ตอนที่ 731

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.731 – วันสิ้นโลก

 

โอสถฟื้นชะตาสามารถชุบชีวิตคนตายและคว่ำกงล้อที่หมุนเวียนของหยินหยางมันคือโอสถที่ขัดต่อสวรรค์ที่เปลี่ยนชะตาของคนตาย

 

เซี่ยจิงหยูให้โอสถกับเซี่ยนเอ๋อเพื่อที่จะช่วยเซี่ยนเอ๋อกับซือหยูเพราะจะอย่างไรนางก็รักซือหยูด้วย นั่นจึงเป็นเหตุที่เซี่ยนเอ๋อมอบซือหยูให้กับนางก่อนตายและเลือกที่จะเสียสละชีวิตตนเอง

 

เหมือนกับการที่นางสละตัวเองหลายต่อหลายครั้งเพื่อช่วยซือหยูกับเซี่ยนเอ๋อการกระทำสุดท้ายพิสูจร์ได้ว่านางยังมีหัวใจที่อ่อนแออย่างเคย

 

ซือหยูทั้งโศกเศร้าและตกใจเขาเข้าใจเซี่ยจิงหยูผิด นางมิใช่คนไร้หัวใจและชั่วร้าย

 

หัวใจนางจะต้องเจ็บปวดโดยเฉพาะเมื่อซือหยูคิดว่าจะฆ่านางกับมือท้ายสุดนางก็ได้ตายอย่างที่นางได้เห็น…คือการตายในอ้อมแขนของซือหยู นางได้เอนกายลงในกอดของเขาก่อนที่จะตายและหมดลมหายใจไปอย่างสงบสุข

 

ซือหยูทุบกระโจมหลังน้อยและหยิบโอสถฟื้นชะตาออกมาแสงจากโอสถทะลวงผ่านร่างกายของเซี่ยจิงหยูและเริ่มฟื้นฟูนางอย่างรวดเร็วจนมองเห็นด้วยตาเปล่า โลหิตที่ไหลออกมาได้กลับไปสู่ร่างกายของนาง

 

โอสถน่าอัศจรรย์โดยแท้จริงเพียงลมหายใจเดียว ร่างของเซี่ยจิงหยูก็ฟื้นฟูกลับมาดังเดิม! นางกลับมาดูมีชีวิตและงดงามอีกครั้ง!

 

แต่ดวงตาของนางปิดสนิทนางไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย

 

เมื่อซือหยูมองนางด้วยเนตรวิญญาณก็ไม่พบถึงพลังดวงวิญญาณของนางเลยภายในร่างกายของนางเงียบสนิทและว่างเปล่า แม้ว่าร่างกายของนางจะฟื้นฟูกลับมา วิญญาณของนางกลับหายไปจากโลก มันกลายเป็นพลังและสลายหายไป

 

ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะชุบชีวิตนางขึ้นมาด้วยโอสถเพียงอย่างเดียวนางต้องกินโอสถเข้าไปด้วย

 

“ข้าจะเปลี่ยนชะตาและรอดตายหรือไม่ก็ไม่สำคัญแต่ถ้าเจ้าไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว ชะตาของข้าจะเปลี่ยนไปทำไมกันเล่า? สุดท้ายข้าก็ไม่ต่างกับศพเดินได้”

 

ซือหยูมองเซี่ยจิงหยูด้วยความรัก

 

เขาวางเม็ดโอสถลงในปากของนางเขารู้ว่าชะตาจะเปลี่ยนไปถ้าหากนางได้กินโอสถนี้

 

ในความคิดของซือยหูตราบเท่าที่เซี่ยจิงหยูกับฉินเซี่ยนเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่สำคัญว่าเขาจะตายหรือไม่ ตอนนั้นก็เป็นเวลาเดียวกับที่จักรพรรดิโลหิตตะโกนขึ้นมา

 

“เซี่ยจิงหยูข้าคิดว่าจะแนะนำเจ้าให้กับราชาเขตกลางเพื่อเป็นสนมของท่าน เพราะเจ้ามีกายาวิญญาณ แต่เจ้ากลับหลอกข้าและฮงหลวน”

 

จักรพรรดิโลหิตสีหน้าหม่นหมองเพื่อพูดกับร่างของเซี่ยจิงหยูที่ไร้การเคลื่อนไหว

 

