ตอนที่ 733

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.733 – ทําลายและเกิดใหม่

 

มิติเวลายังคงไหลย้อนกลับภาพรอบๆตัวซือหยูเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มันย้อนกลับไปถึงเวลาที่เซี่ยจิงหยูถูกเผาเป็นเถ้าถ่านมาถึงตอนที่นางถูกเพลิงเผาและเพิ่งจะถูกจักรพรรดิโลหิตปล่อยคอ จากนั้นจึงย้อนกลับไปถึงซากใต้ดิน ณ จุดที่นางตายอย่างสงบในอ้อมกอดของซือหยู

 

“ขะ…ข้าอยากให้พี่กับเซี่ยนเอ๋อ…อยู่…ด้วยกัน…มีความสุข”

 

เซี่ยจิงหยูที่กำลังจะตายได้ส่งกระแสจิตสุดท้ายให้กับซือหยูมือที่จับมือซือหยูไว้แน่นอ่อนแรงลง

 

นี่เป็นเวลาที่วิญญาณของเซี่ยจิงหยูถูกลบหายไปจากโลกแต่เวลายังคงไหลย้อนกลับไปอีก…

 

“ข้า…ดีใจ…ที่ได้ยินนะเจ็บปวดนักที่ต้องทำกับพี่เช่นนั้น พี่คงจะเกลียดข้าแล้วสินะ…”

 

“ข้าเห็นจุดจบของโลกกับชะตาของเฉินหลง…ทุกคนตกตายชะตามิอาจแปรเปลี่ยน แต่โอสถฟื้นชะตาทั้งสองที่ชุบชีวิตคนตายได้ยังเปลี่ยนชะตาได้ด้วย และคนที่มีมันก็จะรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้!”

 

ดวงตาของนางกระตุก

 

“เพราะเรื่องนี้ข้าเลยให้โอสถกับเซี่ยนเอ๋อและพี่ พี่กับเซี่ยนเอ๋อจะได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า”

 

หลังจากที่เซี่ยจิงหยูบอกความจริงกับเขานางได้อวยพรซือหยูกับเซี่ยนเอ๋อ จากนั้นจึงได้หายใจเฮือกสุดท้ายก่อนตาย แต่ภาพก็ยังคงไหลย้อนกลับไป

 

สุดท้ายมันกลับมาถึงตอนนี้จักรพรรดิโลหิตชี้ดัชนีมาที่เขาและร่างอันงดงามของนางได้เข้ามาขวางพอดีเป็นเพราะนางเข้ามาขวางในตอนนี้ นางจึงได้ตาย ซือหยูย้อนทุกสิ่งกลับมาแก้ไขตั้งแต่แรก

 

จักรพรรดิโลหิตที่กำลังจะฆ่าซือหยูตัวสั่นอย่างรุนแรงแต่สุดท้ายเขาก็เป็นอิสระจากห้วงเวลาไหลย้อนกลับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว

 

“เป็นไปได้ยังไง?”

 

เซี่ยจิงหยูที่เพิ่งจะก้าวมาขวางซือยหูอย่างกล้าหาญเองก็สับสนไม่ต่างกัน

 

“เกิดอะไรขึ้น?ข้ารู้สึกเหมือนได้เจอกับอนาคต ข้าตายไปแล้วไม่ใช่รึ?”

 

เซี่ยจิงหยูขมวดคิ้วถามด้วยความตกใจ

 

“เป็นไปได้ยังไง?วิธีอนาคตที่ข้าเห็นมันเปลี่ยนไปแล้วรึ?”

 

นางได้เห็นวิถีของอนาคตที่โลกถูกทำลายเหลือแต่เพียงซากจากการทำลายล้างแต่ตอนนี้อนาคตที่ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ของนางมองเห็นกลับมิใช่การทำลายล้าง แต่กลับเป็นภาพอันคลุมเครือ

 

นางยังคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตเพราะทุกสิ่งจะต้องไปตามวิถีที่ถูกต้องคนจะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ยากดีมีจนล้วนถูกลิขิตเอาไว้แล้ว

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้นางตกใจอย่างมาก!เพราะถ้าหากวิถีในอนาคตคลุมเครือ นั่นก็หมายถึงความเป็นไปได้หลายรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้น! อนาคตที่นางเคยเห็นอาจจะเกิดขึ้น หรือสิ่งที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน!

 

“ใครกันที่เปลี่ยนอนาคต?”

 

เซี่ยจิงหยูตกใจจนคิดอะไรไม่ออก

 

นางสัมผัสได้ถึงพลังมิติที่ด้านหลังของนางที่โอบล้อมนางและพาตัวนางไปไกลกว่าร้อยลี้ไหล่ของนางถูกจับด้วยมือที่แข็งแกร่งและมั่นคงที่มีพลังที่นางคุ้นเคย นางไม่ต้องหันไปมองก็บอกได้ว่ามันคือมือของซือหยู!

