บทที่ 875 : ที่แท้ก็หึง!
  “นั่น..พวกมันหายตัวได้หรือยังไง! แค่เดี๋ยวเดียวก็มองไม่เห็นพวกมันสองคนแล้ว!”
  คนงานร่างผอมที่นั่งอยู่กับพื้นจ้องมองหลี่ยี่กับเจียวเฟยด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดและร้องตะโกนออกมาอย่างตกอกตกใจ
  หัวหน้าคนงานแซ่หวังยังคงนั่งกองอยู่กับพื้นเขายกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบไล้ข้อมืออีกข้างไปมาเบาๆ พร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก
  หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่..สมองของหัวหน้าหวังจึงเริ่มทำงาน และรีบร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
  “ใช่แล้ว!มันก็คือ.. โชคดีที่มันแค่ทำร้ายฉันนิดหน่อย!”
  หัวหน้าหวังคิดได้ทันทีว่าหลี่ยี่นั้นน่าจะหลบหนีการไล่ล่าของศัตรู แล้วเปลี่ยนชื่อเข้ามาขอทำงานกับเขาอย่างแน่นอน และเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองเคยทำตัวแย่ๆ กับหลี่ยี่มาก่อนหน้านี้ หัวหน้าหวังก็ถึงกับสันหลังเย็นวาบขึ้นมาทันที..
  จากนั้นหัวหน้าหวังก็หันไปถามคนงานหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่กับพื้นเช่นกัน“เสียวหลี่.. แกถูกมันเตะเข้าไปเหมือนกัน ไม่เป็นอะไรมากใช่มั๊ย”
  เสียวหลี่นั้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงและเวลานี้เขาก็นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด และเหงื่อเม็ดโป้งก็กำลังไหลออกมาเต็มหน้าผาก
  เวลานี้ต้นขาของเสียวหลี่ได้ปูดขึ้นมาขนาดเท่าหัวมันและเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง ดูแล้วน่าสยดสยองอย่างมาก..
  หลี่ยี่นั้นถูกฝึกมาให้เป็นมือสังหารขององค์กรนักฆ่าจึงสามารถฆ่าคนให้ตายได้ในทันที ดังนั้นเสี่ยวหลี่คงจะต้องเจ็บปวดไปอีกหลายวัน แต่เพียงเจ็บปวดแค่นี้ก็นับว่าบุญของเสี่ยวหลี่มากแล้ว!
  “มะ..ไม่! ขาของฉันไม่ถึงกับหัก แต่ก็คงทำงานไม่ได้สักหนึ่งอาทิตย์”
  หัวหน้าหวังเองก็ดีใจไม่น้อยที่แขนของตนเองไม่หักเขาพูดขึ้นพร้อมกับมองข้อมือที่บวมแดงของตนเอง
  “เอาล่ะ..ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว! ต่อไปฉันก็คงไม่กล้าซี้ซั้วรังแกใครอีกแล้ว..”
  พวกเขาต่างก็เป็นแค่คนงานก่อสร้างที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำต่อให้ถูกข่มเหงรังแก หรือถูกทุบตี พวกเขาก็ยังเลือกที่จะอดทนอยู่ต่อไป
  …………….