เซี่ยจิงหยูแสดงอย่างดีจนเขาและฮงหลวนไม่ได้ระวังตัวจากนางและทั้งคู่ยังไม่รู้อีกด้วยว่าฉินเซี่ยนเอ๋อได้กินโอสถฟื้นชะตาอย่างลับๆ

 

“ซือหยูเจ้ามันโง่เง่า! คิดรึว่าแค่โอสถเม็ดเดียวจะช่วยพวกมันจากความตายได้? นางปกป้องกระบวนท่าเดียวให้เจ้า แต่นางจะมาขวางกระบวนท่าต่อไปได้เรอะ?”

 

จักรพรรดิโลหิตพุ่งความสนใจไปที่ซือหยู

 

เขาจ้องมองโอสถฟื้นชะตาไม่วางตาความโลภปรากฏในดวงตาของเขา

 

“จะไม่เสียเปล่ารึที่ให้โอสถกับคนที่ตายไปแล้ว?ทำไมไม่ให้มันกับข้าเล่า?”

 

เขายื่นมือใช้พลังของอสูรเนรมิตรพยายามจะชิงโอสถเข้ามาแต่ซือหยูก็ระวังไว้แล้ว มีสายฟ้าปรากฏรอบตัวซือหยูเมื่อจักรพรรดิโลหิตจะขโมยโอสถ

 

ร่างสายฟ้าพาตัวซือหยูห่างออกไป

 

“ฝันไปเถอะ!”

 

เพราะโอสถนี้คือความหวังเดียวในการช่วยเซี่ยจิงหยูซือหยูจะไม่ยอมให้มันถูกชิงไปแน่! มิเช่นนั้นเซี่ยจิงหยูก็จะตายไปจริงๆ!

 

เปรี๊ยะ!

 

ร่างที่โอบล้อมไปด้วยสายฟ้าหายลับไปเขาเพียงต้องการเวลาเพียงวินาทีเดียวในการให้โอสถกับจิงหยู จากนั้นจักรพรรดิโลหิตก็จะชิงโอสถไปไม่ได้แล้ว

 

แต่สิ่งที่ซือหยูกำลังเผชิญหน้าหาใช่ภูติหรือจ้าวเทวะแต่เป็นอสูรเนรมิตรผู้มีพลังสูงสุด!จักรพรรดิโลหิตยิ้มมุมปาก

 

“คิดว่าพลังมิติตอ่หน้าอสูรเนรมิตรมันคืออะไรงั้นรึ?อวดดีเหลือเกิน! น่าหัวร่อนัก!”

 

จักรพรรดิโลหิตไม่แม้แต่ขยับตัวเขาเพียงแค่โบกมือหนึ่งครั้งจนสิ่งรอบข้างล่มสลาย ในตอนนั้นก็เกิดช่องมิติสีดำกว้างใหญ่ที่กลางอากาศ

 

ซือหยูที่พยายามจะหนีต้องหยุดการยักย้ายลงเพราะพลังมิติปั่นป่วนเกินไปเขาต้องกลับมายังที่เดิม

 

เอื้อก!

 

วิชาที่ไม่สำเร็จกลางครันทำให้ซือหยูได้รับผลสะท้อนอย่างหนักสายโลหิตภายในของเขาสั่นสะเทือนอย่าแรงจนเขากระอักเลือดออกมา สายโลหิตสีทองภายในร่างกายขยายและหดตัวลงไม่หยุด

 

“หืม?เจ้าไม่ถูกพลังมิติกระชากแม้จะยักย้ายไม่สำเร็จ ดูเหมือนร่างกายเจ้าจะพิเศษนะ…”

 

จักรพรรดิโลหิตมังสายโลหิตสีทองที่ปรากฏขึ้นบนผิวของซือหยู

 

ซือหยูรีบเรียกมุกบาดาลออกมาขวาง!

