ตอนที่ 732

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.732 – มิติเวลาไหลย้อน

ซือหยูนึกถึงตอนที่เซี่ยจิงหยูอยู่ในตำหนักดยุคเซี่ยนหยูทันทีท่ามกลางหมู่มวลดอกท้อใต้เงาจันทร์ นางได้ดื่มสุราเข้าไป…

นางดื่มยาพิษไปในตอนนั้นรึ?นางคงจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าซือหยูจะพยายามใช้โอสถฟื้นชะตาชุบชีวิตนาง นางจึงต้องดื่มโอสถที่จะทำให้ร่างกายของนางสลายไปในวันนี้!

“แม้หลังเจ้าตายเจ้าก็ยังเป็นห่วงข้า…”

ความเศร้าโศกเอ่อล้นในหัวใจของซือหยูเขาคิดถึงเพียงแต่นาง

“แต่ข้าไม่ยอมหรอก…”

แสงสว่างจ้ามาจากดวงตาของเขา

พรึ่บ!

ทางช้างเผือกตระการตาปรากฏที่มือขวามันเปล่งแสงดาวที่งดงาม

จักรพรรดิโลหิตตกตะลึงเป็นอย่างมาก

“นั่นมันอะไร?”

แม้แต่อสูรเนรมิตรอย่างเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ซือหยูวางมือขวาที่มีแสงดาวไปที่ท้องของเซี่ยจิงหยูแสงดาวผ่านทั้งร่างของนางจากฝ่ามือของซือหยู เมื่อแสงนั้นดับลง ผงสีม่วงเข้มก็ได้ปรากฏในมือซือหยู มันคือยาพิษที่สกัดออกมาจากร่างของนาง!

ร่างที่โปร่งใสของเซี่ยจิงหยูเริ่มกลับมาจับต้องได้อีกครั้งเขารักษาร่างของนางเอาไว้ได้ในท้ายสุด!

“เจ้าหนูข้าจะดูแลสมบัตินั่นแทนเจ้าเอง”

จักรพรรดิโลหิตเบิกตากว้างและแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันน่าทึ่งแค่ไหนจากการชำระล้างร่างของเซี่ยจิงหยู!

ซือหยูไม่ได้ยินอะไรเมื่ออุ้มนางเอาไว้เขารีบป้อนโอสถฟื้นชะตากับนาง

“ไอ้เวร!เจ้าคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำอย่างนั้นตอนที่ข้าอยู่ที่นี่เรอะ?”

จักรพรรดิโลหิตหัวเราะอย่างชั่วร้ายเมื่อมองเซี่ยจิงหยู

“เจ้าคิดว่ามันง่ายนักรึที่จะกำจัดเพลิงในตัวนาง?”

เขาหมายความว่ายังไงกัน?ซือหยูใจเต้นอย่างรุนแรง เขาไม่เข้าใจว่าจักรพรรดิโลหิตพูดอะไร

พรึ่บ!

ทันใดนั้นก็มีเสียงเพลิงปะทุออกมา

ร่างของเซี่ยจิงหยูร้อนแรงและส่องสว่างขึ้นซือหยูก้มหน้าช้าๆอย่างไม่เชื่อสายตา

เซี่ยจิงอยู่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาไหม้เป็นเถ้าถ่านในพริบตาเดียวเถ้าถ่านของนางลอยไปตามแรงของพลังโดยรอบ

นางจากไปแล้ว

เขาเพิ่งจะสูญเสียสตรีงดงามดั่งนางไม้ผู้ที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อเขาหลายต่อหลายครั้งความเจ็บปวดที่รุนแรงอยู่แล้วได้เสียดแทงหัวใจเขายิ่งกว่าเดิมเมื่อนางถูกลบหายไป

ปั้ง!

