ตามรายงานของเสวียนจง จำเป็นต้องปิดบ่อนคาสิโน ดังนั้นพวกเขาจึงไปที่คาสิโนก่อน
หยางโปสังเกตสถาพโดยรอบ บ่อนคาสิโนถูกอำพรางดีมากจริงๆ มีโรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ด้านหน้า
จะเข้าไปถึงคาสิโนได้ต้องเข้าไปทางหนีไฟของโรงแรมเท่านั้น บ่อนคาสิโนถูกปิดไว้หมดจึงไม่มีทางมองเห็นสภาพภายในจากภายนอกได้ จึงไม่มีใครรู้ว่านี่คือคาสิโน
เสวียนจงเม้มริมฝีปาก เขายังคงต้องการที่จะเก็บสถานที่นี่ไว้ เขาอดไม่ได้ที่หันไปมองหน้าลัวย่าวหัว
“ ปิดซะ ! ” ลัวย่าวหัวสั่งอย่าเด็ดขาด โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว พ่อของเขาอยู่กระทรวงความมั่นคง ถ้าเขาเข้ามารับช่วงบ่อคาสิโนต่อจริงๆ งั้นก็ถือว่าฆ่าพ่อของเขาชัดๆ !
เสวียนจงพยักหน้า ” ตกลง ! “ ” ปิดให้บริการเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจใดๆภายในหนึ่งปี หลังจากหนึ่งปี
ก็ปล่อยเช่าที่นี่ซะ ” ลัวย่าวหัวสั่ง
เสวียนจงหันไปมองลัวย่าวหัว บ่อนคาสิโนแห่งนี้มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้ อย่างน้อยก็ไม่ควรสิ้นเปลือง คิดไม่ถึงว่าลัวย่าวหัวจะสั่งปิดไปเลย โดยที่ไม่ลังเลใจสักนิด
แต่เสวียนจงก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะก่อนหน้านี้เขาพูดมากไปแล้ว เลยเสียเปรียบ ถ้าเขาไม่พูดถึงดอกไม้พวกนั้น เกรงว่าหยางโปก็คงไม่รังเกียจเขา
จากนั้นหยางโปและพรรคพวกก็พากันไปดูอาคารสำนักงาน โรงน้ำชา และโรงภาพยนตร์ ที่ตั้งของสถานที่เหล่านี้ถือว่าไม่เลวเลย ไม่ค่อยรกเลยด้วยซ้ำ พวกเขาแค่สำรวจดู แล้วเดินออกมาเลย
หลังจากเดินไปรอบๆก็ค่ำแล้ว ทั้งสามคนหาโรงแรม ทานอาหาร แล้วรีบไปที่ไนต์คลับ ในบรรดาธุรกิจเหล่านี้ หยางโปกังวลใจที่สุดคือไนต์คลับ บ่อนคาสิโนถูกปิดตัวไปแล้ว
แต่ไนต์คลับมันไม่ง่าย ที่จะแก้ปัญหาแบบลวกๆ แต่สถานที่ดังกล่าวมักเกี่ยวข้องกับค้าประเวณีและยาเสพติด มันทำให้หยางโปรู้สึกกังวลใจมาก
เป็นปกติที่ลัวย่าวหัวจะกังวลเช่นกัน เขาเหลือบไปมองเสวียนจง และกล่าวว่า
” เมื่อคืนนายได้ไปทักทายกับลูกน้องไหม ได้บอกเรื่องที่เราจะไปดูรึเปล่า ? ”
” ไม่ ไม่ครับ ” เสวียนจงรีบพูด
ลัวย่าวหัวพยักหน้า “ ในเมื่ออยากจะไปดู ก็มองปัญหาให้ออก และ ค้นพบปัญหา และแก้ไขมันโดยเร็วที่สุด นี่ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่สุด”
เสวียนจงพยักหน้า ” ใช่แล้ว ! ”
ในระหว่างที่พูดคุยกัน ทั้งสามคนก็มาถึงบริเวณไนต์คลับ ไนต์คลับทั้งสามแห่งนี้ มีอยู่สองแห่งอยู่ใน โฮ่วไห่ และอีกแห่งอยู่ติดกับ “ไนต์คลับหวงโฮ่ว ”
ลัวย่าวหัวชำเลืองมอง ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึม เขาหันไปทางหยางโป
“ ไนต์คลับแห่งนี้ ตอนที่ฉันเคยมาสภาพไม่ค่อยดีนัก ”
หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ” หมายความว่าไง ? ”
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า “ เราเข้าไปแล้วค่อยคุยกันดีกว่า ”
เวลานี้เพิ่งจะแปดโมงกว่า มีคนไม่มากในไนต์คลับ หยางโปทั้งสามหาที่นั่งและนั่งลง เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเสวียนจง เขารู้สึกแปลกๆ ไม่มีพนักงานออกมาต้อนรับเลย โดยเฉพาะ เสวียนจง
ในฐานะเถ้าแก่ ไม่มีใครสนใจเขา มันน่าแปลกมาก !
หยางโปอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองลัวย่าวหัว ลัวย่าวหัวพยักหน้าให้แต่ไม่พูดอะไรมาก
ทั้งสามคนนั่งพักกันอยู่สักครู่ ก็ไม่มีใครออกมาต้อนรับเลย เสวียนจงทำหน้าไม่ถูกไปเล็กน้อย
เขาจึงต้องยืนขึ้นและหันไปกวักมือเรียกพนักงาน แต่พนักงานกลับมีอาการลังเล และไม่กล้าก้าวออกมา !
เสวียนจงรู้สึกว่าตัวเองสียหน้าหมด และกำลังจะระบายอารมณ์
เวลานี้ ชายหัวล้านคนหนึ่งก็เดินออกมา ชายคนนี้สวมเสื้อกั๊กสีขาวมีรอยสักที่แขนซ้ายและขวา
มีรูปมังกรเขียวอยู่ทางซ้าย และเสือขาวอยู่ทางขวา บวกกับรูปร่างที่สูงตระหง่าน รูปร่างแข็งแรงกำยำ คาบซิการ์อยู่ในปาก ดูท่าทางหยิ่งยโสมาก novel-lucky
“เถ้าแก่เสวียน สวัสดี ทำไมคุณถึงมีเวลามาหาที่ร้านของฉัน ? ” ชายหัวล้านเดินเข้ามาพูดด้วยรอยยิ้ม
เสวียนจงเหลือบไปมองชายหัวล้าน ด้วยสีหน้าลำบากใจมาก ” หวังเสี่ยวชี ร้านนี้อย่างน้อยก็ถูกฉันรับช่วงต่อแล้ว นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง ? ฉันจะมาดูร้านของตัวเองไม่ได้หรือยังไง ? ”
คนหัวล้านชื่อหวังเสี่ยวชี เขาเป็นคนที่เจ็ดในครอบครัว นานมาแล้วที่สภาพที่บ้านค่อนข้างยากจน จึงดูผอมแห้งและอ่อนแอเสมอมา แต่ในเวลานั้น เหลียงหรูซิงเป็นคนเลี้ยงเข้าไว้ และจ่ายค่าจ้างให้เขา เขาจึงเคารพ รักเหลียงหรูซิง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเหลียงหรูซิงจะมาตายอย่างกะทันหัน
และจู่ๆ เสวียนจงก็มาปรากฏตัวขึ้นเพื่อเข้ารับตำแหน่งที่นี่ เขาจึงรู้สึกว่า เสวียนจงมีปัญหา !
