บทที่ 855 : เงินหรือจะสู้ความเป็นพี่น้องได้!
ในปักกิ่งมีเรื่องใหญ่โตมากมายที่รอให้หลิงหยุนไปจัดการแต่จู่ๆ เขาก็ตัดสินใจที่จะกลับมาจิงฉูเช่นนี้
ไม่มีใครรู้เหตุผลดีไปกว่าถังเมิ่ง!
หลิงหยุนกลับมาจิงฉูในครั้งนี้ก็เพื่อมาปลดล็อคอะไรบางอย่างในเมืองนี้ เขาต้องการให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในจิงฉูอยู่ในการควบคุมของตนเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีห่วงและความกังวลใจใดๆอีก!
หลิงหยุนต้องการให้คนทั่วทั้งมณฑลเจียงหนานได้รับรู้ความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อที่จากนี้ไปจะได้ไม่มีใครคิดจะมาสร้างบารมีในเมืองจิงฉูอีก!
เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้หลิงหยุนหมดห่วงและสามารถจดจ่ออยู่กับการปฏิบัติภารกิจสำคัญในปักกิ่ง และสามารถนำพาตระกูลหลิงให้กลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง!
เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนได้จัดการกับเสี้ยนหนามทั้งสองอย่างหลู่กวนหวังกับหลี่จิ่วเจียงได้แล้วถังเมิ่งก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างมากจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ถังเมิ่งได้แต่แอบคิดในใจว่า หากหลิงหยุนลงมือกับเสียเจิ้นติงกับกู่เหลียนเฉิงเมื่อใด ทั้งคู่ก็จะต้องหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง และพื้นที่ทุกตารางนิ้วก็จะตกอยู่ในกำมือของหลิงหยุนอย่างแท้จริง เขาก็จะหมดห่วงหมดกังวลอย่างที่ต้องการ!
แต่ในช่วงเวลาที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มจะจัดการกับเสียเจิ้นติงกับกู่เหลียนเฉิงนั้นถังเมิ่งกลับไม่คิดไม่ฝันว่ากู่เหลียนเฉิงจะกล้าเป็นฝ่ายออกมาคุกเข่ายอมรับความผิดที่ตนเองเคยทำไว้เช่นนี้!
นี่ไม่เท่ากับว่าเขาปล่อยหมัดออกไปอย่างสุดแรงแต่กลับชกได้เพียงแค่ลมอย่างนั้นหรือ ถังเมิ่งเห็นแล้วก็โมโหจนแทบกระอักเลือด!
มันจะต้องไม่จบลงแบบนี้!
จากความเข้าใจของถังเมิ่ง..หลิงหยุนเองก็ดูเหมือนจะยอมรับคำขอโทษ และการสำนึกผิดของกู่เหลียนเฉิง เพราะเขายอมให้กู่เหลียนเฉิงคุกเข่าลงตรงหน้าโดยไม่คิดจะห้าม..
ถังเมิ่งได้แต่แอบคิดในใจว่า..หากปล่อยให้กู่เหลียนเฉิงกลับมาผงาดในจิงฉูได้อีกครั้งแล้วล่ะก็ ทุกอย่างคงจะเลวร้ายกว่าเดิมอย่างแน่นอน ถังเมิ่งได้แต่รู้สึกเพลียใจอย่างบอกไม่ถูก!
ถังเมิ่งจึงแสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจนและเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องที่กังวลใจนี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน!
แต่ปัญหาคือ..อีกฝ่ายก็กำลังพูดจาโน้มน้าวหลิงหยุนไม่หยุดเช่นกัน และถังเมิ่งก็เดาไม่ออกว่าหลิงหยุนจะใจอ่อนหรือไม่
หลิงหยุนเห็นถังเมิ่งแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวออกมาเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นห้ามถังเมิ่ง แล้วจึงก้มลงพูดกับกู่เหลียนเฉิงว่า
“คุณกู่..คุณได้สารภาพความเลวของตัวเองออกมาต่อหน้าผู้คนแล้วนี่ ยังมีอะไรจะพูดอีกมั๊ย!”
กู่เหลียนเฉิงเห็นว่าหลิงหยุนยังคงไม่ใจอ่อนจึงไม่ยอมลุกขึ้นและยังคงคุกเข่าอยู่เช่นนั้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณชายถังพูดได้ถูกต้อง..เพียงแค่ยอมรับผิดแล้วคุกเข่าขอโทษนั้นมันยังไม่พอ แต่ผมยังพูดไม่จบ กรุณาฟังผมพูดต่อก่อน..”
