บทที่ 485 การฝึ กวิชาคู่ภายในบ้านตระกูลซุน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

บทที่ 485 การฝึ กวิชาคู่ภายในบ้านตระกูลซุน
“อาาา… โอออ…. อืมมมม…”
ซุนจิงจิงครวญครางด้วยเสียงที่พยายามกดเอาไว้ขณะที่เธอร่วมฝึกวิชา
คู่กับซูหยางบนเตียงส่วนตัวของเธอในห้องมืด
“ท่านมิปิดบังเสียงจากห้องนี้จริง ๆ รึ อาาา…” ซุนจิงจิงถามเขาขณะ
ที่เธอกำลังเข้าใกล้สภาพที่จะไม่สามารถที่จะยับยั้งเสียงของตนเอง
ไว้ได้อีก
“มีอะไรผิดรึ มิใช่ว่าเจ้ามั่นใจว่าเจ้าจักมิส่งเสียงอะไรเมื่อก่อนหน้านั้น
มินานนัก” ซูหยางหยอกเธอและเขาก็ยิ่งเริ่มขยับสะโพกของตนเองถี่
ขึ้นหลังจากนั้น
“อาาา…” ซุนจิงจิงส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมาเป็นเวลาชั่วครึ่งวินาที
ก่อนที่เธอจะปิดหน้าตนเองด้วยหมอนข้างนุ่มภายใต้ตัวเธอ
“อาาา อาาาาา อาาาาาาา” ซุนจิงจิงใช้โอกาสนี้ส่งเสียงร้องครวญโดย
ไม่ต้องยับยั้ง
“นั่นโกง” ซูหยางพลันหยิบหมอนข้างและโยนมันไปอีกด้านของ
เตียงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เสียงมันจะดีกว่าถ้าเจ้ามิปกปิดมัน”
“อาา… ซูหยาง เจ้าหยอกข้ามากเกินไปแล้ว” ซุนจิงจิงกัดริมฝีปาก
พยายามที่จะยับยั้งเสียงร้องครางของตนเอง
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังตรงมาที่ห้องของพวกเขา ทั้งยังมีแสง
เล็ก ๆ จากตะเกียงลอยอยู่ด้านนอก
เมื่อซุนจิงจิงได้ยินเสียงฝีเท้า หัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแรงเหมือนกับ
เสียงกลองศึก และหน้าของเธอก็แดงขึ้น
“ซ-ซูหยาง มีคนข้างนอก” ซุนจิงจิงกระซิบด้วยเสียงหวั่นวิตกเล็กน้อย
เสียงฝึเท้าดังเข้ามาใกล้ขึ้นใกล้ขึ้นกับห้องของพวกเขา จนกระทั่ง
แสงจากตะเกียงลอยอยู่ตรงหน้าห้อง
“ซูหยางท่านหลับไปแล้วหรือยัง” ทันใดนั้นซุนเหรินก็ส่งเสียงดังขึ้น
จากด้านนอกห้อง
“นั่นท่านแม่” ซุนจิงจิงหันไปมองดูเงาร่างของแม่ตนเองเบื้องหลัง
ประตูที่ออกแบบมาโดยกั้นกางไว้ด้วยกระดาษแผ่นบาง ๆ
“อย่าพูดอะไรออกมาซูหยาง” ซุนจิงจิงรีบกระซิบเขา
แต่ทว่าซูหยางฉีกยิ้มให้เห็นบนใบหน้าก่อนที่อ้าปากพูดว่า “ข้ายัง
มิได้หลับ มีปัญหาอะไรหรือไม่”
ซุนจิงจิงมองดูซูหยางด้วยดวงตาเบิกกว้าง เธอไม่สามารถที่จะเผชิญ
หน้าแม่ของเธอตรง ๆ ได้อีกต่อไปถ้าอีกฝ่ายเดินเข้ามาในระหว่างที่
พวกเขากำลังร่วมฝึกคู่กันอยู่ในตอนนี้
“ถ้าท่านมิถือ ข้าพอจะเข้าไปคุยด้านในได้หรือไม่ นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
ลูกสาวของข้า…” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เธอยอมรับคำขอแต่งงานของตระกูลมู่ใช่ไหม”
ซูหยางพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย ไม่ได้มีอะไรสื่อถึงสถานการณ์ใน
ปัจจุบันของเขา
“ช่างโชคร้ายที่เป็นเช่นนั้น…”
“เช่นนั้นท่านมิจำเป็นต้องกังวล ในฐานะที่เป็นแม่ของเธอ ท่านควร
จะเชื่อมั่นลูกสาวของตนเอง ข้ามั่นใจว่าเธอมีแผนอยู่ในใจ ข้าเองก็
กำลังฝึกวิชาอยู่ในตอนนี้ ดังนั้นข้าต้องขออภัยที่พูดโดยที่ให้ท่านอยู่
ด้านหลังประตูเช่นนี้”
“ท่านกำลังฝึกวิชาอยู่รึ ข้าต้องขออภัยที่รบกวนท่าน ข้าจักปล่อยท่าน
ไว้ตามลำพังในทันที ซูหยาง” ซุนเหรินกระวนกระวายหลังจากที่รู้
ว่าเขากำลังฝึกวิชา ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไปว่าห้ามรบกวนผู้
ฝึกยุทธขณะที่พวกเขากำลังฝึกวิชาอยู่ ในเมื่อนั่นย่อมจะมีผลต่อการ
ฝึกวิชาของพวกเขา
“อย่ากังวล ข้าสามารถพูดและฝึกวิชาไปในเวลาเดียวกัน”
“ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็มิอาจจะรบกวนท่านได้อีกต่อไป พวก
