ตอนที่ 539 อ้อมกอด / ตอนที่ 540 พูดดีดี

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 539 อ้อมกอด

 

 

ขบวนต้อนรับเจ้าสาวแน่นหนามาก แต่อาการถอนหายใจของเหยียนเค่อทำเสิ่นจิ้งเฉินทนไม่ไหว

 

 

ตอนที่รู้ว่าตนได้นั่งรถไปกับเหยียนเค่อก็ดีใจอยู่พักหนึ่ง ยังส่งสายตาเห็นใจไปให้ฉินซื่อหลานกับเซ่าหมิงฟ่านที่ต้องนั่งรถเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวต่อจากรถของสวีอันหรานอยู่เลย ส่วนตัวเองกระดี้กระด้าไปนั่งที่รถท้ายแถว แต่กลับไม่คิดว่าอามรณ์ของเหยียนเค่อจะเป็นแบบนี้

 

 

“นายเป็นอะไร” เสิ่นจิ้งเฉินอยู่ในชุดสูทสีขาวเหมือนกัน เสื้อเชิ้ตด้านในมีผ้าริบบิ้นผูกอยู่เป็นลวดลาย ดูน่ารักบ้องแบ้วสมกับเป็นชายหนุ่ม

 

 

เหยียนเค่อผลักหัวเฉิ่นจิ้งเฉินออก ไม่อยากพูด

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินจัดผมให้เข้าทรง “หรือเพราะว่าวันนี้ฉันดูดีกว่านาย นายเลยไม่พอใจ”

 

 

“คิดมากไปแล้ว” เหยียนเค่อก้มมองนิ้วมือตัวเอง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินพ่นลมหายใจออกมาด้วยความอิจฉา เดิมทีสวีอันหรานให้พวกเขาเลือกชุดที่จะใส่ ชุดที่เหยียนเค่อใส่อยู่นั้นคือชุดที่พวกเขาเหลือไว้ เพราะพวกเขาใส่แล้วดูไม่ดี แต่เหยียนเค่อกลับใส่ออกมาแล้วดูดีขนาดนี้ แต่สักพักก็คิดได้ ดีนะที่ตนเลือกชุดนี้มาก่อน ไม่อย่างนั้นเหยียนเค่อได้ไปคงต้องดูดีกว่าตอนนี้อีกเป็นแน่

 

 

“นายควรขอบใจพวกฉันนะ”

 

 

“ขอบใจที่พวกนายเล่นงานฉันลับหลังน่ะเหรอ” เหยียนเค่อยื่นโบไปทางเสิ่นจิ้งเฉิน “ผูกให้หน่อย”

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินรับเอามาแล้วช่วยผูกให้ มือก็เอื้อมไปแตะเพชรที่ติดอยู่ที่โบของเหยียนเค่อ จากนั้นก็เงยไปมองหน้าเพื่อน “ฉันเล็งโบนายไว้แล้วนะ”

 

 

เหยียนเค่อไม่กล่าวอะไร มองสำรวจตัวเองจากกระจก ขยับโบเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาอ่านข่าว

 

 

 ซย่าสี่ยวมั่วที่อยากจะล่วงหน้ามาก่อนแต่ดันทำไม่สำเร็จ ตอนนี้จึงทำได้แค่ไปพร้อมกับขบวนของเพื่อนเจ้าบ่าว

 

 

สวีรั่วชีรอซย่าเสี่ยวมั่วอยู่นาน จนคิดไปว่าซย่าเสี่ยวมั่วจะไม่มาจริงๆแล้ว เพื่อความสบายใจของสวีรั่วชีอันหรานจึงต้องโทรมาหาซย่าเสี่ยวมั่ว

 

 

“เธออยู่ไหนแล้ว เสี่ยวชีรอเธออยู่เนี่ย”

 

 

“ฉันถูกผู้ชายของหล่อนกักตัวไว้น่ะสิ ตอนนี้กำลังเดินทางไปหาพวกเธออยู่” ซย่าเสี่ยวมั่วสงสัยว่าสวีอันหรานจะจงใจทำ เพื่อที่ตอนเข้าไปหาเจ้าสาวจะได้เข้าไปอย่างง่ายๆหน่อย

 

 

อันหรานก็รู้อยู่แล้วว่าซย่าเสี่ยวมั่วไม่กล้าหนีไปหรอก จึงวางใจลง “จะมาแล้วก็ดี สวีรั่วชีแทบจะหนีงานแต่งไปหาเธออยู่แล้ว”

 

 

“อย่าให้เธออาละวาดนะ ฉันกับสวีอันหรานกำลังจะไปรับเธอด้วยกันไง ฮ่าฮ่าฮ่า” ซย่าเสี่ยวมั่วหัวเราะราวกับคนบ้า

 

 