 

นี่คือสมบัติเดียวที่ซือหยูจะใช้มันได้มันคือสิ่งที่จักรพรรดิโลหิตหวาดกลัวเป็นที่สุด! จักรพรรพิโลหิตชักสีหน้าเมื่อเห็นมุกบาดาลและรีบหลบทันที

 

ซือหยูใช้โอกาสนี้ทะยานสู่นภาเขาบินด้วยความเร็วสูงสุด สิ่งที่เขาต้องการมิใช่การหนีแต่เพื่อการถ่วงเวลาให้มากพอสำหรับเซี่ยจิงหยู เพราะเขารู้ว่าเขามิอาจช่วยเซี่ยจิงหยูที่เสียดวงวิญญาณไปได้นอกจากการให้โอสถกับนางขณะที่เขาต้องต่อสู้ไปด้วย

 

ซือหยูเต็มใจแม้จะต้องเสียมุกบาดาลไปนี่มิใช่เรื่องแปลก เพราะเขายินดีจะแลกกับทุกสิ่งเพื่อเซี่ยจิงหยู

 

ความยินดีปรากฏในแววตาจักรพรรดิโลหิตเมื่อรู้เช่นนี้เขารู้ว่ามันจะกลายเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเมื่อเขาได้มันมา

 

แต่จักรพรรดิโลหิตไม่ชิงมุกบาดาลในทันทีด้วยสองเหตุผลหนึ่งคือมันหนักอย่างมาก แม้แต่คนอย่างเขาก็ไม่กล้าผลีผลามแตะต้องมันโดยไม่มีการเตรียมล่วงหน้า เพราะความทรงจำที่แขนขาถูกทับจนขาดนั้นยังคงอยู่ในจิตใจของเขาไม่จางหาย

 

สองคือเขาต้องสนใจกับโอสถฟื้นชะตาเป็นอันดับหนึ่งมันคือโอสถที่ชุบชีวิตคนตายได้ ถ้าเขาเสียเวลากับมุกบาดาลและปล่อยให้ซือหยูมีเวลาสักลบมหายใจ โอสถก็จะถูกป้อนให้กับเซี่ยจิงหยูแน่นอน!

 

จักรพรรดิโลหิตจึงไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนจะไล่ตามซือหยูไปถ้าจะพูดให้ถูกต้อง เขาไม่ได้บินไล่ตามแต่ยักย้ายตัวเองไปยังซือหยู

 

มันมีความแตกต่างในด้านพลังมหาศาลระหว่างเขาและซือหยูเมื่อซือหยูออกจากซากใต้ดินมาได้ สิ่งที่ได้พบคือร่างของคนที่สวมเกราะสีเลือด เขาคือจักรพรรดิโลหิต!

 

“จะหนีไปไหนไอ้หนู?”

 

จักรพรรดิโลหิตดันฝ่ามือมาที่ซือหยู

 

ซือหยูเบิกตากว้างแต่ไม่ตื่นตระหนกเขาเตรียมใจรับมือมาแล้ว แสงสีแดงจากตาขวาส่องสว่างออกมา

 

“วายุมิติ!”

 

วายุมิติปรากฏที่หน้าซือหยูทันทีในสงครามร้อยดินแดนครั้งที่แล้ว เขาได้ใช้วายุมิตินี้ทำให้ฉีตงไล่หนีไปได้

 

ซือหยูมีพลังมิติสองแบบนั่นคือการยักย้ายและวายุมิติ พลังแรกใช้เพื่อยักย้ายระยะใกล้ในสถานที่ที่ต้องการ ส่วนอีกพลังเป็นการยักย้ายระยะไกลในพื้นที่สุ่ม

 

และเมื่อจักรพรรดิโลหิตทุบมิติในระยะใกล้ๆจนแตกหมดแล้วซือหยูก็รู้ว่าเขามิอาจยักย้ายไปในระยะใกล้ๆได้ เขาจึงทำได้แค่ใช้วายุมิติที่จะพาเขาไปในระยะไกล ซือหยูเข้าไปในวายุมิติทันที

 

ในตอนนั้นฝ่ามือของจักรพรรดิโลหิตไม่พบเจอเป้าหมายนอกจากความว่างเปล่า เขาตะโกนด้วยความตกใจ

 

“แย่แล้ว!”

 

แต่เขาก็มิได้ตื่นตระหนกเลยกลับเป็นความเย็นชาที่ปรากฏบนใบหน้า

 

“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

 

คำพูดของเขาดังก้องพร้อมกับเขาที่หายตัวไป

 

ซือหยูที่อยู่ในวายุมิติรู้สึกราวกับได้ผ่านการยักย้ายนับไม่ถ้วนก่อนจะมาถึงที่หมายเมื่อถึงที่นั่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในชั้นฟ้าอันกว้างใหญ่

 

เขาก้มลงมองรอบๆและพบกับดวงดาวสีครามคล้ายโลกเขายังเห็นทวีปรูปฝ่ามือในดาวดวงนี้ด้วย

 

“โลกเฉินหลง!”

