ที่ไหนสักแห่งในห้องของซุนจิงจิง เซียวหรงกลมกลืนเข้ากับความมืด สายตาของเธอจ้องมองไปยังเตียงโดยไม่กระพริบ จ้องมองซุนจิงจิงและซูหยางร่วมฝึกวิชากันอย่างเงียบๆด้วยความสนใจ
ในฐานะที่เป็นแมวจอมภูต เซียวหรงมีความสามารถในการซ่อนตัวตนได้อย่างสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับหายใจ ราวกับว่าเป็นธรรมชาตที่สอง ทำให้แม้กระทั่งเซียนที่แข็งแกร่งก็ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะหาตัวพวกเธอได้โดยปราศจากสมบัติพิเศษเฉพาะหรือวิชาระดับเทพ
“พวกเขาทำอะไรกัน…” เซียวหรงครุ่นคิดในใจขณะที่เธอมองดูซูหยางขยับสะโพก สอดใส่แท่งยาวใหญ่ที่อยู่ตรงขาของเขาเข้าไปในร่างของซุนจิงจิง
สัตว์ส่วนใหญ่เข้าใจธรรมชาติของการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและไม่ต้องการให้ใครสอน แต่ในเมื่อเธอเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษเฉพาะที่ไม่ต้องการการผสมพันธุ์ เซียวหรงจึงไม่รู้ถึงความหมายว่าอะไรคือการผสมพันธุ์กับผู้อื่น
“ดูน่าสนุก…” เซียหรงคิดในใจหลังจากที่เห็นความตื่นเต้นบนใบหน้าของซุนจิงจิง ถึงแม้ว่าเธอไม่เข้าใจอารมณ์ว่า “ความกำหนัด” หรือ “ราคะ” คืออะไร เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึก “สนุก” และ “ตื่นเต้น” จากสีหน้าของซุนจิงจิง
หลังจากที่จ้องมองไปยังใบหน้าหื่นกระหายของซุนจิงจิงอยู่สองสามนาที เธอก็หันความสนใจไปยังกลิ่นเข้มข้นที่อยู่ในอากาศ
“กลิ่นน่ากิน…”
เซียวหรงคิดในใจ แม้ว่านี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกของเธอที่ได้กลิ่นนี้มาจากตัวของซูหยาง เธอก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่สร้างกลิ่นหอมนี้
หลังจากนั้นเมื่อซูหยางปลดปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในร่างของซุนจิงจิง กลิ่นหอมในอากาศก็เข้มข้นและหนาแน่นขึ้น จนกระทั่งจมูกของเซียวหรงกระดุกกระดิก
“ข้าคิดว่าข้าสามารถหลับลงได้อย่างง่ายดายแล้วในตอนนี้ ซูหยาง…” ซุนจิงจิงกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มขณะที่ร่างของเธอล้มลงไปบนเตียง
ซูหยางเพียงแค่ยิ้มและถอดแท่งของเขาออกมาจากถ้ำของซุนจิงจิง
“นี่ ให้ข้าทำความสะอาดมันให้กับท่าน…” ซุนจิงจิงอ้าปากกว้างพร้อมกับแลบลิ้นออกมาอย่างหื่นกระหาย
แต่ทว่าก่อนที่ลิ้นของเธอจะทันได้ถึงแท่งของซูหยาง ลิ้นอื่นก็พลันปรากฏขึ้นข้างเธอและเริ่มเลียปราณหยางจากแท่งของซูหยาง
“อ-อะไรกัน จ-เจ้าคือ” ซุนจิงจิงอุทานออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนกเมื่อเซียงหรงปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าในรูปร่างของมนุษย์และเริ่มเลียงแท่งของซูหยางอย่างสง่างามและนุ่มนวลราวกับแมวที่เลียใบหน้าเจ้าของ
“อา เจ้ามาจากทางไหนกัน” กระทั่งซูหยางก็ยังประหลาดใจกับการบุกรุกกระทันหันของเซียวหรง จนทำให้เขาก้นจ้ำเบ้า
“อร่อย…” เซียวหรงเลียริมฝีปากของเธออย่างไร้เดียงสาหลังจากที่ได้ลิ้มรสปราณหยางของเขา
“นายท่าน ให้ข้ามากกว่านี้ เซียวหรงต้องการลิ้มรสของเหนียวๆสีขาวนั่นมากกว่านี้” เซียวหรงกล่าวขณะที่เธอเริ่มคลานเข้าไปหาแท่งของซูหยางอีกครั้ง
“ร-รอเดี๋ยว” ซุนจิงจิงรีบจับเซียวหรงไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างเพื่อที่จะยึดเธอไว้
“มีอะไรรึ” เซียวหรงหันมาถามด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
“ข้า… อือ…” ซุนจิงจิงไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรและหันไปมองดูซูหยางเพื่อขอความช่วยเหลือ
ซูหยางกระแอมและพูดว่า “เจ้าต้องการพลังวิญญาณใช่หรือไม่ ข้าจักป้อนเจ้าด้วยปราณไร้ลักษณ์ในภายหลัง…”