กู่เหลียนเฉิงพ่ายแพ้ยับเยินและขายหน้าจนแทบไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใหนแล้ว..
“ผมจะเขียนสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่งจัดการยกทรัพย์สินทุกอย่างของผมในเมืองจิงฉู ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างๆ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม เงินฝากในธนาคาร หุ้น และทรัพย์สินอื่นๆที่เป็นชื่อของผมทั้งหมดให้กับคุณชายหลิง เพื่อเป็นการขอขมา และเป็นการไถ่โทษที่ผมเคยทำความผิดไว้ก่อนหน้านี้..”
“หลังจากที่ผมเหลือแต่ตัวแล้วก็สุดแล้วแต่คุณชายหลิงว่าจะจัดการ หรือเมตตาผมอย่างไร!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังเมิ่งถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมา “นี่กู่เหลียนเฉิง.. ถึงแม้ธุรกิจของคุณจะใหญ่โต แต่ก็มีหนี้สินมากมาย จากวันนี้ไปไม่เกินสามเดือน ผมก็สามารถกว้านซื้อทรัพย์สินและธุรกิจของคุณได้หมด”
“แล้วอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ..คุณยังมีทรัพย์สินอีกมากมายที่เป็นชื่อภรรายาและลูกของคุณ แล้วก็ยังมีบางส่วนที่เป็นชื่อของน้องชายคุณด้วย!”
กู่เหลียนเฉิงถึงกับนิ่งอึ้งไปแต่ยังคงรักษาท่าทีให้สงบนิ่งก่อนจะตอบไปว่า “ผมคงจะพูดไม่ชัดเจนนัก จึงทำให้คุณชายถังเข้าใจผิดไป ผมหมายถึงทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลกู่ ทั้งที่เป็นชื่อผมและชื่อของพวกเขาด้วย ทุกอย่างจะถูกโอนให้กับคุณชายหลิงทั้งหมด!”
ถังเมิ่งคิดไม่ถึงว่ากู่เหลียนเฉิงจะเป็นคนละเอียดรอบคอบถึงเพียงนี้จึงได้แต่ยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง และแทบอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความโมโห!
ตอนนี้กู่เหลียนเฉิงตัดสินใจเล่นบทคนเลวที่น่าสงสารด้วยการยอมยกทรัพย์สมบัติทุกชิ้นที่มีให้กับหลิงหยุนจนตนเองต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว..
หลิงหยุนยังคงยืนยิ้มแต่ก็ยกมือขึ้นตบบ่าถังเมิ่งเบาๆ เป็นการส่งสัญญาณให้ถังเมิ่งไม่ต้องกังวลใจไป จากนั้นจึงพูดกับกู่เหลียนเฉิงต่อ
“คุณกู่ใจกว้างถึงเพียงนี้แสดงว่าคงจะต้องมีเงื่อนไขสินะ”
กู่เหลียนเฉิงได้ยินถึงกับร่างกายสั่นเทิ้มและรีบระล่ำระลักตอบไปว่า “ก็.. ก็มีเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆเท่านั้น!”
หลิงหยุนถามกลับเสียงเบา“ถ้างั้นก็ว่ามา..”
กู่เหลียนเฉิงรีบพูดออกไปทันที“เพราะเรื่องของเจ้าลูกชั่วกับเรื่องของผม ทำให้น้องชายของผม – กู่เหลียนซัน ถึงกับกล้าล่วงเกินคุณชายหลิง แต่ตอนนี้เขาก็ได้รับโทษอยู่ในคุกแล้ว ผมอยากจะขอให้คุณชายหลิงเมตตาช่วยให้เขาไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้จะได้มั๊ย..”
“ตกลง!” หลิงหยุนรับปากโดยไม่ลังเล
“ขอบคุณคุณชายหลิง!”
กู่เหลียนเฉิงออกอาการดีใจอย่างหนักเมื่อเห็นว่าหลิงหยุนยอมรับปากอย่างง่ายดายและรีบบอกเงื่อนไขข้อที่สองทันที..
