บทที่ 405 นายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดิน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“นัง นังบ้านี่ร้ายกาจถึงขั้นวางยาพิษเลยเหรอ?!”

เย่เทียนยิ้มเย็นในใจเมื่อเห็นรอยยิ้มสะใจบนใบหน้าเจ็ดสังหาร ทว่าเขาแสดงสีหน้าเหมือนแตกตื่น

ไม่ว่าเจ็ดสังหารเคลือบพิษแบบไหนที่เล็บ ภายใต้การทำงานของยาแก้พิษ ทุกอย่างล้วนหมดฤทธิ์

ความจริงเย่เทียนไม่มีความคิดจะฆ่าเจ็ดสังหารตั้งแต่แรก เขายังรอสืบที่อยู่ของสมาชิกแก๊งS.P.Lที่เหลือจากเธออยู่!

มิฉะนั้นต่อให้เจ็ดสังหารร้อนแรงขนาดไหน ด้วยนิสัยของเย่เทียนก็ไม่มีทางไปยุแหย่เจ็ดสังหารหรอก

เนื่องจากความทรงจำจากชาติก่อน เย่เทียนคิดเผื่อไว้โดยครอบคลุมทุกด้าน เขารู้ดีว่านักฆ่าหญิงอย่างเจ็ดสังหารปากหนักขนาดไหน

คิดจะทราบที่อยู่ในการหลบซ่อนตัวของสมาชิกแก๊งS.P.Lที่เหลือจากเธอในสถานการณ์ปกติทั่วไปนั้นเป็นไปไม่ได้เลย มีเพียงในสถานการณ์ที่เธอไม่ค่อยเหลือสติถึงจะมีโอกาสบ้าง

และเพราะเหตุนี้ เย่เทียนจึงแกล้งเหยียบย่ำเจ็ดสังหาร หวังให้เจ็ดสังหารสูญเสียความใจเย็นไป

แต่เย่เทียนก็คิดไม่ถึงว่าเจ็ดสังหารจะปล่อยท่าไม้ตายอย่างสิงโตคำราม จนเธอหลุดออกจากพันธนาการโดยเขาตั้งตัวไม่ทัน

โชคดีที่เย่เทียนหัวไว และวางแผนซ้อนแผน อยากเห็นว่าภายใต้ความมั่นใจว่าชนะแน่นอน เจ็ดสังหารจะเปิดเผยข้อมูลที่มีประโยชน์มั้ย

“ประทศจีนของพวกนายมีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ได้ดี แต่ไหนแต่ไรผู้ชนะได้เป็นจ้าว ผู้แพ้ต้องตกเป็นเบี้ย”

“ในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะสายอาชีพไหน ไม่มีใครสนกระบวนการหรอก ทุกคนสนแค่ผลลัพธ์เท่านั้น!”

“เมื่อกี้นายบังอาจเย้าแหย่ฉัน ตอนนี้ฉันขอสั่งให้นายคุกเข่าขอร้องฉันถ้านายยังอยากมีชีวิตอยู่!”

เจ็ดสังหารไม่สนใจคำด่าของเย่เทียนเลยสักนิด เธอดึงเก้าอี้และนั่งลงอย่างวางท่า พร้อมออกคำสั่งใส่เย่เทียนอย่างผู้เหนือกว่า

ราวกับเธอสามารถมองเห็นเย่เทียนคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ด้วยสภาพเหมือนหมาข้างถนนที่กระดิกหางขอร้องอ้อนวอนเธอ สะใจจนปากจะฉีกไปถึงหูอยู่แล้ว

“เอ๋?!” เย่เทียนผงะ ก่นด่าในใจว่าทำไมเจ็ดสังหารไม่เป็นตามที่เขาคาดการณ์ไว้ล่ะ และนึกเสียใจกับสิ่งที่ทำไปก่อนหน้านี้มาก

ถ้ารู้มาก่อนว่าเจ็ดสังหารเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้ เขาคงไม่ไปแหย่ผู้หญิงคนนี้หรอก

