ตอนที่ 1067 ศิลปะการต่อส

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

อี้มู่หันกลับมาสบตาหญิงสาว “ อาเหลียง วันนี้ศัตรูแข็งแกร่งมาก ผมไม่สามารถลากคุณให้มาพัวพันด้วยได้ คุณรีบไปจากที่นี่ จากนี้ไปก็ลืมผมไปซะ ! ”
  ดนตรีในบาร์นุ่มนวลและผ่อนคลาย หยางโปเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินคำสารภาพรักใคร่เช่นนี้ ก็รู้สึกชาไปทั้งตัว ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมอี้มู่ถึงทำให้ผู้หญิงติดได้แบบนี้
  หยางโปเดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว แล้วหันกลับมามอง เห็นอี้มู่พูดกับผู้หญิงคนนั้นสองสามคำ แล้วหันหลังให้เธอและเดินออกมา
  ไม่นาน หยางโปก็มาที่สวนเล็กๆ ทางด้านซ้ายของไนต์คลับ เขามองไปที่อี้มู่ ” คุณรู้ได้ยังไงว่ากระจกอยู่ที่ผม ? ”
  อี้มู่หันกลับไปมองหยางโป “ แน่นอนผมรู้สิ คุณน่าจะถามว่ามีกี่คนที่ไม่รู้บ้างต่างหาก ”   หยางโปตกตะลึงไปสักพัก ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากไปกว่านี้
  ชักกระบี่แทงเข้าไปทันที
  อี้มู่เตรียมพร้อมรับมือนานแล้ว ดูเหมือนจะตกใจแต่แท้จริงแล้ว เขาเตรียมพร้อมรับมือไว้อย่างดีแล้ว หยางโปเชี่ยวชาญทักษะการใช้กระบี่เทียนหลัวมานานแล้ว พลังก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ขั้นวรยุทธ์ของอี้มู่เหนือกว่า การเคลื่อนไหวของเขาคล่องตัวกว่า ทำให้หยางโปถึงกับรับมือกับคู่ต่อสู้ไม่ได้
  นี่คือถนนโฮ่วไห่ ช่วงสี่ทุ่มกว่า ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาเยอะมาก ฉากที่ทั้งสองต่อสู้กันนอกไนต์คลับ ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามารายล้อมในทันที
  “ นี่ถ่ายละครเหรอ ? ตีกันดีมาก ท่าแบบนี้สวยมากจริงๆ ! ”
  “ สายสลิงอยู่ไหน? สุดยอด ไร้ซึ้งการบังคับ การเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแบบนี้ได้ มันน่าเหลือเชื่อมาก พี่ใหญ่ทั้งสอง ขอเวลาหน่อยได้ไหม ผมอยากขอคารวะเป็นอาจารย์ ! ”
  “ นี่มันถ่ายละครอะไร นี่ต่อสู้กันจริงๆเหรอ ! ไม่มีผู้กำกับและกล้องถ่ายอยู่ที่นี่เลย จะปลอมได้ยังไง ? ”
  จู่ๆ ก็มีคนกลุ่มใหญ่เข้ามาโอบล้อมหน้าประตูไนต์คลับหวงโฮ่วไว้ ทุกคนจ้องไปที่การต่อสู้ของทั้งสองคนในสวนดอกไม้เล็กๆ และพากันซุบซิบนินทา
  ลัวย่าวหัวซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน ตำแหน่งของเขาอยู่ด้านหน้า สายตาจ้องมองไปที่เหตุการณ์ในสนาม กลัวว่าถ้าหยางโปเกิดได้รับบาดเจ็บ เขาจะได้ออกไปช่วยได้
  อาเหลียงคนรักของอี้มู่ไม่มาปรากฏตัวสักที เห็นแค่บอดี้การ์ดสองคนวิ่งเข้ามา แต่เมื่อพวกเขาเห็นสถานการณ์ของหยางโปทั้งสองก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง !
  ยิ่งหยางโปต่อสู้มากเท่าไหร่ กระบี่เทียนหลัวก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น อี้มู่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือเลยเสียเปรียบ เขายังคงหาโอกาสโต้กลับอยู่ตลอด แต่วิชากระบี่เทียนหลัวยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งมาก เขาไม่พบช่องโหว่ใดๆเลย
  ถือโอกาสขนาดที่หยางโปฟาดฟันท่วงท่าหนึ่งจบ ทันใดนั้นอี้มู่ก็ถอยกลับและกระชากบอดี้การ์ดคนหนึ่งมาขวางหน้าไว้ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในฝูงชนราวกับปลาไหลตัวหนึ่ง !