 

ซือหยูจดจำได้เพียงมองครั้งเดียวเขาเคยเห็นภาพที่คล้ายกันนี้ในตอนที่ออกมาจากกระโจมเทพสวรรค์

 

โลกเฉินหลงเป็นดวงดาวเขาไม่แปลกใจกับเรื่องนี้

 

“ข้าออกมานอกโลกหรือนี่?”

 

ซือหยูแปลกใจดูเหมือนว่าวายุมิติของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากถูกผนึกพลังมานาน

 

ในอดีตฉีตงไล่ถูกยักย้ายไปไกลถึงทวีปเหนือ แต่ตอนนี้ซือหยูกลับถูกส่งตรงมายังนอกอวกาศ!

 

ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้รีรอซือหยูไม่คิดถึงสิ่งใดอีกและป้อนโอสถให้เซี่ยจิงหยู แต่ตอนนั้นก็มีพลังมิติระเบิดออกมาพร้อมกัน มันเกิดขึ้นโดยที่ซือหยูไม่ทันระวังตัว

 

จากนั้นพลังมิติมหาศาลก็สะบัดตัวซือหยูออกจนเขาต้องปล่อยร่างของเซี่ยจิงหยูไปจากนั้นก็มีมือขนาดยักษ์พุ่งออกมาจากวายุมิติและจับตัวเซี่ยจิงหยูเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีชายสวมชุดเกราะสีเลือดเดินออกมาจากวายุมิติ!

 

“หึหึ…”

 

จักรพรรดิโลหิตปรากฏตัวออกมาโดยบีบคอของเซี่ยจิงหยูเอาไว้!

 

เขายิ้มอย่างชั่วร้าย

 

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าพลังมิติต่อหน้าอสูรเนรมิตรมันไร้ประโยชน์!”

 

ซือหยูก้าวออกมาจากวายุมิติและปรับตัวด้วยความยากลำบากเขามองเซี่ยจิงหยูที่ถูกจับตัวและใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง

 

“ปล่อยนางนะ!นอกจากโอสถฟื้นชะตา ข้าจะให้อะไรเจ้าก็ได้”

 

ซือหยูตะโกนโดยที่ดวงตาจ้องมองเซี่ยจิงหยูไม่ละไปไหน

 

เขารู้ว่าถ้าร่างนางถูกทำลายเขาจะไม่มีวันได้พบเจอกับนางอีก เขามิอาจทนได้แน่เพราะนางคือรักแท้ของเขา! ขนาดความตายของฉินเซี่ยนเอ๋อยังทำให้หัวใจของซือหยูเยือกเย็นด้านชาได้ถึงเพียงนั้น ความตายของเซี่ยจิงหยูก็คงจะทำให้เขาเป็นทุกข์ทรมานยิ่งกว่า!

 

จักรพรรดิโลหิตยิ้มอย่างชั่วร้าย

 

“ข้าต้องการโอสถฟื้นชะตาเท่านั้น!ส่วนสิ่งอื่นที่เป็นของเจ้า ข้าจะเอามาเป็นของตัวเองทีละอย่าง รวมถึงชีวิตเจ้าด้วย!”

 

ซือหยูรู้แล้วว่าเขามิอาจต่อรองกับศัตรูที่มีพลังสูงสุดเช่นนั้นได้เขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้แต่ความมุ่งมั่นยังคงไม่ตายจากไป

 

“เจ้าหนู…ลานางซะสิ!ฮ่าๆๆๆ!”

 

จักรพรรดิโลหิตหัวเราะอย่างชั่วร้ายเมื่อเพลิงเริ่มแผดเผาปลายดัชนีของเขาเขากำลังจะใช้เพลิงนั้นเผาร่างเซี่ยจิงหยู

 

“ไม่นะ!”