  ท่ามกลางพายุฝนที่กระหน่ำลงมาหลี่ยี่กับเจียวเฟยต่างก็เดินลุยโคลนเคียงข้างกันออกจากไซท์งานก่อสร้างไป และเดินมุ่งหน้าไปทางด้านใต้ของแม่น้ำจิงฉู
  แต่หลังจากเดินไปได้สักพัก..เจียวเฟยก็หยุด และจัดการหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นจึงหยิบซิมราคาถูกที่ซื้อมาจากร้านค้าข้างถนนใส่ลงไปในโทรศัพท์มือถือ
  หลี่ยี่เองก็ทำเช่นเดียวกันกับเจียวเฟยเขาทิ้งซิมเก่าไป และจัดการใส่ซิมใหม่ลงไปในโทรศัพท์มือถือแทน
  ตลอดสามเดือนที่ผ่านมานั้นทั้งสอบคนยังคงติดต่อกันอยู่อย่างสม่ำเสมอ เจียวเฟยจึงสามารถหาตัวหลี่ยี่พบได้อย่างง่ายดาย
  ในการเป็นนักฆ่ามืออาชีพนั้นสิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้ก็คือการซ่อนตัว หลังจากที่ทั้งคู่ลงจากเขามังกรมาแล้ว คนหนึ่งก็ไปทำงานอยู่ในไซท์งานก่อสร้างที่มักจะเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ ส่วนอีกคนก็ไปทำงานอยู่ในโรงฆ่าสัตว์ ฆ่าหมูฆ่าแกะไปวันๆ ทั้งคู่ต่างก็เปลี่ยนชื่อ แต่ยังคงซ่อนตัวเอยู่ในเมืองจิงฉู และนับว่าโชคดีที่ทั้งสองคนไม่พบเจอกับศัตรูของตนเอง และไม่พบเจอกับคนขององค์กรนักฆ่า
  เจียวเฟยเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน“หลิงหยุนไม่ได้หลอกพวกเรา.. เมื่อคืนจู่ๆ ข้าก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องน้อยราวกับถูกมีดทิ่มแทง..”
  หลี่ยี่ที่นิ่งเงียบมาตลอดทางในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “ข้าเองก็เหมือนกัน.. วันนี้ตอนกลางวันก็รู้สึกเจ็บปวดหน้าอกอย่างมาก..”
  เจียวเฟยจ้องมองแม่น้ำที่คดเคี้ยวแววตาของเขายังคงเย็นชา แต่ก็ยากที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกเศร้าเมื่อนึกถึงจุดจบของตนเองได้ และจู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
  “การที่เราสองคนคิดจะฆ่าหลิงหยุนนั้นช่างเป็นความคิดที่น่าขันมากจริงๆ!”
  หลี่ยี่ยังคงเงียบสนิท..
  “เจ้าว่าหลิงหยุนจะยอมคลายจุดให้กับเราสองคนหรือไม่”
  เจียวเฟยหันไปมองหลี่ยี่และภายในสายตาที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลานั้น ก็ปรากฏร่องรอยของความหวังที่ถึงแม้จะดูริบหรี่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขายังมีความหวังที่จะได้ยินคำตอบที่เป็นบวกจากหลิงหยุน
  ขนาดมดตัวเล็กๆมันยังรักชีวิตของมัน แล้วมนุษย์ที่ใหนบ้างเล่าที่จะไม่รักชีวิต และอยากจะตาย
  หลี่ยี่ยังคงนิ่งไม่ตอบอะไรอีกเช่นเคยเจียวเฟยจึงหัวเราะออกมา “แต่ข้าว่าหลิงหยุนน่าจะยอมคลายจุดให้พวกเรา เพราะในสายตาของหลิงหยุน พวกเราก็เป็นแค่มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น..”
  “แต่ข้าเองก็ได้คิดไว้แล้วหากหลิงหยุนไม่ยอกคลายจุดให้ข้าจริงๆ ก็จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข!”
  ในที่สุดหลี่ยี่ก็ลืมตาขึ้นมองเจียวเฟยและพึมพำเสียงเบา..
  “ไม่รู้ว่ามือสไนเปอร์อีกสี่คนจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่นะ!”
  เจียวเฟยทำเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง“แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่จะรอดหรือไม่ ยังจะมีใจไปคิดถึงคนอื่นอีก.. น่าเบื่อจริงๆ! ไปกันได้แล้ว คืนนี้ข้ามีที่ซุกหัวนอนแล้ว นอนค้างคืนหนึ่งกัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปหาหลิงหยุน!”