“เจ้าลูกชั่วของผม– กู่หยุนฟะ มันไม่เพียงอายุยังน้อยแต่ยังโง่เขลาจนกล้าไปมีเรื่องกับคุณชายหลิง หลังจากนั้นยังกล้าไปพนันกับคุณชายหลิงอีก แต่ตอนนี้เห็นแล้วว่าคุณชายหลิงคือผู้ที่ได้คะแนนเอนทรานซ์สูงสุดตัวจริง แน่นอนว่าการเดิมพันครั้งนี้คุณชายหลิงเป็นผู้ชนะ..”
“แต่ผมก็อยากจะร้องคุณชายหลิงให้ไว้ชีวิตเจ้าลูกชั่วของผมด้วยอย่างน้อยให้ผมได้มีลูกชายไว้สืบสกุลด้วยเถิด!”
ในที่สุดกู่เหลียนเฉิงก็ได้บอกเงื่อนไขทั้งสองข้อของตนเองเพื่อแลกกับการยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนเองให้กับหลิงหยุน..
และเมื่อหลิงหยุนรับปากข้อแรกไปนั้นก็ทำให้ถังเมิ่งโกรธมาก!
ความจริงแล้วกู่เหลียนเฉิงกับถังเมิ่งก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางหรือโกรธแค้นกันเป็นส่วนตัวแต่มันเป็นความแค้นระหว่างเขากับกู่หยุนฟะต่างหาก!
เพราะเมื่อครั้งที่หลิงหยุนลงไปสำรวจหลุมยักษ์นั้นทั้งเสียเจิ้นติงและหลัวจ้งต่างก็ให้ท้ายเสียเจิ้นเหยินกับกู่หยุนฟะ จนพวกมันทำตัวกร่างไม่หวาดกลัวใครในโรงเรียนทั้งนั้น ครั้งนั้นถังเมิ่งแทบไม่มีที่แม้แต่จะหายใจ!
ไม่เพียงเท่านั้นพวกมันสองคนยังร่วมมือกันรังแกหนิงหลิงยู่ ถังเมิ่งทนไม่ได้จึงคิดจะแก้แค้นคืน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพวกมันสองคนกลับพาคนมาทำร้ายร่างกายของเขาจนแขนขาหักไม่มีชิ้นดี!
และนับจากการถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับความอัปยศอดสูในครั้งนั้นทำให้ถังเมิ่งเคียดแค้นทั้งสองคนเป็นอย่างมาก และมันยังคงเป็นบาดแผลที่ไม่ลบเลือนอยู่ในใจของถังเมิ่ง!
ระหว่างที่ยังคงต้องวุ่นวายกับการทำงานให้หลิงหยุนนั้นมันไม่ง่ายเลยสำหรับถังเมิ่งที่จะกดข่มความคับแค้นใจของตนเองไว้ได้ แต่ตอนนี้กู่เหลียนเฉิงกำลังทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตของลูกตัวเอง! มีหรือที่ถังเมิ่งจะไม่โกรธมาก..
ถึงแม้ว่าถังเมิ่งจะโกรธมากเท่าไหร่ก็ตามแต่คนที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ก็คือหลิงหยุน ถังเมิ่งจึงได้แต่รอดูว่าหลิงหยุนจะตัดสินใจเช่นไร
เสียเจิ้นติงเองก็กำลังยืนมองหลิงหยุนด้วยอาการตื่นเต้นเพราะการตัดสินใจของหลิงหยุนในครั้งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับชีวิตของกู่หยุนฟะ แต่ยังหมายถึงชีวิตของลูกชายเขา – เสียเจิ้นเหยินด้วย!
จากที่เสียเจิ้นติงมองดูเหตุการณ์มาโดยตลอดนั้นเขาเห็นว่าถึงแม้หลิงหยุนจะดุดันโหดร้ายมากเท่าใด แต่ก็มีขีดจำกัดของตัวเอง เห็นได้จากการที่เขาซัดยอดฝีมือตระกูลซันทั้งสามคนจนบาดเจ็บสาหัส แต่กลับไม่แตะต้องหลี่จิ่วเจียงแม้แต่น้อย..
และเวลานี้กู่เหลียนเฉิงถึงกับยอมก้มหัวขอโทษหลิงหยุนไม่รู้ว่าหลิงหยุนจะใจอ่อนหรือไม่
และหากหลิงหยุนใจอ่อนยอมปล่อยกู่หยุนฟะไปเสียเจิ้นติงก็จะไม่ลังเลที่จะคุกเข่าขอร้องหลิงหยุนเพื่อเสียเจิ้นเหยินเช่นกัน!
