เมื่อเดินไปบนถนนที่วุ่นวาย เฉินเฉินกุมขวดน้ำระฆังสวรรค์ไว้ในมือ
อาจารย์ของเขาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเพิ่มสถานะการฝึกตนไวเกินไป เมื่อร่างกายของเขาอาจจะไม่สามารถปรับตัวกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันได้ทัน เพียงเวลาไม่นาน เขาก็จะทรงพลังเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ใช้สมบัติสวรรค์เพื่อช่วยในการฝึกตนของเขา
ยังไงก็ตาม วันนี้…
เฉินเฉินส่ายหัวและดื่มน้ำระฆังสวรรค์ทีเดียวหมดขวดตอนที่เขาเดินไปบนถนน
พลังปราณของเขาลุกไหม้ขึ้นทั่วทั้งร่าง สถานะการฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่เขาจะเดินจากไป สถานะการฝึกตนของเขาก็เพิ่มขึ้นจากระดับกลางของขั้นสร้างรากฐานมาเป็นขั้นท้ายของขั้นสร้างรากฐาน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวฉีปู่ฝาน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้วเขาสามารถที่จะจัดการกับฉีปู่ฝานที่อยู่ขั้นสูงสุดของขั้นสร้างรากฐานได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ขั้นกลางก็ตาม
เขากลัวกับคนที่เขาต้องเผชิญหน้าหลังจากจัดการกับฉีปู่ฝานต่างหาก
หลังจากที่โยนขวดทิ้งไปแล้ว เฉินเฉินก็เร่งความเร็วขึ้น
ลมเย็นพัดผ่านไป
หัวใจเฉินเฉินเยือกเย็นเหมือนกับน้ำแข็งและเจตนาสังหารของเขาไม่มีอะไรหยุดได้
สำหรับการพนันหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนแล้ว เขาไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
‘ข้าจะต้องแลกเลือดเนื้อของจางจีเพื่อตั๋วพนันหินวิญญาณเนี่ยนะ?’
เขาไม่ได้เป็นคนต้องการหินวิญญาณมากเท่าไหร่
…
ในบ้านดอกไม้พระจันทร์
ในยามค่ำคืน แสงแดดของพระจันทร์ทอดตกลงมา ซึ่งได้แสดงให้เห็นแขกมากมายนับไม่ถ้วน
กู่ฉินเจิ้งมองไปที่เหล่าแขกผู้มีเกียรติที่แต่งตัวมีสีสันอย่างมีความสุข
เธอเลือกพนันได้ถูกต้อง!
เธอได้ชวนฉีปู่ฝานมาพักที่บ้านดอกไม้พระจันทร์และทำเงินได้มากมาย!
ฉีปู่ฝานได้เอาชนะหลินจินไปวันนี้ มันทำให้เขามีชื่อเสียงมากจนเป็นอันดับสองของผู้สืบทอด ในตอนนี้เขาเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก
ราชาองค์ใหม่ที่อยู่อันดับแรกกำลังพักในพระราชวัง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ออกไปไหนสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลนี้แล้ว ฉีปู่ฝานเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้สืบทอดที่อยู่ด้านนอกแห่งนี้!
แต่ว่าคนอย่างเขายังเลือกที่พักอยู่ในบ้านดอกไม้พระจันทร์ ซึ่งมันเป็นเกียรติสำหรับกู่ฉินเจิ้งอย่างมาก
ไม่เพียงแต่พวกเธอจะเอาชนะคู่แข่งในอุตสาหกรรม แต่ร้านอาหารและโรงเตี๊ยมอย่างหอปราณม่วง
มันเห็นได้ชัดว่าบ้านดอกไม้พระจันทร์จะเติบโตขึ้นอย่างมากมาย ถ้าสำนักหลัวโยวสำเร็จที่จะกลายเป็นหนึ่งในสามสิบหกในอนาคต
ยังไงก็ตาม เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เธอได้รับหลายวันที่ผ่านมา
พูดตามจริงแล้วฉีปู่ฝานเป็นสุภาพบุรุษและหน้าตาหล่อเหลา ยังไงก็ตามเขาเป็นคนที่เหี้ยมโหดและเย่อหยิ่ง เขาเป็นที่นับถือและเป็นเรื่องยากที่จะตีสนิทด้วย
ถ้าเขาไม่ได้เป็นผู้สืบทอดระดับสูงแล้ว เธอคงไล่เขาไปแล้วละ
เพียงแค่เธอกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่มีหน้าตาคุ้นเคยก็ปรากฏตัวขึ้น
“เขามาทำอะไรที่บ้านดอกไม้พระจันทร์กัน?”