  หลี่ยี่เพียงแค่พยักหน้า..จากนั้นสองนักฆ่าที่สิ้นหวังก็เดินไปลุยโคลนไปตามฝั่งแม่น้ำจิงฉู
  แม้สายฝนจะค่อยๆเบาลง แต่ก็ยังคงมีลมเย็นยะเยือกพัดมาเรื่อยๆ
  …………
  เวลานี้..ถนนกว้างใหญ่ในเมืองจิงฉูหลายสาย มีน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า
  รถหรูสีฟ้าค่อยๆเคลื่อนตัวไปตามถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ และในที่สุดก็จอดนิ่งสนิท เพราะไม่สามารถไปต่อได้
  “นี่น่ะเหรอถนนเมืองจิงฉูฝนตกหนักหน่อยก็ท่วมแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เมืองจิงฉูทำอะไรกันอยู่!”
  ภายในรถสีฟ้า..ใบหน้างดงามของหลินเมิ่งหานนั้นทั้งแดงก่ำ และเปื้อนไปด้วยน้ำตา มือทั้งสองข้างจับอยู่ที่พวงมาลัย เธอกำลังร้องไห้ด้วยความโมโห
  “พี่หลิน..อย่าโกรธสามีเลยนะคะ!”
  เหยาลู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับนั้นค่อยๆ ปลอบปะโลมหลินเมิ่งหานให้คลายความโมโห
  เหยาลู่วิ่งตามหลินเมิ่งหานมาตั้งแต่หน้าลิฟท์และจนถึงตอนนี้ ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้หลินเมิ่งหานโกรธมากขึ้นเท่านั้น
  “จะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไงพวกเรานั่งอยู่ในงานทั้งคืน แต่หลิงหยุนแทบไม่พูดด้วยแม้แต่คำเดียว แต่พอได้พบหน้ากัน หลิงหยุนพูดจากับเราสองคนเพียงไม่กี่คำ ก็รีบไล่พวกเราสองคนกลับบ้าน หลิงหยุนทำแบบนี้กับพวกเราได้ยังไงกัน?”
  หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นหญิงสาวที่หลิงหยุนร่วมเรียงเคียงหมอนมาด้วยแล้วทั้งคู่ ความคิดของทั้งสองคนที่มีต่อหลิงหยุนนั้น จึงแตกต่างจากความคิดของหลงหวู่ เกาเฉินเฉิน และหญิงสาวคนอื่นๆ
  ก่อนที่จะมีการสอบเอนทรานซ์นั้นหลิงหยุนก็ได้ไปกว้านซื้อหินพลังชีวิตจากตลาดค้าของเก่ามาจนหมด เพื่อที่จะเตรียมตัวฝึกวิชาหยางพิสุทธิ์ ตั้งแต่ครั้งนั้นมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ หลิงหยุนก็ยังไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวหลินเมิ่งหานเลยแม้แต่น้อย เช่นนี้แล้วจะไม่ให้หลินเมิ่งหานเป็นทุกข์ใจได้อย่างไรเล่า
  ตั้งแต่ที่หลิงหยุนเดินทางไปปักกิ่งหลินเมิ่งหานก็เฝ้าคิดถึงเขาทุกวันทุกคืน และรอคอยว่าเมื่อไหร่จะได้อยู่ร่วมเรียงเคียงคู่กับเขาอีกครั้ง และในที่สุดหลิงหยุนก็กลับมา เธอจึงได้แต่หวังว่าคืนนี้จะได้กลับบ้านพร้อมหลิงหยุน และได้อยู่กับเขาสองต่อสองให้หายคิดถึง!
  อย่าว่าแต่หลินเมิ่งหานจะคิดเช่นนั้นแม้แต่เหยาลู่เองก็คิดเช่นกัน!
  แต่กลับคิดไม่ถึงว่า..หลังจากหลิงหยุนพูดจากับเธอเพียงแค่สองสามคำ ก็จะไล่พวกเธอสองคนกลับบ้าน จากความคาดหวังเปลี่ยนเป็นความผิดหวังในทันที เช่นนี้แล้ว.. หลินเมิ่งหานจะรับได้อย่างไรกัน
  ส่วนเหยาลู่นั้นเป็นคนหัวอ่อนและเชื่อฟังหลิงหยุนเสมอ เธอจึงสามารถรับได้! แต่หลินเมิ่งหานนั้นไม่ใช่.. เธอเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ จึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้!