เสียงเบาๆดังขึ้นเมื่อตำราสีดำได้ลอยออกมาจากกระเป๋าของเขามาที่ด้านหน้ามันคือสมบัติเทพระดับต่ำ ตำราจรัสสวรค์

มันคือสมบัติเทพที่ใช้เก็บความทรงจำได้มากมายมันเป็นของเซี่ยจิงหยูที่ฝากมันเอาไว้กับเซี่ยนเอ๋อเพื่อมอบแก่ซือหยูตอนที่นางเจอกับอันตรายร้ายแรงในก้นบึ้งมังกร

ตำรานี้มีเศษเสี้ยวของนางเก็บเอาไว้มันจะถูกทำลายหากถูกคนอื่นฝืนเปิดออก มันจะเปิดออกได้หลังจากที่เซี่ยจิงหยูตายเท่านั้น และเมื่อทั้งร่างกายและดวงวิญญาณของนางสูญสลายและนางได้ถูกลบหายไปจากโลก ตำราก็ได้เปิดออกด้วยตัวเอง!

ซือหยูมองตำราจรัสสวรรค์ที่เพิ่งจะลอยขึ้นมาเปิดให้เขา!แสงสะท้อนได้ส่องประกายออกมาจากตำราให้เขาเห็นเป็นม่านแสง มันคือภายฉายความทรงจำในตำรา!

คนที่ปรากฏในภาพฉายมิใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยจิงหยู!ซือหยูที่แววตาว่างเปล่ากลับมาได้สติ เขาถือตำราจรัสสวรรค์ในมือและมองดูภาพฉายของนางด้วยความตื่นเต้น

ตำรานี้บันทึกชีวิตของนางโดยไม่พลาดแม้แต่รายละเอียดเดียวนางบันทึกทุกสถานที่ที่เคยได้พ้นผ่านและสิ่งต่างๆที่นางเคยเห็น ขุนเขา เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน และวิชาบ่มเพาะทุกอย่าง!

ทุกสิ่งถูกอัดแน่นอยู่ในตำราเล่มนี้!ราวกับว่านางเดินทางสืบค้นโลกเพื่อคนผู้หนึ่ง…บันทึกทุกประสบการณ์ของนางเอาไว้ในตำราเดียว

ซือหยูใจสั่นคลอนเมื่อคิดถึงสัญญาที่เขาเกือบจะหลงลืมไปนั่นคือเวลาก่อนที่เซี่ยจิงหยูจะไปจากเกาะเฉินยี่ นางได้บอกว่าจะมองดูความเจริญรุ่งเรืองของเฉินหลงเพื่อเขา นางจะใช้ดวงตาของนางแทนเขา

นางมิได้ลืมสัญญานั้นนางใช้ตำราจรัสสวรรค์บันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอเอาไว้

ภาพฉายส่องแสงต่อไปจนถึงภาพสุดท้ายในก้นบึ้งมังกรเป็นภาพที่นางถือตำราจรัสสวรรค์ขณะที่นั่งเพียงลำพังบนก้อนศิลาและมองไปยังที่ห่างไกล

นางยิ้มเบาๆราวกับได้เห็นซือหยูที่อยู่อีกฟากของภาพฉายนางมองตรงออกมาด้วยความรัก

“พี่ซือหยูหากได้เห็นบันทึกนี้ ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ความหวังเดียวของข้าคือการได้ตายในกอดของพี่”

นางแก้มแดงเมื่อได้พูดนางดูงดงามเหนือกว่าภาพไหนๆที่ซือหยูเคยเห็น

นางกัดฟัน

“พี่ซือหยูข้าไม่รู้ว่าจะได้บอกความรู้สึกที่มีก่อนข้าตายหรือไม่ แต่อย่างไร…ความจริงก็คือข้ารักพี่เสมอมา”

นางถามกลับด้วยความโศกเศร้า

“คำพูดข้าอาจจะทำให้พี่กลัว…สินะ?ข้าอาจจะเห็นแก่ตัวเสียเกินไป ถึงจะรู้ว่าพี่มีเซี่ยนเอ๋อ ข้าก็ยังทำให้พี่ต้องลำบากเมื่อรู้ว่าข้ารักพี่”

เซี่ยจิงหยูหยุดพูดไปและส่ายหน้านางฝืนใจให้พูดต่อ

“แต่ก็เอาเถอะข้าตายไปแล้ว พี่ไม่ต้องสนใจข้าอีกแล้วล่ะ”

