บทที่ 1023 เคยได้ยินมา / บทที่ 1024 การชกต่อยน่าตื่นเต้นที่สุด

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1023 เคยได้ยินมา

หลังจากที่ซุนเสวี่ยเจินไป ฉินรั่วซีก็เดินเข้าไปทักทายมู่สุยเฟิง “คุณมู่คะ!”

“คุณหนูฉิน ไม่ได้เจอกันนานเลย!” ตอนที่มู่สุยเฟิงเห็นฉินรั่วซี สีหน้าท่าทางดูสนิทสนมขึ้นมาก ไม่ได้เป็นทางการและสุภาพเรียบร้อยเหมือนตอนที่คุยกับเยี่ยหวันหวั่น

“ใบชาที่ส่งไปให้ครั้งที่แล้วถูกปากคุณหรือเปล่าคะ? ไม่นานมานี้เพิ่งจะได้มาอีก เดี๋ยวฉันจะให้คนส่งไปให้คุณอีกค่ะ!”

“คุณหนูฉินเกรงใจเกินไปแล้ว รับใบชาของคุณหนูฉินตลอดผมเกรงใจจะแย่!”

“เรื่องเล็กน้อยค่ะ คุณมู่เดินทางมาครั้งนี้ อยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ?” ฉินรั่วซีถาม

สีหน้าของมู่สุยเฟิงหมดความสนใจไปเล็กน้อย บอกว่า “ไม่ต้องลำบากหรอก ผมไม่ได้อยากไปไหน”

ฉินรั่วซีได้ยินอย่างนั้น จึงแนะนำ “อีกไม่กี่วันการแข่งขันแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ระดับประเทศจะจัดขึ้นที่เมืองหลวง ไม่ทราบว่าคุณมู่สนใจไหมคะ?”

ถึงแม้มู่สุยเฟิงจะเป็นนักธุรกิจ แต่ไม่ชอบวัตุโบราณ และไม่ชอบภาพวาดด้วย มีเพียงศิลปะการต่อสู้เท่านั้นที่เขาชื่นชอบมาก ดังนั้นเพื่อจะเอาใจเขา ฉินรั่วซีจึงเสนอสิ่งที่เตรียมการมาแต่แรกแล้ว

มู่สุยเฟิงถอนหายใจแล้วบอกว่า “ตอนแรกก็อยากไปอยู่หรอก แต่หลายปีมานี้การแข่งยิ่งจัดก็ยิ่งคุณภาพแย่ แทนที่จะเรียกว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ เรียกว่าแข่งขันการแสดงยิ่งดีกว่า ดูดีแค่ภายนอกเท่านั้น ผมเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไร!”

ฉินรั่วซีคิดสักครู่ ก่อนพูดเหมือนเข้าใจ “การแข่งขันระดับนั้น ก็ไม่แปลกที่จะไม่เข้าตาคุณมู่”

โชคดีที่เธอเตรียมแผนสำรองมา

ด้วยเหตุนี้ ฉินรั่วซีจึงพูดเสริม “ในเมื่อคุณมู่ไม่สนใจการแสดงอย่างนั้น ถ้างั้นงานชุมนุมประลองฝีมือล่ะคะ?”

มู่สุยเฟิงได้ยินก็ถาม “งานชุมนุมประลองฝีมืองั้นเหรอ”

“ใช่ค่ะ คุณมู่รู้จักคุณซุนลี่จ้งไหมคะ” ฉินรั่วซีถาม

มู่สุยเฟิงพูดขึ้นทันที “หัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงของจีน ผมต้องรู้จักอยู่แล้ว! คุณหนูฉินรู้จักเขาเหรอ?”

ฉินรั่วซีบอก “คุณลุงซุนเป็นเพื่อนกับตระกูลของฉันมานาน เลยรู้จักกันน่ะค่ะ คืออย่างนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่าคุณลุงซุนเพิ่งจะเชิญนักมวยไทยฝีมือดีคนหนึ่งจากต่างประเทศมาที่บ้าน คุณลุงซุนตั้งใจจะจัดงานชุมนุมประลองฝีมือ เชิญยอดฝีมือของประเทศเรามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้กับนักมวยไทยคนนั้น!”

