ตอนที่ 1069 ปล่อยวาง

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

หยางโปขมวดคิ้ว เขาหันไปเหลือบมองอี้มู่ และหันกลับมามองฉินเหลียงอีกครั้ง
  หยางโปหัวเราะ “ ประธานฉินเป็นวีรสตรีจริงๆ ผมคนนี้เป็นคนใจอ่อน ไม่คิดที่จะเอาชีวิตใคร
  ผมเชื่อว่าประธานฉิน ทำงานหนักมาคนเดียว จนสามารถมีรากฐานที่ใหญ่โตได้ขนาดนี้
  ต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมแน่นอน ! ”
  พอพูดจบ หยางโปดึงดาบหยกออกไปจริงๆ เขาเหลือบมองอี้มู่ ” คุณอี้มู่ คุณก็อย่าได้รีบร้อนไป คุณควรจะเชื่อเรื่องหนึ่งไว้ ในเมื่อผมสามารถใช้เจตนารมณ์กระบี่ได้ครั้งหนึ่ง ก็ต้องมีครั้งที่สอง
  แน่ ! ”
  อี้มู่เหลือบมองหยางโป ด้วยท่าทีที่ลังเล เขาค่อนข้างสงสัยในคำพูดของ หยางโป แต่เมื่อสักครู่
  หยางโปได้แทงที่ขาของเขา มันบ่งบอกได้ถึงความเมตตาจริงๆ ถ้าเขาแทงหัวใจเข้าให้จริงๆ
  กลัวว่าคงจะไม่ใช่แค่บาดเจ็บ เขาอดมองไปทางฉินเหลียงไม่ได้
  ฉินเหลียงถือกระจกแสงจันทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่โชคดีที่เธอสงบสติอารมณ์ได้
  “ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็จะคืนกระจกให้คุณ ! ”
  ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น ฉินเหลียงก็วางกระจกแสงจันทร์ลงบนโต๊ะ
  หยางโปเดินเข้าไป หยิบกระจกแสงจันทร์ เขาหันไปเหลือบมองฉินเหลียง และส่ายหน้าช้าๆ “ ประธานฉิน เกรงว่าคุณจะเจอกับผู้ชายนิสัยแย่ซะแล้ว ”
  พอพูดจบ หยางโปก็หันหลังแล้วเดินจากไป
  หยางโปเห็นตำราลับเล่มนั้นในอ้อมแขนของอี้มู่แล้ว ด้านในเขียนด้วยอักษาชนกลุ่มน้อยเผ่าอี๋
  เขาไม่เข้าใจ เขาจึงไม่ยืนกรานต่อแค่ต้องการดูว่าหลังจากนี้ทั้งสองคนจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
  แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันอีกแล้ว
  มองหยางโปที่เดินออกจากสำนักงานไป ฉินเหลียงก็เงยหน้าขึ้นมองอี้มู่ เธอไม่สามารถซ่อนความผิดหวังบนใบหน้าของเธอไปได้ ท่าทีที่อี้มู่แสดงออกมาเมื่อสักครู่ มันทำให้เธอรู้สึกหมดหวังมาก
  อี้มู่นั่งลงกอดขา เขาหันไปยิ้มอย่างอับอายให้ฉินเหลียง กลั้นความเจ็บปวดไว้ “ อาเหลียง คุณคงยังไม่รู้ตัวตนของเขา เขาน่ะเป็นปีศาจ เขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ผมทำได้เพียงตัดความสัมพันธ์ของเรา จะได้ไม่ทำร้ายคุณกับคนในครอบครัวของคุณ ! ”
  อี้มู่เห็นสีหน้าท่าทีไม่เชื่อของฉินเหลียง เขาจึงอธิบายต่อไปว่า “ ผมเคยตรวจสอบตัวตนของเขามาก่อน พ่อและปู่ของเขาเป็นข้าราชการระดับสูง เขามีอิทธิพลมากที่เมืองหลวง และอาจส่งผลกระทบต่ออเมริกาได้อีกด้วย ผมรู้ คุณเป็นห่วงลูกสาวของคุณมาก เขาน่ะอันตรายมากเกินไป