ยังไงซะชาติก่อนเขาก็เป็นพี่ใหญ่อันดับหนึ่งในโลกทหารรับจ้างเมื่อชาติก่อน เย่ซาที่คนนับไม่ถ้วนหวั่นเกรง เขาจะคุกเข่าได้ยังไง

เจ็ดสังหารไม่รู้ว่าเย่เทียนกำลังคิดอะไรอยู่ พอเห็นเย่เทียนทำเหมือนไม่ได้ยิน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คิ้วเรียวอดขมวดไม่ได้

“นายได้ยินรึยัง คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”

“เฮ้อ! เปลืองเซลล์สมองของฉันจริงๆ ฉันอุตส่าห์คิดจะแผนซ้อนแผน”

เย่เทียนส่ายหัวอย่างอ่อนใจ สีหน้าตื่นตระหนกเมื่อกี้หายวับ กลับมีความเย็นชาอย่างปกติเข้ามาแทนที่

“ทำ ทำไมนายถึง…..”

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าของเจ็ดสังหารเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอชี้นิ้วไปที่เย่เทียนสั่นๆ ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“เมื่อกี้เธอบอกให้ฉันคุกเข่าหรือเรียกฉันว่าที่รักกันล่ะ?”

แต่ ไม่รอให้เธอได้พูดอะไร เย่เทียนก็กระทืบเท้าอย่างแรงและพุ่งไปหาเจ็ดสังหารด้วยความเร็วแสง มือขวายื่นออกไปกะทันหันและล็อคคอเจ็ดสังหารได้อย่างแม่นยำ หน้าตาล้อเลียนสุดๆ

“นาย นาย….นี่มันเป็นไปไม่ได้! นั่นเป็นพิษแมลงที่ฉันคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะเลยนะ ไม่มีทางที่นายจะไม่เป็นอะไร!”

เนื่องจากคอของเจ็ดสังหารถูกล็อคเอาไว้ เจ็ดสังหารได้แต่พูดขาดห้วง

พิษแมลงเป็นความสามารถที่เธอภูมิใจมากที่สุด เธอเสียอะไรไปตั้งมากมายเพื่อการนี้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีผลอะไรกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เป็นไปได้ยังไงกัน! จะไม่ให้เธอแปลกใจได้ยังไง!

“เธอหมายถึงของเล็กๆนี่เหรอ น่ารักก็จริง แต่อ่อนแอไปหน่อย”

เย่เทียนยิ้มยิงฟันสดใส และแบมือข้างซ้ายช้าๆ

บนมือซ้ายของเย่เทียนมีแมลงตัวเล็กเท่ามดตัวหนึ่งกำลังขดตัวสั่นๆอยู่บนมือของเย่เทียน ประหนึ่งเย่เทียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยองขวัญ

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน! ทำไมแมลงถึงกลัวถึงเช่นนี้?!”

เจ็ดสังหารมองแมลงบนมือเย่เทียนด้วยตาเบิกกว้าง ตะโกนอยู่ในใจด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะเธอโดนเย่เทียนล็อคคอไว้ ต้องกรี๊ดออกมาแน่นอน

เธออยู่ในวงการนี้มาตั้งหลายปี ใช่ว่าไม่เคยผ่านการล้มเหลวมา แต่สถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอ

ทั้งที่เป็นแมลงพิษดุร้ายที่เธอเลี้ยงมากับมือ ทำไมถึงหงอยขนาดนี้เมื่ออยู่ในมือของผู้ชายคนนี้ล่ะ

“จะว่าไปฉันแปลกใจจริงๆนะ เธอสื่อสารกับเจ้าตัวเล็กนี่ยังไงเหรอ มีวิธีพิเศษอะไรมั้ย?”

เย่เทียนไม่สนหรอกว่าเจ็ดสังหารคิดอะไรอยู่ เขาถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“อยากรู้เหรอ ลงไปถามยมบาลสิ!”

