หลังจากที่ “ทำความสะอาด” ซูหยางและซุนจิงจิงก็เข้านอนในเตียงเดียวกันพร้อมกับกอดอีกฝ่ายไว้ ในเวลานั้นเซียวหรงก็หลับอยู่ข้างซูหยางบนเตียงเดียวกันเช่นกัน
โชคดีสำหรับซุนจิงจิง เมื่อเตียงเธอใหญ่พอที่จะบรรจุพวกเขาทั้งสามคนและยังมีพื้นที่ว่างเหลือ
แต่โชคร้ายสำหรับเซียวหรง เธอไม่สามารถที่จะหลับลงได้แม้ว่าจะผ่านไปหลายนาที
รสชาติของปราณหยางของซูหยางนั้นอร่อยเกินไปที่จะเพิกเฉย ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาเกือบทั้งหมดของคืนนั้นนึกถึงรสชาติของมัน
“ความรู้สึกอบอุ่นในร่างกายของข้านี้คืออะไรกัน…” เซียวหรงตระหนักว่าร่างของเธอนั้นร้อนขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับตอนที่เมื่อซูหยางเลียแขนเธอ ทำให้ร่างของเธอเสียวซ่านไปทั่ว
เวลาหลังจากนั้น มือของเธอก็เคลื่อนไปยังส่วนล่างของร่างกายเธอตามสัญชาตญาณ สัมผัสกับร่องที่เปียกอยู่เล็กน้อยระหว่างขาของเธอ
“โอ… ความรู้สึกนี้ดีมาก….” เซียวหรงคิดในใจขณะที่เธอเริ่มปรนเปรอตนเองตลอดคืนโดยไม่รู้ตัว และเธอก็เริ่มเข้าใจอย่างช้าๆว่าทำไมซุนจิงจิงกับซูหยางจึงทำอะไรกันแบบนี้
หลังจากที่เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เซียวหรงก็ผลอยหลับไปจากการปรนเปรอตนเอง
เช้าตรู่ ซูหยางก็ตื่นขึ้นมาจากการถูกประกบสองข้างจากสองสาวสวย
“ทำไมห้องจึงเต็มไปด้วยปราณหยินหนาแน่นปานนี้…” ซูหยางงงงันเมื่อเขาตระหนักว่าห้องนั้นเต็มไปด้วยปราณหยิน ในเมื่อมันยังไม่ปรากฏเมื่อคืนก่อนที่เขาจะหลับไป
จากนั้นเขาก็หันไปมองยังเซียวหรง ซึ่งกำลังหลับอย่างเป็นสุขข้างกายเขา
สายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปจากใบหน้าสวยของเธอไปยังขาที่ซึ่งมือของเซียวหรงยังคงอยู่ภายในกางเกง
ครั้นเมื่อเขารู้เหตุผลถึงปราณหยินในห้อง เขาก็ครุ่นคิดในใจ “เธอกำลังปลุกธรรมชาติที่แท้ของเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ… หวังว่าเธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่พอเมื่อเวลาที่ธรรมชาติของเธอตื่นขึ้นมาเต็มที่…”
แม้ว่าเซียวหรงจะเป็นแมวจอมภูตตัวแรกที่เขาได้ข้องแวะ แต่เขาก็เห็นแมวจอมภูตอยู่บ้างในชีวิตก่อน และในเมื่อแมวจอมภูตนั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นบรรพบุรุษของแมวภูต เป็นเรื่องปลอดภัยที่จะอนุมานว่าพวกมันจะมีธรรมชาติคล้ายคลึงกัน
ในขณะที่แมวภูตจะเกิดขึ้นมาโดยปราศจากความรู้สึกตัณหาหรือราคะและใช้ชีวิตตามปกติไปตลอดชีวิตของพวกมันไปโดยปราศจากความรู้สึกเช่นนั้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่สามารถเรียนรู้ความรู้สึกตัณหาหรือราคะ ตามความเป็นจริงถ้าแมวภูตได้เรียนรู้ความรู้สึกเช่นนั้น พวกมันจะยิ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยราคะถึงที่สุดที่ซึ่งจะทำทุกวิถีทางในการล่วงละเมิดชายทุกคนที่เข้ากับรสนิยมของมัน และพวกมันก็จะล่วงเกินชายคนนั้นจนกว่าพวกเขาจะสิ้นลมหายใจ
“เพราะว่าธรรมชาติซ่อนเร้นของพวกมันที่สามารถกลายเป็นหายนะได้ ดังนั้นเธอจึงรวบรวมแมวภูตเกือบทั้งหมดภายในโลกมาสอนพวกมันให้รู้จักควบคุมความปรารถนาราคะ” ซูหยางนึกถึงเพื่อนของเขาที่ได้ทำการฝึกสอนแมวภูตจำนวนมาก
แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวการตื่นขึ้นมาของธรรมชาติอันหื่นกระหายของเซียวหรง ในเมื่อเขาได้รับวิธีที่จะช่วยเธอควบคุมความปรารถนาราคะไว้แล้วหากว่าพวกมันถูกปลุกขึ้นมา ซึ่งเขาได้มาจากเพื่อนที่สอนแมวภูตให้รู้จักดำรงชีพ
ซูหยางพลันถอนหายใจเสียงเบา “ฮ้าาาา ช่างเป็นปราณหยินที่สูญเปล่าเสียจริงๆ ห้องนี้เต็มไปด้วยปราณหยินที่มาจากสาวพรหมจรรย์ในเขตตำนาน แต่ข้ากลับมิสามารถที่จะฝึกฝนมันได้ นี่ก็เหมือนกับให้อาหารอร่อยแต่มีพิษที่สามารถฆ่าใครก็ได้ แก่ชายไร้บ้านที่หิวโหย เป็นธรรมดาที่คนอย่างข้าจะต้องทุกข์ทรมาน”
