หลังจากที่เฉินเฉินออกไปจากฉาก ในที่สุดกลุ่มศิษย์ก็เริ่มมีปฏิกิริยาและพร้อมใจมองไปทางซุนเทียนกัง
ซุนเทียนกังยังคงถือก้อนทองเอาไว้ในมือและอยู่ในสภาพพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นเอง จ้าวเสี่ยวหยาที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็เอามือปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก
“พี่ใหญ่ซุนถึงกับดึงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ออกมาใช้ ท่านสามารถชนะใจผู้สืบทอดได้ด้วยทองแค่ก้อนเดียว พี่ใหญ่ ในอนาคตข้าคงไม่กล้าทำให้ท่านขุ่นเคืองแล้วหล่ะค่ะเนื่องจากท่านได้รับการคุ้มครองจากผู้สืบทอดแล้ว”
ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดถากถางนี้ ซุนเทียนกังก็ขยี้ทองที่อยู่ในมือของเขา
‘นี่มันดูถูกกันชัดๆ! นี่มันคือการดูถูกและความอัปยศอย่างถึงที่สุด!’
เมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกคนที่เรียกเขาว่าศิษย์น้องตบไหล่ มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ซุนเทียนกังถูกปฏิบัติด้วยความไม่เคารพแบบนี้!?
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถเล่นงานเฉินเฉินได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงยิ่งหงุดหงิดและฉุนเฉียวอย่างน่าเหลือเชื่อ!
“ศิษย์น้องหญิง อย่าได้ใจเกินไป เนื่องจากเจ้าไม่สามารถกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของเจ้าสำนักได้แล้ว เจ้าก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะไม่มีวันได้เรียนวิชายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน!”
หลังจากที่พูด ซุนเทียนกังก็โยนเศษทองคำทิ้งอย่างไม่นึกเสียดายแล้วนำกลุ่มศิษย์ภายในเดินจากไป
ด้วยเครื่องแต่งกายสีแดง เจ้าเสี่ยวหยายังคงยืนนิ่งอยู่ในขณะที่สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไป
เมื่อเทียบกับการกลายเป็นผู้สืบทอดซึ่งเป็นสิ่งที่ซุนเทียนกังต้องการ วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนนั้นมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเธอ
“เฉินเฉินคนนี้ดูไม่ได้หยิ่งทะนงอะไรนักนะ ถ้าเป็นแบบนี้ข้าก็น่าจะยังมีโอกาสอยู่”
จ้าวเสี่ยวหยาพึมพำแล้วยิ้มออกมา
เธอฉลาดกว่าเจ้าโง่ที่สมองมีแต่กล้ามอย่างซุนเทียนกัง และพอเข้าใจสาเหตุที่เฉินเฉินทำแบบนั้นลงไปแล้ว
ในฐานะหลานสาวของผู้อาวุโสซิงฟา และเป็นศิษย์ภายในมายาวนาน เธอได้เก็บรวบรวมสมบัติเอาไว้มากมาย ดังนั้น ในตอนที่เวลามาถึงเธอก็น่าจะใช้ประโยชน์จากพวกมันได้ วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนอาจจะยังไม่อยู่ไกลเกินเอื้อมมือของเธอ
ด้วยความคิดเช่นนี้เอง เธอก็ออกจากยอดเขาเทียนฉินไปด้วยความคาดหวังอย่างเต็มที่
…
“ท่านเจ้าของ มีสมบัติที่มีค่ากว่าหินวิญญาณอยู่ใต้เท้าของท่านสามเมตร”
เฉินเฉินยังไม่ลืมที่จะใช้ระบบค้นหาสมบัติในระหว่างทางกลับยอดเขาหลัก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนใจพวกของมีค่าเล็กๆน้อยๆแล้ว ดังนั้น เขาจึงใช้หินวิญญาณเป็นสิ่งอ้างอิง
มีแค่ของที่มีค่ามากกว่าหินวิญญาณเท่านั้นที่จะดึงดูดความสนใจของเขาได้
เมื่อได้ฟังการตอบสนองของระบบ เฉินเฉินก็เอาพลั่วที่เขาเตรียมไว้ออกมาจากแหวนเก็บของแล้วเริ่มขุดดินโดยไม่ลังเล
