ตอนที่ 22 มาเยือนครั้งแรก โดย Ink Stone_Fantasy
ตงป๋อเสวี่ยอิงบินตามจอมมารไป ขณะเดียวกันก็มองดูผู้บำเพ็ญทั้งหลายที่อยู่ไกลออกไป เท่าที่เห็นก็แทบจะเป็นเทพแท้ทั้งหมด
“เท่าที่ข้ารู้ จำนวนเทพอากาศภายในวังทวีสูญมีน้อยนัก ถึงขั้นสู้จำนวนเทพอากาศในแผ่นดินอลหม่านสองร้อยกว่าแห่งไม่ได้เสียด้วยซ้ำ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ อากาศอันสับสนอลหม่านนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ในจักรวาลทั้งหลายและแผ่นดินอลหม่านจำนวนนับไม่ถ้วน จำนวนเทพอากาศมีมากมายนัก
ภายในโลกทิพย์ เทพอากาศก็มีมากเสียจนน่าตกใจ!
แต่เทพอากาศภายในวังทวีสูญกลับน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ต่อให้ศิษย์ขั้นเทพแท้บางคนสำเร็จเป็นเทพอากาศแล้ว หากระดับขั้นไม่เพียงพอก็จะถูกปล่อยออกไปยัง ‘เมืองอลหม่าน’ นอกวังทวีสูญ ต้องรู้ไว้ว่าวังทวีสูญเป็นหนึ่งในสามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกทิพย์ทะเลสัตตดารา สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็ร่ำร้องอยากจะเข้าร่วมวังทวีสูญ และเพื่อเพิ่มอำนาจการปกครองให้แข็งแกร่งขึ้น ภายในโลกทิพย์ทะเลสัตตดาราจึงสร้างเมืองอลหม่านสิบสองแห่งกระจายตัวกันออกไป
เมืองอลหม่านทุกแห่งล้วนสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วแถบนั้น
มีประโยชน์มากมายเช่นสอดส่องโลกทิพย์ ประกาศรับศิษย์ ทำให้การติดต่อกันสะดวกขึ้นเป็นต้น เทพอากาศที่ค่อนข้างอ่อนแอเหล่านั้นก็ถูกปล่อยตัวออกไปนอกเมืองอลหม่าน
แต่ต่อให้เป็นเทพอากาศที่ค่อนข้างอ่อนแอพวกนั้นก็เป็นเทพอากาศของระบบความเร้นลับของกฎเกณฑ์ ได้รับการสั่งสอนและชี้แนะจากวังทวีสูญ พลังรบล้วนเหนือกว่าเทพอากาศทั่วไปจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งอยู่ภายนอก
“ดูสิ” จอมมารพาตงป๋อเสวี่ยอิงบินกลับไปทางเกาะแห่งหนึ่งที่ลอยคว้างอยู่ บนเกาะนั้นมีคูหาอยู่สิบสองแห่งซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไป
“ที่นี่ก็คือ ‘เกาะท่องเอกา’ ซึ่งเป็นที่พำนักของศิษย์อาภรณ์ทอง” จอมมารชี้ไปยังคูหาแห่งนั้น “จากตำแหน่งของคูหา คูหาซึ่งอยู่สูงที่สุดคือที่พำนักของศิษย์อาภรณ์ทองอันดับหนึ่งในครั้งก่อน รองลงมาก็คืออันดับสองในตอนนั้น…ถัดลงมาอีก ที่อยู่เกือบด้านล่างสุดก็คือแห่งที่สิบ ก็เป็นของศิษย์อาภรณ์ทองอันดับสิบในตอนนั้น ด้านล่างสุดยังมีคูหาว่างอยู่อีกสองแห่ง ซึ่งเตรียมไว้เพื่อศิษย์อาภรณ์ทองที่ถือกำเนิดขึ้นภายในจักรวาล อย่างเสวี่ยอิงที่ผ่านการทดสอบจากจักรวาลบ้านเกิดมานั้น ง่ายกว่าการท้าทายภายในวังทวีสูญมากโข ดังนั้นสิ่งที่เจ้าได้รับก็จะน้อยกว่าอยู่บ้าง”
“เข้าใจแล้วขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
“ท่านประมุขวัง”
เสียงหนึ่งลอยมาจากที่ไกลๆ ชายวัยกลางคนอาภรณ์สีเทาบนเกาะแห่งนี้โค้งคำนับด้วยความเคารพ ทว่าเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตหุ่นเชิดซึ่งบรรลุถึงระดับขั้นเทพอากาศเท่านั้น
“ท่านนี้คือศิษย์อาภรณ์ทองตงป๋อเสวี่ยอิง” จอมมารเหลือบมองลงไปเบื้องล่างพลางกำชับว่า “นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เขาจะเป็นนายของเจ้า!”