กู่ฉินเจิ้งสับสน คนที่ก้าวเข้ามาในบ้านดอกไม้พระจันทร์ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากเฉินเฉิน
เมื่อเห็นเฉินเฉิน กู่ฉินเจิ้งดูซับซ้อนมากมาย เธอเห็นความสามารถในการจัดการธุรกิจของเขาก่อนหน้านี้และเธอรู้สึกกับเขาแตกต่างออกไป
มันเป็นเรื่องที่น่าสงสารที่ฮีโร่มองไปที่ฮีโร่อีกคนหนึ่ง
มันโชคร้ายที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเฉินเฉินที่เป็นผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนจะสนใจมุ่งมั่นกับการทำธุรกิจหอโสเภณี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเธอส่ายหัวและเดินไปหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มประจำตัวของเธอที่อ่อนโยน
“ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนคะ ทำไมท่านถึงมาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์กันคะ? ครั้งนี้ข้าได้เรียนรู้บทเรียนของข้าไปแล้ว ถ้าท่านต้องการจะพักอาศัยแบบๆฟรีแล้ว ข้าจะไม่ยอมค่ะ”
เขาจ้องไปที่กู่ฉินเจิ้งโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าอะไร เฉินเฉินถามออกมาอย่างใจเย็น “ข้ามาหาฉีปู่ฝาน เขาอยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว กู่ฉินเจิ้งเหลือบจ้องไปบนตึกสูง เธอหันกลับไปมองและสังเกตเห็นรอยยิ้มของเธอที่หายไปและเธอถามขึ้น “ผู้สืบทอดคะ ท่านหาฉีปู่ฝานทำไมกันคะ?”
เฉินเฉินตอบกลับอย่างเย็นชา “จัดการเรื่องที่ค้างกันอยู่”
เขาเมินกู่ฉินเจิ้งไป เขาเดินตรงไปยังตึกสูง
“อ๊า! ผู้สืบทอดคะ ได้โปรดรอก่อนค่ะ ฉีปู่ฝานกำลังเฉลิมฉลองอยู่บนชั้นบนสุดพร้อมกับผู้สืบทอดอีกสองคน ท่านรอจัดการเรื่องที่ค้างอยู่กับเขาพรุ่งนี้ไม่ได้หรอคะ? ข้าไม่อยากให้มีปัญหาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์แห่งนี้…”
ในความคิดของเธอแล้ว กู่ฉินเจิ้งต้องการที่จะขวางทางเฉินเฉินไม่ให้เข้าไป ยังไงก็ตามเมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าไป ออร่าที่ยอดเยี่ยมของเธอก็ระเบิดออกจากร่างกายของเขา
เธอสัมผัสได้ถึงออร่ามังกรที่น่าหวาดกลัวรวมกับเจตนาสังหารที่น่าหวาดหวั่น!