“มาถึงเธอก็จัดการเอาเองแล้วกัน” สวีรั่วชีไม่ใช่คนที่จะง้อได้ง่ายๆเสียด้วย เสร็จพิธีแต่งงานต้องมาคิดบัญชีกับ ซย่าเสี่ยวมั่วแน่ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก็คิดไว้แล้ว ถ้าเสร็จงานพิธีเมื่อไหร่เธอเตรียมชิ่งแน่ๆ อย่างไรซะก็มีสวีอันหรานคอยอยู่ข้างๆสวีรั่วชีอยู่แล้ว เธอก็ต้องคิดเผื่อตัวเองเอาไว้ด้วย

 

 

เธอวาดคิดไว้อย่างสวยงาม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่พักของสวีรั่วชี พอซย่าเสี่ยวมั่วลงมาจากรถแล้วเห็นหน้า เหยียนเค่อก็หงอย

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินที่อยู่ห่างออกไปสองคันรถเห็นหน้าน้องสาวตัวเองจึงโบกมือทักทายอย่างดีใจ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้เจอหน้าเสิ่นจิ้งเฉินมาสักพักแล้ว พอได้เจอก็รู้สึกดีใจเช่นกัน รีบวิ่งเข้าไปหา อีกนิดเดียวก็แทบจะพุ่งเข้ากอดอยู่แล้ว

 

 

“พ…” ตอนที่ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังจะเอ่ยปากเรียกพี่ชาย เหยียนเค่อก็ก้าวลงมาจากรถ แล้วมายืนอยู่ข้างๆเสิ่นจิ้งเฉิน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโบกมือทักทายเสิ่นจิ้งเฉินอย่างเก้ๆกังๆ เอ่ยอย่างกระท่อนกระแท่น “กอด? กอดกัน”

 

 

“แค่กๆ” เสิ่นจิ้งเฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย โน้มตัวไปกอดหล่อน เอ่ยน้ำอย่างปกติ “คิดถึงฉันหรือเปล่า”

 

 

“คิดถึง” คราวที่แล้วเป็นเพราะเธออารมณ์ไม่ดีจึงไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนัก คราวนี้ได้เจอกันต่อหน้าเธอดีใจจนไม่รู้จะดีใจอย่างไรแล้ว

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินรับรู้สึกสายตาเย็นชาที่มองมาจากด้านหลัง อ้อมแขนยังคงกอดซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ หันไปถามเหยียนเค่ออย่างทำอะไรไม่ถูก “นาย อยากจะกอดด้วยไหม”

 

 

เหยียนเค่อเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองคนทั้งคู่

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 540 พูดดีดี

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมาอยู่รวมในกลุ่มกับเพื่อนเจ้าบ่าวอย่างจนปัญญา เพื่อนเจ้าสาวอยู่ข้างสวีรั่วชีคอยกั้นดักพวกเขา

 

 

ด่านแรกแค่ให้อั่งเปาก็ผ่านเข้าไปได้แล้ว ด่านที่สองมีถามคำถามกับขออั่งเปาเพิ่มก็ให้ผ่านเข้าไปได้ แต่พอด่านที่สามเริ่มพิสดารขึ้น โดยให้สีอันหรานกล่าวคำสาบานตนกับสวีรั่วชีพร้อมร้องเพลง ‘ฉันเป็นอะไรของเธอ’ โดยที่เสียงต้องดังจนสวีรั่วชีที่อยู่ในห้องได้ยิน

 

 

สวีอันหรานที่มีนิสัยอ่อยโยนโดนพวกหล่อนแกล้งจนปวดหัวไปหมด

 

 

“ผมยกเพื่อนเจ้าบ่าวให้หมดเลย ไม่เล่นแล้วได้ไหม” สวีอันหรานยืนต่อรองโดยมีประตูเงินประตูทองกั้นขวางอยู่ ฉินซื่อหลานกับเซ่าหมิงฟ่านยังคงแจกอั่งเปาอยู่ ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่นๆก็ช่วยกันขอร้อง

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่อยู่ด้านหลังหัวเราะขำจนท้องแข็ง ดึงแขนเสื้อเสิ่นจิ้งเฉินจนตัวเองแทบจะเบียดไปที่ชายหนุ่มทั้งตัวอยู่แล้ว

 

 

เหยียนเค่อที่ยืนอยู่หลังสุดมองภาพความใกล้ชิดสนิทสนมของคนทั้งคู่อย่างไม่ชอบใจ

 

 

“สวีอันหรานร้องเป็นไหม” ซย่าเสี่ยวมั่วอยากเห็น “ฉันอยากร้องเพลงนี้ให้สวีรั่วชีตั้งนานแล้ว”

 

 

