ในขณะฉินเฮ่าผลักประตูไม้เข้าไป ซีเหมินจินเหลียนก็ตาวาววับกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ข้างในนั้นไม่ได้ใหญ่โตมาก เสื้อผ้าที่แขวนอยู่นั้น ทำให้เธอตกใจกับสิ่งที่เห็น
“ทั้งหมดนี้คือปักมือเหรอคะ แฮนด์เมคเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนยื่นมือไปสัมผัสกระโปรงยาวสีขาวตัวหนึ่งที่แขวนไว้ที่ผนัง มองไปยังชายกระโปรงที่ปักไปด้วยดอกโบตั๋นเกือบครึ่งหนึ่ง น่าจะเป็นผ้าไหม ความรู้สึกแห่งการสัมผัสช่างไหลลื่น
“เป็นยังไงบ้าง ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ?” ฉินเฮ่ายิ้มแล้วพูด “การเย็บปักแบบโบราณและเนื้อไหม ผสมผสานระหว่างแฟชั่นที่นิยมในสมัยนี้กับสไตล์โบราณรวมเข้าด้วยกัน เสริมไปด้วยเครื่องประดับหยกของคุณ คุณว่ายังไงบ้าง?”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้น หัวใจเต้นแรง ชุดการเย็บปักสไตล์โบราณ เสริมแต่งไปด้วยเครื่องประดับหยกของเธอ ความสวยที่หรูหรามีระดับเช่นนี้ เข้ามากระตุ้นหัวใจของเธอเป็นที่เรียบร้อย
“ราคาเสื้อที่นี้ ก็ไม่น่าจะถูกใช่ไหมคะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“ผมจ่ายเอง!” ฉินเฮ่ายิ้มอ่อน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“พี่ฉิน ฉันรับของของพี่ไม่ได้หรอกค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหัวแล้วพูดว่า “เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ครับ?” ฉินเฮ่าขมวดคิ้วถาม
ซีเหมินจินเหลียนพูดความจริงออกมา ไม่นานพนักงานของร้านก็เดินเข้ามา ชุดที่สวมใส่ไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ ทั่วไป ชุดกี่เพ้าสไตล์โบราณอยู่บนเรือนร่างของผู้ที่สูงเพรียว ทำให้พนักงานหญิงสาวที่เดิมทีหน้าตาธรรมดาไร้เสน่ห์กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ต้องการสินค้าชิ้นไหนคะ” พนักงานถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม คนที่เป็นพนักงานของร้านนี้ สายตาก็แยกแยะออกได้ว่าใครคือลูกค้าที่แท้จริง หรือใครคือคนที่ไม่ได้ตั้งใจเดินเข้ามา
โดยทั่วไปแล้ว ที่แห่งนี้คนธรรมดามักจะไม่ค่อยเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า มีแต่คนมีระดับเท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักแนะนำต่อๆ กันมา ก็ยากที่จะรู้ว่ามีร้านแบบนี้อยู่ แถมไม่สามารถเข้ามาได้ง่ายๆ
ซีเหมินจินเหลียนแต่งกายด้วยกระโปรงเรียบง่าย แต่พนักงานสังเกตเห็นว่าแบรนด์เสื้อผ้าที่เธอใส่ ถึงจะไม่ได้แพงที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดาที่คนทั่วไปจะซื้อได้ ส่วนการแต่งกายของฉินเฮ่าดูภายนอกอาจจะธรรมดา แต่เมื่อมองอย่างละเอียดลึกลงไปก็สังเกตเห็นความประณีตในการตัดเย็บ…
สองคนนี้ ดูแล้วต้องเป็นคนมีฐานะแน่ๆ! นี่เป็นความคิดเห็นผ่านการแสกนของพนักงาน “ช่วยพาพวกเราไปดูในโซนลูกค้าวีไอพีหน่อยนะครับ” ฉินเฮ่าพูด
พนักงานรู้สึกสับสนแต่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เชิญทางนี้ค่ะ”
“ที่นี่ยังมีโซนลูกค้าวีไอพีด้วยเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนถามด้วยความแปลกใจ
“นี่เป็นธุรกิจของตระกูลอวิ๋นครับ” ฉินเฮ่าอธิบาย
“หา? ธุรกิจของคุณอวิ๋นเจีย?” ซีเหมินจินเหลียนถามออกไป
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ” ฉินเฮ่าตอบกลับ
ซีเหมินจินเหลียนเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจจึงถามออกไปว่า “ถ้าอย่างนั้นเรื่องของคุณกับอวิ๋นเจีย สนุปแล้วว่าอย่างไรคะ”
ฉินเฮ่าจูงมือเธอเข้าไป แล้วถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา “จินเหลียน ผมไม่ได้สนใจที่จะดูแลอวิ๋นเจียไปตลอดชีวิตหรอกนะครับ ผู้ชายที่ไหนบ้างจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้นกัน? ถึงเธอจะสวยมาก แต่ผมก็หวังไว้ว่าจะได้เจอผู้หญิงที่รู้ใจ”
“อืม!” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้ากระซิบถามเขาไปว่า “ไม่ใช่ว่าคุณหาผู้หญิงที่รู้ใจคนนั้นเจอแล้วเหรอคะ?”