ในเมื่อซูหยางเป็นเจ้านายของเธอ ส่วนใหญ่แล้วเซียวหรงก็จะอาศัยพลังวิญญาณของเขาในการเติบโตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม แต่ในเมื่อเธออยู่ในเขตตำนานในขณะที่ซูหยางยังคงอยู่ที่เขตอัมพรวิญญาณ ต่อให้เธอกลืนกินทุกหยดหยาดของปราณไร้ลักษณ์ในตัวของเขา มันก็ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่เธอแม้แต่น้อย ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วเธอจึงกินปราณไร้ลักษณ์ของเขาเหมือนเป็นของว่าง
แต่ทว่าเซียวหรงรีบส่ายหน้าของเธอและกล่าวว่า “ข้ามิได้ต้องการปราณไร้ลักษณ์ ข้าต้องการกินของเหลวสีขาวเหนียวนั่น”
เธอกล่าวขณะที่ชี้ไปยังแท่งของเขา
“ท-ท่านสามารถกระทั่งป้อนปราณหยางให้กับสัตว์วิญญาณได้ด้วยรึ ข้ามิเคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อน” ซุนจิงจิงกล่าว
“แน่นอนถึงแม้ว่ามันจะมิใช่เรื่องปกติสำหรับในหมู่ผู้ฝึกวิชาทั่วไป แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ผู้ฝึกวิชาคู่บางคนที่มีสัตว์วิญญาณใช้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสัตว์วิญญาณของตนเอง และก็มิใช่เรื่องผิดปกติสำหรับผู้ที่ฝึกวิชาคู่ในการฝึกวิชาร่วมกับสัตว์วิญญาณที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์แต่อย่างใด ในเมื่อโดยพื้นฐานแล้วไม่มีความแตกต่างระหว่างมนุษย์และสัตว์วิญญาณครั้นเมื่อพวกเธอกลายร่างแล้ว ถ้าพวกเธอแข็งแกร่งพอ สัตว์วิญญาณก็ยังสามารถที่จะตั้งครรภ์กับมนุษย์ได้ด้วย” ซูหยางอธิบายให้กับเธอ
“กระทั่งในชีวิตก่อนของข้า ข้าก็ได้ร่วมฝึกกับสัตว์วิญญาณในร่างมนุษย์นับไม่ถ้วน แต่ทว่าข้าต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนั่นกับเซียวหรง ในเมื่อเธอเป็นตัวตนที่ผิดปกติ”
“ท่านหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น” ซุนจิงจิงถาม
“เอ้อ สำหรับผู้เริ่มต้น พลังการฝึกปรือของเธอนั้นโดยปกติแล้วสูงกว่าข้ามาก ถ้าข้าพยายามที่จะฝึกฝนปราณหยินของเธอ แน่นอนว่าข้าจักต้องตายในทันที ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะมีตัวตนมานับหลายร้อยปี จิตใจของเธอก็ยังค่อนข้างเป็นเด็กและไร้เดียงสา ดังนั้นจึงมีความรู้สึกไม่ถูกต้องที่จะร่วมฝึกกับเธอไ
“ตอนนี้เมื่อท่านพูดถึง เธอก็มีพฤติกรรมเหมือนกับเด็กไร้เดียงสาจริงด้วย…” ซุนจิงจิงพึมพัม
“เช่นนั้น…” จากนั้นซูหยางก็ตบหัวเซียวหรงเบาๆและกล่าวว่า “ถ้าเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่อีกสักหน่อย ข้าก็จักยอมให้เจ้ากินปราณหยางได้มากเท่าที่เจ้าต้องการ”
“ข้าจะโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ได้อย่างไร” เธอถามเขาด้วยใบหน้างุนงง
“นั่นเป็นสิ่งที่ข้ามิสามารถที่จะตอบเจ้าได้ ถ้าเจ้าต้องการที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อย่างน้อยเจ้าควรจะเข้าใจว่าอะไรคือความหมายของการเป็นผู้ใหญ่” ซูหยางกล่าว
“อย่ากังวล ตามธรรมชาติแล้วเจ้าจักเติบโตเป็นผู้ใหญ่ตราบเท่าที่เจ้าใช้เวลามากขึ้นในโลกนี้ เมื่อสุดท้ายแล้วเจ้าก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตอยู่ภายในเครื่องมือวิญญาณ อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าจำได้”
“ก็ได้…” เซียวหรงพยักหน้า แต่ว่าสายตาของเธอยังคงจ้องไปยังสารสีขาวรอบแท่งของซูหยาง
“ว่าไปแล้ว ให้ข้าทำความสะอาดมันเถอะ…” ซุนจิงจิงปล่อยการกอดรัดเซียวหรงไว้ แล้วทำการทำความสะอาดน้องชายของซูหยางด้วยปากของเธอราวกับผู้เชี่ยวชาญ
“…”
เซียวหรงจ้องมองซุนจิงจิงกินปราณหยางของเขาจนหมดด้วยสายตาอิจฉา
“โตเป็นผู้ใหญ่… เซียวหรงต้องกลายเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะได้ลิ้มรสสารอร่อยนั่นอีกครั้ง” เธอคิดในใจด้วยดวงตาที่เป็นประกายตัดสินใจ