 

“พี่ซือหยูเป็นคนทำรึ?”

 

เซี่ยจิงหยูหันไปมองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาคนที่สะท้อนในแววตาของนางยังคงมีใบหน้าที่นางเคยเห็น แต่เส้นผมสีเงินที่เคยสง่างามในอดีตได้เปลี่ยนเป็นสีขาว

 

“พี่ทำไปทำไมกัน?ข้าตายไปแล้ว ข้าบอกลาพี่ไปแล้วด้วย! แล้ว…ทำไมอนาคตถึงได้เปลี่ยนกันล่ะ?”

 

เซี่ยจิงหยูไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ซือหยูยื่นมือสัมผัสใบหน้านางอย่างแผ่วเบาเขามือสั่นราวกับกลัวว่าทุกสิ่งที่ได้เห็นเป็นภาพลวงตา

 

แต่มันคือเรื่องจริงเซี่ยจิงหยูกลับมามีชีวิตอีกครั้ง! ซือหยูใจสั่นระริก โลกในใจของเขาที่เคยพังทลายกลับมาเป็นเหมือนเดิมทันที

 

“เจ้ากลับมาแล้ว…”

 

ซือหยูกระซิบเสียงแหบ

 

เขายื่นแขนกอดเซี่ยจิงหยูจนแน่นราวกับกลัวว่าจะเสียนางไปอีกครั้งเซี่ยจิงหยูไม่ทันตั้งตัวเมื่อเขากอดนางอย่างแรง!

 

แต่นางมิได้รู้สึกเจ็บปวดนางร้องไห้ด้วยความดีใจ นางรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้เขา เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำให้นางรู้สึกเหมือนจากเขามาหลายร้อยปี

 

“พี่ซือ”

 

ความเศร้าหมองและยินดีที่เกิดขึ้นพร้อมกันในหัวใจกลั่นออกมาเป็นน้ำตาร่างอ่อนนุ่มของนางอยู่ในกอดของซือหยูและร้องไห้เสียงดัง

 

จิตใจของซือหยูเป็นอิสระจากความกังวลทั้งปวงเขาได้ทุกสิ่งที่ปรารถนากลับมาแล้ว เสงสีเงินได้ปรากฏในมือ มันสกัดเอาพิษที่เซี่ยจิงหยูดื่มเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ทั้งโลกเงียบไปราวกับมิอาจหาคำใดมาอวยพรให้แก่คู่รักทั้งสองที่ถูกความตายพลัดพรากจากกัน

 

ทุกสิ่งมีชีวิตในทวีปและทุกคนในก้นบึ้งมังกรกำลังสับสนพวกเขายังคงมีความทรงจำในฝ่ามือทำลายล้างที่ทำลายล้างโลกของพวกเขาไป! ทุกคนสงสัย…

 

เหตุใดทุกสิ่งถึงกลับมาเริ่มต้นใหม่เล่า?

 

ดวงตาจิวหยวนโจวเต็มไปด้วยความสับสนเขามิอาจเข้าใจได้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น เช่นเดียวกับราชาแห่งความมืด

 

ณทวีปเหนือที่จมลึก ในเขตเซี่ยนหยูที่ขมลงในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ชายแก่เฒ่ายืนท่ามกลางซากปรักหักพัง เขาคือฟางไห่เซิง ร่างเงาของเขาค่อยๆหายไป

 

“มิติเวลาไหลย้อนกลับ…จะต้องเป็นพลังของเทพโบราณจิวหลงที่ควบคุมการไหลเวียนของมิติเวลามาตั้งแต่โบราณกาล”

 

ฟางไห่เซิงตาเป็นประกายใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาแสดงถึงความปลื้มปิติ

 

“สุดท้ายก็มีผู้สืบทอดเทพจิวหลงได้ปรากฏตัวในโลกเฉินหลงของข้าช่างดีเหลือเกิน ข้าไม่ได้ทำพลาดที่ให้ธนูมังกรฟ้าดินกับเจ้า”

 

ร่างเงาเริ่มหายไปเมื่อเขามองซือหยูที่อยู่ห่างไกลกับเขานับแสนลี้

 

เขาถอนหายใจเบาๆ

 

“ผู้สืบทอดจิวหลงข้าจะฝากทุกสิ่งไว้กับเจ้า ข้าเหนื่อยมากพอแล้ว ข้าจะได้ไปสู่สุคติเสียที”

 

เมื่อพูดจบร่างของเขาได้กลายเป็นแก้วเรืองแสงพัดพาไปยังมหาสมุทร ร่างของราชาแห่งความมืดที่อยู่ห่างไกลจากเขาสั่นคลอนเมื่อมองมายังทิศของทวีปเหนือ

 

เขาคุกเข่าลงกับพื้น

 

“ลาก่อนท่านเฉินขอให้ท่านไปสู่สุคติ”

 

น้ำตาสองสายไหลอาบแก้มของเขาสู่พื้นดิน

 

ทุกคนในเฉินหลงต่างรู้สึกว่างเปลบ่าจากภายในราวกับว่าพวกเขาสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปซือหยูสัมผัสถึงสิ่งนั้นได้เช่นกัน ความโศกเศร้าได้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา เขารู้สึกราวกับได้เสียคนในครอบครัวที่สำคัญที่สุดไป

 

เสียงร่ำไห้อันโศกเศร้าดังมาจากนภาราวกับสวรรค์หลั่งน้ำตาให้กับความสูญเสียครั้งนี้หิมะได้ตกในทุกมุมของเฉินหลงราวกับเป็นน้ำตาของสวรรค์

 

มีเพียงจักรพรรดิโลหิตที่ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

“ฮ่าๆๆๆๆเป็นอย่างที่ข้าคิดจริงๆด้วย! เฉินอี้เจิงหลงเหลือแค่เสี้ยววิญญาณ! ตอนที่มันใช้แก่นโลหิตสร้างทวีปขึ้นมา มันต้องจ่ายด้วยชีวิตและเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณจนมาถึงวันนี้ เมื่อกี๊ข้าเพิ่งจะฆ่ามันไป ทำให้มันหายไปตลอดกาล!”

 

ดูเหมือนว่าขอบเขตของเฉินอี้เจิงจะสูงเกินไปจนก้าวข้ามขอบเขตที่มากพอจนการไหลของมิติเวลาจากซือหยูไม่ส่งผลต่อเขาเป็นเหตุให้ที่แม้เวลาจะย้อนกลับมา มันก็มิอาจนำเอาวิญญาณของเขากลับมาได้ด้วย เขาได้ตายลงในแม่น้ำของสายเวลาที่ไม่มีวันหวนกลับ

 

เขาสละชีวิตเพื่อสร้างทวีปและทำให้คนเฉินหลงอาศัยอยู่อย่างผาสุขดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าทุกสิ่งมีชีวิตในเฉินหลงคือลูกหลานของเขา นี่จึงเป็นเหตุให้ทุกคนในทวีปโศกเศร้าในการจากไปของเขา

 

เซี่ยจิงหยูเศร้าเสียใจและผละออกจากกอดของซือหยูนางโค้งไปทางทวีปเหนือ

 

“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา”

 

นางมองซือหยูด้วยหางตาและเห็นว่าซือหยูยืนนิ่งไม่ไหวติงนางจึงถาม

 

“พี่ซือหยูไม่แสดงความเคารพต่อเขารึ?”

 

ซือหยูหลับตาและส่ายหน้าเบาๆ

 

“ควรจะมีหนึ่งคนที่ไม่โค้งคำนับด้วยความเศร้าและไปล้างแค้นเพื่อเขา!”

 

เมื่อซือหยูลืมตาอีกครั้งจิตสังหารอันน่าตกตะลึงได้แผ่ออกมา แววตาของเขาทะลวงตรงไปยังจักรพรรดิโลหิต เขาตะโกน

 

“เจ้าทำลายเฉินหลงไปสองครั้งข้าสาบานว่าจะฆ่าเจ้าแทนคนเฉินหลงเอง!”

 

จักรพรรดิโลหิตสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินการประกาศก้องของซือหยู

 

“เจ้าหนูข้ารู้ว่าเจ้าทำได้แม้กระทั่งย้อนมิติเวลา ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริงๆ”

 

จักรพรรดิโลหิตพูดอย่างใจเย็น

 

“แต่…แล้วมันยังไงเล่า?พอเวลาย้อนกลับมา ข้าก็ทำลายเฉินหลงได้อีกครั้ง ส่วนเจ้าเองก็ต้องเสียบางสิ่งไปมากเพื่อย้อนเวลาแน่นอน”

 

การฝืนหมุนเวลากลับไม่ใช่เรื่องเล็กๆมันขัดต่อกฎเกณฑ์ทุกสิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่ซือหยูจะขัดกฎเกณฑ์สวรรค์โดยไม่ต้องเสียอะไร

 

ดูเหมือนว่ามือของซือหยูจะเป็นคำตอบต่อจักรพรรดิโลหิตเพราะผิวหนังที่มือของซือหยูได้เริ่มแตกออก ซือหยูก้มลงมองและพบกับผิวหนังที่กลายเป็นเศษหิน

 

ผิวหนังของเขาร่วงตกพื้นไปส่วนหนึ่งรอยเหี่ยวย่นปรากฏฬนมือ สายโลหิตของเขาอ่อนแอลง ราวกับว่ามันเป็นมือของชายแก่ที่กำลังจะตาย!