  หยางโปมองร่างที่หลบหนีไปของอีกฝ่าย ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ไล่ตามไป การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เขาเข้าใจว่าเขาไม่มีทางจัดการกับอีกฝ่ายได้ ในที่สาธารณะแบบนี้ มันก็ไม่ง่ายที่เขาจะใช้เจตนารมณ์กระบี่ จึงต้องยอมจบไป
  หยางโปเก็บกระบี่ หันกลับเดินเข้าไปในไนต์คลับ แต่ในบริเวณจุดเกิดเหตุกลับมีเสียงตะโกนดังขึ้น “ ดี ! ”
  เมื่อเถ้าแก้โจวเหม่ยเอ๋อของไนต์คลับหวงโฮ่วเห็นหยางโปเดินกลับเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปใกล้
  ดึงหยางโปมามองสำรวจดู “ คุณชายหยาง คุณโอเคไหม ? ”หลัวยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งมาก เขาไม่พบช่องโหว่ใดๆเลย
  ถือโอกาสขนาดที่หยางโปฟาดฟันท่วงท่าหนึ่งจบ ทันใดนั้นอี้มู่ก็ถอยกลับและกระชากบอดี้การ์ดคนหนึ่งมาขวางหน้าไว้ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในฝูงชนราวกับปลาไหลตัวหนึ่ง !
  หยางโปมองร่างที่หลบหนีไปของอีกฝ่าย ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ไล่ตามไป การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เขาเข้าใจว่าเขาไม่มีทางจัดการกับอีกฝ่ายได้ ในที่สาธารณะแบบนี้ มันก็ไม่ง่ายที่เขาจะใช้เจตนารมณ์กระบี่ จึงต้องยอมจบไป
  หยางโปเก็บกระบี่ หันกลับเดินเข้าไปในไนต์คลับ แต่ในบริเวณจุดเกิดเหตุกลับมีเสียงตะโกนดังขึ้น “ ดี ! ”
  เมื่อเถ้าแก้โจวเหม่ยเอ๋อของไนต์คลับหวงโฮ่วเห็นหยางโปเดินกลับเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปใกล้
  ดึงหยางโปมามองสำรวจดู “ คุณชายหยาง คุณโอเคไหม ? ”   หยางโปกลั้นหายใจ เขารู้สึกว่าโจวเหม่ยเอ๋อก็ไม่เลว แต่น้ำหอมบนตัวกลิ่นแรงไปหน่อย เขาส่ายหน้าให้เล็กน้อย “ พาผมออกไปทางประตูหลัง เดี๋ยวถ้าลัวย่าวหัวมาหาคุณ คุณค่อยพาเขามาหาผมอีกครั้ง ”
  โจวเหม่ยเอ๋อรีบพยักหน้าทันที “ ได้ ! ”
  หยางโปเดินตามโจวเหม่ยเอ๋อลัดผ่านห้องครัวด้านหลังและเดินออกไปจากไนต์คลับ
  ไม่นานลัวย่าวหัวก็ถูกพาตัวออกมา เขาตื่นเต้นมากเมื่อเห็นหยางโปและเอ่ยปากถามว่า
  “ นายว่า ในอนาคตฉันจะเก่งเหมือนนายไหม ? ”
  “ ต้องตั้งใจฝึกฝน ” หยางโปตอบกลับ novel-lucky
  ในขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น รถของพวกเขาก็มาถึง หยางโปขึ้นรถ แต่กลับถอนหายใจ เหยียนหรูหยูให้เวลาเขาสิบวัน แต่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับมัน แต่ยังคงไม่ได้กระจกแสงจันทร์กลับคืนมา
  มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้ดี กระจกแสงจันทร์มีบทบาทสำคัญในกระบวนการฝึกฝนของเขามาก หากไม่มีกระจกแสงจันทร์ ความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็จะชะลอตัวช้าลงอย่างน้อยหลายเท่า !
  รถกำลังขับเคลื่อนออกไป เวลานี้แถวโฮ่วไห่ดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่รุมกันไปที่ไนต์คลับหวงโฮ่ว ทุกคนได้รับข่าวว่ามีคนแสดงวิชากระบี่ที่หน้าไนต์คลับหวงโฮ่ว เหมือนใน
  นวนิยายศิลปะการต่อสู้ ชายคนนั้นสามารถเคลื่อนไหวท่ายากๆ ได้โดยไม่ใช้สลิงบังคับ !