แต่หลิงหยุนไม่ยอมให้น้องชายของเขาต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!จึงตอบกลับยิ้มๆ
“คุณกู่..ต้องยอมรับว่าวันนี้คุณพูดจาได้ดีมาก รู้จักยอมถอย แต่เงื่อนไขข้อที่สองของคุณ ผม – หลิงหยุนไม่ตกลงอย่างแน่นอน!”
คำตอบของหลิงหยุนนั้นหนักแน่นดั่งหินผา..
“เอ่อ..ผมก็แค่ลองเสนอดูน่ะ!”
หลิงหยุนกวาดตามองเสียเจิ้นติงซึ่งยืนอยู่ข้างๆแล้วจึงก้มลงพูดกับกู่หยุนฟะว่า “หากลูกชายของคุณไม่ทำร้ายร่างกายน้องชายของผมจนบาดเจ็บสาหัสก่อน ตอนนี้คุณก็คงไม่ต้องยกสมบัติทั้งหมดของตัวเองให้กับผม แล้วก็คงไม่ต้องมาคุกเข่าขอร้องผมแบบนี้เช่นกัน!”
“พวกคุณพ่อลูกจะมักมากในกามก็คงไม่ผิดอะไรแต่คุณเลี้ยงลูกให้ยะโสโอหังจนกล้ามามีเรื่องกับผม..”
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปที่กู่เหลียนเฉิงและพูดต่อ“แล้วตัวคุณเองก็ยังคิดที่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงของผม ส่วนลูกชายของคุณก็ข่มเหงรังแกน้องสาวของผม เท่านั้นยังไม่พอ.. ยังทำร้ายร่างกายน้องชายของผม หักแขนหักขาของเขา หากไม่ใช่เพราะผมรักษาให้ ป่านนี้น้องชายของผมก็คงต้องใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดอยู่บนรถวีลแชร์ไปแล้ว!”
น้ำเสียงของหลิงหยุนเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ“แต่ตอนนี้กลับคิดที่จะใช้เงินซื้อชีวิตของลูกชาย อย่าว่าแต่เงินทองทรัพย์สินเล็กน้อยแค่นั้นเลย ต่อให้คุณเสนอเงินเป็นพันล้าน หรือว่าหมื่นล้าน ก็ไม่มีทางซื้อมิตรภาพระหว่างพี่น้องของพวกเราได้!”
“พี่หยุน!”
ยังไม่ทันที่หลิงหยุนจะพูดจบประโยคเสียด้วยซ้ำเสียงร้องอุทานของถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋ก็ดังขึ้นพร้อมกัน ร่างใหญ่ราวพยัคฆ์ของตี้เสี่ยวอู๋สั่นเทิ้ม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
ถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋เป็นใครงั้นหรือทั้งคู่ก็คือน้องชายที่แม้ไม่ได้เกิดพร้อมกัน แต่ก็จะตายพร้อมกับหลิงหยุนนั่นเอง!
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างของกู่เหลียนเฉิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ก็ถึงล้มลงกับพื้นทันที เขาอ้าปากกว้างและแววตาสิ้นหวัง
เขารู้สึกว่าตนเองได้สร้างสรรค์คำพูดที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้หลิงหยุนแล้วแต่หลิงหยุนกลับไม่ยอมรับเงื่อนไขข้อที่สองของเขา
เสียงเย็นชาของหลิงหยุนดังขึ้นมาอีกครั้ง“เห็นแก่ความจริงใจของคุณ.. ถ้าคุณสามารถทำได้ตามที่พูด ผมจะไว้ชีวิตคุณ และช่วยน้องชายของคุณ แต่..”
“คุณจะต้องพาลูกชายของคุณ– กู่หยุนฟะ มาให้น้องชายของผม ชีวิตของมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องชายผม!”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปพูดกับเสียเจิ้นติง“คุณก็เช่นกัน.. ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณ แต่คุณจะต้องส่งตัวลูกชายมาให้น้องชายของผม!”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกคุณ..จะพาตัวพวกมันมาให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่ผมขอบอกว่าผมจะแก้แค้นให้กับน้องชายของผมแน่!”
หลิงหยุนยังคงยืนกรานเช่นเดิมเพื่อเป็นการให้หน้าถังเมิ่ง!
ดวงตาของถังเมิ่งรื้นไปด้วยน้ำตาและเลือดในกายก็พลุ่งพล่านตั้งแต่หัวจรดเท้า..
