เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 555
“ขอรับ!”

ฟึ่บ !

เสียงดังลั่น

เสือขาวดึงดาบยาวออกจากเอว

“ไม่!อย่านะ!ขอร้องล่ะปล่อยข้าไปเถอะ!”

เสือขาวเดินมาทีละก้าว แต่ละก้าวเหมือนกับกำลังเหยียบย่ำหัวใจของหลี่ซู่

หลี่ซู่ทำหน้าอ้อนวอนสุดชีวิต

เสือขาวเปรียบดั่งเครื่องจักรสังหาร ฟันด้วยดาบที่ไร้ความปราณี

อ้ากก!

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

ตามด้วยแขนข้างหนึ่งที่ลอยล่องสู่ฝากฟ้า……

“อ้าก!แขนของข้า!แขนของข้า!!!”

เจ็บปวด!

ความเจ็บปวดที่เหมือนฉีกหัวใจให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

เลือดจจากแขนข้างที่โดนตัดพลั่งพรูออกมาดั่งน้ำพลุ!

หลี่ซู่เอามืออีกข้างปิดแขนที่ขาดของเขา กลิ้งไปมาอย่างเจ็บปวด!

ไม่นานนัก

หลี่ซู่หมดก็สติไปเพราะความเจ็บปวด

หยางเฟิงเหลือบไปมองเขา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “เอามันออกไป!”

“ขอรับ!”

องครักษ์มังกรหลายคนก้าวมาข้างหน้าและพาหลี่ซู่ออกไป

จางเทียนซานกับไป๋หลิงหลงพยายามที่ลุกขึ้นยืน

พวกเขามองไปที่ หลี่ซู่ อย่างโกรธจัดพลางกัดฟันพูดว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง ได้โปรดให้พวกเราฆ่าไอ้บัดซบนี้ด้วยเถิด!”

สำหรับหลี่ซู่

สองคนนี้เกลียดเข้าไปถึงกระดูกดำ!

ความโกรธแค้นที่สำนักถูกล้มล้าง ทำให้พวกเขาเกลียดจนไม่อยากกินเลือดกินเนื้อ!

เมื่อได้ยินดังนั้น

หยางเฟิงมองสองคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็นพลางพูดว่า “ทำไม พวกเจ้าจะขัดคำสั่งข้ารึ!”

ชั่วพริบตา

ไป๋หลิงหลงกับจางเทียนซานตัวสั่นราวกับว่าในสมองพวกเขาเห็นทะเลซากศพที่เต็มไปด้วยเลือด

รังสีอาฆาตที่แข็งแกร่งเริ่มก่อตัวขึ้น

ทั้งสองคนสั่นเทาไปทั้งร่างทันที

“ไม่กล้าขอรับ!”

จางเทียนซานและไป๋หลิงหลงรีบก้มหน้าลงทันที

สายตาของหยางเฟิงน่ากลัวมาก

ถ้าหากพวกเขาขัดคำสั่งของหยางเฟิง

เหมือนกับว่า

แค่หยางเฟิงใช้เพียงนิ้วเดียวของเขา ก็สามารถขยี้ให้พวกเขาตายได้!

จนถึงตอนนี้

ไป๋หลิงหลงและจางเทียนซานเพิ่งตระหนักถึง

อำนาจที่แท้จริงของหยางเฟิงในฐานะเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้!

เขาสองคนเข้าใจดี

ตอนนี้พวกเขาเป็นสุนัขที่ไร้บ้าน

หากไม่รีบติดตามหยางเฟิง

เส้นทางที่รออยู่คือเส้นทางแห่งความตาย!

ในขณะเดียว

พวกเขาก็เข้าใจแล้ว

จากการติดตามของทั้งสองคน

นับตั้งแต่นี้ไป

หยางเฟิงก็จะเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้แห่งต้าเซี่ยอย่างแท้จริง!

ทั้งบู๊ใต้จะตกอยู่ในกำมือของเขาเพียงผู้เดียว!

เมื่อเห็นจางเทียนซานกับไป๋หลิงหลงห้มหน้า

หยางเฟิงก็ยิ้มอย่างพอใจ

ขอแค่สองคนนี้ยอมจำนน

ต่อจากนี้ บู๊ใต้แห่งต้าเซี่ยก็จะเป็นของข้าเพียงผู้เดียว!

เช้าของวันที่สอง

หยางเฟิงกินข้าวเช้าเสร็จ ก็ปล่าวประกาศกับคนในบ้านว่าตนเองต้องการไปที่หมู่บ้านตระกูลเย่

เย่ไห่ถามด้วยความสงสัย “หยางเฟิง เจ้าจะไปหมู่บ้านตระกูลเย่ทำไมกัน?”

ช่วงก่อน เย่ไห่ไปเยี่ยมชมต่างเมือง ไม่ได้อยู่ที่ตงไห่

เมื่อกลับมาที่ตงไห่

เขาก็ได้ยินว่าตระกูลหลันและตระกูลโจว ถูกหยางเฟิงโค่นล้มแล้ว

เมื่อได้ยินข่าวนี้ เย่ไห่นิ่งเงียบไปพักใหญ่……

เขาไม่นอนทั้งคืน

ก้นบุหรี่รมควัน โยนไปทั่วห้อง

แต่วันที่สอง

เขาก็ทำใจให้สงบลงได้

ถึงแม้เขาจะเป็นเขยของตระกูลหลัน

แต่เย่ไห่ก็เข้าใจดีว่า

ในตอนแรกที่เขาตกอับ คนตระกูลหลันไม่เห็นเขาในสายตาด้วยซ้ำ

ตอนนี้ตระกูลหลันที่ได้ทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย ถูกโค่นล้มโดยหยางเฟิง มันก็เป็นสิ่งที่สมควรได้รับเช่นกัน

เมื่อคิดดังนี้ เขาก็โล่งใจ

อีกอย่าง

แม้แต่หลันซินที่เป็นคนตระกูลหลัน ยังใช้เงินอย่างมีความสุขเที่ยวเล่นทั้งวัน และไม่สนใจเกี่ยวกับการถูกโค่นล้มของตระกูลหลันเลยแม้แต่น้อย

เขาเป็นแค่เขยที่ตระกูลหลันไม่ให้ความสำคัญ จะกังวลใจไปเพื่ออะไร ?

ณ ขณะนั้น

หยางเฟิงเงยหน้าพร้อมกับพูดยิ้มๆว่า “พ่อ ปู่น้อยเป็นคนเชิญข้าไป”

“โอ้!”

เมื่อได้ยินว่าเป็นคำเชื้อเชิญของเย่หลง เย่ไห่จึงพยักหน้า

“ที่รักคุณกลับมาเร็วๆนะคะ……”

เย่เมิ่งเหยียนมีความไม่อยากจากเล็กน้อย

ตอนนี้การแข่งขันของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปและชิงเฉิงกรุ๊ป มาถึงจุดที่ร้อนแรงที่สุดแล้ว

ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นของผู้บริโภค ตลาดหุ้น หรือการแข่งขันทางการตลาด ต่างก็ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง