บทที่ 211 การเปิดเผยของชีวิตที่แล้ว
“หุบปาก อย่าเอาฉันไปเทียบกับเธอ!” มู่หรงเสวี่ยยกมีดและพยายามที่จะแทงไปที่เสี่ยวเข่อลี่ อย่างไรก็ตามฮวงฟูอี้ที่เพิ่งจะตามเธอเข้ามาก็จับมือมู่หรงเสวี่ยไว้ มู่หรงเสวี่ยสะบัดไม่หลุด เธอรีบหันกลับไปและเห็นว่าเป็นฮวงฟูอี้ที่จับเธอไว้ สีหน้าเธอกลายเป็นเย็นชาและพูดออกมา “นายมาห้ามฉันทำไม…”
ฮวงฟูอี้ถอนหายใจเล็กน้อยและพูดออกมา “ฉันเพิ่งจะค้นเรื่องตัวตนของเธอเจอเพิ่มเติม ฉันยังฆ่าเธอตอนนี้ไม่ได้…”
“ปล่อยนะ! ฉันจะฆ่าเธอ” มู่หรงเสวี่ยดิ้นขัดขืนอย่างสิ้นหวัง มือที่ถือมีดเองก็ยังเผลอทำบาดตัวเองจนเป็นแผลหลายแผล
ฮวงฟูอี้โกรธและบีบมือเธอไปอย่างแรง มีดในมือมู่หรงเสวี่ยหล่นไปที่พื้นทันที “เธอเป็นบ้าอะไร! เธอไม่ใช่คนแบบนี้นะ…”
มู่หรงเสวี่ยตกใจ คำพูดของเสี่ยวเข่อลี่ยังดังก้องอยู่ในหูของเธอ: เธอกับฉันมันก็เหมือนกันแหละ
สีหน้าโกรธเกรี้ยวของฮวงฟูอี้ลอยอยู่เบื้องหน้าเธอ หัวใจสั่นรัว นี่มันหมายความว่าไง…เธอเป็นคนแบบไหนกัน
ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ มู่หรงเสวี่ยผลักฮวงฟูอี้ออกและรีบวิ่งออกไป ฮวงฟูอี้ไม่ได้ตามเธอไป หลงอี้รู้สึกกังวลอย่างมาก เขาอยากที่จะเข้าไปแทนที่ดราก้อนมาสเตอร์ อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเขา!!!
สายตาของเสี่ยวเข่อลี่แวบประกายรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มีปัญหากันนะ งั้นนี่ก็ยิ่งสะดวกที่เธอจะเริ่มมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยออกไป สีหน้าของฮวงฟูอี้ก็กลายเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เขามองไปที่เสี่ยวเข่อลี่
หัวใจที่รู้สึกมีความสุขเล็กน้อยของเสี่ยวเข่อลี่เมื่อกี้เริ่มที่จะรู้สึกตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูก ชายคนนี้น่ากลัวมากจริงๆ
“พูดมา” น้ำเสียงเย็นชาของฮวงฟูอี้ดังออกมาซึ่งทำให้เสี่ยวเข่อลี่รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทันที ร่างกายของเธอแข็งนิ่งและความเจ็บปวดของรอยแผลสองรอยที่หน้าของเธอก็ทำให้เธอหมดเสน่ห์ไป เธอรู้สึกห่วงหน้าตาตัวเองตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าชายคนนี้อย่างอธิบายไม่ถูก นังมู่หรงเสวี่ยบ้ากล้าที่จะกรีดหน้าเธอจริงๆงั้นเหรอ
แต่เธอก็ไม่ได้พึ่งหน้าตา ดวงตาของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงแต่เพราะหลงอี้ที่เดินกลับเข้ามาก่อน
“พูด…พูดอะไร…” คำพูดตะกุกตะกังของเสี่ยวเข่อลี่ยิ่งทำให้เสน่ห์ลดน้อยลงไปอีก