หลังจากขุดไปได้ไม่กี่นาที เขาก็รู้ว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ใต้ดินลึกลงไป 3 เมตรจริงๆ
สมบัติที่ว่านี้คือพืชที่มีลักษณะคล้ายขิงรูปร่างมนุษย์เนื่องจากมีส่วนที่เหมือนแขนยื่นออกมา มันถูกฝังเอาไว้ใต้ดินและไม่มีความผันผวนของพลังปราณเลย
“สิ่งไหนมีค่ามากที่สุดในรัศมียี่สิบเมตร?” เฉินเฉินถามระบบในขณะที่เขาเก็บของมีค่าทั้งหมดที่เขามีเข้าไปในแหวนเก็บของ
“มันคือจิตวิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปีตรงหน้าท่านค่ะ”
“จิตวิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปี!” เฉินเฉินตกใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็บอกได้จากอายุของมันว่ามันคือของที่สำคัญมาก
โดยไร้ซึ่งความลังเล เฉินเฉินก็ดึงวิญญาณดินเหลืองออกมาจากพื้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทำแบบนั้น เขาก็ไปขูดผิวของมันโดยไม่ได้ตั้งใจ
และผลก็คือ มีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น มีเลือดไหลออกมาจากวิญญาณดินเหลือง ตามมาด้วยพลังปราณมหาศาลที่เริ่มกระจายออกมาจากบาดแผล แล้วเข้าไปในร่างกายของเฉินเฉิน
เฉินเฉินรู้สึกว่ากระแสน้ำวนในจุดตันเถียนของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก เขาก็ทะลวงไปถึงฝึกพลังปราณขั้นที่เจ็ด ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ความรู้สึกของพลังปราณที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เริ่มกระจายไปทั่วร่างกายของเขา
กระแสน้ำวนทั้งสามมีขนาดใหญ่ขึ้นในทันทีและรัศมีแสงก็ระเบิดออกมาจากกระแสน้ำวน
ด้วยความคิดเดียว รัศมีแสงก็ส่งเสียงแหลมแล้วปรากฎขึ้นในมือของเฉินเฉิน
นอกจากนั้น เฉินเฉินยังรู้สึกว่ากระแสน้ำวนทั้งสามนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถในการสื่อสารอะไรบางอย่างกับพลังเซียนสวรรค์และโลก
“หรือว่านี่คือวิชาอัญเชิญสายฟ้า?” เฉินเฉินพึมพำ
จากคำแนะนำของวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน ความสามารถศักดิ์สิทธิ์แรกที่เขาจะได้รับนั้นเรียกว่าวิชาอัญเชิญสายฟ้า ซึ่งจะได้เมื่อเข้าสู่การฝึกพลังปราณขั้นที่เจ็ด
มันคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่จะชี้นำปราณสายฟ้าให้กลายเป็นสายฟ้าฟาดผ่านน้ำวนทั้งสามมุมโดยมีจุดตันเถียนเป็นจุดศูนย์กลาง และโจมตีศัตรู
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่สามารถนำไปเทียบกับบอลไฟลูกเล็กๆได้เลย บอลไฟลูกเล็กๆนั้นก็เป็นแค่เคล็ดวิชาเล็กๆที่ถูกผู้ที่อยู่บนเส้นทางแห่งการฝึกตนยับยั้งได้ง่ายดายและพลังของมันก็ขึ้นอยู่กับปริมาณพลังปราณที่มีด้วย
อย่างไรก็ตาม การเรียกสายฟ้าจากวิชาอัญเชิญสายฟ้านั้นส่วนใหญ่จะกลั่นออกมาจากพลังปราณสายฟ้าของสวรรค์และโลก มีแค่พลังปราณส่วนน้อยเท่านั้นที่ตัวเองจะต้องจ่ายในฐานะตัวชี้นำ
ดังนั้น เมื่อเทียบกับบอลไฟลูกเล็กๆ วิชาอัญเชิญสายฟ้านั้นรุนแรงกว่ามาก และที่สำคัญยิ่งกว่าคือมันใช้พลังปราณน้อยกว่ามากเลยด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉินเฉินก็ทดลองวิชาในทันที ด้วยการใช้กระแสน้ำวนในจุดตันเถียนของเขาเพื่อสื่อสารกับปราณสายฟ้าของสวรรค์และโลก
เปรี๊ยง!