“บ่าวคารวะนายท่านขอรับ” ชายวัยกลางคนอาภรณ์สีเทาคำนับตงป๋อเสวี่ยอิงทันที
“เสวี่ยอิง เขาจะบอกกฎเกณฑ์ต่างๆ ภายในวังทวีสูญให้แก่เจ้า” จอมมารกล่าว “เดิมทีจอมกระบี่ก็ควรจะมาพบเจ้าเสียหน่อย เพราะถึงอย่างไรเจ้าก็มาจากบ้านเกิดของเรา ทว่าเขาและท่านบรรพชนล้วนกำลังเก็บตัวบำเพ็ญอยู่ในตอนนี้ คาดว่าในศึกจัดอันดับศิษย์อาภรณ์ทอง ท่านบรรพชนและจอมกระบี่น่าจะออกมา ก็ใกล้แล้วล่ะ เหลือเพียงสามสิบกว่าล้านปีเท่านั้นก็จะถึงศึกจัดอันดับศิษย์อาภรณ์ทองครั้งหน้าแล้ว”
“สามสิบกว่าล้านปีหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ต่อให้พ่ายแพ้ในครั้งนี้ เจ้าก็สามารถชนะกลับมาได้ในครั้งหน้า” จอมมารพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องรู้สึกเสียหน้าไปหรอกนะ ศิษย์เทพแท้ที่ร้ายกาจที่สุดของวังทวีสูญนั้นเยี่ยมยอดนัก ครั้งนี้เจ้าสามารถเข้าอยู่ในยี่สิบอันดับแรกได้ก็นับว่าสำเร็จแล้ว”
จอมมารพูดจบก็ยิ้ม “บำเพ็ญให้ดีๆ เถิด จักรวาลบ้านเกิดของพวกเรา นอกจากจอมกระบี่และข้าแล้ว ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นที่มีพรสวรรค์และการรับรู้สูงส่งที่สุด ทางสายของพวกเรานี้ยังคงอ่อนแอยิ่งนัก”
“ข้าย่อมทำสุดกำลังอย่างแน่นอน” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ย
จอมมารพยักหน้า
จากนั้นก็พลันก้าวออกไปก้าวหนึ่ง แล้วกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งหายวับไปไกลลิบ
ตงป๋อเสวี่ยอิงจึงร่ำร้องขึ้นมาว่า “ยี่สิบอันดับแรกจึงนับว่าสำเร็จอย่างนั้นหรือ”
“นายท่าน” บ่าวรับใช้ด้านข้างเอ่ยขึ้น “ข้าจะส่งข้อมูลทั้งหลายภายในวังทวีสูญให้นายท่านทราบ”
ไม่นานนัก
ป้ายคำสั่งส่งสารของตงป๋อเสวี่ยอิงพลันได้รับข้อมูลจำนวนมาก แม้ตอนที่อยู่ในจักรวาลบ้านเกิด เขาก็เคยรู้ข้อมูลมามากมาย แต่ข้อแรก ก็คือไม่ละเอียดพอ ข้อสอง นั่นเป็นข้อมูลที่บรรพชนเทียนอวี๋ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่จักรวาลถือกำเนิดขึ้น ซึ่งล้วนแต่ล้าสมัยเกินไปแล้ว อย่างข้อมูลของศิษย์เทพแท้ในยุคนี้ก็ไม่มี
“หา…” ตงป๋อเสวี่ยอิงอ่านข้อมูลเกี่ยวกับศิษย์เทพแท้ในยุคนี้ก่อน เมื่ออ่านดูก็ต้องอ้าปากค้าง