  ผมรู้คุณอาจเข้าใจผมผิดได้ แต่ผมต้องทำแบบนี้ ! ”
  ฉินเหลียงทำหน้าเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เธอมองอี้มู่และขมวดคิ้ว ” คุณคิดอย่างนั้นจริงๆ
  เหรอ ? ”
  “ อาเหลียง รีบหยิบผ้ามาให้ผมหน่อย ผมไม่ไหวแล้ว เสียเลือดไปมากเกินไป ผมไม่ไหวแล้ว ” อี้มู่หน้าซีดเผือด เขาไม่หยุดที่จะร้องตะโกนอย่างน่าเวทนา
  ฉินเหลียงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หยิบผ้าพันคอของตัวเองมาจากโต๊ะและช่วยพันแผลให้อี้มู่
  เวลานี้เธอก็ไม่มีเวลามาไม่สนใจคิดอะไรมาก รีบกด 120 อีกครั้งทันที จากนั้นถึงได้หันมามองอี้มู่
  ” คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ? ”
  “ อาเหลียง ผมโชคดีที่สุดที่ได้มารู้จักคุณในชีวิตนี้ ! ” อี้มู่เอ่ยคำหวานมาปลอบประโลมใจ
  ฉินเหลียงลุ่มหลงอยู่กับความอบอุ่นนี้ ไม่ยอมตื่น……
  หยางโปคิดไปว่าเขาทำแบบนี้ให้ทั้งสองคนเข้าใจผิดกัน จะได้ทำให้ฉินเหลียงทิ้งอีกฝ่ายไป
  เขาไม่คิดเลยว่าอี้มู่จะมีความสามารถมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
  หยางโปนำกระจกแสงจันทร์กลับมาถึงเรือนสี่ประสาน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งไปที่หน้าประตูห้องของเหยียนหรูหยู และหยิบกระจกออกมาพูด ” ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ผมนำกระจกบานนี้กลับมาได้แล้ว ”
  มีรอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเหยียนหรูหยู ” คุณไม่ต้องขอโทษ แต่ต่อจากนี้คุณจะต้องลำบากแน่ ”
  หยางโปไม่ค่อยเข้าใจ “ ลำบาก ? ลำบากยังไง ? ”
  “ คุณรอดูไปเถอะ ! ”เหยียนหรูหยูตอบกลับ ไอลีนโนเวล
  หยางโปไม่ค่อยเข้าใจ เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าเหยียนหรูหยูหมายถึงอะไร ทำไมเขาต้องลำบาก ?
  มีกระจกแสงจันทร์อยู่ หยางโปรู้สึกวางใจมากขึ้น อย่างน้อยสำหรับเขาแล้ว การฝึกฝนก็มีการรับประกัน
  ในตอนเย็น หลินหลินกลับบ้านมากินข้าวเย็น เธอลังเลแต่ก็ยังคงพูดว่า ” เรื่องวันนั้น แม่ต้องอธิบายให้ลูกฟังว่าเกิดอะไรขึ้น อี้มู่คนนั้น… ”
  ครั้งนี้หยางโปกลับไม่ห้ามแม่อธิบาย เขาฟังทุกอย่าง และรู้สึกแปลกใจมาก “ แม่ยังไม่รู้ คืนนั้นอี้มู่มาที่บ้านเราแล้วขโมยของสำคัญของผมไปแล้ว และวันนี้ผมเอากลับมาได้แล้ว ”
  หลินหลินตกใจมาก “ เขามาขโมยของบ้านเรา ? ทำไมลูกไม่รีบบอก พวกเราต้องแจ้งความสิ ! ”
  หยางโปหัวเราะลั่น “ แม่ แจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาจัดการให้ไม่ได้ จะว่าไป ผมก็เอาของกลับคืนมาได้แล้วไม่ใช่หรือไง ? ”
  “ ลูกไม่เป็นอันตรายอะไรใช่ไหม ? ” หลินหลินถามด้วยความเป็นห่วง