“หืม?” ฉินเฮ่างงกับที่เธอพูด “คุณพูดอะไรนะครับ”
“ไม่ใช่ว่าคุณป่าวประกาศออกไปข้างนอกว่า ต้องการที่จะแย่งสืบทอดมรดกก็เพราะว่าเพื่อนสาวคนสนิทเหรอคะ”
จ่านป๋ายสมควรตาย! ฉินเฮ่าด่าเขาอยู่ในใจ แต่ภายนอกก็ยิ้มแล้วพูดออกมา “จินเหลียน ผู้หญิงที่รู้ใจของผม คุณก็เคยเห็นนะ”
“จริงเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ฉันเคยเจอตอนไหนกัน ทำไมไม่รู้เรื่องเลย?”
“คนๆ นั้นอยู่ตรงหน้านี่แล้วไง!” ฉินเฮ่าพูด
“หา?” ซีเหมินจินเหลียนตั้งใจมองไปทั่วรอบทิศ ใบหน้ามึนงง
“จินเหลียน คนคนนั้นก็คือคุณครับ” แม้ว่าบรรยากาศจะไม่เอื้ออำนวย เวลาจะไม่ใช่ รอบข้างยังมีโคมไฟดวงใหญ่ยักษ์ แต่ฉินเฮ่าก็ใช้โอกาสนี้สารภาพรักออกไปแล้ว
“เพื่อนที่สนิทก็เหมาะสมเป็นได้แค่เพื่อนค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนก้มหน้าถอนหายใจออกอย่างเบาแรง ตอนที่เธอเลิกกับหวังหมิงเหยา เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองอยากจะมีความรัก ทุกคนล้วนมีอิสระ ใครก็ไม่สามารถเป็นตัวตนของอีกคนได้ แล้วก็ไม่ได้มีใครบันทึกไว้ด้วยว่าถ้าใครไม่มีใคร แล้วจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้
อย่างน้อยเธอก็เคยมีความรักที่ลึกซึ้ง แต่ความรักก็ไม่สามารถชนะชีวิตที่ไม่ราบรื่น สีชมพูหวานโรแมนติก นานวันผ่านเข้าไปก็ค่อยๆ จางหาย สิ่งทั้งหมดก็เอามาเชื่อมโยงเกี่ยวกัน ราวกับดอกกุหลาบที่ถูกแช่ไว้ในแจกัน ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแค่เศษซากสีเทา…
ปล่อยมือลง ถึงจะสามารถจุดไฟในชีวิตอีกครึ่งหนึ่งได้ แต่ถ้าจมปลักก็อาจจะพาตัวเองตกลงไปในโคลนตม ถอนตัวก็ไม่ขึ้น
“สาวคนสนิทเป็นแค่เพื่อนสนิท จินเหลียน แม้ผมอยากจะจีบคุณ แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะแต่งงานกับคุณหรอกนะครับ” ฉินเฮ่ากระซิบไปที่ข้างหูของจินเหลียน
ในใจของซีเหมินจินเหลียนสั่นระริก สับสนก่อยจะเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นฉินเฮ่าเข้าใกล้เธอแบบนี้ บวกกับรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าแบบนั้น หัวใจก็เต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ถ้าหากสาวคนสนิทเป็นได้แค่เพื่อน ถ้าสำหรับเขาที่เป็นผู้ชายสุภาพอ่อนโยน เธอก็ไม่ได้ใส่ใจถ้าจะมีเพื่อนสนิทเพิ่มขึ้นมา…
“ไปเถอะ พวกเราเลือกเสื้อผ้ากัน ถ้าหากไม่ถูกใจ ก็สามารถสั่งทำได้นะครับ!” ฉินเฮ่าจูงมือเธอแล้วมองพนักงาน
เมื่อบทสนทนาของทั้งคู่จบลง พนักงานได้ยินประโยคนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นแรง ใคร่ครวญอยู่ในใจ ถ้าหากมีวันนั้นที่สามารถมีเพื่อนแบบนี้จะเป็นยังไงนะ?
