ตอนที่ 1197 เตรียมตัวจะออกเดินทาง / ตอนที่ 1198 ไม่ใช่จะแช่น้ำพุร้อนหรือ

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 1197 เตรียมตัวจะออกเดินทาง

 

 

เย่ว์ลั่วกับไป๋ฉินรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินออกไป ฉินเย่หานก็เดินนำหวงเผยซานเข้ามา

 

 

เมื่อชำเลืองเห็นฉินเย่หานที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย เย่ว์ลั่วกับไป๋ฉินต่างมองหน้ากัน ต่างก็ไม่กล้าปริปากพูด หลังจากสบตากันปราดหนึ่งก็รีบเดินออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

 

 

“เย่ว์ลั่ว คุณหนูจะไม่เป็นอะไรกระมัง” หลังจากเดินออกมาไกลแล้ว เมื่อรู้สึกตัวอีกทีไป๋ฉินจึงถามประโยคนี้ออกมา

 

 

ท่าทางของฝ่าบาทช่างน่ากลัวขนาดนั้น พวกนางเพียงยืนอยู่ด้านข้างยังรู้สึกได้ถึงความกดดันจำนวนมาก นับประสาอะไรกันซูหลีเล่า

 

 

“วางใจเถอะ” สำหรับเรื่องนี้ เย่ว์ลั่วกลับนิ่งเฉยเป็นอย่างมาก

 

 

ซูหลียั่วโมโหฉินเย่หานไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงเป็นพิเศษ

 

 

เย่ว์ลั่วถอนหายใจออกมาเบาๆ นางไม่รู้ว่าฝ่าบาททรงคิดจัดการเรื่องของนางกับจี้เหิงหรานอย่างไร ทรงต้องการพูดยั่วโมโหซูหลีเฉยๆ หรือว่าต้องการจัดการเช่นนี้กันแน่!

 

 

 

 

“ออกไป!” ทันทีที่ฉินเย่หานเข้ามาก็มองซูหลีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนั้นปราดหนึ่ง จากนั้นจึงหันศีรษะไปและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น

 

 

“พ่ะย่ะค่ะ!” บรรยากาศภายในห้องนี้มีความประหลาดมากขนาดนี้ หวงเผยซานก็ไม่อยากอยู่ต่อไปเช่นกัน หลังจากได้รับคำสั่งจากฉินเย่หาน เขาจึงรีบนำคนทั้งหมดออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็ว

 

 

“นี่ฝ่าบาททรงเป็นอะไรกัน” เมื่อชำเลืองเห็นคนทั้งหมดออกไป อีกทั้งยังถูกคนเหล่านั้นปิดประตูห้องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซูหลีจึงลุกยืนขึ้นแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา

 

 

นางหลุบตาลงต่ำไม่มองฉินเย่หาน อากัปกิริยาดูสำรวมและสุภาพ อีกทั้งยังมีความเกรงใจอย่างบอกไม่ถูก

 

 

ฉินเย่หานเห็นท่าทางของนางเช่นนี้ สีหน้าจึงเคร่งขรึมจนถึงขีดสุด

 

 

“ซูหลี เราจะตามใจเจ้าเกินไปแล้วใช่หรือไม่!?” น้ำเสียงของเขาเย็นเข้าไปถึงกระดูก ประหนึ่งสามารถทำให้ร่างของซูหลีแข็งตัวได้มิปาน

 

 

ซูหลีได้ยินดังนั้นจึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเงยหน้ากวาดสายตามองเขาปราดหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “คำตรัสนี้ของฝ่าบาทหมายความว่าเช่นไร กระหม่อมไม่เข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

ไม่เข้าใจ!

 

 

ไม่เข้าใจก็บ้าไปแล้ว!

 

 

นางเก็บสัมภาระเตรียมจะออกเดินทางแล้ว ยังจะพูดกับเขาที่นี่ว่าไม่เข้าใจ!

 

 

ในชั่วขณะนี้สีหน้าของฉินเย่หานเย็นชาจนถึงขีดสุด เขามองซูหลีด้วยสายตาเยียบเย็นและเอ่ยว่า

 

 

“เจ้าต้องการกระทำสิ่งใดกันแน่!?”

 

 

“ต้องการกระทำสิ่งใด” ซูหลีเอ่ยทวนประโยคของเขาอีกครั้ง คล้ายกับรู้สึกว่าคำถามนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากมิปาน เมื่อใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนคราหนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งนางพลันเงยศีรษะขึ้น ดวงตาสีนิลคู่นั้นมองไปที่ฉินเย่หานอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“ฝ่าบาท ที่นี่มิใช่พระราชวังน้ำพุร้อนหรือ มานี่ที่ก็ควรไปแช่น้ำพุร้อนกระมัง ทว่ากระหม่อมถูกขังอยู่ที่นี่นานมาก แม้แต่หน้าตาของน้ำพุร้อนก็ยังไม่เห็น กระหม่อมจึงคิดว่า ในเมื่อไม่เห็นน้ำพุร้อน กระหม่อมก็สู้เดินทางกลับเมืองหลวงล่วงหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง!