  “เหยาลู่..เธอเห็นเด็กสาวในงานคืนนี้มั๊ย แต่ละคนก็ยังเด็กๆทั้งนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่หน้าตาสวยงาม ไม่รู้ว่าคืนนี้หลิงหยุนจะพาใครกลับไปบ้านด้วย!”
  ยิ่งพูด..หลินเมิ่งหานก็ยิ่งโมโหมากขึ้น! ระหว่างที่พูดไป เธอก็ร้องไห้ไปด้วย เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังผิดหวังอย่างที่สุด!
  หลินเมิ่งหานไม่เพียงคิดถึงหลิงหยุนเท่านั้นแต่เธอยังคิดถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่ได้ทำร่วมกันบนเตียง เธอจึงหวาดกลัวว่าเด็กสาวเหล่านั้นจะยิ่งเกาะติดหลิงหยุนไม่ยอมไปใหน..
  พวกเธอทุกคนต่างก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันหลินเมิ่งหานเองก็อาบน้ำร้อนมาก่อน มีหรือที่เธอจะไม่เข้าใจจิตใจของหลงหวู่กับเกาเฉินเฉิน
  และนี่คือสัญชาติญาณความหึงหวงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคน!
  ในที่สุดเหยาลู่ก็เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหลินเมิ่งหานจึงต้องโกรธมากมายถึงเพียงนี้เธอยิ้มพร้อมกับพูดจาหยอกเย้าหลินเมิ่งหาน
  “ที่แท้พี่หลินก็หึงหลิงหยุนนี่เอง..”
  ใบหน้าของหลินเมิ่งหานแดงมากยิ่งขึ้นแล้วหันไปมองเหยาลู่ทั้งน้ำตาพร้อมกับพูดเสียงขึ้นจมูก
  “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่หึงหลงหวู่ไม่หึงเกาเฉินเฉิน แล้วก็หนิงน้อย!”
  “หึงสิ!”
  เหยาลู่ยอมรับและรีบพูดต่อทันที “แต่พี่หลินคะ.. หึงแล้วยังไง”
  “พี่คิดว่าพี่จะสามารถควบคุมสามีได้งั้นเหรอหรือพี่สามารถสั่งเด็กสาวพวกนั้นให้หยุดวิ่งตามหลิงหยุนได้หรือเปล่าล่ะ?”
  หลินเมิ่งหานถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ฟังคำพูดของเหยาลู่เธอกัดริมฝีปากนิ่ง และใคร่ครวญอย่างละเอียด ท้ายที่สุดเธอก็เหมือนกับลูกบอลที่ถูกปล่อยลมจนแฟบ และไม่พูดอะไรอีก..
  ใช่แล้ว!เธอไม่สามารถห้ามทั้งสองฝ่ายได้จริงๆ!
  “ผู้ชายเจ้าชู้!”หลินเมิ่งหานได้แต่กัดฟันกรอด
  เหยาลู่ยิ้มและพูดต่อทันที“พี่หลิน.. เราทั้งคู่ต่างก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับเฉิงเม่ยเฟิงดี และหากหลิงหยุนไม่ใช่คนเจ้าชู้แบบนี้ เราสองคนจะมีโอกาสแบบนี้เหรอ”
  “เอ่อ..”
  หลินเมิ่งหานเองก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปและพูดอะไรไม่ออก..
  หลินเมิ่งหานนั้นยิ่งรู้ดีกว่าใครๆหากไม่ใช่เพราะเฉิงเม่ยเฟิงหายตัวไป เธอเองก็คงจะไม่ได้เป็นหญิงสาวคนแรกของหลิงหยุนอย่างแน่นอน แต่จะต้องเป็นเฉิงเม่ยเฟิง..