ฮวงฟูอี้เตะเข้าที่ท้องอย่างไร้ความปรานี
หลังของเสี่ยวเข่อลี่ชนเข้ากับกำแพงอย่างจังจนเธอกระอักเลือดออกมาเต็มปาก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว
“จะพูดหรือจะตาย!” ฮวงฟูอี้มองไปที่เสี่ยวเข่อลี่ด้วยท่าทางออกคำสั่ง ในสายตาของเขาไม่มีความสงสารใดๆเลย
หัวใจของเสี่ยวเข่อลี่สั่นเทิ้ม เธอใช้เสน่ห์กับผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย สายตาของเขามีแต่ความเย็นชา เขาจะต้องดีกว่าฟางฉีฮัวแน่ๆ เธอรู้สึกเสียใจที่ตัวเองไม่หนีไปตอนที่ยังมีโอกาส ผู้ชายคนนี้มันปีศาจชัดๆ
“เอิ่ม…” ทันทีที่เธอกำลังจะอ้าปาก ก้อนเลือดก็ขึ้นมาที่คอของเธอ เธอช่วยไม่ได้จนต้องอ้วกออกมาอีกรอบ บริเวณหน้าอกที่เธอถูกเตะมันเจ็บอย่างมากเลยจริงๆ เธอเดาว่าซี่โครงเธอคงจะหักแน่ๆ
ฮวงฟูอี้ยกเท้าขึ้นและเหยียบไปที่เท้าที่บาดเจ็บของเสี่ยวเข่อลี่
“โอ๊ย…” เสี่ยวเข่อลี่อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ร่างกายเองก็อดไม่ได้ที่จะโก่งขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อฮวงฟูอี้ยกเท้าจะเหยียบเธออีกครั้ง ดวงตาแดงเพราะความเจ็บปวดของเธอก็พูดออกมา “อย่า…ฉันจะพูด…”
ฮวงฟูอี้วางเท้าลง สายตาเย็นชาของเขาไร้ซึ่งร่องรอยของอาการใดๆ
เสี่ยวเข่อลี่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น หลังพิงไปกับกำแพง มือกดไปที่บาดแผลที่หน้าอกเบาๆแล้วจึงค่อยๆเปิดปากพูดออกมา “มู่หรงเสวี่ยก็เหมือนกับฉัน คือคนที่เคยมีชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง…”
สีหน้าของฮวงฟูอี้เปลี่ยนไปแต่น้ำเสียงก็ยังคงเย็นชา “เธอหมายความว่าไง?”
ในตอนนี้ เสี่ยวเข่อลี่ที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด รู้สึกว่าทุกคำพูดที่เธอพูดออกมามันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ด้วยรอยยิ้มที่ริมฝีปากเธอจึงพูดต่อ “เธอเคยมีชีวิตมาแล้วเหมือนฉัน ในชีวิตที่แล้ว เธอก็มีผู้ชายที่เธอรักหัวปักหัวปำอย่างมาก…”
หลังจากที่หยุดไปแล้วเธอก็พูดต่อ “นายรู้ไหมล่ะว่าทำไมเธอถึงเกลียดฉันมากขนาดนี้? เพราะผู้ชายที่เธอรักบังเอิญมารักฉัน…” เธอไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายคนไหนจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องผู้หญิงของตัวเองไปรักกับผู้ชายคนอื่น…เธอจะทำให้มู่หรงเสวี่ยดีกว่าไงยังไง…ส่วนเรื่องที่เธอทรมานมู่หรงเสวี่ย เธอคงไม่โง่พอที่จะพูดออกไปหรอก
ร่างกายของฮวงฟูอี้เปล่งรังสีเยือกเย็นและสีหน้าก็เครียดขึ้นกว่าเดิมอีก เขาถาม “ผู้ชายคนนั้นคือใคร?”