 

 

ต้องกล่าวจริงๆ ว่า ซูหลีผู้นี้ช่างมีความสามารถให้การยั่วโทสะของผู้อื่นโดยแท้

 

 

นางทราบอย่างชัดแจ้งว่า คำถามที่ฉินเย่หานถามนั้นไม่ใช่เรื่องนี้ ทว่านางกลับสรรหาคำตอบประหลาดเช่นนี้มาตอบฉินเย่หาน

 

 

ความหนาวเหน็บในดวงตาของฉินเย่หาน แทบกดดันจนคนคนหนึ่งตายได้

 

 

ทว่านางกลับยังทำตัววางเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมิปาน พูดไปพลางผงกศีรษะไปพลางแล้วเอ่ยว่า

 

 

“กระหม่อมมิใช่ไทเฮา ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อฟื้นฟูพระวรกาย ข้างพระวรกายฝ่าบาทก็มีคนปรนนิบัติแล้ว กระหม่อมอยู่ที่นี่ก็รังแต่จะทำให้ฝ่าบาททรงขัดหูขัดตา! ฝ่าบาทมิต้องทรงกังวล กระหม่อมรับสั่งให้คนไปเตรียมตัวแล้ว วันนี้จะออกเดินทางพ่ะย่ะค่ะ!”

 

 

ขณะที่นางเอ่ยไม่ได้เหมือนอย่างแต่ก่อน สายตาที่จ้องมองฉินเย่หาน แม้จะประจันหน้ากับเขา ทว่าสายตาของนางกลับหยุดที่นอกดวงตาของเขา ไม่สบตาเขา

 

 

ฉินเย่หานขมวด ซูหลี…นี่นางกำลังสร้างความลำบากใจให้เขาหรือ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1198 ไม่ใช่จะแช่น้ำพุร้อนหรือ

 

 

ไม่ใช่ฉินเย่หานที่รู้สึกลังเลใจ ทว่าซูหลีผู้นี้ ดูแล้วไม่เหมือนคนที่สร้างความลำบากใจให้กับผู้อื่นจริงๆ

 

 

ทว่านับตั้งแต่ที่นางพบกับอู๋โยวหรานผู้นั้นที่หอเก็บตำรา ในเวลานั้นแม้แต่เรื่องของเย่ว์ลั่วนางก็ไม่สนใจ นางหมุนกายเดินกลับไป จนถึงบัดนี้นางกลับทิ้งจดหมายไว้และจะเดินทางออกจากที่นี่

 

 

การกระทำเช่นนี้ดูแล้ว ยังมีความไม่สบอารมณ์อย่างบอกไม่ถูกโดยแท้…

 

 

อารมณ์ที่แสดงบนใบหน้าของฉินเย่หานพลันผ่อนคลายลงไปหลายส่วน

 

 

“ฝ่าบาทยังทรงมีอะไรรับสั่งหรือไม่ หากไม่มี กระหม่อมขอตัวไปเก็บข้าวของ ยามที่เดินทางมาที่นี่นำข้าวของมาจำนวนไม่น้อย บัดนี้หากต้องเก็บข้าวของทุกอย่างก็…” ทางด้านซูหลียังคงเอ่ยขึ้นทั้งๆ ที่ยังหลบสายตาเขาอยู่

 

 

ทว่าคำพูดยังไม่ทันพูดจบ นางกลับรู้สึกถึงความรัดแน่นที่ข้อมือของตน

 

 

ในเวลานี้คำพูดทั้งหมดของนางหยุดค้างอยู่ที่ริมฝีปาก

 

 

ซูหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายตาขึ้นมองทางฉินเย่หาน

 

 

“ฝ่าบาททรงกระทำสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ” สีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก

 

 

“ไม่ใช่จะไปแช่น้ำพุร้อนรึ?” ฉินเย่หานกลับไม่มีท่าทางดุดันเหมือนดังเมื่อครู่แล้ว ในทางกลับกันหลังจากที่นางเอ่ยถามเขา เขากลับเลิกคิ้วและตอบนางประโยคหนึ่ง

 

 

ซูหลี…

 

 

จะแช่น้ำพุร้อนอะไรกัน ประเด็นสำคัญในเวลานี้ใช่เรื่องนั้นหรือ

 

 

ทว่าไม่รอให้นางต่อต้าน ฉินเย่หานก็ออกแรงจูงมือนางก้าวออกไปด้านนอกเสียแล้ว!