ภายในห้องโซนวีไอพี พนักงานถูกเปลี่ยนมาเป็นหญิงสาวที่แสนสวยอีกคน ถือชามาให้ทั้งคู่
ซีเหมินจินเหลียนมองไปทั่วห้อง เสื้อผ้าในห้องลูกค้าโซนวีไอพี คิดไม่ถึงว่าจะเหมือนอัญมณี ถูกกั้นขวางด้วยกระจกใสใหญ่ยักษ์ ข้างในมีชุดเดรสอยู่ ภายใต้แสงไฟช่างดูสวยงามยิ่งนัก
เหมือนกับที่ฉินเฮ่าพูด เสื้อผ้าของที่นี่ล้วนเป็นกระโปรงทั้งหมด ผสมผสานสไตล์ระหว่างโบราณกับปัจจุบัน เสื้อผ้าจากใยไหมที่ถูกเย็บปักอย่างประณีต ดูแล้วราวกับผลงานศิลปะ ไม่เหมือนเสื้อผ้า
“ฉันลองได้ไหมคะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม คำถามนี้เธอถามฉินเฮ่า ในเมื่อฉินเฮ่าคุ้นเคยกับที่นี่ดี เขาก็น่าจะรู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสามารถปฏิเสธสิ่งสวยงามได้ เธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ได้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงสนใจชิ้นไหนคะ” พนักงานเดินเข้ามาถาม
ซีเหมินจินเหลียนตาลาย ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดี สุดท้ายฉินเฮ่าจึงเลือกกระโปรงที่ปักไปด้วยผีเสื้อสีขาวให้เธอ แล้วยิ้มขึ้น “กระโปรงตัวนี้ดูเรียบหรู น่าจะเหมาะกับคุณดีนะครับ และยังสามารถเสริมไปกับกำไลและปิ่นปักผมหยกได้”
ซีเหมินจินเหลียนเห็นก็รู้สึกชอบขึ้นมา ใช้เวลาอยู่ตั้งนาน เธอเลือกได้สามตัวที่ดูเรียบง่าย แต่ถูกปักไปด้วยรายละเอียดที่ซับซ้อนและสวยงาม ท้ายที่สุดภายใต้ความดูแลของฉินเฮ่า เขาให้พนักงานมาวัดตัวเธอ แล้วออกแบบชุดโบราณสมัยราชวงศ์ถังอีกสองชุด ชนิดแขนยาว
ระหว่างที่เลือกแบบในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ของซีเหมินจินเหลียนก็ดังขึ้นมา
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกประหลาดใจ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าที่แท้ก็เป็นจ่านป๋าย หลังจากที่เธอกดปุ่มรับสาย ที่ปลายสายก็มีเสียงดังขึ้นมา “จินเหลียน คุณอยู่ที่ไหนครับ”
“ผมไม่ได้พาเธอมาหลอกขายแน่ คุณวางใจได้!” ฉินเฮ่าแย่งโทรศัพท์ในมือของซีเหมินจินเหลียนแล้วคุยกับปลายสายแทน
“เหอะ!” จ่านป๋ายถอนหายใจออกมา “ฉินเฮ่า คุณลองเข้ามาดู ผู้หญิงของคุณมาก่อกวนที่บ้านของจินเหลียน ถ้าคุณไม่มาผมจะบีบให้เละแล้วให้สุนัขกินแน่!