บทที่ 856 : ศักดิศรี!
สองสามประโยคสุดท้ายของหลิงหยุนนั้นดังขึ้นเรื่อยๆและน้ำเสียงของเขาก็กังวานใสจนได้ยินไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง แขกทุกคนจึงได้แต่งุนงง!
และภายในห้องก็ยังคงเงียบกริบอยู่..!
“เฮ้อ..”
และจู่ๆก็มีเสียงถอนหายใจดังออกมาจากมุมห้อง จากนั้นก็มีเสียงถอนหายใจดังตามขึ้นมาทั่วทั้งห้อง..
ผู้คนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ด้านหน้าร้อยกว่าคนนั้น ต่างก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบอย่างชัดเจน และแววตาของทุกคนที่มองหลิงหยุนนั้นก็บ่งบอกความรู้สึกเดียวกันคือ.. หวาดกลัว!
ทุกคนเห็นหลิงหยุนจัดการกับหลี่จิ่วเจียงทุกขั้นตอนและถึงแม้วิธีการของหลิงหยุนนั้นจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่ทุกคนก็เห็นตรงกันว่าสาสมกับความผิดของหลี่จิ่วเจียงอย่างมาก
แต่เรื่องบาดหมางระหว่างหลิงหยุนกับเสียเจิ้นติงและกู่เหลียนเฉิงนั้นคนส่วนใหญ่ในห้องจัดเลี้ยงต่างก็ไม่รู้มาก่อน..
ครั้งแรกที่ทุกคนเห็นหลิงหยุนกับถังเมิ่งเดินออกมาทักทายเสียเจิ้นติงกับกู่เหลียนเฉิงนั้นพวกเขาต่างก็คิดว่าทั้งหมดน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วยซ้ำไป
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็เหนือความคาดหมายของทุกคนมากเพราะหลังจากที่หลิงหยุนพูดเพียงไม่กี่คำ กู่เหลียนเฉิงก็ถึงกับคุกเข่าลงต่อหน้าหลิงหยุน และเป็นฝ่ายเสนอที่จะยกทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองให้กับเขา!
ทุกคนที่อยู่ในห้องหลายคนต่างก็รู้กันดีว่าหลิงหยุนไม่เพียงมีความรู้ทางการแพทย์ที่สูงส่ง และในวันที่เปิดคลินิกสามัญชนนั้น ก็ได้รับของขวัญมูลค่ามหาศาลจำนวนมากมาย แต่ยังสามารถตัดได้หยกจักรพรรดิก้อนมหึมาอีกด้วย!
ทุกคนจึงรู้ดีว่า..หลิงหยุนไม่ใช่ผู้ที่ขาดแคลนเงินทองอย่างแน่นอน! ดังนั้นแขกหลายคนต่างก็คิดว่าคนอย่างหลิงหยุนไม่น่าจะอยากได้ทรัพย์สินของกู่เหลียนเฉิง แต่ปรากฏว่าหลิงหยุนไม่เพียงไม่ปฏิเสธ แต่กลับรับไว้หน้าตาเฉย!
แต่หลังจากนั้นทุกคนต่างก็ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองฝ่าย จึงได้รู้ว่าทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางที่ยังไม่ได้สะสางกันอยู่ และหลิงหยุนก็กำลังจะแก้แค้นกู่เหลียนเฉิงกับเสียเจิ้นติง..
มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่ากู่เหลียนเฉิงนั้นเป็นมหาเศรษฐีในเมืองจิงฉูและมีทรัพย์สินเป็นพันล้าน! แม้ว่าจะมีบางคนรู้เบื้องลึกว่าธุรกิจของกู่เหลียนเฉิงกำลังย่ำแย่ แต่ถึงอย่างไรอูฐิที่ผอมเหลือแต่กระดูกก็ยังใหญ่กว่าม้า..
และหากใครมีทรัพย์สินเงินทองเป็นพันล้านเช่นนี้ก็นับว่าสามารถกินอยู่สบายไปทั้งชาติ!
แต่กู่เหลียนเฉิงกลับยกให้หลิงหยุนเพื่อแลกกับชีวิตของน้องชายและลูกชายของตนเอง!