เมื่อโดนแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ กู่ฉินเจิ้งตัวแข็งทื่อและไม่กล้าที่จะขยับตัว
แขกที่อยู่รอบเฉินเฉินต่างแข็งทื่อเหมือนกันกับที่เธอรู้สึกถึงออร่านี้ พวกเขารีบหันหลังเดินออกไป แขกในบ้านต่างเดินออกกันทีละคน
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะชดใช้เมื่อเวลามาถึง”
ตึก…ตึก
หลังจากพูดจบ เฉินเฉินเดินขึ้นไปบนบันได ในขณะที่กู่ฉินเจิ้งจ้องมาที่เขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
‘ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนดูแตกต่างไปมาก เขาไม่เหมือนกับสุภาพบุรุษหนุ่มที่เอาแต่ยิ้มอีกแล้ว วันนี้ เขาดูเย็นชา เยือกเย็น เฉยเมยและน่าหวั่นเกรงมาก’
เธอมองเฉินเฉินเดินเข้าไปยังด้านบนของตึก เธอไม่กล้าที่จะหยุดเขาเลยสักนิด ในความเป็นจริงเธอไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมาเลยต่างหาก
ความขัดแย้งกันระหว่างเซียนไม่เหมือนกับการแข่งขันกันระหว่างหอโสเภณี มันไม่ใช่เรื่องที่เธอสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย
…
เฉินเฉินเดินมาถึงบนตึก
มันมีเสียงที่ดังออกมาจากห้องส่วนตัว หนึ่งในนั้นคือเสียงของฉีปู่ฝาน
เสียงของเขาคือสิ่งที่เขาอยากจะได้ยิน
เฉินเฉินเปิดประตูห้องส่วนตัวไปโดยไม่มีความลังเล
ทันใดนั้นเองเสียงดังในห้องก็เงียบลง หญิงสาวมากมายต่างมองไปที่เฉินเฉิน ซึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน
“เฉินเฉิน เจ้ามาทำอะไร? เจ้ามายอมรับความผิดกับข้างั้นเหรอ?”
เมื่อฉีปู่ฝานเห็นเฉินเฉิน มันมีร่องรอยของความประหลาดใจในดวงตาของเธอ
ด้านข้างเขาคือผู้สืบทอดอีกสองคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของขั้นสร้างรากฐาน เขาอยู่อันดับหกและเก้าตามลำดับ พวกเขาต่างหน้าแดงฉานจากการดื่มเหล้า
“ฮ่า ศิษย์พี่ฉี ข้าคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อคุยเรื่องพนันกันละ เขาพนันหนึ่งหมื่นหินวิญญาณไปถ้าเขาชนะ เขาจะได้รับแสนห้า…” หนึ่งในผู้สืบทอดพูดขึ้นด้วยดวงตาที่พร่าเบลอ
ผู้สืบทอดอีกคนหนึ่งพูดตามมา
“ไม่แย่เลย ถ้าศิษย์พี่ฉียอมแพ้พรุ่งนี้ เขาจะทำเงินได้มากเลยละ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ฉีปู่ฝานก็ตระหนักได้
มันเห็นได้ว่าเฉินเฉินวางแผนไว้แล้ว เขาตัดสินใจที่จะลงพนันหนึ่งหมื่นก้อนเพื่อชัยชนะของตัวเอง
‘ฮ่า ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วเขาจะมาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์ทำไมกัน?’
เมื่อมีความคิดนี้ในหัวแล้ว เขาพูดออกมาอย่างเฉยเมย แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความละโมภ “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ได้นะ แต่ข้าขอแสนห้าหมื่นก้อนจากที่เจ้าจะได้รับพรุ่งนี้ อีกอย่างหนึ่งเจ้าต้องลงมาคุกเข่าก้มกราบข้าสามครั้งเพื่อขอโทษกับการยั่วยุข้า..”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาถูกขัดโดยเฉินเฉิน
“ใครคือคนที่ทำร้ายลูกน้องของข้า?”
คำพูดของเขาเย็นชาจนทำให้ผู้สืบทอดสามคนสร่างเมา หนึ่งในผู้สืบทอดปลดปล่อยออร่าออกมาจากร่างกาย
“เป็นข้าเอง ทำไมละ? เจ้าคิดที่จะล้างแค้นให้กับเจ้าขี้แพ้…”
ในจุดนี้เอง ผู้สืบทอดก็เงียบลง เมื่อเฉินเฉินปรากฏขึ้นด้านหน้าเขาอย่างกับภูติผีก่อนจะทะลุผ่านออร่าที่ป้องกันรอบตัวเขามาและบีบคอเขาด้วยข้างหนึ่ง
เฉินเฉินพูดออกมาอย่างเบาบาง “ข้าทำอะไรได้หรือไง? ข้าจะเอาชีวิตเจ้าไปไงละ
พลังปราณระเบิดออกจากมือของเขาและแสงสว่างวาบขึ้นทั่วทั้งห้อง
บึ้ม!