ด้วยเสียงดังสนั่นกึกก้อง สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าเฉินเฉินสามเมตร แล้วระเบิดพื้นตรงนั้นจนเกิดเป็นรูกว้างที่ลึกเข้าไปถึงสองเมตร
“ยอดเยี่ยม!”
ดวงตาของเฉินเฉินเปล่งประกาย หลังจากได้เรียนรู้วิชาอัญเชิญสายฟ้า พลังของเขาก็คงจะเทียบเท่ากับปืนใหญ่แบบที่ใช้คนคุม ในแง่ของพลังต่อสู้ เขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ระดับฝึกพลังปราณขั้นที่หกมาก
ถ้าเขาเจอกับปีศาจเหมือนกับหูเซียงเอ๋ออีกตัว เขาอาจจะสามารถเอาชนะมันได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือสำหรับต่อต้านปีศาจเลยก็ได้
พูดตามตรง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้สืบทอดสำนัก การเอาชนะอสูรดุร้ายที่มีระดับเหนือกว่าเขาคงไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร
“วิญญาณดินเหลืองนี้… พลังปราณที่แผ่ออกมาจากเลือดเพียงน้อยนิดก็มีค่ามากกว่าหินวิญญาณหนึ่งพันก้อนแล้ว ถ้าข้ากินมันทั้งหมด ข้าจะต้องอิ่มมากแน่ ๆ!”
เฉินเฉินชื่นชมด้วยความตื่นตาตื่นใจในขณะที่เขามองวิญญาณดินเหลืองในมือ
คุณค่าของสิ่งนี้ไม่สามารถใช้หินวิญญาณประเมินได้ เมื่อเห็นพลังปราณที่เปล่งออกมาแผ่วๆจากแผลของมัน เฉินเฉินก็รีบฉีกเสื้อผ้าของเขาออกมาพันวิญญาณดินเหลืองเอาไว้ก่อนที่จะเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บของ
ในระหว่างทางกลับ เฉินเฉินทำการค้นหาต่อและเจอสมบัติที่กักเก็บพลังปราณมากมาย แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้มีค่าเท่าวิญญาณดินเหลือง 10,000 ปี พวกมันก็ยังห่างชั้นเกินกว่าที่พืชในป่าลึกจะสามารถเทียบเคียงได้
ในขณะที่เขาเจอของพวกนี้มากขึ้น ความคิดในหัวของเขาก็ยิ่งเร่าร้อน
เขาต้องศึกษาและเรียนรู้เรื่องการทำยาด้วย!
มันคงจะน่าสมเพชถ้าเขากินพวกมันตรงๆโดยไม่ใช้ประสิทธิภาพของพวกมันให้ถึงขีดสุด
นอกจากนี้ มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยถ้าจะเน้นฝึกตนที่ยอดเขาหลักเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอาจารย์จะมอบหินวิญญาณให้เขามากแค่ไหน พวกมันก็ไม่ได้ให้ผลได้ดีเท่าสมบัติอันไร้ที่ติพวกนี้
…
หลังจากกลับไปถึงยอดเขาหลัก เฉินเฉินก็ฝังวิญญาณดินเหลือง 10,000 ปีเอาไว้ในลานสมุนไพร แล้วต่อด้วยสมบัติสมุนไพรวิญญาณต่างๆ
ด้วยสมบัติอันไร้ที่ติที่พึ่งค้นพบใหม่นี้ พลังปราณในสนามจึงหนาแน่นและเข้มข้นยิ่งขึ้น
หูเซียงเอ๋อ ที่ฝึกตนอยู่ในกรงขังปีศาจ ลืมตาขึ้นมาในตอนที่สัมผัสถึงมันได้
“หูเซียงเอ๋อ เจ้าสามารถฝึกตนโดยที่ไม่มีแก่นปีศาจได้ด้วยหรอ?” เฉินเฉินถามพลางแสยะยิ้ม
เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา หูเซียงเอ๋อก็หันหนีแล้วเมินเฉินเฉิน เมื่อไม่มีแก่นปีศาจ ประสิทธิภาพการฝึกตนของเธอก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เธอจะไปทำอะไรได้หล่ะ? มันไม่ใช่ว่าเฉินเฉินจะคืนเธอซักหน่อย
“นี่ เอาแก่นปีศาจของเจ้าคืนไปสิ”
เฉินเฉินพูดในขณะที่โยนแก่นปีศาจเข้าไปในกรง
หูเซียงเอ๋อมองดูแก่นปีศาจด้วยความตกใจอย่างสุดขีด ถึงยังไงเธอก็เป็นปีศาจที่อยู่ระดับฝึกพลังปราณขั้นที่แปด เฉินเฉินจะรู้สึกปลอดภัยได้ยังไงกันถ้าคืนมันให้เธอ?