เราค่อยสนทนากันใหม่ในโอกาสหน้ายามเมื่อท่านมิได้ฝึกวิชา ราตรี
สวัสด์ิ” ซุนเหรินกล่าวก่อนที่จะเดินหนีไป
ซุนจิงจิงถอนหายใจโล่งอกหลังจากที่บรรยากาศกลับคืนมาสู่ความ
เงียบสงบ
“ท่านนี่ช่างกล้าจริง ๆ ซูหยาง พวกเราควรทำอย่างไรต่อไปถ้าเธอ
เห็นพวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์นี้” ซุนจิงจิงส่ายหน้า
“ข้าก็จักทักทายเธอด้วยรอยยิ้มและทำต่อไป” ซูหยางหัวเราะเบา ๆ
ปล่อยให้เธอพูดไม่ออก
ในเวลาเดียวกันหลังจากที่เดิจากห้องของซูหยางแล้ว ซุนเหรินก็
กลับไปยังห้องของตนเอง ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของห้องโถง
“เร็วเช่นนี้เลยรึ เขาหลับหรือยัง” ซุนเฉียนถามเธอหลังจากนั้น
เธอส่ายหน้าและกล่าวว่า “ยัง เขายังคงตื่นอยู่ ทั้งยังฝึกวิชาอยู่อีกด้วย
ดังนั้นข้าจึงรีบกลับมา”
“หือ… เขากำลังฝึกวิชาอยู่รึ…” ซุนเฉียนมองดูเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“นั่นเป็นสิ่งที่เขาพูด มีอะไรผิดรึ” ซุนเหรินเลิกคิ้วหลังจากที่เห็นสีหน้า
ตื่นตะลึงของซุนเฉียน ลืมความจริงเรื่องที่ซูหยางเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ไป
เสียสิ้น
“ซูหยาง… เขาก็มาจากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเช่นกันใช่ไหม ถ้าเขา
กำลังฝึกวิชาอยู่ในตอนนี้ นั่นก็หมายความว่าเขา… กับลูกสาวเรา….
ตอนนี้” ซุนเฉียนไม่ได้ลืมเกี่ยวกับเรื่องนี้และกล่าวด้วยเสียงสับสน
ซุนเหรินดวงตาเบิกกว้างด้วยความตระหนกหลังจากที่ตระหนักถึง
ความจริงนี้
“โอพระเจ้า ข้าควรรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อตอนที่เธอกล่าวว่า เขาจักอยู่ที่
ห้องของเธอ นั่นหมายความว่าข้าอยู่ใกล้มากจนเกือบเห็นลูกสาวข้า
กำลังร่วมรักกับซูหยางเมื่อกี้นี้ มิน่าทำไมข้าจึงได้ยินเสียงประหลาด
ออกมาจากห้องนั้น ข้าคิดว่าข้าเพียงคิดจินตนาการสิ่งต่าง ๆ ไปเอง
เพราะว่านั่นมันบอบบางเหลือเกิน”
ร่างกายของซุนเหรินซวนเซไปด้านหลังจนกระทั่งเธอเธอสะดุดล้ม
ลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ใบหน้าซีดไม่อยากจะเชื่อ
“เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วตอนนี้… และเธอก็เป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์
พ้นพิสัยด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมิแปลกที่เธอจะทำอะไรแบบนั้นกับ
เขา” ซุนเฉียนถอนใจด้วยเสียงพ่ายแพ้
“ล-แล้วเรื่องการหมั้นหมายกับตระกูลมู่ล่ะ ทำไมเธอจึงยอมรับ
ข้อเสนอถ้าเธอมีแผนที่จะหลับนอนกับซูหยางคืนนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะ
เป็นศิษย์จากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็ตาม เธอก็มิอาจจะหลับนอน
กับคนอื่นได้ในตอนนี้ในเมื่อเธอได้หมั้นหมายแล้ว ถ้าผู้คนรับรู้เรื่อง
นี้ ลูกสาวเราและทั้งตระกูลซุนย่อมต้องถูกประณามไปตลอดชีวิต”
ซุนเหรินอุทานออกมา
“ข้ามิรู้ว่าเธอวางแผนว่าอะไร แต่เราก็ควรทำเหมือนกับว่ามิมีอะไร
เกิดขึ้น” ซุนเฉียนส่ายหน้า “พวกเรายังโชคดี คนรับใช้มิได้รับอนุญาต
ให้เข้ามาในพื้นที่นี้มิเช่นนั้นก็จักเป็นปัญหาอย่างมาก”
“ข้ายังคงมิอยากเชื่อว่าเธอจักกล้าทำเช่นนั้นทั้งที่รู้เป็นอย่างดีว่าพวก
เราพักอยู่ต่ำกว่าเธอเพียงสองสามห้องจากห้องโถงเท่านั้น” ซุนเหริน
ลุกขึ้นยืนและนวดขมับ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงอย่างไม่มีเหตุผล
ในเวลานั้นภายในห้องของซุนจิงจิง ซึ่งซุนจิงจิงไม่สามารถมองเห็น
ได้อย่างสิ้นเชิงนั้น ดวงตาแมวคู่หนึ่งจ้องมองเธอร่วมฝึกวิชาคู่กับ
ซูหยางอยู่อย่างเงียบ ๆ สายตาของมันเต็มไปด้วยความสนใจและ
ประหลาดใจ