“ เถ้าแก่เสวียน นายก็น่าจะรู้ดี แต่เดิมไนต์คลับแห่งนี้ฉันก่อตั้งมาเองกับมือ ก่อนที่ท่านเหลียงจะจากไป จึงไม่ได้ทิ้งคำสั่งเสียไว้ บวกกับครอบครัวของเขาไม่มีลูกเลย จู่ๆ นายก็ออกมาพูดว่าจะมาดูแลที่นี่ต่อ มันยากที่ใครจะเชื่อได้ ! ” หวังเสี่ยวชีกล่าว
เสวียนจงหันไปมองหน้าหวังเสี่ยวชี “เสี่ยวชี ฉันไม่มีทางโกหกคุณแน่ ท่านผู้นี้คือเถ้าแก่ของฉัน ลัวย่าวหัว ท่านลัว ! ”
ลัวย่าวหัวที่นั่งข้าง ๆ เดิมเขาคิดว่าคืนนี้เขาคงไม่มีโอกาสแสดงตัวตน คิดไม่ถึงว่า เสวียนจงจะเอ่ยชื่อของเขา แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่กลัว เขาเงยหน้ามองหวังเสี่ยวชี โดยไม่พูดอะไร
หวังเสี่ยวชีหันไปเหลือบมองลัวย่าวหัว และเอ่ยขึ้นว่า “ เถ้าแก่ลัว ไม่ทราบว่าคุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันหรือเปล่า ? ”
ลัวย่าวหัวหันไปมองหน้าหวังเสี่ยวชี ” นายต้องการหักฐานอะไร ? ตอนนั้นเหลียงหรูซิงไม่ทิ้งคำสั่งเสียอะไรไว้ ”
หวังเสี่ยวชีส่ายหน้า “ ผมพูดอย่างมีเหตุผลมากพอแล้ว ในเมื่อท่านเหลียงไม่ได้ทิ้งหลักฐานใดๆไว้เลย ถ้าเช่นนั้นผมก็คงเชื่อในสิ่งที่พวกคุณพูดมาไม่ได้ ผมจะทำธุรกิจกันแล้ว ท่านทั้งหลาย
เชิญกลับไปเถอะ ! ” หวังเสี่ยวชีดูหยาบคายเอามากๆ แต่คำพูดคำจาของเขากลับอ่อนโยนและมีมารยาท ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกค่อนข้างวิตกกังวลเกี่ยวกับทั้งสามคน
หยางโปที่นั่งอยู่ข้างๆ แสงส่องประกายขึ้นตรงหน้าเขาและเห็นว่ามีพลังวนเวียนอยู่รอบๆ
หวังเสี่ยวชี เขาคิดไม่ถึงว่า หวังเสี่ยวชีจะเป็นผู้ฝึกฝนพลังจนก้าวเข้าสู่ขั้นหยิ่นชี่จิงได้แล้ว !
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หยางโปก็ตระหนักได้ว่า เหลียงหรูซิงคงสอนหวังเสี่ยวชีมา ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อตัวเขา หวังเสี่ยวชี เกิดอยากปกป้องเหลียงหรูซิงขึ้นมา มันก็สมเหตุสมผลแล้ว
เสวียนจงอ้าปากอยากถือโอกาสอธิบาย แต่กลับเห็นหยางโปยกมือขึ้นปัดห้ามไม่ให้เขาพูด
หยางโปจิบไวน์แดง จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองขึ้นไปทางหวังเสี่ยวชี มองหัวล้านที่ส่องแสงเป็นประกายของเขา ” เหลียงหรูซิงจากไปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ต้องสานต่อ คุณมีแผนยังไงที่จะทำต่อ
จากนี้ ”
“ แม้ว่าอาจารย์เหลียงจะจากไปแล้ว แต่ผมก็ต้องยึดมั่นในวิถีดั้งเดิมของเขา จะต้องส่งเสริมและดำเนินตามวิถีดั้งเดิมของเขาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ! ” หวังเสี่ยวชีกล่าว
หยางโปจ้องหน้าหวังเสี่ยวชี จากนั้นเขาก็ชี้ไปทางลัวย่าวหัว ” คุณรู้จักเขาไหม ? ”
หวังเสี่ยวชีตกตะลึงไปอยู่ชั่วครู่หนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ด้วยสีหน้าลำบากใจ “ ผมไม่รู้จัก ”
“ คุณรู้จักเขาดี ถ้าพูดอย่างชอบธรรมแล้ว แต่คุณจะทำอะไรได้บ้าง ? ” หยางโปจ้องหน้าหวังเสี่ยวชี และชี้เข้าไปด้านใน “ ข้างในนั้นปกปิดอำพรางของผิดกฎหมายและช่วยเหลือยคนชั่วไว้จริงๆ ! ”
หยางโปมีสีหน้าไม่ปรานีเอามากๆ เขาถือโอกาสสังเกตสภาพภายในห้องในขณะที่พวกเขากำลังพุดคุยกัน เขาเห็นกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงกำลังเสพยาอยู่ในห้องอย่างชัดเจน ! แต่หวังเสี่ยวชีกลับเห็นผิดเป็นชอบ มันน่าขยะแขยงเสียจริงๆ !