เจ็ดสังหารผงะ นัยน์ตาฉายแววแน่วแน่ และเค้นรอยยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก

ปึ้ง!

แต่ไม่รอให้เธอได้ทำอะไร เย่เทียนกลับมีสีหน้าอีมครึมลง ต่อยเข้าที่หน้าของเจ็ดสังหารอย่างหนักโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

“โอ๊ย?!”

เจ็ดสังหารหลบได้ที่ไหน หน้าสวยๆของเธอโดนเข้าไปหมัดหนึ่งเต็มๆ เจ็บจนน้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

ปึ้งปึ้ง!

แต่ไม่รอให้เจ็ดสังหารได้คร่ำครวญ เย่เทียนก็ต่อยหน้าเธออีกสองหมัด กระทั่งฟันสวยๆของเจ็ดสังหารร่วงถึงยอมหยุดมือ

น่าเสียดายที่ถึงแม้เย่เทียนเลิกต่อยหน้าของเจ็ดสังหารแล้ว แต่ก็ไม่ได้หยุด กลับปล่อยคอของเจ็ดสังหารก่อนจะกำไหล่ของเจ็ดสังหารและออกแรงหัก

แคร่ก!

ความเจ็บปวดจากร่างกายส่งผลให้เจ็ดสังหารอ่อนแรงจนลงไปกองกับพื้นอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยังพอส่งเสียงคร่ำครวญได้

“คุณเจ็ดสังหาร ไร้เดียงสาเกินไปหรือเปล่า?”

“ในเมื่อฉันจำเธอได้ย่อมทราบวิธีการของพวกเธอดี คิดจะฆ่าตัวตายต่อหน้าฉัน? ดูถูกฉันเกินไปรึเปล่า?”

เย่เทียนคลี่ยิ้มเย้ยหยัน และลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งลงตรงหน้าเจ็ดสังหารด้วยท่าทีสบายๆ

“นาย นายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินเหรอ?!”

ชั่วขณะที่เธอโดนต่อย ในที่สุดเจ็ดสังหารก็นึกถึงเรื่องหนึ่งที่ถูกสะกดในส่วนลึกของความทรงจำได้

ในวันที่เธอสำเร็จการเล่าเรียน อาจารย์ของเธอเคยกำชับเธอว่าหากเจอคนที่ไม่กลัวพิษแมลง ให้หันหลังหนีได้เลยโดยไม่ต้องลังเล!

เพราะไม่ว่าแมลงพิษจะดุร้ายและเก่งกาจเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิต ความสามารถในการรับรู้ถึงอันตรายเหนือกว่ามนุษย์อยู่มาก

และถ้าแมลงพิษยังกลัวจนตัวสั่นงึกงัก ก็ยิ่งต้องหันหลังหนีโดยห้ามลังเลเลยสักนิด

ไม่มีเหตุผลอื่น เนื่องจากมีเพียงผู้ที่ยืมพลังจากฟ้าดินได้เท่านั้น หรือก็คือผู้แข็งแกร่งที่อยู่ระดับดินเป็นอย่างต่ำจึงจะทำให้แมลงพิษหวาดกลัวได้!

เรื่องนี้เจ็ดสังหารไม่เคยสงสัยเลย ในตอนที่เธอเพิ่งเข้าแก๊งS.P.L ได้เจอกับผู้นำ เธอเคยเห็นกับตาว่าแมลงพิษกลัวจนตัวสั่น

แต่ แต่เย่เทียนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง?!

พอคิดว่าเย่เทียนที่อายุแค่นี้แต่ได้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินแล้ว เจ็ดสังหารก็กลัวจนอดอกสั่นขวัญผวาไม่ได้

มิน่าล่ะเขาถึงฆ่าหมาป่าโลภได้

มิน่าล่ะแมลงพิษถึงตัวสั่นเมื่ออยู่ในมือเขา

มิน่าล่ะตัวเองถึงทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

ที่แท้ เขาคือผู้แข็งแกร่งระดับดินนี่เอง!