ยู่ยี่เปลี่ยนเสื้อและสวมหมวกก่อนออกมา เธอให้รถแท็กซี่ตามรถสีดำคันนั้น เธอทำเช่นนี้ครั้งแรก หัวใจเต้นเร็วเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกว่ากำลังทำตัวเหมือนโจรไม่มีผิดเพี้ยน
ขับรถเร็วขึ้นเรื่อยๆ และไม่ค่อยเห็นรถวิ่งผ่านระหว่างทางแล้ว ยู่ยี่มองนอกหน้าต่างรถพลันพบว่าเป็นเส้นทางไปชานเมือง
ดึกขนาดนี้ เขาไปชานเมืองทำไม?
เธอรู้สึกฉงนสนเท่ห์ ทว่ายังคงจ้องรถคันนั้นอย่างไม่คลาดสายตา สุดท้ายรถจอดด้านหน้าวิลล่าหลังหนึ่ง
ยู่ยี่ให้แท็กซี่จอดห่างเล็กน้อย
หัสดินลงจากรถไปที่วิลล่า เรนนี่มาเปิดประตูให้ หางตาชำเลืองเห็นรถแท็กซี่ที่จอดอยู่อย่างมีลับลมคมใน มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
ลางบอกเหตุของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นต่างกัน ผู้ชายจะรู้สึกช้ากว่า ส่วนผู้หญิงจะรู้สึกเร็วผิดปกติ
เธอจงใจไม่ปิดประตูวิลล่า ทิ้งช่องว่างไว้เล็กน้อย ร่างกายเรนนี่ประหนึ่งงูเลื้อยคลอเคลียใส่เขา
เธอจูบริมฝีปากเขาอย่างเร่าร้อน โต๊ะในห้องรับแขกจัดวางอาหารเลิศรส ไวน์แดง เนื้อสเต๊ก และเค้กไว้แล้ว
เพราะห่างกันได้ระยะหนึ่ง ยู่ยี่จึงเห็นเป็นผู้หญิงเท่านั้น มองหน้าตาไม่ออก
เธอจ่ายค่าแท็กซี่เสร็จก็ลงจากรถ พาหัวใจที่เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะไปด้านหน้า เธอเดินด้วยฝีเท้าเบาและช้าแล้วยืนอยู่หน้าวิลล่า
ประตูไม่ได้ปิดและยังมีช่องนิด ๆ จึงผลักเข้าไป
เธอรู้ว่าประพฤติเช่นนี้ดูไม่งาม ไม่ถูกต้อง และไร้มารยาท ไร้การศึกษาด้วย
ทว่าเธอควบคุมจิตใจไม่ได้ ข่มความอยากรู้ไม่อยู่ เธอทำไม่ได้ที่จะหมุนกายเดินออกไป
หายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งเฮือก เธอตรึกตรอง หากพวกเขาเจรจาเรื่องงานจริง ๆ เธอก็จะขอโทษในความบุ่มบ่ามของตัวเองเอง
เมื่อคิดได้ดังนี้ หัวใจยู่ยี่ก็สงบสุข ยื่นมือผลักประตูวิลล่าเบา ๆ ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไป
บนโซฟาสีขาวในห้องรับแขก เรนนี่นั่งบนตักของหัสดิน ในมือถือไวน์แดงแล้วเขย่าเบา ๆ ส่วนมือเรียวอีกข้างโอบที่ลำคอเขา
เมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจตรงหน้า มือที่อยู่ข้างตัวของยู่ยี่กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว สมองเธอขาวโพลนในบัดดล
อะไรคือความเจ็บปวด อะไรคือโกรธขึ้ง?
ประหนึ่งเข็มแหลมคมทิ่มแทงร่างกายเธอ จนขนลุกพอง ร่างกายเธอเริ่มสั่นเทิ้ม ความเจ็บปวดกระจายทั่วทั้งร่างกาย จนทำให้เธอหายใจไม่สะดวก ยิ่งรู้สึกเจ็บเจียมตาย
หางตาเรนนี่เหลือบไปเห็น จากนั้นก็ทำเสียงตกตะลึงพรึงเพริดและหวาดกลัว น้ำเสียงอ่อนนุ่มก็แปรเปลี่ยนตามไปด้วย “รุ่นพี่ยู่ยี่……”
หัสดินกำลังนั่งหันหลังให้ยู่ยี่ ดังนั้นจึงไม่เห็น คิดว่าเรนนี่กำลังเย้าแหย่เขาเล่น มือใหญ่นวดบ่าเธอ พลางยิ้มติดตลก “ตอนนี้ยิ่งซนขึ้นทุกทีแล้วนะ……”
ใบหน้ายู่ยี่มืดครึ้มคล้ายกับขี้เถ้าไฟ ในชั่วพริบตาเดียวเสมือนร่างกายโดนสูบเลือดไปหมด ใบหน้าซีดเผือดอย่างน่าสะพรึงกลัว ร่างกายที่แข็งทื่อของเธอขบฟัน ออกแรงกัดสุดแรงจนมีเลือดซึมออกมา
เธอหยิบน้ำเย็นข้างกายจากนั้นก็เดินเข้าไป ต่อด้วยผลักเรนนี่ล้มลงพื้น จากนั้นก็สาดน้ำเย็นใส่หัวหัสดิน
ร่างกายหัสดินแข็งทื่อ ค่อย ๆ หันหน้ากลับไปมอง จากนั้นก็ประสานสายตากับยู่ยี่
ร่างกายเขาเปียกปอนไปหมด น้ำไหลลงไปเรื่อยๆ ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน เกิดความเงียบที่ยากจะปริปากพูดขึ้น ส่วนเรนนี่ก็ล้มลงกับพื้น
กะละมังกระแทกใส่ใบหน้าหัสดินอย่างไม่ปรานี เขาไม่ได้หลบ หน้าผากจึงบวมขึ้นในทันทีทันใด
เรนนี่รู้สึกสงสารเขายิ่ง มองยู่ยี่อย่างฉุนเฉียว“ทำไมคุณต้องลงมือหนักขนาดนี้?”