มู่สุยเฟิงได้ยินอย่างนั้น สายตาก็เป็นประกาย “นักมวยไทยที่คุณพูดถึงคือ?”

“เซนนี่ ผู้ชนะการแข่งขัน MMA ครั้งที่แล้ว! ค่ะ!” ฉินรั่วซีตอบ

ได้ยินมาถึงตรงนี้ แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ต้องเลิกคิ้ว หันไปมองฉินรั่วซีอย่างสนอกสนใจ

“ราชาหมาป่าเซนนี่?” เยี่ยหวันหวั่นถามตามจิตใต้สำนึก

ฉินรั่วซีพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว เขานั่นแหละ คุณหนูเยี่ยก็ได้ยินมาเหมือนกันเหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นบอก “เคยดูการแข่งของเขาน่ะค่ะ”

หลังจากค้นพบพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ของตัวเอง เยี่ยหวันหวั่นก็สนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับด้านนี้มาไม่น้อย เวลาว่างก็มักจะดูการแข่งขันต่างๆ

MMA ความหมายว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน เป็นกีฬาการต่อสู้ที่มีกฎการแข่งค่อนข้างเปิดกว้าง ในการแข่งขันอนุญาตให้ผู้เข้าแข่งขันใช้วิชามวย ยิวยิตสู มวยไทย มวยปล้ำ คาราเต้ ยูโด ซ่านโฉ่ว และเจี๋ยฉวนเต้า[1]เป็นต้น ให้ความสำคัญกับศิลปะการต่อสู้ทุกชนิดอย่างเท่าเทียม ผู้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ในแขนงต่างๆ สามารถแข่งขันในสนามเดียวกัน ภายใต้กฎที่เหมือนกัน

พูดง่ายๆ ก็คือ ในการแข่งขันจะไม่แบ่งแยกประเภทศิลปะการต่อสู้ คุณสามารถใช้ศิลปะการต่อสู้ประเภทใดก็ได้ ขอเพียงคุณเอาชนะคู่ต่อสู้ได้

และในการแข่งขันประเภทนี้ มวยไทยและยิวยิตสูถือว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่โดดเด่นอันดับต้นๆ จำนวนครั้งที่ชนะมากที่สุด ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้มีคำกล่าวว่า ยอมเจอพญามัจจุราช ดีกว่าต้องเจอราชามวยไทย

เซนนี่เป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยทักษะการสู้ที่ดุเด็ดเผ็ดมันจึงได้ฉายาว่า ‘ราชาหมาป่า’

————————————————————————————-

บทที่ 1024 การชกต่อยน่าตื่นเต้นที่สุด

เซนนี่ถูกแฟนมวยในประเทศจีนยกย่องว่าเป็นแชมป์ที่เก่งที่สุด และเป็นต้นแบบของผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ไม่น้อย มีคนจีนจำนวนมากอยากให้เขามาเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างไทยและจีน เพื่อประลองฝีมือกับศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของจีน

“เซนนี่เป็นตัวแทนของสุดยอดนักมวยไทยจริงๆ แล้วคุณซุนก็เป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ของจีน ผมอยากเห็นการประลองฝีมือระหว่างมวยไทยกับศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของจีนเรามาตั้งนานแล้ว!” มู่สุยเฟิงพูดขึ้น สีหน้าดูตื่นเต้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าข้อเสนอของฉินรั่วซีทำให้เขาคาดหวังรอคอยมาก

เมื่อได้ยินคำตอบที่คาดไว้อยู่แล้ว ฉินรั่วซีแสดงสีหน้ามั่นอกมั่นใจ จากนั้นหันไปมองซือเยี่ยหาน พูดเสียงอ่อนโยนว่า “ประธานซือ ในเมื่อคุณมู่สนใจ ไม่สู้ตระกูลฉิน ตระกูลซุน และตระกูลซือคัดเลือกตัวแทนของแต่ละฝ่ายมาคนหนึ่ง แล้วค่อยให้ตัวแทนคนนั้นนำคนหัวกะทิทั้งห้าร่วมจัดงานชุมนุมประลองฝีมือขึ้นดีไหมคะ”

มู่สุยเฟิงรีบตบมือเสียงดังทันที “ความคิดดีทีเดียว!”