 

ซือหยูบินเข้าไปด้วยความโกรธแค้นหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย

 

ซือหยูปล่อยหมัดเข้าใส่จักรพรรดิโลหิตโดยไม่สนใจสิ่งใดอีกจักรพรรดิโลหิตถอนหายใจอย่างเยือกเย็นและปล่อยมือ เซี่ยจิงหยูร่วงลงไปราวกับดาวตก

 

นางตกลงไปยังดวงดาวเบื้องล่างบรรยากาศรอบตัวนางทำให้เพลิงรอบกายนางลุกไหม้แรงขึ้นไปอีก ร่างอันงดงามของนางก็เริ่มละลายหายไปกับเพลิงเหล่านี้

 

ซือหยูใจสลายดวงตาของเขาแดงดั่งโลหิต

 

เขาร้องคำรามราวกับคนบ้าและพุ่งไปยังเซี่ยจิงหยูที่ตกลงไปยังพื้นโลกเขาไล่ตามนางด้วยความเร็วสูงสุด จักรพรรดิโลหิตเพียงแค่มองและชี้ดัชนีไปที่ซือหยู เขายิงพลังมิติไปที่ด้านหน้าซือหยูและทำให้มันระเบิดพอดี

 

ในตอนนี้ซือหยูบ้าคลั่งจนไม่คิดถึงเหตุถึงผล เขาพุ่งตรงไปยังการระเบิดของมิติโดยไม่สนใจชีวิตตนเอง!

 

ปั้ง!

 

แขนขวาและแขนซ้ายของเขาแตกสลายไปเมื่อปะทะกับพลังนั้นหน้าอกของเขายังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ กะโหลกของเขาแตก

 

ทั้งร่างแทบจะแตกสลายความเจ็บปวดเกินมนุษย์จะทานทนได้เกิดขึ้นมา ถ้าหากเป็นคนทั่วไปก็คงจะสลบไปแล้ว! แต่ซือหยูที่คิดแต่เพียงเซี่ยงจิงหยูหาได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด

 

โอสถฟื้นชะตาในมือเปล่งแสงจ้าพลังชีวิตมหาศาลได้ระเบิดออกมาด้วย พลังชีวิตนั้นเข้าซ่อมแซมร่างกายที่กำลังจะพังทลายของซือหยูและฟื้นฟูอย่างรดวเร็ว ผลของมันเทียบได้กับกายาเงินอมตะของจักรพรรดิโลหิต

 

จักรพรรดิโลหิตถอนหายใจแรงและชี้ดัชนีไปทางซือหยูอีกหลายครั้งพลังมิติจำนวนมากระเบิดขวางหน้าซือหยู

 

แต่ซือหยูยังคงปลอดภัยดีแม้ว่าร่างกายจะถูกทำลายร่างแรงระเบิด เขาก็เกิดใหม่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

โลหิตของซือหยูที่ถูกระเบิดกระจายย้อมท้องนภาจนแดงฉาน

 

ซือหยูไม่สนใจทุกสิ่งและไล่ตามเซี่ยจิงหยูต่อไปแม้ระยะของทั้งคู่จะห่างเพียงหกลี้ แต่มันก็ดูเหมือนระยะห่างไกลราวกับปลายจักรวาลที่อยู่ตรงข้ามกัน!

 

ซือหยูรู้สึกราวกับเขาไล่ตามนางมาหลายปีและเขาต้องผ่านหลากหลายมิติก่อนจะได้เข้าใกล้นางแต่ตอนนี้เหลือระยะอีกเพียงเอื้อมมือเท่านั้น!

 

เขากอดร่างของเซี่ยจิงหยูเอาไว้เพลิงที่ล้อมรอบตัวนางได้เผาผิวหนังของเขาก่อนจะที่เพลิงจะกลืนกินเขาไปด้วย

 

ในตอนที่ร่างทั้งสองได้หลอมรวมกันมันกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ที่ตกลงไปทางทวีปเฉินหลง

 

ปั้ง!