 

“พี่ซือหยูมือพี่เป็นอะไร?”

 

เซี่ยจิงหยูเอามือปิดปากด้วยความตกใจ

 

ตอนที่นางได้ยินว่าซือหยูเป็นคนควบคุมมิติเวลานางได้คำตอบในทุกเรื่องที่สงสัย แต่มือของซือหยูทำให้นางร้อนรนยิ่งกว่าเดิม

 

จักรพรรดิโลหิตยิ้มอย่างเยือกเย็น

 

“ข้าพูดถูกสินะสิ่งที่เจ้าต้องแลกก็คือชีวิตของเจ้า!”

 

“เวลาเป็นนิรันดร์ไม่แปรเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลย้อนกลับไปที่แหล่งอื่น และมันก็ส่งตรงไปที่ตัวเจ้า เจ้าใช้เวลาของตัวเองแลกกับสิ่งรอบข้าง เจ้าถึงได้ย้อนเวลากลับมาได้”

 

“ก็จริงเจ้าไม่ได้เข้าใจผิดหรอก”

 

ซือหยูตอบกลับอย่างใจเย็นเขามองดาวดาราบนท้องฟ้าด้วยสายตาคมกริบ

 

“แต่แล้วทำไมเล่า?เท่านี้ก็มากพอที่จะฆ่าเจ้าได้แล้ว”

 

จักรพรรดิโลหิตส่ายหน้าอย่างไม่แยแส

 

“ข้าบอกแล้วว่ามันทำอะไรข้าไม่ได้ข้าก็แค่ต้องทำลายเฉินหลงอีกครั้ง เจ้าจะย้อนเวลาได้สักกี่ครั้งกันเชียว สุดท้ายชะตาก็ไม่แปรเปลี่ยน”

 

แขาพูดถูกที่สุดเพราะการย้อนเวลามิอาจแก้ไขเรื่องราวได้ตลอด และ…ถ้าซือหยูไม่อาจลบจักรพรรดิโลหิตให้หายจากโลกได้ จักรพรรดิโลหิตก็จะทำลายโลกอีกครั้งและอีกครั้ง!

 

ดังนั้นแม้ว่าซือหยูจะย้อนเวลากลับมาอีกผลสุดท้ายก็ยังเป็นเหมือนเดิม ถ้าหากย้อนวงจรเหล่านี้ไม่หยุด สุดท้ายชีวิตของซือหยูก็จะถูกลบหายไปจนมิอาจย้อนเวลาได้อีกแล้ว

 

พอถึงตอนนั้นโลกเฉินหลงก็จะพบกับการทำลายล้างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้! เพราะจักรพรรดิโลหิตนั้นแข็งแกร่งเกินไป เขาเป็นดั่งเทพสวรรค์ไร้เทียมทานที่มิอาจถูกสังหาร!

 

จักรพรรดิโลหิตรู้เรื่องนี้ดีเขาตะโกนดั่งผู้ชนะ

 

“อุบายทุกอย่างของเจ้าล้วนเปล่าประโยชน์ต่อหน้าข้า!”

 

“ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าอีกแล้วข้าจะทำลายโลกนี้อีกครั้ง ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”

 

จักรพรรดิโลหิตร้องคำราม

 

เขาบินขึ้นไปยังอวกาศอีกครั้งและเริ่มใช้ฝ่ามือเทพแสงกระจ่างไม่นานทั้งอวกาศก็มีแสงเปล่งประกายของสุริยันจันทรา ทั้งทวีปเฉินหลงสาดสะท้อนแสงทำลายล้างนี้

 

ทุกสิ่งมีชีวิตรู้สึกได้ว่าความทรงจำอันคลุมเครือได้ชัดแจ้งขึ้นพวกเขาเคยผ่านการทำลายล้างมาแล้วเมื่อครู่ก่อน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะตายในตอนนี้อีกครั้ง!

 

“ฝ่ามือเทพดับสวรรค์!พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”

 

จักรพรรดิโลหิตผู้อยู่ในอวกาศดันฝ่ามือลงไปยังดวงดาว

 

ฝ่ามือขนาดยักษ์เปล่งแสงล้อมโลกเฉินหลงฝ่ามือทำลายล้างโลกได้มาถึงอีกครั้ง ทุกคนจมอยู่ในความหวาดกลัว พวกเขามิอาจเป็นอิสระจากโชคชะตานี้ได้ พวกเขาจะถูกลบหายไปในตอนสุดท้าย

 

ราชาแห่งความมืดรู้สึกผิดเขาหลับตาและยิ้มอย่างขมขื่น

 

“ท่านเฉิน!ข้ามันไร้ประโยชน์ ข้าปกป้องโลกที่ท่านสร้างขึ้นมาไม่ได้”