เมื่อทอดสายตามองไปในโลกทิพย์ทั้งห้าและอากาศอันสับสนอลหม่านที่กว้างใหญ่ไพศาล
หากพูดถึงระดับความพิสดารของกระบวนท่าเคล็ดลับการต่อสู้แล้ว วังทวีสูญก็นับว่าเป็นอันดับต้นๆ! ดังนั้นนอกจากเทพแท้จำนวนมากที่ปรารถนาจะเข้าร่วมแล้ว แม้แต่ ‘เกาะปฐมบรรพชน’ และ ‘แดนทิพย์เหยากวง’ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดียิ่งกับวังทวีสูญ ก็ล้วนแต่ส่งคนไปเข้าร่วม และยังมีแกนนำขั้นอลวนบางคนของโลกทิพย์ทะเลสัตตดาราส่งศิษย์ที่ตนให้ความสำคัญเข้าร่วมกับวังทวีสูญด้วย
วังทวีสูญก็ได้ให้อันดับจำนวนเล็กน้อยเพื่อดึงดูดผู้มีพรสวรรค์กลุ่มนี้เข้ามา
การแย่งชิงระหว่างศิษย์เทพแท้นั้นดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง
“ศิษย์อาภรณ์ทองสิบคน หากนับรวมผู้ที่เคยเป็นศิษย์อาภรณ์ทองแล้วต่อมาลดระดับลงเป็นศิษย์อาภรณ์ม่วงด้วยแล้ว…ก็มีถึงสิบเก้าคนด้วยกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงอ้าปากค้าง “ยังมีอีกราวสิบกว่าคนที่แม้ไม่เคยเป็นศิษย์อาภรณ์ทองมาก่อน แต่พลังก็ใกล้เคียงอย่างยิ่ง จนมีหวังจะทะยานเข้าสู่สิบอันดับแรกได้”
ผู้ที่เคยเป็นศิษย์อาภรณ์ทอง ก่อนหน้าที่จะได้รับศาสตร์ลับระดับจักรวาลก็เคยอยู่ในสิบอันดับแรกมาก่อน! หลังจากบรรลุถึงสิบอันดับแรกแล้ว ได้รับศาสตร์ลับระดับจักรวาล ยังมีทรัพยากรนานาชนิดคอยช่วยเหลือก็ยิ่งร้ายกาจขึ้น
เพียงแต่ภายใต้การโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่าของผู้ที่มาทีหลัง ต่อมาผู้ที่ร้ายกาจก็รุ่งโรจน์ขึ้นมา ก็จะถีบให้ศิษย์อาภรณ์ทองอันดับเหนือกว่าร่วงลงไป!
สิบเก้าคนนี้…
บวกกับอีกราวสิบคนถัดลงมา ก็ล้วนสามารถข้ามขั้นไปสังหารเทพอากาศได้อย่างง่ายดาย
ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงนั้น ถึงอย่างไรก็แค่ผ่านการทดสอบอันง่ายดายในจักรวาลบ้านเกิดมา เกรงว่าศิษย์เทพแท้นับร้อยภายในวังทวีสูญคงจะผ่านความยากระดับนี้ได้ ดังนั้นแม้แต่จอมมารที่มีเงื่อนไขจำกัดเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกว่าตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถเข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกได้ก็นับว่าสำเร็จอย่างใหญ่หลวงแล้ว!