  หลินเมิ่งหานตอบกลับอย่างโมโห“นี่.. เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็กโง่! เธอแก้ตัวแทนหลิงหยุนแบบนี้ ไม่กลัวเหรอว่าคืนนี้เขาจะกลับบ้านไปพร้อมกับเด็กสาวพวกนั้น”
  เหยาลู่แสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วพูดต่อว่า “ก็ถ้าพี่หลินกลัว.. แล้วพี่รีบออกมาจากงานเลี้ยงทำไมล่ะ ถ้าเป็นฉันนะ.. ฉันจะนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปใหน? เพราะท้ายที่สุด.. ถ้าสามีจะเลือกใคร ทั้งสองฝ่ายก็มีโอกาสเท่าๆ กันไม่ใช่เหรอ?”
  หลินเมิ่งหานถึงกับอึ้งไปเธอรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วหันไปทางเหยาลู่ “เด็กบ้า.. ทำไมเธอถึงไม่รีบบอกฉันเร็วกว่านี้!”
  เหยาลู่ยิ้มและตอบไปว่า“ฉันก็กำลังจะบอก แต่พี่หลินก็วิ่งออกมาก่อน ฉันก็เลยไม่มีโอกาสน่ะสิ!”
  หลินเมิ่งหานรู้สึกผิดและนึกเสียดายขึ้นมาทันทีและแทบอยากจะเลี้ยวรถกลับไปที่โรงแรมไคเฉวียนเดี๋ยวนี้
  “แต่พี่หลินไม่ต้องกังวลใจไปหรอกน่า!พี่ทั้งเซ็กซี่ยั่วยวน ยังไงสามีก็ต้องเลือกมาหาพี่อยู่ดีล่ะ! ”
  ระหว่างที่พูดปลอบใจหลินเมิ่งหานนั้นเหยาลู่ก็แกล้งเอื้อมมือซ้ายออกไปลูบไล้หน้าอกของหลินเมิ่งหาน..!
  “ยายเด็กบ้า!”novel-lucky
บทที่ 876 : มารน้อยปรากฏตัว!
  หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งและความสูงของนางนั้นก็ดูเหมือนจะพอๆกับหลงหวู่ หญิงสาวผู้นี้อยู่ในชุดสีดำที่มีผ้าคลุมหน้าซึ่งตัดจากผ้าชิ้นเดียวกับชุด เห็นได้ชัดว่าชุดกระโปรงสีดำนี้ถูกตัดมาเป็นพิเศษ จึงเข้ารูปกับเรือนร่างที่งดงามของผู้สวมใส่ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ..
  ชุดกระโปรงสีดำปลิวสะบัดร่างของหญิงสาวชุดดำคล้ายกำลังยืนอยู่บนผิวน้ำที่กำลังเจิ่งนองอยู่บนพื้นถนน และดูเหมือนไม่กลัวที่จะหล่นลงไปในน้ำ แม้แต่ฝ่าเท้าสีขาวราวหิมะที่โผล่พ้นจากชายกระโปรง ก็ยังดูงดงาม..
  ผมยาวดำราวกับน้ำตกนั้นปลิวสะบัดไปตามสายลม แต่ที่น่าแปลกก็คือว่าถึงแม้ฝนจะตกหนักเพียงใด แต่เม็ดฝนก็ไม่สามารถตกต้องเรือนร่างของนางได้เลยแม้แต่น้อย ตลอดทั่งทั้งร่างตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ก็ไม่มีร่องรอยของหยดน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว!
  และสิ่งที่สะดุดตามากที่สุดของหญิงสาวผู้นี้ก็คือดวงตากลมโตเป็นประกายสีดำคู่นั้นช่างเป็นดวงตาที่มีเสน่ห์ดึงดูด และน่าหลงใหลยิ่งนัก!
  หากหลิงหยุนอยู่ที่นี่ด้วยเพียงแค่เห็นชุดที่หญิงสาวสวมใส่ และดวงตาคู่นั้นของนาง เขาก็จะต้องรู้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากธิดาพรรคมารนั่นเอง!
  จู่ๆธิดาพรรคมารก็ปรากฏตัวขึ้น และลอยอยู่เหนือผิวน้ำราวกับเทพธิดาที่ล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรคื
  ก๊อก..ก๊อก..