ทุกคนต่างก็อิจฉาที่จู่ๆหลิงหยุนก็ได้ครอบครองทรัพย์สินมหาศาลเช่นนี้กู่เหลียนเฉิงไม่เพียงต้องทนอัปยศอดสูคุกเข่าต่อหน้าหลิงหยุน แต่ยังต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองอีกกว่าพันล้านของตนเอง และหากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หลิงหยุน อย่าว่าแต่เงื่อนไขแค่สองข้อเลย ต่อให้เป็นสิบหรือยี่สิบข้อ พวกเขาก็ยอมตกลง เพราะเกรงว่ากู่เหลียนเฉิงจะเปลี่ยนใจ!
และหลังจากที่กู่เหลียนเฉิงยกทรัพย์สินทั้งหมดให้หลิงหยุนไปแล้วตัวเขาก็จะไม่เหลือแม้แต่หยวนเดียว เรียกได้ว่าตระกูลกู่จะต้องจบสิ้นอย่างแท้จริง และไม่สามารถกลับมาสร้างความรำคาญใจให้กับหลิงหยุนได้อีกต่อไป!
แต่บ้านเมืองมีขื่อมีแป..มีหรือที่หลิงหยุนจะสามารถฆ่าลูกชายของกู่เหลียนเฉิงได้ง่ายๆ ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้!
แต่ต่อให้หลิงหยุนใจกล้าบ้าบิ่นลงมือฆ่าลูกชายของกู่เหลียนเฉิงจริงกู่เหลียนเฉิงก็ร่ำรวยมหาศาลขนาดนี้ แล้วก็ยังหนุ่มยังแน่นอีกด้วย เขาจะสามารถหาผู้หญิงคนใหม่มาผลิตทายาทอีกกี่คนก็ได้..
แต่ที่พวกเขาคิดเช่นนั้นเพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู่เหลียนเฉิงบ้างพวกเขาไม่รู้ว่ากู่เหลียนเฉิงถูกหลิงหยุนทำร้ายจนกลายเป็นขันทีไปแล้ว และไม่สามารถมีทายาทได้อีก!
คนอย่างหลิงหยุนนั้นสังหารผู้คนมาแล้วมากมายหลายร้อยศพมีหรือที่จะไม่กล้าลงมือกับกู่หยุนฟะ!
เพียงแต่เรื่องราวเหล่านี้นั้นคนธรรมดายากที่จะมีโอกาสได้รู้ได้เห็น แม้แต่เสียเจิ้นติงกับกู่เหลียนเฉิงก็เช่นกัน..
ทุกคนเห็นหลิงหยุนยอมรับการคาราวะจากกู่เหลียนเฉิงอีกทั้งยังยอมรับทรัพย์สินทั้งหมดของเขา และยอมตกลงกับเงื่อนไขข้อแรก ทุกคนต่างก็คิดว่าหลิงหยุนจะต้องยอมรับเงื่อนไขข้อที่สองด้วยเช่นกัน แต่ใครจะคิดว่าผลกลับกลายเป็นตรงข้ามเช่นนี้..
และการที่หลิงหยุนปฏิเสธเงื่อนไขข้อที่สองก็ไม่ต่างจากการตบหน้ากู่เหลียนเฉิง และปิดประตูต่อรองทันที!
และทั้งหมดทั้งมวลนั้นหลิงหยุนก็ทำเพื่อน้องชายของเขาเอง!
อย่าว่าแต่แขกในห้องจัดเลี้ยงหลายร้อยคนจะคาดไม่ถึงแม้แต่ถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ และอาปิงต่างก็คิดไม่ถึงเช่นกัน!
“เอาล่ะ..เรื่องบาดหมางต่างๆระหว่างเราจบสิ้นลงแล้ว ทรัพย์สินของคุณกู่จะถูกโอนมาเป็นของผม แต่นั่นจะไม่สามารถช่วยชีวิตลูกชายของคุณได้!”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าหลิงหยุนจะกล้าฆ่าคนจริงๆดูอย่างหลี่เทียนกับหลี่จิ่วเจียงสิ.. ทำกับหลิงหยุนไว้ตั้งมากมาย แต่เขายังไม่ฆ่าพวกมันเลย!”
“เฮ้อ..จะต้องไปฆ่าคนทำไมกัน ดูกู่เหลียนเฉิงตอนนี้สิ.. การที่หลิงหยุนไม่ปล่อยลูกชายของมัน ก็ยิ่งกว่าตายทั้งเป็นแล้วล่ะ..”
แขกเหรื่อที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา
“นี่..ระวังปากหน่อย! ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นรายต่อไปต่อจากหลี่จิ่วเจียงกับกูเหลียนเฉิง!”