เพราะถึงอย่างไรก็มีถึงสิบเก้าคนที่เคยเป็นศิษย์อาภรณ์ทองมาก่อน! ยี่สิบอันดับแรกก็น่าหวาดหวั่นมากทีเดียว
“แม้ข้าจะฝึกผลาญโลกากระบี่ที่หนึ่งได้สำเร็จ ทว่าสามารถเป็นศิษย์อาภรณ์ทองได้ ก็ล้วนแต่มีศาสตร์ลับจักรวาลของตนเอง และคงฝึกจนเข้าที่หมดแล้ว พลังของข้าในตอนนี้ ข้าไม่มั่นใจเต็มที่เลยว่าจะเข้าสู่สิบอันดับแรกได้” นัยน์ตาของตงป๋อเสวี่ยอิงมีประกายสายหนึ่งพาดผ่าน “ทว่าต้องเข้าไปให้ได้”
เพราะมีเพียงผู้ที่เข้าสู่สิบอันดับแรกของการต่อสู้ภายในได้เป็นครั้งแรก จึงจะได้รับ ‘ผลปัดจิตวิญญาณ’ เป็นรางวัลจากวังทวีสูญ ซึ่งนี่เป็นสิ่งล้ำค่าที่มีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญ มีมูลค่าห้าสิบศิลาปฐมโลกา
ต้องรู้ไว้ว่าแม้จะสังหารสิ่งมีชีวิตแห่งห้วงอากาศไปไม่น้อย รวมทั้งสังหารเทพอากาศไปจำนวนหนึ่ง แต่สมบัติล้ำค่าที่เก็บรวบรวมมาทั้งหมด เมื่อรวมกันแล้วน่าจะมีมูลค่าพอๆ กันกับศิลาปฐมโลกาก้อนหนึ่ง!
แน่นอนว่าในฐานะศิษย์อาภรณ์ทอง ป้ายอักขระรักษาชีวิตและอาวุธเทพอากาศล้วนแต่มีมูลค่าสูงมาก น้ำเต้าสีดำซึ่งเป็นสมบัติพิทักษ์วิถีก็ล้ำค่ามาก แต่เขาก็ไม่มีทางขายอย่างแน่นอน
ที่สำคัญที่สุดก็คือ…
ผลปัดจิตวิญญาณมีเพียงวังทวีสูญเท่านั้นที่มี โดยทั่วไปจะมอบให้แก่ศิษย์อาภรณ์ทองคนใหม่เท่านั้น แม้จะมีมูลค่า แต่กลับซื้อหามิได้!
“ต้องได้มาให้ได้ ต่อให้ข้าไม่ใช้ มอบให้จิ้งชิวและอวี้เอ๋อร์ก็ดีเหมือนกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกว่าผลปัดจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ต้องได้มาให้ได้
……
“โครมมมม…”
ประตูคูหาถูกผลักเปิดออก
คูหาแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก มีลานเล็กแห่งหนึ่ง ภายในมีห้องหับอันเรียบง่ายอยู่เพียงสามห้องเท่านั้น แม้จะจัดเป็นคูหาระดับต่ำสุดของศิษย์อาภรณ์ทอง แต่กลับเพียงพอให้ศิษย์เทพแท้จำนวนมากตาเป็นมันแล้ว
ตงป๋อเสวี่ยอิงก้าวเข้าไปในคูหาของตน แล้วเริ่มสำรวจสถานที่อาศัยแห่งใหม่นับจากนี้ไปโดยละเอียด
******
ขณะที่ตงป๋อเสวี่ยอิงผลักประตูคูหาเปิดออกนั้น ก็ถูกศิษย์เทพแท้หลายคนที่บินอยู่ไกลออกไปเห็นเข้า
“เกาะอาภรณ์ทองหรือ”
“ศิษย์อาภรณ์ทองอีกคนหนึ่งหรือ”
แม้เกาะที่ศิษย์อาภรณ์ทองอาศัยอยู่จะมีนามว่า ‘เกาะท่องเอกา’ แต่ศิษย์เทพแท้ทั่วไปจำนวนมากก็เคยชินที่จะเรียกว่า ‘เกาะอาภรณ์ทอง’ เสียมากกว่า เพราะนั่นคือเป้าหมายที่พวกเขาปรารถนา
