บทที่ 1965+1966

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1965 นี่เขาคิดจะดูดเลือดให้เธอหรือ?!

ด้วยสภาพร่างกายในปัจจุบันของกู้ซีจิ่ว ขอเพียงกินยาถอนพิษทันก็พอแล้ว

ดังนั้นทันทีที่เธอถูกกัด จึงรีบยื่นมือเข้าไปในมิติเก็บของ หมายจะหยิบยาถอนพิษ

ที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ พิษของงูชนิดนี้จะรุนแรงกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้ เพิ่งจะถูกฉกความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้าใส่เธอแล้ว!

ความเจ็บปวดนี้เป็นความเจ็บปวดทางเส้นประสาท ความเจ็บปวดเสมือนถูกมีดกรีดเฉือนจากบาดแผลแล่นพล่านไปทั่วร่างในชั่วพริบตา ตอนนี้มือไม้เธอแข็งทื่อปานท่อนไม้ไปแล้ว ไม่มีความรู้สึก ไม่ทันสัมผัสถูกขวดยาที่บรรจุโอสถถอนพิษงูด้วยซ้ำ

เธอยืนอยู่ตรงนั้น ในใจร้อนรน แต่ยิ่งเธอร้อนรนพิษงูก็ยิ่งแพร่กระจายเร็วขึ้น ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเกินไป ทำให้เบื้องหน้าเธอมืดมัวไปบ้าง

นัยน์ตาพร่าเลือน คนผู้หนึ่งวิ่งมาอยู่ข้างกายเธอ กระชากหน้ากากออกจากใบหน้าเธอ

กู้ซีจิ่วตะลึงงัน ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งก็ถูดยัดใส่ปาก “กลืนลงไป!”

ยาลูกกลอนเม็ดนั้นทั้งขมทั้งคาว กู้ซีจิ่วตัดสินใจในฉับพลัน กินยาลูกกลอนเม็ดนั้นเข้าไป แต่ลำคอกลับค่อนข้างฝืดชา เธอพยายามกลืนลงไปอย่างสุดกำลัง ทว่ายาลูกกลอนเม็ดนั้นกลับติดอยู่บนลิ้น ไม่ยอมกลิ้งลงไป…

“คงไม่ใช่ว่าเจ้าไม่กลัวพิษงูกระมัง?” คล้ายได้ยินเสียงเสินเนี่ยนโม่กัดฟันกระซิบอยู่ริมหู จากนั้นสิ่งนุ่มนิ่มอุ่นร้อนสองกลีบก็ทาบลงบนริมฝีปากเธอ งัดเปิดแนวฟันที่เธอขบไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด จากนั้นสิ่งที่อ่อนนุ่มไร้กระดูกก็แทรกเข้ามา ผลักดันลูกกลอนช่วยชีวิตเม็ดนั้นลงไปในลำคอเธอ…

ต่อมาเธอสัมผัสได้เพียงว่าลำคอเย็นวาบ มีฝ่ามือแตะเข้าที่ลำคอ ในที่สุดยาลูกกลอนเม็ดนั้นก็ไหลลงสู่กระเพาะเธอแล้ว

กินยาเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ออกฤทธิ์ในทันที กู้ซีจิ่วเจ็บปวดจนยืนไม่อยู่แล้ว ถูกผู้อื่นพาให้นอนหงาย คล้ายว่าจะนอนพาดอยู่บนตักของคนผู้หนึ่ง

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะเจ็บปวดจนมึนเบลอ แต่สติสัมปชัญญะของเธอยังแจ่มใส สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่านิ้วมือที่มีแผลถูกฉกของตนโดนคนจับไว้ มีปลายมีดกรีดลงที่ปากแผล มีคนพยายามบีบเลือดพิษออกมาให้เธอ…

ไม่นึกเลยว่าเขาจะจัดการแผลงูกัดได้ชำนาญนัก ความคิดนี้วาบผ่านเข้ามาในสมองของกู้ซีจิ่ว

เธอย่อมทราบดีว่าคนที่กำลังช่วยเหลือเธออยู่ในขณะนี้คือเสินเนี่ยนโม่ เด็กคนนี้ไม่ได้ซ้ำเติมเลย ซ้ำยังลงมือช่วยเหลือเธอด้วย เห็นทีว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับเธอในรูปลักษณ์มากนัก ไม่ได้จดจำความแค้น…

ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังปลื้มใจอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกว่านิ้วมือถูกคนยกขึ้นมา จากนั้นก็ถูกนำเข้าไปในโพรงปากที่นุ่มชุ่มชื้น…

กู้ซีจิ่วตกใจยิ่งนัก!

นี่เขาคิดจะดูดเลือดให้เธอหรือ?! ทำแบบนี้ไม่ได้! พิษของงูนี้ร้ายแรงปานนี้ ถ้าเขาพลาดไปเพียงน้อยก็เป็นไปได้ว่าจะถูกพิษด้วย!