เสี่ยวเข่อลี่เป็นลมไปเพราะความเจ็บปวด อันที่จริงเธอตั้งใจแกล้งเป็นลม ถ้าเธอพูดทุกอย่างออกไป สิ่งสุดท้ายที่เธอจะต้องเจอก็คือความตาย…ชายคนนี้โหดร้ายเกินไปและเขาก็เป็นผู้ชายคนแรกที่ไม่หลงเสน่ห์ของเธอ
ฮวงฟูอี้เห็นเสี่ยวเข่อลี่ที่เป็นลมไปและรีบเตะออกไปทันทีแต่ก็เลี่ยงจุดที่เป็นอันตรายไว้ ยังไงซะเขาก็ยังมีคำถามที่อยากจะถามอีกและตัวตนของผู้หญิงคนนี้ก็แปลกๆด้วย…เขามีลางสังหรณ์แปลกๆ
“ปลุกเธอขึ้นมา!” ฮวงฟูอี้พูดกับมังกรที่อยู่อีกข้าง
“ครับ” ทันทีที่หลงอี้เดินออกไปจากห้อง เขาก็สั่งให้พวกการ์ดไปหาถังน้ำแข็งใส่น้ำแล้วมาราดใส่เสี่ยวเข่อลี่
อย่างไรก็ตามเสี่ยวเข่อลี่ก็ยังไม่ขยับ
การ์ดเดินก้าวเข้ามาและมองไปที่ร่างของเสี่ยวเข่อลี่
หลังจากผ่านไปหลายนาที ฮวงฟูอี้ขมวดคิ้ว
ทันทีที่หลงอี้เห็น เขาก็พูดออกมา “ดราก้อนมาสเตอร์ ถ้าคุณถามผม ผมเดาว่าเธอน่าจะบาดเจ็บสาหัสนะครับ เธอคงจะไม่ฟื้นขึ้นมาเร็วๆนี้แน่…” อันที่จริงสิ่งที่เขาอยากจะพูดคือถ้าดราก้อนมาสเตอร์ไม่ตามคุณมู่หรงไปตอนนี้ก็อาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ได้
สีหน้าฮวงฟูอี้เย็นชา ผู้ชายคนที่เสี่ยวเข่อลี่พูดถึงเมื่อกี้ทำให้เขารู้สึกกังวล ท่าทางที่บ้าคลั่งของมู่หรงเสวี่ยเมื่อกี้ยังตราตรึงอยู่ในใจเขา ผู้ชายคนนั้นสำคัญขนาดไหนถึงทำให้เธอคลั่งได้ขนาดนั้น…เดิมทีเขาคิดว่าก่อนหน้านี้เสี่ยวเสวี่ยคบอยู่กับชางกวนโม่แต่ไม่นานเธอก็เลิกกับเขา เป็นเพราะเสี่ยวเสวี่ยยังไม่ลืมผู้ชายในชีวิตที่แล้วหรือเปล่า ชีวิตที่แล้วงั้นเหรอ?! มันแย่มาก…แต่เขาก็เชื่อ…ถ้าเป็นเพราะชีวิตที่แล้ว งั้นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลมากมายก็อธิบายได้แล้ว
สีหน้าที่เคร่งขรึมของฮวงฟูอี้ทำให้หลงอี้และคนที่อยู่รอบๆต่างก็หวาดกลัว
หลังจากนั้นสักพักเมื่อฮวงฟูอี้เห็นว่าเสี่ยวเข่อลี่ยังไม่ฟื้น เขาจึงเดินออกไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา “อย่าเพิ่งปล่อยให้เธอตายตอนนี้…” หลังจากที่หลงอี้พูดจบเขาก็รีบตามออกไปทันที
ฮวงฟูอี้เดินกลับไปที่ห้องทำงานด้วยสายตาแปลกๆ การ์ดทุกคนที่อยู่ตามทางต่างก็หลบสายตาเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องเจอปัญหา
หลงอี้เดินตามฮวงฟูอี้ไปอย่างระวัง เมื่อกี้เขาเพิ่งได้ยินเรื่องมหัศจรรย์ คุณมู่หรงไม่ใช่คนจริงๆด้วย
เมื่อฮวงฟูอี้กลับมาที่ห้อง เขาก็ไม่เห็นร่างของมู่หรงเสวี่ยอีกครั้ง สีหน้าของเขากลายเป็นตึงเครียดอีกครั้ง “ไปตรวจกล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้วหาว่าเสี่ยวเสวี่ยอยู่ที่ไหน?”