เมื่อเห็นมู่สุยเฟิงสนใจมาก เพื่อแสดงถึงการให้เกียรติแขก ซือเยี่ยหานย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว “ได้ครับ เดี๋ยวผมจะสั่งให้คนไปเตรียมการ”

ฉินรั่วซีเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยหางตา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ทางฝั่งตระกูลฉิน ฉันจะเป็นตัวแทนคัดเลือกห้ายอดฝีมือเอง ส่วนฝั่งตระกูลซือ ประธานซือคะ ถ้ายังไงให้คุณหนูเยี่ยเป็นตัวแทนดีไหมคะ”

เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ข้างซือเยี่ยหานอย่างสงบเสงี่ยมตั้งแต่แรกพลันถูกพูดถึง ก็เลิกคิ้วโดยจิตใต้สำนึก ฉินรั่วซีใจดีมอบโอกาสสร้างผลงานให้เธอขนาดนี้เลยเหรอ?

ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นแน่นอนละมั้ง…

จิ๊ๆ ถึงตอนนั้นจะต้องมียอดฝีมือรุ่นน้ำหนักสูงอยู่ด้วยแน่…

อยากไปเล่นด้วยจัง!

สายตาของเยี่ยหวันหวั่นหันไปมองซือเยี่ยหานทันทีเหมือนกับหลอดไฟ ราวกับกำลังบอกว่าให้ฉันทำ! ให้ฉันทำเถอะ! ให้ฉันทำนะ!

มู่สุยเฟิงหันมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง แล้วพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “อ้อ? หรือว่าคุณหนูเยี่ยก็สู้เป็นด้วย?”

นี่มัน…ดูไม่ออกเลยจริงๆ…

ฉินรั่วซียิ้มบางแล้วตอบว่า “คุณหนูเยี่ยฝีมือดีมาก ฉันเคยเห็นกับตาตัวเองมาแล้ว บอดี้การ์ดฝีมือดีหลายคนของตระกูลซือยังต้องแพ้ให้เธอเลยค่ะ!”

แน่นอนว่าเธอตั้งใจยกยอปอปั้นเยี่ยหวันหวั่นเกินจริง เมื่อทำอย่างนี้ ถึงเธอจะไม่อยากรับหน้าที่นี้ก็ต้องรับอยู่ดี…

“งั้นผมก็ตั้งตารอจริงๆ แล้วละ!” มู่สุยเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้จริงจังมาก แค่พูดเป็นมารยาทเท่านั้น

“ประธานซือเห็นว่าอย่างไรคะ?” ฉินรั่วซีถาม

เหมือนกลัวว่าซือเยี่ยหานจะปกป้องเยี่ยหวันหวั่น และไม่ยอมตอบตกลง ฉินรั่วซีจึงพูดเสริมอีก “ตัวแทนไม่จำเป็นต้องลงสนามเอง พอถึงตอนนั้นก็แค่นำทีมและคอยให้คำแนะนำนิดหน่อยก็พอ ดังนั้นไม่มีอันตรายอะไรแน่นอน ประธานซือวางใจได้ค่ะ”

หากเรื่องนี้สำเร็จ เธอไม่เพียงจะเอาใจคุณมู่ได้ ยังทำให้ตระกูลซุนติดค้างน้ำใจเธอได้หนึ่งครั้ง ที่สำคัญที่สุดก็คือทำให้เยี่ยหวันหวั่นขายหน้าครั้งใหญ่ ทำลายบารมีอันน้อยนิดที่ฝ่ายตรงข้ามเพิ่งสร้างขึ้นมาได้…

ฉินรั่วซีข่มกลั้นอารมณ์ รอฟังคำตอบของซือเยี่ยหาน

ขณะเดียวกัน ใบหน้าด้านข้างของซือเยี่ยหานก็แทบจะถูกสายตาคาดหวังของเยี่ยหวันหวั่นเผาไหม้แล้ว…

มุมปากของซือเยี่ยหานกระตุกเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น เขาหลุบตามองหญิงสาวข้างกาย “อยากทำเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นอยากทำใจจะขาด รีบพยักหน้าทันที “อยากค่ะ!”

ซือเยี่ยหานพูดไม่ออก

ได้ยินเรื่องชกต่อยทีไรก็ตื่นเต้นขนาดนี้…

……………………….