รอยยิ้มของนางดูเจ็บปวดและเปลี่ยวเหงา

“ลาก่อนพี่ซือหยูนี่คงเป็นคำพูดสุดท้ายของข้า โปรดอย่าโศกเศร้ากับความตายนี้ เพราะพี่ทำให้โลกของข้ามีสีสันและน่าค้นหายิ่งนัก ข้าใช้ชีวิตโดยไม่ได้เสียใจสักนิด”

เซี่ยจิงหยูยืนขึ้น

“ข้าจะอวยพรอีกเป็นครั้งสุดท้าย…”

“ขอให้พี่กับเซี่ยนเอ๋อแก่เฒ่าไปด้วยกันลาก่อน พี่ซือหยูที่รักของข้า”

เสียงของนางจางหายไปภาพฉายจากตำราจรัสสวรรค์เองก็หายไปด้วย ตำราปิดลงและบินกลับไปหามือซือหยู

ซือหยูพยายามจะคว้าหญิงสาวในภาพฉายที่หายไปโดยไม่รู้ตัวแต่เขาได้แต่คว้าหาความว่างเปล่าของภาพลวงนั้น หยดน้ำตาได้ร่วงหล่นไปยังตำราจรัสสวรรค์เป็นสายขนเปียกชุ่ม

“พวกชั้นต่ำมักจะปลอบกันเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกเสมอหารู้ไม่ว่ามันเสียเวลา!”

จักรพรรดิโลหิตพูดอย่างเยือกเย็นและยกมือขึ้นเรียกโอสถฟื้นชะตาไปที่มือของเขา

แต่เมือ่โอสถเริ่มลอยมันก็ถูกฝ่ามือหนึ่งคว้าเอาไว้! ซือหยูเก็บตำราจรัสสวรรค์ลงในมุกวิญญาณเก้าหยกก่อนจะเงยหน้ามองเถ้าถ่านที่เหลือในมือ เขาคว้าโอสถฟื้นชะตากลับมา!

ผมขาวปิดใบหน้าของเขาพร้อมกับสีหน้าเอาไว้ซึ่งเป็นใบหน้าที่มีแต่จิตสังหารและความเกลียดชัง

“เจ้าต้องตาย!”

ซือหยูตะโกนลั่นฟ้า

การที่เด็กกึ่งภูติอย่างเขาอยากจะเอาชีวิตของอสูรเนรมิตรคงจะเป็นเรื่องตลกต่อใครหลายคนแต่จักรพรรดิโลหิตรู้สึกได้ถึงความอึดอัดใจและร้อนรนทันทีที่ได้ยิน เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาหนักอึ้งขึ้นมา

เขาบ่มเพาะพลังมานับไม่ถ้วนขวบปีฎีกาสวรรค์ของเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งกับโลก เขาสัมผัสเหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้เล็กน้อย ความรู้สึกนี้สื่อถึงลางร้าย! เขารู้ว่าจะอยู่ในเฉินหลงนานกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!

“ข้าจะฆ่าเจ้าก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องนี้ทีหลัง”

จักรพรรดิโลหิตแววตาเปลี่ยนไปเขาต้องใช้พลังที่จะสังหารซือหยูได้ในทันทีทันใด

แต่ซือหยูเงยหน้าขึ้นมาและอ้าปากเขากลืนโอสถฟื้นชะตาเข้าไป! โอสถมีพลังชีวิตมหาศาลและไม่ต่างกับพิษร้ายถึงตายต่อคนเป็น ซือหยูที่กินมันเข้าไปจะต้องตายอย่างแน่นอน!

“นี่…เจ้า…”

จักรพรรดิโลหิตตกตะลึงและโกรธแค้นเขาคิดว่าซือหยูบ้าไปแล้ว

ความชิงชังเอ่อล้นยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าผลของโอสถได้แพร่กระจายไปทั่วร่างของซือหยูนั่นทำให้เขาระแวงซือหยูยิ่งกว่าเดิม

เพราะคนที่น่ากลัวที่สุดในโลกหาใช่ศัตรูไร้เทียมทานแต่เป็นคนที่บ้าจนเสียสติ!โดยเฉพาะคนเสียสติที่ไม่สนใจแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง!