หลังจากที่ได้ยินคำสั่ง หลงอี้ก็รีบเข้าไปที่ห้องกล้องวงจรปิดทันที แน่นอนมันเป็นห้องที่ใหญ่มากๆซึ่งไม่เห็นเพียงแค่ห้องของฮวงฟูอี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดว่ามู่หรงเสวี่ยเพิ่งเข้าไปที่ห้องทำงานของฮวงฟูอี้แล้วยังไม่กลับออกมาอีกเลย
“ดราก้อนมาสเตอร์ คุณมู่หรงเสวี่ยเข้าไปที่ห้องทำงานของคุณครับ…” หลงอี้กลับไปหาฮวงฟูอี้และตอบออกไปอย่างระวัง
เห็นแก่พระเจ้าเถอะ คุณมู่หรงหายไปอีกแล้ว ดราก้อนมาสเตอร์จะต้องคลั่งอีกแล้วแน่ๆ
สีหน้าของฮวงฟูอี้เย็นชาและเขาก็ตะโกนออกไปในห้องที่ว่างเปล่า “มู่หรงเสวี่ย ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
“มู่หรงเสวี่ย…”
หลงอี้รู้สึกตกใจกับเสียงตะโกนเกรี้ยวกราด ร่างกายสั่นไปหมด ดราก้อนมาสเตอร์บ้าไปแล้วจริงๆด้วย เขาตะโกนใส่อากาศทำไมกัน
ในตอนนี้ ในมิติลับไม่ได้ยินเสียงตะโกนของฮวงฟูอี้ที่อยู่ข้างนอกเลยเพราะเธอรู้แล้วว่าพ่อแม่อาจจะไปที่ไหน
เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าในมิติลับจะมีหลุมดำอยู่ด้วย
มันคือน้ำตกชุบชีวิต เธอแค่รู้สึกอารมณ์ไม่ดี หลังจากที่ตามหามานานแต่ก็ยังไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ เมื่อเธอเดินเข้ามาลึกขนาดนี้เธอก็ดูเหมือนว่าจะเห็นแสงที่ออกมาจากม่านของน้ำตก เธอจึงถอดรองเท้าและว่ายข้ามเข้าไป เธอไม่คิดเลยว่าจะมีอีกถ้ำอยู่เบื้องหลังม่านของน้ำตก
ในหลุมมีแสงสดใสหลายสี เธอเอื้อมมือไปแตะมันอย่างระวังและมันก็เกือบที่จะดูดเธอเข้าไป โชคดีที่เธอดึงมือกลับมาได้ทัน
เธอไม่แน่ใจว่านี่เป็นสถานที่ที่พ่อแม่เธอหายตัวไปหรือเปล่าแต่มีเพียงสถานที่เดียวที่ตรงกับเรื่องที่คุณย่าของเธอเล่าให้ฟัง เมื่อเธอกำลังที่จะก้าวเข้าไป เธอก็นึกถึงคำถามของฮวงฟูอี้ขึ้นมา
ถ้าเธอไม่ได้กลับมา เขาจะยอมไหม? เธออดไม่ได้ที่จะถามตัวเอง แต่นั่นคือพ่อแม่ของเธอ เธอจะปล่อยพวกท่านไปได้ยังไง?
มู่หรงเสวี่ยยืนอยู่ตรงทางเข้าถ้ำ ลังเลกับการตัดสินใจของตัวเองอยู่นาน อีกเหตุผลคือเรื่องที่คุณปู่คุณย่าของเธอยังอยู่ที่นี่ อย่างน้อยเธอก็ควรที่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะไป
เสี่ยวเข่อลี่ ผู้หญิงคนนั้น
สุดท้ายเธอก็กัดฟันและเดินกลับออกมา หนูขอโทษนะคะ พ่อกับแม่ หนูจะต้องจัดการเรื่องของตระกูลมู่หรงก่อนสักพัก อย่างน้อยก็เรื่องเสี่ยวเข่อลี่ ผู้หญิงคนนั้นที่จ้องเล่นงานตระกูลมู่หรง เธอจะต้องหายตัวไป