“ทำไมเหรอ” สำหรับนักเรียนนอกที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีแบบนี้อย่างเสิ่นจิ้งเฉิน ไม่เข้าใจว่ามันน่าขำตรงไหน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกลอกตามองพี่ชายตน ทำท่าทางจริงจัง กระแอมกระไอเล็กน้อย ยืดตัวตรงอยู่ข้างพี่ชาย รอดูว่าสวีอันหานจะรับมืออย่างไร

 

 

สวีอันหรานมองทางกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว “มีใครร้องเป็นไหม”

 

 

ทุกคนต่างส่ายหน้า สวีอันหรานเตะไปที่เพื่อน ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ “มีพวกนายไว้ทำไมเนี่ย”

 

 

พวกเพื่อนเจ้าบ่าวบ่น “ใครจะไปคิดว่าพวกหล่อนจะเล่นอะไรแบบนี้เล่า”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกระชากแขนเสื้อเสิ่นจิ้งเฉิน แล้วกระซิบเบาๆ “เปิดเพลงแล้วให้สวีอันหรานร้องตามท่อนสองท่อนก็ได้แล้ว”

 

 

“ฉลาดมาก” เสิ่นจิ้งเฉินเอ่ยชม ทำไมวิธีง่ายๆแบบนี้เขาถึงนึกไม่ออกนะ

 

 

“พี่ไปหาสวีอันหรานนะ เธอไปอยู่กับเหยียนเค่อ ระวังอย่าโดนพวกนั้นชนจนล้มล่ะ” เสิ่นจิ้งเฉินผลักซย่าเสี่ยวมั่วไปทางเหยียนเค่อ จากนั้นก็ฝ่าวงล้อมเข้าไปบอกแผนการกับสวีอันหราน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเหลือบมองเหยียนเค่อ ในใจรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงเพลงเพลงนั้น ซย่าเสี่ยวมั่วอดยิ้มออกมาไม่ได้ เธอเอามือปิดปากลอบยิ้ม สวีอันหรานเปิดไปสองท่อนก็ปิด จ้องไปทางเสิ่นจิ้งเฉินแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปพูดกับคนตรงประตู “โอเคแล้วใช่ไหม รีบเข้าไปเถอะ”

 

 

เหยียนเค่อลอบมองใบหน้าด้านข้างของซย่าเสี่ยวมั่วที่ลอบยิ้มอยู่ ตนจึงอดยิ้มตามไม่ได้

 

 

พวกเพื่อนเจ้าสาวด้านในก็แค่แกล้งเล่นเฉยๆ ไม่กล้าทำให้เสียฤกษ์ พอได้อั่งเปาจนเป็นที่พอใจก็ปล่อยให้เจ้าบ่าวเข้าไป

 

 

มาถึงดานสุดท้าย สวีอันหรานรู้สึกผ่อนคลาย มองไปทางเหยียนเค่อที่อยู่ด้านหลัง

 

 

เดิมทีเหยียนเค่อไม่อยากร่วมด้วย แต่เสิ่นจิ้งเฉินก็ไปร่วมสนุกกับพวกข้างหน้าแล้ว จึงเหลือแต่เขาที่จะช่วยได้

 

 

“ไปเถอะ” เหยียนเค่อเอามือแตะหลังซย่าเสี่ยวมั่ว

 

 

“ฮะ?” ซย่าเสี่ยวมั่วมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจ แต่ก็เดินตามเขาไปด้านใน

 

 

เหยียนเค่อกลัวว่าหล่อนจะล้ม มือจึงคอยช่วยประคองศอกของหญิงสาว

 

 

ถ้ามองในมุมของซย่าเสี่ยวมั่วจะไม่เห็นอะไรเลย ทั้งที่ความจริงเพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่นๆล้วนแหวกทางให้คนทั้งคู่ ทุกคนต่างสงสัยว่าหล่อนเป็นอะไรกับเหยียนเค่อ

 

 

สวีอันหรานเห็นซย่าเสี่ยวมั่วก็ยิ้มอย่างพอใจ “เสี่ยวมั่ว เธอช่วยเรียกให้หน่อย”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองเหยียนเค่ออย่างงงๆ จากนั้นก็มองไปที่สวีอันหราน

 

 

“พูดดีๆหน่อย” เหยียนเค่อบอกสวีอันหราน

 

 

สวีอันหรานปวดใจ นี่มันงานแต่งของเขาชัดๆ ทำไมถึงได้มีความรู้สึกถูกจิกกัดจนพรุนไปหมดตัวแล้ว

 

 

“ช่วยพูดกับเสี่ยวชีที่อยู่ด้านในสักสองสามประโยคนะ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองไปที่เหยียนเค่ออีกรอบ จากนั้นก็หันไปพูดกับคนที่ยืนถือประตูเงินประตูทองแน่น “ฉันซย่าเสี่ยวมั่วเอง”