“อะไร?” ฉินเฮ่าสับสน
“อวิ๋นเจียอยู่ที่บ้านของจินเหลียน คุณรีบพาจินเหลียนกลับมาด้วย ความอดทนของผมใกล้จะพังทลายลงแล้ว!” จ่านป๋ายกัดฟันกรอดพูดออกมา
“เกิดอะไรขึ้นคะ” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถาม
“ไม่มีอะไรครับ! ไปที่บ้านของคุณก่อยเถอะแล้วค่อยว่ากัน!” ฉินเฮ่าพูดพลางช่วยซีเหมินจินเหลียนเลือกชุด รวมไปถึงชุดที่ถูกปักไปด้วยลายผีเสื้อนั่น สั่งให้พนักงานใส่ถุงลงไปทั้งสามชิ้น รีบร้อนรูดบัตร จากนั้นหยิบกระเป๋าและจูงมือซีเหมินจินเหลียน ใบหน้าคร่ำเครียดออกไปข้างนอก
“ฝนใกล้จะตกแล้ว?” ซีเหมินจินเหลียนเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคร่ำเครียดของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหัวเราะออกมา ก็แค่อวิ๋นเจียไปที่บ้านของเธอไม่ใช่หรอกเหรอ? เขาต้องเครียดอย่างกับถูกลงโทษขนาดนั้นด้วยเหรอไง
“จินเหลียน ผมอยากจะอยู่กับเธออย่างสงบสุข แต่ถ้าหากเธอทำเกินไป…” ฉินเฮ่าส่ายหัว ส่วนคำพูดต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่อยากจะเอ่ย
“คุณอย่าพูดจาทำร้ายเธอนะคะ เธอก็น่าสงสารพอแล้ว ถึงคุณจะไม่ชอบเธอ ปลอบใจเธอก็พอแล้ว!” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจออกมา อวิ๋นเจียเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร เธอรักเขาก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแค่ใครใช้ให้เธอเป็นโรคกันเหล่า?
ขับรถมุ่งตรงไปที่ย่านหลานกุ้ย เมื่อจอดรถไปที่หน้าบ้านของซีเหมินจินเหลียน จ่านป๋ายก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาเลยเปิดประตูไปดู ฉินเฮ่าจูงมือเธอเข้ามา เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นความโกรธในตัวก็ยิ่งประทุเพิ่มขึ้น
ที่เขี่ยบุหรี่คริสตัลถูกทำลายแตกเป็นชิ้นละเอียด ไม่รู้ว่าตั้งใจทำให้แตกหรือว่าไม่ตั้งใจไปโดนทำให้หล่นกระแทกพื้นลงมา อวิ๋นเจียนั่งอยู่ที่โซฟาร้องห่มร้องไห้ แถมคนข้างๆ ของเธอยังเป็นลู่เฟยอวี๋ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ
“จินเหลียน คุณระวังตัวด้วยนะครับ” จ่านป๋ายเห็นซีเหมินจินเหลียนกลับมาเลยรีบรายงาน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ซีเหมินจินเหลียนกระซิบถาม
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” จ่านป๋ายถอนหายใจออกมา “หลังจากที่ผมขับรถกลับมาจากส่งเพื่อนของคุณทั้งสองคนนั้น ก็เจอพวกเธอทั้งคู่มาหาคุณ หลังจากนั้นก็เป็นแบบที่เห็น…” จ่านป๋ายมองไปยังที่เขี่ยบุหรี่คริสตัลที่แตกกระจายอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “ที่เขี่ยบุหรี่คริสตัลชิ้นนั้นก็ตายในหน้าที่”
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกไม่สบายใจ แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“เจียเจีย เกิดอะไรขึ้น?” ฉินเฮ่าย่างเท้าเข้าไปหาเธอ พร้อมจับตัวเธอขึ้นมาถามอวิ๋นเจียที่ร้องไห้ไม่หยุด
“ฮือๆ…” อวิ๋นเจียได้แต่ส่งเสียงร้องฮือๆ ออกมา เมื่อเห็นฉินเฮ่าก็ยิ่งน้ำตาแตกปล่อยโฮออกมาไม่หยุด น้ำหูน้ำตาไหลไปเป็นสาย แต่ถูกเช็ดไปด้วยเสื้อผ้าของเขา
“คุณยืนดีๆ แล้วรวบรวมสติพูดออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคุณถึงอยู่ที่นี่?” ระหว่างที่พูด เขาก็มองไปที่ลู่เฟยอวี๋และสลับกับมองที่จ่านป๋าย
จ่านป๋ายจูงมือซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ส่ายหัวแล้วพูดว่า “เรื่องก็เป็นแบบนี้ ตอนที่ผมกลับมา ก็เห็นพวกเธอยืนเรียกอยู่ที่หน้าประตูแล้ว” พูดไปเขาก็หันไปมองอวิ๋นเจียกับลู่เฟยอวี๋