  ทั้งหลินเมิ่งหานและเหยาลู่ที่มัวแต่หยอกเย้ากันจนไม่รู้ว่าธิดาพรรคมารนั้นได้มาถึงที่รถของตนเองแล้ว และเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกรถ ทั้งคู่ก็รีบหันไปมองพร้อมกัน
  “ว้าย!!”
  ทันทีที่เหยาลู่เห็นเงาดำอยู่ด้านนอกรถด้วยสัญชาติญาณ.. เธอจึงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ!
  ธิดาพรรคมารโน้มตัวมาด้านหน้าพร้อมกับจ้องมองหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่ผ่านทางกระจกจากนั้น.. เสียงหัวเราะที่กังวานใสราวกับเสียงระฆังก็ดังขึ้น ตามมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
  “สาวสวยทั้งสองคน..ข้างนอกฝนตกหนักมาก ขอข้าเข้าไปหลบฝนในรถด้วยได้หรือไม่”
  หลังจากที่เห็นธิดาพรรคมารปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่างอย่างเงียบๆหลินเมิ่งหานเองก็รู้สึกตกใจ แต่เพราะเธอเองก็เคยฝึกกับหน่วยรบพิเศษมา จึงมีจิตใจที่แข็งแกร่ง และไม่ตกใจง่ายเหมือนเหยาลู่ และรีบข่มใจให้สงบลงในทันที
  “ผู้หญิงสวมผ้าคลุมหน้างั้นเหรอ!”
  นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์จีนกำลังภายในจู่ๆกลางค่ำกลางคืน และฝนตกหนักอย่างนี้ แต่กลับมีหญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้ามาเคาะกระจกรถ..
  หลินเมิ่งหานแทบไม่ต้องคิดอะไรก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเธอทั้งคู่กำลังพบเจอปัญหาเข้าแล้ว!
  ที่หลิงหยุนให้เธอกับเหยาลู่ฝึกฝนวิชานั้นก็เพื่อให้พวกเธอสามารถป้องกันตัวเองได้ และในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้!
  หลินเมิ่งหานรีบหันกลับไปมองเหยาลู่ทันทีและเพียงแค่มองตากัน หลินเมิ่งหานก็เข้าใจว่าเหยาลู่นั้นกำลังคิดอะไร จากนั้นเธอจึงหันไปพูดกับธิดาพรรคมารว่า..
  “ขอโทษด้วย!คือพวกเราไม่..”
  ดวงตากลมโตของธิดาพรรคมารเป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่งพร้อมกับพูดสวนขึ้นทันที “หากเจ้าไมเปิดประตูให้ข้าดีๆ ข้าก็จะเข้าไปนั่งข้างในด้วยตัวเอง!”
  เข้ามานั่งในรถทั้งที่ไม่เปิดประตูให้น่ะเหรอ!หลินเมิ่งหานถึงกับอึ้งไป และได้แต่แอบคิดว่า อย่าบอกนะว่านางจะพังประตูรถเข้ามา!
  หลินเมิ่งหานรีบสตาร์ทรถและร้องบอกเหยาลู่ให้รีบโทรหาหลิงหยุน..
  ปัง!!
  แต่จู่ๆหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่ก็ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ และหยุดสิ่งที่กำลังจะทำทันที หญิงสาวทั้งสองคนหันไปมองกลับไปมองด้านหลัง และพบว่าประตูหลังด้านซ้ายได้หายไป และร่างงดงามนั้นก็ได้ขึ้นมานั่งที่เบาะหลังรถเรียบร้อยแล้ว!
  “หึ!ผู้หญิงของหลิงหยุนนี่ฉลาดไม่เบาเลยทีเดียว!”
  ธิดาพรรคมารยิ้มออกมาพร้อมกับเสียงกังวานใสก็ดังขึ้นด้วยนางจ้องมองเรือนร่างงดงามทั้งสองคนที่กำลังสั่นเทิ้ม และตกตกตะลึงของหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่!