“…นายท่านรึ”
เสียงบ่นของซูหยางปลุกเซียวหรงให้ตื่นจากการหลับไหล
“นายท่าน เมื่อคืน เซียวหรง…” เธอมองดูตำแหน่งระหว่างขาของตัวเองด้วยใบหน้าสับสัน ในเมื่อเธอไม่สามารถอธิบายให้กับเขาได้ว่าเธอประสบกับอะไรบ้างเมื่อคืนนี้
ซูหยางเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าอาจจะมิรู้ แต่ว่าเจ้าได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกหน่อยแล้ว”
“จริงรึ เซียวหรงโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นรึ เช่นนั้นข้าคงสามารถลิ้มรสของเหนียวสีขาวรสดีนั่นตอนนี้แล้วละสิ” เธอมองดูเขาด้วยดวงตาตื่นเต้น
ซูหยางหัวเราะเล็กน้อยกับความกระตือรือล้นของเธอแล้วกล่าวว่า “เพียงเพราะว่าเจ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อยมิได้ทำให้เจ้ากลายเป็นผู้ใหญ่ เซียวหรง เจ้ายังคงมีเส้นทางอีกยาวไกลในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนที่ข้าจะสามารถทำสิ่งนั้นกับเจ้าได้”
“โอ…” เซียวหรงก้มหน้าของเธอลงด้วยท่าทางหดหู่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของซูหยาง
ในขณะที่เหตุผลอย่างหนึ่งของซูหยางที่ไม่ร่วมฝึกกับเซียวหรงเป็นเพราะว่าเธอยังมีจิตใจเป็นเด็ก ความจริงก็คือเขายังไม่ได้เตรียมตัวที่จะช่วยเธอควบคุมความปรารถนาราคะของเธอ ดังนั้นเขาจึงได้แต่เพียงถ่วงเวลาเธอไปจนกว่าเขาจะเตรียมตัวพร้อมแล้ว
“อย่ากังวล มันมิได้นานมากเกินไปกว่าที่เจ้าจะสามารถได้ลิ้มรสสารเหนียวนั่นอีกครั้ง” ซูหยางพลันกล่าวกับเธอ
“จริงรึ” เซียวหรงเงยหน้าเธอขึ้นอย่างรวดเร็วและมองดูเขาด้วยดวงตาไร้เดียงสา
ซูหยางพยักหน้าพร้อมยิ้ม
หลังจากนั้นซุนจิงจิงก็ตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน และพวกเขาก็เตรียมตัวสำหรับวันนั้น
“สวัสดียามเช้า ท่านพ่อ ท่านแม่” ซุนจิงจิงทักทายพวกเขาในห้องนั่งเล่นหลังจากที่ล้างหน้าและจัดแต่งทรงผมแล้ว
“อ-โอ… สวัสดียามเช้า จิงจิง..”
พ่อแม่ทักทายเธอด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนและรอยยิ้มเหนื่อยล้า แม้ว่าพวกเขาจะพยายามที่จะลืมเรื่องเมื่อวานนี้ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พูดง่ายทำยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนเหรินซึ่งอดไม่ได้ที่จะจินตนาการตลอดทั้งคืนถึงการที่ลูกสาวของเธอกำลังร่วมฝึกวิชาคู่กับซูหยาง
“ท่านดูเหมือนเหนื่อย ท่านแม่ ท่านมิได้หลับพอเมื่อคืนนี้อย่างนั้นรึ” ซุนจิงจิงสังเกตเห็นถุงดำใต้ตาของเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อ-อะไรประมาณนั้นแหละ แล้วเจ้าล่ะ เป็นอย่างไรบ้างเมื่อคืนนี้” ซุนเหรินถามเธอ
“ข้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เธอตอบด้วยรอยยิ้ม
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็เข้ามาในห้องพร้อมกับเซียวหรงในรูปของแมวเกาะอยู่บนไหล่ของเขา
“ส-สวัสดียามเช้า ซูหยาง…”
“สวัสดียามเช้า คุณนายซุน” ซูหยางทักทายเธอด้วยรอยยิ้มหล่อเหลาและสดใส จนทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อย
“ว-ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้าของพวกเจ้า พวกเจ้าจะออกไปข้างนอกในวันนี้รึ” ซุนเหรินกระแอมและชี้ไปยังเสื้อผ้าของพวกเขา
ซุนจิงจิงสวมชุดเสื้อผ้าสีแดงสง่างามที่ช่วยขับเน้นเสน่ห์และความสวยงามของเธอไปอีกระดับหนึ่ง ในขณะที่ซูหยางสวมเสื้อผ้าสีดำหรูหราที่ช่วยทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขายิ่งชวนฝันมากยิ่งขึ้น
“ใช่ พวกเรากำลังจะออกเดทกันต่อจากนี้” ซุนจิงจิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“อ-ออกเดท เจ้าพูดอย่างนั้นรึ…” ซุนเหรินมองดูเธอด้วยใบหน้างงงัน