คนที่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับหลิงหยุนรีบร้องเตือนคนที่พูดทันที!
“คุณจะไปรู้อะไร..คงจะยังไม่รู้เรื่องของหลัวจ้งสินะ!”
“นั่นสิ..ถ้าลูกของคุณโดนคนหักแขนหักขาแบบถังเมิ่ง คุณจะไม่แก้แค้นคืนงั้นเหรอ”
“ฮึ่ม..”
ร่างสูงใหญ่ราวกับตึกของตี้เสี่ยวอู๋ยังคงยืนนิ่งแต่ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างรำคาญ แขกที่พากันวิพากษ์วิจารณ์ต่างก็หวาดกลัว และรีบหุบปากทันที
เพื่อเป็นการลบล้างความอัปยศและแก้แค้นให้กับน้องชายตนเอง ต่อให้เป็นพันล้านหรือว่าแสนล้านหลิงหยุนก็ไม่สนใจ..
กู่เหลียนเฉิงทรุดลงไปกองกับพื้นและคิดไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้!
ความจริงแล้วกู่เหลียนเฉิงเองก็รู้ดีกว่าใครๆว่า ตนเองและลูกชายนั้นได้ทำผิดอย่างมหันต์ และยากที่จะขอให้ใครยกโทษให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิงหยุน!
เหตุผลที่เขากล้ายื่นเงื่อนไขข้อที่สองนั้นไม่ใช่แค่ป้องกันไม่ให้ตระกูลต้องสูญสิ้นทายาทเท่านั้น แต่ยังมีเหตุผลอื่นอีก..
หลังจากที่ผ่านมานานหลายเดือนไม่ว่าเขาจะพยายามเอาคืนหลิงหยุนอย่างไร แต่ในที่สุดก็ยิ่งได้รับความทุกข์เดือดร้อนมากยิ่งขึ้นจนแทบเป็นบ้า อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไป ความโกรธแค้นต่างๆก็ได้อ่อนกำลังลงแล้ว ควรที่จะต่อรองกันโดยไม่ใช้อารมณ์จะดีกว่า..
อีกทั้งเวลานี้ทั้งหลี่ยี่เฟิงและถังเทียนห่าวต่างก็ควบคุมจิงฉูไว้ได้เกือบทั้งหมดแล้ว ถังเมิ่งเองก็กลายเป็นชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงในเมืองจิงฉูเช่นกัน และแทบไม่ต้องพูดถึงหลิงหยุน!
สำหรับหลิงหยุนที่แข็งแกร่งมากในเวลานี้กู่เหลียนเฉิงจึงไม่ต่างจากมดเล็กๆตัวหนึ่งที่หลิงหยุนจะบี้ให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับดิน หลิงหยุนจึงไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเอง..
กู่เหลียนเฉิงเองก็เข้าใจในจุดนี้ดีจึงเลือกที่จะคุกเข่าสารภาพความผิดต่อหน้าหลิงหยุน และเสนอที่จะยกสมบัติทั้งหมดให้เขาก่อนที่จะพูดเรื่องเงื่อนไขข้อสุดท้าย..
กู่เหลียนเฉิงเป็นนักธุรกิจจึงถนัดในเรื่องการต่อรองเป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นการปฏิเสธเงื่อนไขข้อที่สองไม่เพียงเป็นการตบหน้ากู่เหลียนเฉิง แต่ยังทำให้หลิงหยุนดูสง่างามขึ้นมาทันที..
แม้ว่ากู่เหลียนเฉิงจะคำนวณทุกอย่างมาอย่างดีแล้วแต่เขาก็ประเมินนิสัยใจคอของหลิงหยุนต่ำไป เพราะคนอย่างหลิงหยุนนั้น ได้คือได้.. ไม่ได้ก็คือไม่ได้.. หากเป็นเรื่องที่ไม่ควรรับปาก หลิงหยุนก็จะไม่ยอมตกลงอย่างเด็ดขาด..
หลิงหยุนเป็นผู้ฝึกตนตามหลักการแห่งเต๋าย่อมมีจิตใจที่มั่นคงหนักแน่น การจะแลกความสุขทั้งชีวิตของคนรักและพี่น้องของตนเองกับเงินทองนั้น เป็นสิ่งที่หลิงหยุนไม่มีทางทำอย่างเด็ดขาด!