 

ราวกับว่าอุกกาบาตมนุษย์ได้ตายที่นั่นแรงปะทะมหาศาลได้ทำให้เกิดวายุทรายไปทั้งทวีป หลุมขนาดยักษ์ที่ขนาดพอๆกับทวีปเหนือได้ปรากฏที่ทวีปหลัก

 

ลาวาแดงเดือดได้พุ่งออกมาจากส่วนลึกที่สุดของหลุมมันเผาทุกสิ่งทุกอย่างไป มีศิลาก้อนใหญ่ที่ลอยอยู่บนลาวา ซือหยูเรียกเซี่ยจิงหยูที่นั่น

 

“จิงหยู…”

 

เสียงแหบพร่าของเขาเรียกนางด้วยแววตาแดงดั่งโลหิต

 

พลังชีวิตได้พุ่งออกจากร่างของเขาราวกับน้ำหลากมันเข้าดับเพลิงบนร่างของเซี่ยจิงหยู ตราบใดที่ยังมีโอสถฟื้นชะตา ถ้าร่างของเซี่ยจิงหยูไม่ถูกทำลายจนหมดสิ้น เขาก็จะพานางกลับมาจากความตายได้!

 

“มันยังไม่สาย!”

 

หัวใจของซือหยูได้ความหวังกลับคืนมา

 

เขารีบป้อนโอสถฟื้นชะตากับนางเมื่อโอสถเข้าสู่ร่าง บาดแผลที่ถูกเผาไหม้ของนางได้ฟื้นฟูขึ้นมา เพียงแค่รอเวลาเท่านั้นก่อนที่นางจะกลับมามีชีวิต!

 

“หยุดนะ!ไอ้เด็กบัดซบ!”

 

จักรพรรดิโลหิตตะโกน

 

เขาเพิ่งจะมาถึงแต่มันก็สายไปแล้วจักรพรรดิโลหิตตะโกนด้วยความโกรธแค้นและพุ่งเข้าใส่ เขาคิดจะจับตัวเซี่ยจิงหยู

 

“ต่อให้ต้องผ่าท้องนางข้าก็จะทำเพื่อให้ได้โอสถนั่นมา!”

 

แต่ทันทีที่เขาพุ่งเข้าหานางร่างของนางได้เริ่มละลาย! ทั้งร่างของนางเริ่มโปร่งใส นางเริ่มจะสลายกลายเป็นเศษเสี้ยวพลังพร้อมๆกับหายไปจากโลกใบนี้!

 

นางกินโอสถฟื้นชะตาไปแล้วแต่ร่างของนางกลับแตกสลายแทนที่จะกลับมามีชีวิต!

 

“อ๊ากก!จิงหยู!”

 

ซือหยูตะโกนอย่างโกรธแค้นและหลั่งรินพลังชีวิตใส่ตัวนาง

 

เขารู้สึกสิ้นหวังและอยากจะหยุดนางเอาไว้แต่เขามิอาจทำสิ่งใดได้ เซี่ยจิงหยูกำลังมลายหายไปต่อหน้าต่อตา!

 

ปั้ง!

 

ในตอนนั้นโอสถฟื้นชะตาที่เซี่ยจิงหยูมิได้ย่อยสลายได้กลิ้งลงมาที่หน้าเข่าของซือหยู

 

“เจ้าทำอะไรนาง?”

 

ซือหยูตะโกนไปยังจักรพรรดิโลหิตด้วยน้ำเสียงคุกคามดวงตาสีเลือดของเขาส่องแสงประกายราวกับสายฟ้า

 

เขาไม่ต่างกับสัตว์ป่ากระหายเลือดที่เสียสติแม้แต่คนอย่างจักรพรรดิโลหิตก็สั่นเทิ้มเมื่อถูกแววตานี้ของซือหยูจ้องมอง มันมิใช่ดวงตาของมนุษย์เสียด้วยซ้ำ!

 

แต่เมื่อจักรพรรดิโลหิตกลับมาได้สติเขาก็ดีใจอย่างมากและยิ้มเยาะต่อซือหยู

 

“มันไม่เกี่ยวกับข้าเลย!ร่างของนางสลายไปก็เพราะพิษในตัวนางที่ปะทุออกมา นางจะต้องกินยาพิษมาก่อนหน้านี้เพื่อไม่ให้เจ้าใช้โอสถฟื้นชะตากับนาง!”

 

เขาพูดต่อด้วยความเหยียดหยาม

 

“นางนี่มันโง่จริงๆ!”

 

ซือหยูใจสั่นเมื่อได้ฟังต้องใช้เวลานานกว่าที่เขาจะได้สติกลับมา เขารีบคิดอย่างหนัก…นางกินยาพิษไปตั้งแต่ตอนไหน?