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะตกใจ เธอก็กลืนแก่นปีศาจเข้าไปอย่างรวดเร็ว และสัมผัสถึงพลังที่ห่างหายไปนานก็เข้ามาเติมเต็มร่างกายของเธอในทันที
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้พยายามจะทำลายกรงและขดตัวอยู่ที่มุมนึงแทน
‘เฉินเฉินเป็นคนไม่ดีและวันนี้ก็ทำตัวผิดปกติมากๆ ข้าต้องระวังเอาไว้’
“หูเซียงเอ๋อ เจ้ามีสองทางเลือก หนึ่ง ข้าจะปล่อยเจ้าไปตอนนี้และเจ้าก็ออกไปจากสำนักเทียนหยุนซะ สอง นับแต่นี้ไปเจ้าจะติดตามข้าและคอยดูแลที่แห่งนี้ ถ้าเจ้าเลือกข้อที่สอง เจ้าจะได้ฝึกตนในสนามของข้าและข้าสัญญาว่าตราบใดที่เจ้าติดตามข้า ข้าจะไม่ข่มเหงเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงรู้จักพรสวรรค์ของข้าและมันก็ไม่ใช่เลือกยากเลยที่ข้าจะกลายเป็นเซียนที่แท้จริง ในตอนนั้นเจ้าอาจจะได้กลายเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ได้ คิดว่ายังไงหล่ะ?”
เฉินเฉินนั่งยอง ๆอยู่หน้ากรงและพยายามคาดคั้นเธอเหมือนกับพนักงานขายที่พูดชักจูงเก่งจากในชีวิตก่อนของเขา เขาวาดภาพอนาคตที่งดงามเอาไว้และทำให้เธอมองไปหามัน
เนื่องจากมันเป็นอนาคตที่สวยงามและเป็นไปได้ การรับความเสียหายเล็กน้อยในตอนนี้ยังพอทนได้อยู่
“เจ้าจะยอมปล่อยข้าไปจริงๆหรอ?” หูเซียงเอ๋อถามอย่างสงสัย
แม้ว่าเธอจะถามคำถามนั้น เธอก็ดูลังเลจริงๆ
สภาพแวดล้อมในสวนนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ เธอจะไปหาโอกาสนี้ได้จากที่ไหนอีกกัน?
“แน่นอน” เฉินเฉินยิ้มด้วยท่าทีจริงใจ
เมื่อเห็นท่าทีของเฉินเฉิน หูเซียงเอ๋อก็อดขนลุกไม่ได้
หลังจากใช้เวลาอยู่กับเขามาหลายวัน เธอก็ได้เรียนรู้ความเจ้าเล่ห์ของเขา เธอไม่สงสัยเลยว่าถ้าเธอเลือกจากไป เขาคงจะกลายเป็นศัตรูกับเธอและฆ่าเธอตรงนี้เลย
“เจ้าจะเลือกข้อไหน?” เฉินเฉินถามด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ข้า…ข้าเลือกอยู่กับเจ้า”
หูเซียงเอ๋อขดตัวแล้วตอบกลับไปอย่างอ่อนเพลีย