จักรพรรดิโลหิตที่เสียโอกาสได้โอสถไปหนักใจยิ่งกว่าเดิมแม้จะรู้ว่าต้องรีบออกจากเฉินหลง แต่ภารกิจสังหารเฉินอี้เจิงที่ยังไม่สำเร็จนั้นได้ฉุดรั้งเขาเอาไว้

“ข้าไม่มีเวลาเหลือแล้วข้าทำลายโลกนี้ไปพร้อมกับเฉินอี้เจิงเลยก็แล้วกัน”

เมื่อพูดจบเขาทะยานขึ้นฟ้ามองดวงดาวสีครามเบื้องล่าง

เขาสูดหายใจเข้าลึกเสียงมังกรคำรามมาจากร่างของเขา พลังอสูรเนรมิตรไร้ขอบยเขตเอ่อล้นออกมาจากตัว แสงจันทร์ตระการตาปรากฏที่มือซ้าย ขณะที่แสงสุริยาไร้คู่ปรับได้ปรากฏที่มือขวา

ฝ่ามือทั้งสองของเขาได้ถือสุริยันแลจันทราเอาไว้มันคือสิ่งที่ควบคุมทั้งหยินและหยางไว้ด้วยกัน พร้อมกันยังมีมงกุฎที่มีเหล่าดาวสลักเอาไว้ปรากฏบนหัว

เขาราวกับเป็นเทพสวรรค์ที่ตระการตาเหนือโลกมนุษย์อวกาศอัดมืดมิดได้สว่างเมื่อมีเขา ราวกับว่าเขาอยากจะท้าทายดวงสุริยาและจันทรา!

“ฝ่ามือเทพดับสวรรค์…”

จักรพรรดิโลหิตตะโกน

นานมาแล้วทวีปเฉินหลงได้พบภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ทิ้งรอยฝ่ามือขนาดยักษ์ไว้จนถึงวันนี้ รอยฝ่ามือที่ทำลายล้างทวีปเฉินหลงคือกระบวนท่าสุดท้ายของฝ่ามือเทพดับสวรรค์ซึ่งก็คือฝ่ามือเทพแสงกระจ่าง วันนี้ฝ่ามือเดิมได้ปรากฏอีกครั้ง!

ในอดีตจักรพรรดิจิวโจวสร้างทวีปขึ้นใหม่และช่วยโลกเอาไว้ แต่วันนี้ไม่เหลือใครอีกแล้ว

“หายไปซะ!”

จักรพรรดิโลหิตดันฝ่ามือลงไปยังดวงดาวเบื้องล่างฝ่ามือของเขาพุ่งลงไปด้วยความเร็วสูง เหล่าอุกกาบาตนอกโลกในเส้นทางกลายเป็นจุณทั้งหมด

ทุกมุมของเฉินหลงถูกแสงจากฝ่ามือของเขากลืนกินมันคือแสงที่ประกาศวันสิ้นโลก!

ถ้าหากฝ่ามือตกถึงพื้นทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่มหาสมุทรและแผ่นทวีปจะแตกสลาย

ปั้ง!

พลังทำลายล้างปกคลุมโลกทั้งใบทุกอย่างได้มลายหายเป็นความว่างเปล่า ในตอนนั้น โลกเฉินหลงกำลังจะแตกสลายไป อู๋หยาง ราชาแห่งความมืด และคนในก้นบึ้งมังกรก็จะตายหมดไปพร้อมกับโลก ดาวดวงนี้กำลังจะถูกลบหายไปจากจักรวาล ทั้งโลกเงียบงัน

จักรพรรดิโลหิตดึงมือกลับ

“พวกชั้นต่ำตายหมดแล้วสินะ”

แต่ทันทีที่พูดจบเขาเบิกตากว้าง เขาเห็นว่ามีบางอย่างในซากเงียบกริบที่เหลืออยู่ในอวกาศ มีพลังชีวิตสองพลังปะทุออกมาอย่างรุนแรงจากที่นั่น!