 

 

“ฝ่าบาท!” ภายในน้ำเสียงของซูหลีมีความโกรธกรุ่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏในยามปกติมาก่อน

 

 

ฉินเย่หานที่เดินอยู่ด้านหน้า ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดโทสะที่ปะทุก่อนหน้านี้พลันมลายหายไปมากกว่าครึ่งในชั่วพริบตา มิหนำซ้ำหลังจากได้ยินคำพูดของนางแล้ว เขากลับยกยิ้มที่มุมปาก

 

 

แน่นอนว่าอากัปกิริยาเหล่านี้ ซูหลีล้วนมองไม่เห็น

 

 

นางเพียงรับรู้ว่าฮ่องเต้ผู้พระทัยคับแคบผู้นี้ทรงเสียสติไปแล้ว จู่ๆ ก็คว้ามือของนางและลากนางออกไปอย่างกะทันหัน ไม่ให้โอกาสนางตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ปึงปัง!” ประตูที่ถูกปิดไว้พลันถูกคนเปิดออกมาจากทางภายใน หวงเผยซานที่รออยู่ภายนอกจึงสั่นสะท้าน ทันทีที่เหลือบตาขึ้นมอง กลับเห็นฉินเย่หานจูงมือซูหลีเดินออกไป

 

 

“ฝ่าบาท!” ซูหลียังคิดต่อต้าน ทว่าฉินเย่หานกลับไม่สนใจนางเลยแม้แต่น้อย

 

 

นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกกัน?

 

 

หวงเผยซานรู้สึกว่านับวันตนยิ่งอ่านความคิดของนายท่านทั้งสองคนไม่ออก ทว่าเขาก็ยังเผชิญกับทั้งสองคนและเอ่ยว่า

 

 

“ฝ่าบาท?”

 

 

“ไปบ่ออวี้ทัง!” ฉินเย่หานเอ่ยประโยคนี้ขึ้นด้วยสีหน้าคงเดิม

 

 

บ่ออวี้ทังเป็นบ่อน้ำพุร้อนภายในพระราชวังแห่งนี้ เป็นตาน้ำธรรมชาติที่สร้างออกมาดีที่สุด

 

 

ตาน้ำแห่งนี้อยู่ด้านหลังของตำหนักที่ฉินเย่หานพำนักอยู่ เพียงแต่ฉินเย่หานมาที่นี่นานมากแล้ว เขากลับยังไม่เคยไปที่นั่นสักครั้ง

 

 

จู่ๆ ในเวลานี้เขาก็พูดว่าจะไปที่นั่น

 

 

หวงเผยซานยังรู้สึกตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่าในเวลานี้ฉินเย่หานลากซูหลีเดินออกไปไกลแล้ว

 

 

“กงกง นี่…” ด้านข้างมีขันทีผู้น้อยคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“นี่อะไรอยู่เล่า ยังไม่รีบตามไปอีก สั่งให้คนที่บ่ออวี้ทังเตรียมสถานที่เอาไว้ให้เรียบร้อย! หากทำให้ฝ่าบาทเสียเวลา ศีรษะของพวกเจ้าจะหลุดออกจากบ่าได้รู้หรือไม่” หวงเผยซานเลิกคิ้วขึ้น เขาเท้าเอวพูดตำหนิอีกฝ่ายเสียงดัง

 

 

ขันทีผู้น้อยรีบขานรับ หมุนกายเดินไปสั่งให้คนจัดเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย

 

 

หวงเผยซานกลับยังยืนอยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นจึงย่างเท้าเดินไปทางบ่ออวี้ทัง

 

 

ดูท่าทางของนายท่านทั้งสองแล้ว คงจะคืนดีกันแล้วกระมัง

 

 

หวงเผยซานนั้นไม่เข้าใจความคิดภายในจิตใจของนายท่านทั้งสอง จึงทำได้แค่สั่งให้คนไปจัดเตรียมสิ่งของที่บ่ออวี้ทังให้พร้อม จัดการนำคนที่นี่ไปเฝ้าตระเวนที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งนั้น

 

 

“กงกง!” หลังจากคนที่คอยดูแลอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนจัดวางสิ่งของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมาจากภายใน

 

 

ทันทีที่ออกมาก็พบกับหวงเผยซานพอดี จึงทำความเคารพหวงเผยซานครั้งหนึ่ง

 

 

“สิ่งของจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” หวงเผยซานถามประโยคที่ถามเป็นกิจวัตรประจำวันประโยคหนึ่ง