“ศิษย์อาภรณ์ทองสิบคน เหตุใดจึงโผล่มาอีกคนได้เล่า”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้มิได้บอกว่ามีคนหนึ่งชื่อตงป๋อเสวี่ยอิงอะไรนั่นหรือ มาจากจักร วาลแรกเริ่มหรือ“
“เขาก็คือตงป๋อเสวี่ยอิงหรือ”
ศิษย์เหล่านี้พากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็เริ่มไปสืบข่าว เพราะเมื่อตงป๋อเสวี่ยอิงมาถึง หลายบริเวณภายในวังทวีสูญก็เริ่มบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเขาแล้ว เช่นกลิ่นอายวิญญาณ เช่นสถานะศิษย์อาภรณ์ทองขีดจำกัดต่างๆ ที่มี เป็นต้น…ดังนั้นบรรดาศิษย์เทพแท้ที่พอจะมีเส้นสายอยู่บ้างจึงทราบข่าวอย่างรวดเร็ว
“เป็นตงป๋อเสวี่ยอิง ได้ยินมาว่าจอมมารพาเขากลับมาด้วยตนเองเลยทีเดียว”
“ก็แค่เจ้าเด็กคนหนึ่งที่ออกมาจากจักรวาล แล้วโชคดีสำเร็จเป็นศิษย์อาภรณ์ทอง” ศิษย์เทพแท้จำนวนมากอิจฉาริษยาและรู้สึกอคติต่อเขาเป็นอันมาก เพราะพวกเขาส่วนใหญ่นั้นเติบโตขึ้นมาในโลกทิพย์ จึงไม่เห็นจักรวาลต่างๆ ในอากาศอันสับสนอลหม่านอยู่ในสายตา
“ไม่เป็นไร ศึกครั้งหน้าใกล้เข้ามาแล้ว ถึงตอนนั้นข้าค่อยมาท้าทายเขา” ศิษย์เทพแท้ทั้งหลายกล่าวขึ้น
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงสำรวจคูหาของตนรอบหนึ่ง จากนั้นก็ออกจากประตูไป เขาแปรเป็นลำแสงสายหนึ่งทะยานไปทางแผ่นดินที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศแห่งนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเสียเวลา ต้องการมุ่งหน้าไปยัง ‘ตำหนักหมื่นรูป’ ทันที ตอนนั้นจอมกระบี่ออกจากจักรวาลบ้านเกิดมาถึงยังวังทวีสูญ แล้วพลิกอ่านคัมภีร์จำนวนนับไม่ถ้วนในตำหนักหมื่นรูปจากนั้นก็เก็บตัวบำเพ็ญ หลังออกมาก็ก้าวเข้าสู่ขั้นเทพจักรวาลทันที
จอมมารมาถึงที่นี่ ก็เพื่อไปอ่านคัมภีร์จำนวนนับไม่ถ้วนในตำหนักหมื่นรูป
สำหรับผู้ที่มาจากจักรวาลอย่างพวกเขาเหล่านี้ ‘ตำหนักหมื่นรูป’ นั้นเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุด ที่นี่มีคัมภีร์ทั้งหมดที่วังทวีสูญสั่งสมมาตลอดวันคืนอันยาวนานไร้ที่สิ้นสุดอยู่
“ศิษย์พี่ตงป๋อเสวี่ยอิงใช่หรือไม่” เสียงหนึ่งลอยมา
ตงป๋อเสวี่ยอิงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยุดลง บุรุษอาภรณ์สีม่วงรูปโฉมหล่อเหลาผู้หนึ่งยืนอยู่ไกลออกไป
………………………..