เขามองดูใกล้ๆและพบกับคนสองคนที่ตัวติดกันทั้งคู่นั้นลอยอยู่ในจักรวาลจรัสแสง หนึ่งคือหญิงสาวน่ารักที่หลับใหลอย่างสงบ ร่างกายนางมีพลังชีวิตมหาศาล บาดแผลทุกอย่างที่เจอพลังทำลายล้างได้ถูกฟื้นฟูในพริบตา

ส่วนอีกคนคือชายหนุ่มผมขาวที่ลอยอย่างใจเย็นในซากดาวดวงตาสีเลือดของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารอันน่าหวาดกลัว ร่างกายมีพลังชีวิตที่แม้แต่พลังทำลายล้างของเขามิอาจส่งผลถึง

โอสถฟื้นชะตาสามารถทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตจากการทำลายล้างโลกได้!มันไม่ต่างกับที่เซี่ยจิงหยูพูดเอาไว้!

แต่เขาไม่ต้องการให้เขาคนเดียวที่ถูกช่วยเขาก้มหน้ามองเถ้าถ่านในมือและหัวเราะ แม้ว่าโลกของเขาจะถูกทำลายและสิ่งรอบข้างจะเงียบงันไปตลอดกาล เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

เสียงหัวเราะของเขาดังก้องนภาจรัสแสงมันเป็นเสียงหัวเราะที่เด็ดเดี่ยวและเศร้าหมอง

เขาตะโกนราวกับคนคลั่ง

“จิงหยูเจ้าเสียสละให้ข้าเช่นนี้ แล้วใยข้าจะไม่ตอบแทนเล่า ข้าไม่เคยเชื่อในโชคชะตาแม้สักครั้ง ข้าฝืนชะตาทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า และครั้งนี้…ข้าจะหมุนกงล้อแห่งโชคชะตาเพื่อเจ้า!”

เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังก้องจักรวาลแววตาของจักรพรรดิโลหิตเริ่มมีความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว

“หาใช่สวรรค์หรือใครอื่นตัดสินว่าใครจะตายหรือไม่หาใช่โชคชะตาจะมาตัดสิน แต่เป็นแค่ข้าคนเดียวเท่านั้น”

ซือหยูชี้ดัชนีไปยังสวรรค์และตะโกนลั่นนภา

ดวงตาแดงดั่งโลหิตเปล่งแสงสีม่วงขณะที่อีกข้างเปล่งแสงสีแดงแสงทั้งสองฉาบท้องนภาว่างเปล่า เขาใช้ทั้งพลังมิติและเวลาพร้อมกัน…

“กงล้อความเป็นความตายมิติเวลาไหลย้อน…”

ซือหยูตะโกนเสียงดังทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในพลังมิติเวลา เขากำลังจะทำให้ทุกอย่างย้อนกลับไปในอดีต!

“เป็นไปได้ยังไง?มิติกับเวลาไหลเวียนไปข้างหน้ามิย้อนกลับเป็นนิรันดร์ มันจะไหลย้อนกลับได้ยังไง?”

จักรพรรดิโลหิตมิอาจเชื่อสายตา!

แต่ต่อมาเขาก็ตัวแข็งราวกับหิน เมื่อแสงจากดวงตาของซือหยูปล่อยพลัง โลกที่เพิ่งจะถูกทำลายกลับกลายมาเป็นดังเดิม!

ทวีปเฉินหลงได้เปลี่ยนจากซากทวีปมาเป็นอย่างเดิมการระเบิดดวงดาวหายไป ดวงดาวกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ยอดฝีมือมหาศาลที่เพิ่งจะตายอย่างอู๋หยาง ราชาแห่งความมืด จิวหยวนโจว กลับมาในสภาพก่อนตาย!

ฝ่ามือเทพแสงกระจ่างที่ทำให้เกิดการทำลายล้างได้ถอยกลับไปยังนอกโลกอย่างรวดเร็วทุกอย่างไหลย้อนกลับมาในอดีต

ซึ่งความจริงมิใช่แต่พื้นที่ที่ย้อนกลับมาแต่เป็นทั้งวิติเวลาที่ไหลย้อนกลับ เขากลับมาในอดีตก่อนที่โลกจะถูกทำลายลงได้!

แต่เขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้นเวลายังคงไหลย้อนกลับไป! ซือหยูคิดจะย้อนกลับไปจนถึงเวลาก่อนที่เซี่ยจิงหยูจะตาย!