขา” 

 

 

คำพูดของผูกั๋วชิ่งดูเหมือนจะบ่งบอกอะไรบางอย่าง เหล่านักเรียนคิดว่าเขากำลังเตือนถังซี แต่ถังซีรู้ดีว่าเขาเตือนใคร เธอเลิกคิ้วมองพลางคิดในใจว่า ดูเหมือนเธอจะสามารถขอลาหยุดเรียนหนึ่งสัปดาห์จากคุณครูผูได้ ดูท่าทางเขาจะเป็นคนมีเหตุมีผลดีอยู่ 

 

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของผูกั๋วชิ่ง ผู้อำนวยการเจี่ยงก็หันกลับไปมองโจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานดำ และพยักหน้า “ดี ดี พวกเธอทุกคนเป็นนักเรียนที่ควรค่าแก่ชั้นเรียนทดลอง ครูเพิ่งได้โจทย์คณิตศาสตร์ดีๆ มาจากโรงเรียนมัธยมตี้กั่วเมื่อวานนี้ ครูจะเขียนให้พวกเธอดู ครูใช้เวลาพอสมควรในการแก้โจทย์เมื่อคืนนี้ แม้ครูจะรู้สึกว่าโจทย์พวกนี้ค่อนข้างยาก แต่พวกเธอลองทำดูก็ดี ให้ครูดูสิว่า พวกเธอคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนเราจริงๆ หรือเปล่า” 

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว ฮ่าๆ ‘โจทย์คณิตศาสตร์จากโรงเรียนมัธยมตี้กั่ว’ พระเจ้าเข้าข้างเธอใช่ไหม 

 

 

ผู้อำนวยการเจี่ยงเริ่มเขียนโจทย์เหล่านั้นบนกระดานดำ ขณะมองท่านเขียนถังซีก็ขมวดคิ้ว และคำตอบก็เริ่มปรากฏขึ้นในใจเธอ ผู้อำนวยการเจี่ยงเขียนโจทย์เสร็จก็ตบไหล่ผูกั๋วชิ่งและหัวเราะ “ไม่เลวเลยคุณผู ศิษย์ที่ประสบความสำเร็จต้องมีอาจารย์ที่ยอดเยี่ยม” 

 

 

ผูกั๋วชิ่งยิ้มอย่างทำหน้าไม่ถูก “ชมผมเกินไปแล้วครับ” จากนั้นเขาก็หันไปมองถังซี “เธอเริ่มแก้โจทย์บนกระดานได้” 

 

 

“เริ่มได้ งั้นเหรอ” ผู้อำนวยการเจี่ยงถามด้วยความงุนงง ผูกั๋วชิ่งจึงบอกท่านเรื่องการเดิมพัน ผู้อำนวยการเจี่ยงมองถังซีด้วยดวงตาเบิกกว้าง “จริงเหรอ” 

 

 

ถังซียิ้ม ตอบว่า “เนื่องจากหัวหน้าชั้นเรียนต้องการให้หนูพิสูจน์ว่าหนูไม่ได้โกง หนูก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ถ้าจะมีการพิสูจน์ให้เธอเห็น” 

 

 

เมื่อกล่าวจบเธอก็หันไปมองนักเรียนคนอื่นๆ และกล่าวว่า “หนูหวังว่าคุณครูและเพื่อนนักเรียนทุกคนจะตัดสินให้เราได้” 

 

 

ผู้อำนวยการเจี่ยงกล่าวว่า “ได้สิ พวกเราทุกคนกำลังดูพวกเธออยู่ เราจะเป็นคนตัดสินให้เธอทั้งสองคนเอง เริ่มได้เลย” 

 

 

ถังซีพยักหน้า มองหน้าเผิงอวี้ ซึ่งเริ่มลงมือแก้โจทย์แล้ว เธอเดินช้าๆ ขึ้นไปบนแท่นยกพื้นหน้าห้อง มองโจทย์บนกระดานดำ หยิบชอล์กขึ้นมา และเริ่มเขียนลงบนกระดานดำ… เห็นได้ชัดว่า เธอเขียนเร็วยิ่งกว่าการคัดลอกคำตอบ แบบที่เผิงอวี้กล่าวหาเสียอีก…