เธอชักกลับมาตามสัญชาตญาณ ฝืนเอ่ยออกมาสองคำ “ไม่ได้…”

แต่เห็นได้ชัดว่าพละกำลังของเธอในตอนนี้สู้อีกฝ่ายไม่ได้ ข้อมือก็ถูกผู้อื่นยึดกุมไว้ เสียงของเสินเนี่ยนโม่ดังขึ้น “เป็นเด็กดีเถอะ อย่าขยับ!”

กู้ซีจิ่วแข็งทื่อทันที สำเนียงเขาราวกับปลอบเด็กเล็กๆ อยู่…

เสินเนี่ยนโม่ดูดพิษให้เธอคำแล้วคำเล่า กู้ซีจิ่วรับรู้ถึงนิ้วมือที่ถูกอีกฝ่ายดูดดุนได้…

มือข้างนั้นเดิมทีทั้งปวดทั้งชา ไม่มีความรู้สึกแล้ว แต่เมื่อพิษถูกดูดออกไป ความรู้สึกบนนิ้วเธอก็เริ่มกลับคืนมา ยามที่นิ้วมือถูกดูดดุนอยู่ในปากเขา ความรู้สึกนั้นยากจะบรรยาย ราวกับมีความรู้สึกจี๊ดๆ สายหนึ่งแล่นผ่านปลายนิ้ว เข้าสู่หัวใจ…

เธอพยายามเมินเฉยต่อความรู้สึกประหลาดนี้ ขณะนี้ยาลูกกลอนที่เธอกลืนลงท้องไปเริ่มออกฤทธิ์แล้ว เส้นประสาทที่เจ็บปวดอย่างรุนแรงบรรเทาลง อาการหนึบชานั้นเลือนหายไปแล้ว

เธอขยับเขยื้อนได้คล่องขึ้น รีบยื่นมือเข้าไปหยิบยาในมิติเก็บของทันที

ยาของเธอคือยาถอนพิษงูโดยเฉพาะ น่าจะค่อนข้างตรงกับอาการ

“อย่าขยับ!” ข้อมือของเธอถูกกุมไว้อีกครั้ง

“ข้าจะหยิบยา…”

“ข้าจะหยิบแทนเจ้าเอง” มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในมิติเก็บของเธอ “อันไหน?”

——————————————————————–

บทที่ 1966 เหตุใดคุณชายอย่างข้าต้องฟังเจ้าด้วย?

มิติเก็บของของกู้ซีจิ่วอยู่เหนือหน้าอกของเธอ ถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่ไวต่อสัมผัส แต่ก็ต้องคลายสาบเสื้อส่วนหนึ่งออก เผยเนินอกกึ่งหนึ่ง…

ร่างกายดั้งเดิมของกู้ซีจิ่วเลิศล้ำยิ่ง ทรวงอกผายงดงาม โค้งนูนสมบูรณ์แบบยิ่ง ต่อให้เป็นเนินอกเพียงกึ่งหนึ่งก็เพียงพอให้คนใจสั่นหวั่นไหวแล้ว

เสินเนี่ยนโม่ต้องการหยิบยาให้ นิ้วมือจึงแตะถูกหน้าอกครึ่งบนของเธออย่างไม่อาจหลบเลี่ยงได้

ผิวพรรณนวลเนียนปานหยก อุ่นร้อนดุจขนมแป้งกรอบ ฝ่ามือของเสินเนี่ยนโม่แข็งทื่อไปเล็กน้อย เพียงแต่มิได้ชักกลับ ยื่นล้วงเข้าไปในมิติเก็บของของนาง “ขวดไหน?”

ในมิติเก็บของนางมีขวดโหลมากมายเกินไป ต่อให้เสินเนี่ยนโม่รู้วิชาแพทย์ แต่ก็มองไม่ออกทันทีว่าขวดใบไหนถึงจะใช่โอสถที่นางต้องการ

“หยกแดง…ขวดหยกแดงกับขวดหยกฟ้า”

ในที่สุดยาก็ถูกหยิบออกมาแล้ว ขณะที่เสินเนี่ยนโม่ชักมือกลับมาได้ก็ถือโอกาสจัดการสาบเสื้อนางให้เรียบร้อย

โอสถนั้นมีทั้งยาใช้ภายในและยาใช้ภายนอก…

หลังจากใช้ยาเรียบร้อยแล้ว กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งออก ความเจ็บปวดบนร่างเธอทุเลาลงแล้ว เบื้องหน้าก็ไม่มืดมัวอีกต่อไป จึงฝืนลุกขึ้นนั่ง เริ่มเข้าฌานแล้ว

พิษของงูชนิดนี้จะกัดกร่อนเส้นประสาทของมนุษย์ เมื่อครู่พิษนั้นออกฤทธิ์เร็วเกินไป ถึงแม้เสินเนี่ยนโม่จะดูดพิษส่วนใหญ่ออกให้เธอแล้ว แต่ในร่างกายก็ยังมีพิษตกค้างอยู่

ผ่านไปหนึ่งเค่อ ปลายนิ้วของกู้ซีจิ่วก็มีหยาดพิษสีม่วงอ่อนขับออกมาอีกครั้ง เธอลืมตาขึ้น สิ่งที่มองดูก็คือปลายนิ้วที่ขาวเนียนของตน

ร่างของเธอปราศจากพิษแล้ว!