  หยางโปส่ายหน้า “ แม่ สบายใจได้ เรื่องนี้ไม่ต้องคิดมาก มันผ่านไปแล้ว เรื่องที่เหลืออยู่ ผมจะจัดการเอง ยิ่งไปกว่านั้น ผมรับปากแม่แล้ว ผมจะรีบแต่งงานมีลูกให้เร็วที่สุด ! ”
  หลินหลินมองหน้าหยางโป “ ไม่เป็นไร แม่ก็จะไม่บังคับลูกเหมือนกัน เอาที่ลูกว่าเถอะ ! ”
  หยางโปไม่ได้บอกเรื่องที่เขาแทงอี้มู่จนได้รับบาดเจ็บ ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ จะต้องเป็นห่วงแน่นอน
  เช้าวันที่สอง เสวียนจงมาหาที่บ้าน หยางโปมองหน้าเขาและอดที่จะรู้สึกไม่พอใจไม่ได้
  “ คุณมาอีกทำไม ? ”
  เสวียนจงยิ้มเหยเก “ ศิษย์พี่หยาง ผมรู้สึกว่าตี้จิงกว้างใหญ่มาก อยู่ใต้ฟ้าผืนแผ่นเดียวกัน
  อาจไม่เหมาะกับผม ผมคิดว่าควรคืนทรัพย์สินที่เหลียงหรูซิงทิ้งไว้ให้คุณ ! ”
  หยางโปมองหน้าเสวียนจง “ คืนให้ผม ? ทำไมพูดแบบนี้ ผมไม่เคยรับทรัพย์สินของเหลียงหรูซิง คุณรับไปทั้งหมดไม่ใช่หรือไง ? ”
  เสวียนจงเหลือบมองไปที่หยางโป เมื่อเห็นว่าเขาจะปฏิเสธจริงๆ ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ หลังจากที่เหลียงหรูซิงถูกฆ่าตาย เขาได้ทิ้งทรัพย์สินเอาไว้มากมาย คฤหาสน์สองหลังก่อนหน้านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือภาพวาดโบราณที่ถูกซ่อนอยู่ในบ้าน ทั้งหมดนี้ล้วนถูกเขาเก็บเอาไว้  “ คุณหยาง ได้ยินว่าคุณกำลังจะเปิดพิพิธภัณฑ์ มีภาพวาดโบราณมากมายอยู่ที่คฤหาสน์
  ต้องการให้ผมเอามาให้คุณไหม ? ” เสวียนจงเอยถาม
  หยางโปหันไปมองเสวียนจง และอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “ มีอะไรก็พูดมา ถ้าไม่พูด ผมขอส่งแขกนะ ! ”
  เสวียนจงจึงรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ ศิษย์พี่หยาง คุณก็รู้ สถานการณ์ในตี้จิงค่อนข้างซับซ้อน ผมอยากรับอำนาจของเหลียงหรูซิง แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมายซึ่งยากจะแก้ไขได้ในทันที
  จึงอยากออกไปจากที่นี่ ”
  หยางโปหันไปมองเสวียนจง “ เหลียงหรูซิงน่าจะมีตำราเกี่ยวกับประสบการณ์การฝึกฝนอยู่ใช่ไหม ตอนนี้อยู่กับคุณไหม ? ”
  เสวียนจงตกตะลึงไปชั่วครู่ “ คุณหยาง ผม….. ”   หยางโปโบกมือ “ ผมไม่ได้ต้องการเน้นอะไร ผมแค่อยากจะบอกว่า ในเมื่อคุณได้ประโยชน์ใหญ่ที่สุดของเหลียงหรูซิงไปแล้ว ทำไมถึงอยากได้ผลประโยชน์มากกว่าเดิมอีก ? คุณไม่รู้จักตัวเองเลยหรือไง ? ”
  เสวียนจงก้มหน้าไม่ตอบ ที่จริงเขารู้ตัวเองดีและรู้ว่าตัวเองอาจไม่สามารถโน้มน้าวฝูงชนได้
  แต่เขาก็ยังอยู่ต่อ เพราะเขาคิดว่าตัวเองอาจมีโอกาส แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า โอกาสนี้เขาไม่มีความสามารถที่จะไขว่คว้ามันมาได้ !