  ธิดาพรรคมารนั้นเก่งกาจอย่างที่หาใครเทียบได้ยากและแม้แต่หลิงหยุนเองก็ยังไม่อาจสู้นางได้ จึงแทบไม่ต้องพูดถึงสองสาวที่เพิ่งอยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9
  “หากพวกเจ้าสองคนไม่อยากเจ็บปวดก็จงตามข้าไปแต่โดยดี! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้ายที่ต้องทำลายหน้าอกใหญ่โตของเจ้าล่ะ ถึงตอนนั้นเจ้าจะไม่เหลืออะไรไว้ดึงดูดหลิงหยุน..”
  ธิดาพรรคมารพูดไปก็หัวเราะคิกคักไปด้วยและเริ่มเปิดฉากคุยกับสองสาวในรถ..
  “นี่เธอ!”
  หลินเมิ่งหานที่เตรียมจะจู่โจมนั้นชะงักไปทันทีจึงเปลี่ยนเป็นถามกลับไปว่า “คุณเป็นใคร ในเมื่อคุณรู้จักเราสองคนดี ก็ต้องรู้ว่าสามีของพวกเราแข่งแกร่งแล้วก็แค่ใหน? คุณไม่กลัวว่าเขาจะตามมาพบหรือยังไง?”
  หลินเมิ่งหานถามขึ้นเพื่อถ่วงเวลาและรอให้เหยาลู่หายจากอาการตกใจ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเธอ อีกทั้งหลินเมิ่งหานยังต้องการรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายด้วย!
  แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคำพูดของหลินเมิ่งหานจะทำให้น้ำเสียงของธิดาพรรคมารเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที!
  “สามี..สามี.. เรียกได้อย่างสนิทปากเชียวรึ! เจ้ากับหลิงหยุนเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่เมื่อไหร่? หน้าไม่อาย! ขืนเจ้ายังเรียกเขาว่าสามีต่อหน้าข้าอีกล่ะก็ ข้าจะฉีกปากเจ้าซะ!”
  “ข้าจะบอกอะไรให้!หญิงสาวคนใหนก็ตามที่กล้าเข้าใกล้หลิงหยุน ข้าจะจับพวกนางมาทีละคน แล้วจัดการกรีดใบหน้าของพวกนาง หรือไม่ก็วางยาพวกนางให้หมด ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถึงตอนนั้นหลิงหยุนยังจะต้องการพวกนางอีกหรือไม่”
  “ลงมือ!”novel-lucky
  จู่ๆเหยาลู่ก็ร้องออกมา พร้อมกับบิดตัวและซัดฝ่ามือเข้าใส่ธิดาพรรคมารทันที!
  หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่นั้นเข้าขากันได้เป็นอย่างดีและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลินเมิ่งหานก็หันไปฟาดฝ่ามือขวาที่มีไอเย็นใส่ธิดาพรรคมารเช่นกัน
  “พี่หลิน!”
  “หนีเร็ว!”
  แต่แน่นอนว่าหญิงสาวทั้งสองคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของธิดาพรรคมาร..
  หลังจากที่ได้ซัดฝ่ามือใส่ธิดาพรรคมารแล้วทั้งคู่ก็รีบเปิดประตูรถ และเตรียมตัวที่จะกระโดดหนีทันที
  แต่กลับคิดไม่ถึงว่า..ไม่ว่าทั้งคู่จะพยายามมากเพียงใด ก็ไม่สามารถกระโดดลงจากรถได้ และนี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าฝีมือของพวกเธอยังห่างชั้นจากธิดาพรรคมารมากเพียงใด
  ทั้งหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่ได้แต่ตกใจจนแทบช็อคเมื่อรู้สึกว่าร่างของตนเองนั้นคล้ายถูกดูดเข้าไปอย่างน่าหวาดผวา อย่าว่าแต่จะกระโดดลงรถเลย แม้แต่จะโน้มตัวไปข้างหน้ายังทำไม่ได้เลย!
  นี่มันวิชาอะไรกันและกำลังภายในระดับใหนกัน!
  “ฮ่า..ฮ่า..”
  ธิดาพรรคมารหัวเราะอีกครั้งจนหน้าอกทั้งสองข้างกระเพื่อม“คราวนี้พวกเจ้าทั้งสองคนจะขับรถไปดีๆ หรือจะต้องให้ข้าจัดการกับเจ้าเสียก่อน!”
  หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่หันไปมองหน้ากันและต่างก็เห็นแววตาสิ้นหวังในดวงตาของกันและกัน จากนั้นจึงค่อยๆดึงประตูรถปิดกลับมาเช่นเดิม..
  ความแข็งแกร่งของพวกเธอทั้งสองคนยังห่างไกลจากหญิงสาวชุดดำนักหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่จึงไม่มีทางเลือก และได้แต่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ไม่เช่นนั้นพวกเธอสองคนคงจะถูกฆ่าตายแน่!
  มาถึงตอนนี้..หลินเมิ่งหานจึงได้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงเอาแต่ฝีกฝนอย่างบ้าคลั่ง และเอาแต่จะพัฒนาระดับกำลังภายใน และความแข็งแกร่งของตนเอง!
  “ทำไมจะต้องจับพวกเราสองคนด้วย”
  หลินเมิ่งหานต้องการถ่วงเวลาและคาดหวังว่าจะมีคนหรือรถผ่านมาทางนี้บ้าง จะได้ขอให้คนช่วยเรียกตำรวจให้
  ธิดาพรรคมารตอบกลับไปยิ้มๆ“เจ้าบอกข้าเองไม่ใช่รึว่าเจ้าเป็นผู้หญิงของหลิงหยุน!”
  จากนั้นจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เอาล่ะ.. เลิกถ่วงเวลาข้าได้แล้ว! ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครช่วยพวกเจ้าสองคนได้แน่!”
  เสียงของธิดาพรรคมารดังขึ้นอีกครั้ง“พวกเจ้าสองคนรีบออกรถไปได้แล้ว..”
  หลินเมิ่งหานขมวดคิ้วพร้อมกับตอบไปว่า“ข้างหน้าน้ำท่วมสูง รถไปไม่ได้!”
  ธิดาพรรคมารตอบกลับมาทันที“ใครบอกจะให้เจ้าขับไปข้างหน้าเล่า เลี้ยวรถ แล้วตรงไปทางตะวันตก!”
  …………
  เวลาเที่ยงคืน..ชั้นสามของโรงแรมไคเฉวียน..
  หลิงหยุนและเพื่อนๆอีกร้อยกว่าคนยังคงอยู่ที่นั่น บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความสุข
  ทุกคนกินดื่มกันตลอดเวลาและดูเหมือนหลายคนจะเมามายมากเสียด้วย ขวดเหล้า และขวดไวน์วางเกลื่อนกลาดอยู่เต็มห้องจัดเลี้ยง
  หลังจากที่กงเสี่ยวลู่ออกมาจากห้องของฉางหลิงก็ตรงมายังห้องจัดเลี้ยงชั้นสาม และได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเล็กน้อย จากนั้นก็ได้ร่วมดื่มกับเด็กนักเรียนหลังจากที่ถูกคะยั้นคะยออยู่หลายครั้ง และเวลานี้ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
  “ดื่มเลย..ดื่มอีก..”
  ถังเมิ่งเองก็ดื่มหนักไม่เบาแต่คนที่ดื่มหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นหลิงหยุน และดื่มไปหลายขนานมาก เขาต้องชนแก้วกับเพื่อนทั้งชายและหญิงร้อยกว่าคน จนเวลานี้ก็เริ่มรู้สึกเมาแล้วเช่นกัน
  แต่คืนนี้หลิงหยุนมีความสุขกับการดื่มมากจึงไม่ได้รีดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย เพราะหากเขาต้องทำเช่นนั้น สู้เขาไม่ดื่มจะดีกว่า..
  ฉางจงที่เมามากแล้วได้เดินหน้าแดงก่ำเข้ามาหาหลิงหยุนพร้อมกับพูดเสียงยานคาง “หลิง.. หยุน.. ตอนนี้พ่อแม่ของฉันก็กำลังเป็นทุกข์เรื่องค่าเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยอยู่พอดี! ฉัน.. ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงที่ให้เงินห้าแสนกับฉัน.. แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนนายยังไง..”