  มีเพียงคนจำนวนมากที่รีบเข้ามา แต่กลับไม่เห็นการแสดง ดังนั้นจึงเข้าไปในไนต์คลับหวงโฮ่วกัน จนทำเอาโจวเหม่ยเอ๋อตกใจมากจนรีบปิดประตูทันที
  เมื่อกลับไปถึงบ้าน หยางโปก็ค่อนข้างลังเล ไม่ได้กระจกแสงจันทร์กลับมา โอกาสของเขากำลังจะหมดลงแล้ว แต่เขายังคงเดินไปเคาะประตูห้องเหยียนหรูหยู
  “ เชิญเข้ามา ! ” เสียงของเหยียนหรูหยูชัดแจ๋ว ราวกับไข่มุกที่ตกลงบนแผ่นหยก
  หยางโปเปิดประตูและเดินเข้าไป เห็นเหยียนหรูหยูนั่งอยู่ใต้หน้าต่าง เธอถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ ดูสวยงามอย่างพร่ามัว
  เหยียนหรูหยูเงยหน้าขึ้นมองหยางโป ” ไม่ได้กระจกเทียนหลัวกลับมาใช่ไหม ? ”
  หยางโปพยักหน้า ” อีกฝ่ายฝีมือสูงส่งอยู่ในขั้นเลี่ยนชี่จิง เคลื่อนไหวได้คล่องตัวและว่องไว
  ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ”
  เหยียนหรูหยูยิ้ม “ ชายคนนั้นเป็นยอดฝีมือของเผ่าม้ง ชื่อของเขาคืออี้มู่ เขาเก่งในการหลอกลวง คุณป้าถูกหลอกมันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ระยะเวลาสิบวันยังเหลือเวลาอีกสองวัน ถ้าคุณทำไม่ได้
  งั้นฉันก็ต้องลงมือ ถ้าฉันได้ไป หลังจากนี้คุณก็ไม่มีโอกาสได้มันกลับไปอีกแล้ว ”
  หยางโปหันไปมองเหยียนหรูหยู เขาลังเลใจมาก นี่คือเรื่องที่พูดกันไว้ก่อนหน้านี้ กระจกบานนั้นเป็นของที่บรรพบุรุษพวกเขาสืบทอดต่อกันมา เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเรื่องนี้ หยางโปรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที
  เหยียนหรูหยูไม่ได้พูดอะไรมาก พูดออกมาตามตรงว่า “ ดึกมากแล้ว คุณมาอยู่ในห้องฉันแบบนี้มันดูไม่เหมาะสม ”
  หยางโปหันหลังเดินออกไปทันทีหลังจากได้ยินแบบนั้น
  ในอดีต หยางโปมักคิดว่าเขาก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ต่อให้เจอกับยอดฝีมือที่มีวรยุทธ์ขั้นเลี่ยนชี่จิง
  อย่างฉินตูฟู หรือโจวเสี่ยวเฉิง เขาก็จะสามารถขับไล่ไปได้ ตอนนี้ ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะเป็นความบังเอิญเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเขามีเจตนารมณ์กระบี่อยู่ ส่วยใหญ่เขาใช้ประโยชน์จากการลอบโจมตีทั้งนั้น  ตอนนี้ไม่ได้ใช้เจตนารมณ์กระบี่ มากสุดเขาก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ !
  วันที่สอง หลังจากหยางโปกลับจากการฝึกซ้อมช่วงเช้า กลับเห็นหลินหลินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้า ไม่ได้ออกไปแต่เช้า เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย จึงเดินเข้าไปกล่าวสวัสดี
  หลินหลินชายตามองหยางโป สีหน้าเธอเศร้าหมอง ดูเหมือนสาเหตุจะมาจากคิดมากเกินไปและพักผ่อนไม่พอ
  “ แม่หน้าตาดูไม่สู้ดีเลย เป็นอะไรไปงั้นเหรอ ? ” หยางโปถาม
  หลินหลินมองหน้าหยางโป พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร “ เสี่ยวโป แม่ต้องขอโทษลูกด้วยนะ
  แม่ทำเรื่องผิดพลาดมาเรื่องหนึ่ง ! ”
  “ แม่จะพูดเรื่องวางยาใช่ไหม ? ” หยางโปเปิดโปงสิ่งที่ทำออกมาตามตรง
  หลินหลินหน้าถอดสีทันที เธอมองหน้าหยางโป “ ลูกรู้เรื่องหมดแล้วเหรอ ? ”   “ ผมไปหาอี้มู่มา ” หยางโปตอบ
  สีหน้าหลินหลินเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “ คิดไม่ถึงว่าลูกจะหาเขาเจอด้วย ? ”
  “ แม่เรื่องนี้แม่ไม่ต้องกังวล ยังไงซะมันก็ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็อย่าไปทำมันอีก ” หยางโปกล่าว