เธอถอนหายใจโล่งอก สายตาร่อนลงบนร่างเสินเนี่ยนโม่ที่อยู่ไม่ไกล เขากำลังจัดการงูที่เหลืออยู่พวกนั้น…

วิธีจัดการของเขาหยาบกร้านยิ่งนัก สังหารให้หมดเสียเลย!

กู้ซีจิ่วตะลึงงัน

เหตุผลที่เธอต้องการจับงูพวกนี้ เพื่อนำไปหลอมโอสถ เพราะการหลอมโอสถก็มีอยู่หลายครั้งที่ต้องใช้พิษงูด้วย กล่าวอีกอย่างก็คือ มีเพียงงูที่ยังเป็นๆ อยู่ถึงจะรีดพิษจากพวกมันได้ ตอนนี้ถูกฆ่าหมด ย่อมใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว…

น่าเสียดายเหลือเกิน!

กู้ซีจิ่วกลอกตาแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็พบว่าไม่ไกลจากข้างกายของเสินเนี่ยนโม่มีงูตัวหนึ่งกำลังดิ้นอยู่ งูตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่!

เสินเนี่ยนโม่ยื่นมือออกไปหมายจะทำบางอย่าง กู้ซีจิ่วโผเข้าไปทันที “ปล่อยงูไป! ข้าต้องการแบบเป็นๆ”

ถึงอย่างไรร่างกายเธอก็เพิ่งฟื้นฟู การเคลื่อนไหวอย่างฉับไวไม่เท่าเสินเหนี่ยนโม่ เธอพุ่งเข้าใส่ความว่างเปล่า เสินเนี่ยนโม่ที่ถืองูตัวนั้นอยู่ถอยห่างออกไปหนึ่งจั้งปานธารไหลริน

งูตัวนั้นบิดอยู่ในมือเขา มือเขาสั่นไหวคราหนึ่ง งูกตัวนั้นก็ยืดตรงแน่วแล้ว

ชัดเจนยิ่งนัก ถูกเขาฆ่าไปแล้ว

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน “ข้าบอกว่าต้องการแบบเป็นๆ ไง!”

เสินเนี่ยนโม่เลิกคิ้ว “เหตุใดคุณชายอย่างข้าต้องฟังเจ้าด้วย?”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกแล้ว

ช่างเถอะ ถึงอย่างไรเขาก็ช่วยชีวิตไว้ ซ้ำยังเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง เธอจะไม่ถือสาหาความเรื่องนี้กับเขาแล้วกัน

เธอกวาดตามองงูที่เสินเนี่ยนโม่ฆ่าไว้เต็มพื้น ไม่น่าเชื่อว่างูจะถูกเรียงเป็นวงกลม ตัวที่มีรูปแบบและลวดลายเหมือนกันถูกจัดวางไว้ด้วยกัน

ไม่จำเป็นต้องถามเลย นี่คือผลงานของเสินเนี่ยนโม่

เด็กคนนี้…

เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจริงๆ กระมัง?

ในบรรดางูเหล่านี้ไม่มีตัวนั้นที่เธอกำลังตามหา ยังคงต้องค้นหาต่อไป

กู้ซีจิ่วไม่สนใจซากงูพวกนั้นอีก สาวเท้าก้าวไปด้านหน้า “พวกเราต้องหาต่อไป งูดอกท้อตัวนั้นไม่ได้อยู่ในบรรดานี้ ใช่แล้ว ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อนเลย งูดอกท้อตัวนั้นต้องจับแบบเป็น ตายแล้วก็ใช้การไม่ได้ พวกศิษย์น้องของเจ้าอาจจะช่วยเหลือไว้ไม่ได้”

เสินเนี่ยนโม่มองแผ่นหลังนาง แววตาซับซ้อน เขาคิดว่านางจะหงุดหงิด คาดไม่ถึงว่าสงบนิ่งปานนี้

ชัดเจนยิ่งนักว่านางเห็นเขาเป็นเด็กน้อย ดังนั้นจึงไม่เอาเรื่องเอาราวกับเขา…

นิ้วมือที่อยู่ในแขนเสื้อของเขาพลันกำเข้าหากันนิดๆ ยังคงก้าวตามไป

“ครั้งนี้ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้” เสินเนี่ยนโม่เอ่ยขึ้น

“ใช้ ข้าติดค้างหนี้น้ำใจของเจ้า เช่นนั้นเจ้ายังอยากให้ข้าเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่อยู่หรือไม่?” กู้ซีจิ่วนึกถึงเงื่อนไขที่เขาเสนอขึ้นมาก่อนหน้านี้

“ไม่ต้อง” น้ำเสียงเสินเนี่ยนโม่เฉยชา พลันยื่นมือข้างหนึ่งออกมาหาเธอ สายตาของกู้ซีจิ่วจ้องนิ่งอยู่ที่ข้อมือเขากำไลวงหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น “ถอดกำไลวงนี้ให้ข้า!”

เสินเนี่ยนโม่ยื่นข้อเรียกร้อง

———————————-