“แม่ง ลองพูดมากอีกคำหนึ่งดู”ยู่ยี่หันไปมองเรนนี่ด้วยแววตาโหดเหี้ยม จ้องถมึงทึงอีกฝ่าย จากนั้นก็คว้าแก้วกระจกข้างกายแล้วเขวี้ยงใส่หัสดินอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขวี้ยงโดนมือของเขาแล้วเลือดสดก็ไหลออกมา
หัสดินไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ พูดเวลานี้ก็ไร้ประโยชน์
เศษกระจกลอยไปบาดหน้าผากเขา ทำให้เกิดแผลหลายที่ ซึ่งเกิดรอยเลือดขึ้นมา แต่เขายังคงนิ่งเงียบ ส่วนเรนนี่ก็โดนลักษณะเดียวกันด้วยเล็กน้อย
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของยู่ยี่ตอนนี้ เธอเคียงข้างเขาเจ็ดปี เชื่อใจเขามาเจ็ดปี ความเชื่อใจและความภักดีนี้จึงไม่ได้ใครสามารถประมาณการได้
ถึงแม้ผู้ชายบนโลกทั้งหมดจะมีชู้ แต่เธอก็เชื่อว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น นอกจากครั้งที่เมาไม่ได้สติ
เธอกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ร่ามใช้ชีวิตมาเป็นเวลายาวนาน เขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ และเป็นเพื่อนคนแรกของเธอ
พวกเขาเข้ากันได้ดีมาก ไม่เคยมีเรื่องปากเสียงกัน ยังคงรักใคร่กันเฉกเช่นเจ็ดปีก่อน จึงทำให้เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีผู้หญิงอื่นลับหลัง
รักมากแค่ไหน เชื่อใจมากแค่ไหน บัดนี้ความสิ้นหวังและความเดือดดาลก็จะมีมากเท่านั้น เธอเดินไปด้านหน้าเขา ก่อนจง้างมือตบหจ้าเขาด้วยมือด้านขวา จากนั้นก็ด้านซ้าย และตบสลับมือกันอีกหลายตลบ
หัวใจเธอดุจดั่งฉีกขาด แล้วเกิดแผลฉกรรจ์หลายที่ และรู้สึกเหมือนโดนโรยเกลือใส่บาดแผล ความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดจึงทดทวีคูณขึ้น
เรนนี่รู้สึกว่ายู่ยี่บ้าไปแล้ว แต่หัสดินกลับไม่ต่อต้าน ปล่อยให้ยู่ยี่ทำตามใจชอบ เธอเห็นแล้วรู้สึกเคืองใจยิ่ง
หัสดินเป็นผู้ชายระดับไหน ทำไมจึงตกอับถึงขั้นโดนผู้หญิงคนนี้ตบหน้า?
เธอเดินเข้าไปจ้องยู่ยี่ ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ถูกยู่ยี่ตบสองฉาดเสียแล้ว และยังไม่พอ ยังโดนยู่ยี่ใช้สองมือผลักเธอแรง ๆ ทำให้เธอล้มกระแทกพื้นแรง ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่ศีรษะทำให้เธอหน้าซีดขาว บริเวณท้องก็กระแทกมุมโต๊ะด้วย ทำให้เจ็บคูณสอง
ความเจ็บปวดและกราดเกรี้ยวที่หลั่งไหลทั่วร่างกายของยู่ยี่ ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำขึ้น เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ ซึ่งก็คือฆ่าหัสดินทิ้ง
“พวกเรากลับไปคุยกันที่บ้าน”หัสดินเอ่ยปากพูดในท้ายที่สุด มือใหญ่จับข้อมือเธอไว้ ซึ่งตัวเธอเริ่มรู้สึกปวดท้องที่ตั้งครรภ์แล้ว
“ปล่อย”ยู่ยี่เผยดวงตาแดงที่เจือความเกลียดแค้นอย่างแรงกล้าแบบไม่ปิดบัง
ความรังเกียจเดียดฉันท์และแค้นเคืองฝังลึกเข้าไปในอก ไม่มีการปิดบังใด ๆ ตอนนี้แค่เขาแตะต้องเขาเล็กน้อย เธอก็ยังรู้สึกขยะแขยง
“พวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน”หัสดินจับข้อมือเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อย”เอ่ยอย่างเย็นเยียบอีกครั้ง น้ำเสียงเย็นยะเยือกประหนึ่งเดือนธันวาคมในช่วงฤดูหนาว
หัสดินยังไม่ยอมปล่อย ยู่ยี่ก็ไม่เกรงใจ ยกมือข้างที่ว่างแล้วใช้กำลังทั้งหมดที่มีตบหน้าเขาแรง ๆ อีกครั้ง
เพราะใช้แรงตบ ใบหน้าหัสดินจึงมีรอยนิ้วมือสีแดงห้านิ้ว ส่วนมือเธอด้านชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ครั้งนี้หัสดินปล่อยมือเธอ บรรยากาศในวิลล่าตึงเครียด หายใจยาก เหมือนจะทำให้คนเสียชีวิตอยู่ที่นี่